Categories
ข่าว ทั้งหมด

กระบะเฉี่ยวรถรั้วจนหมุน ทำให้คนงานด้านหลังตกลงมาดับคาที่ 2 สาหัส 1 ราย

กระบะเฉี่ยวรถรั้วจนหมุน ทำให้คนงานด้านหลังตกลงมาดับคาที่ 2 สาหัส 1 ราย

ช่วงเย็นวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ร.ต.อ.โกวิทย์ สุขบุญทอง พนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด รับแจ้งอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน บนถนนเพชรเกษม ฝั่งล่องใต้ บริเวณจุดกลับรถศิลาลอย หมู่ 1 ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถาน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างชายคนหนึ่งอยู่ในชุดทำไร่สีน้ำเงิน นอนอยู่บนถนน มีเลือดไหลนองพื้น ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อต่อมาว่านายณัฐภูมิ จันทร์หอม อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/9 หมู่ 4 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ นอกจากนี้ที่ใต้ท้องรถลากพ่วง ที่รอกลับรถอยู่ พบร่างหญิงสาวอีกสองคนนอนอยู่ เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อว่านางสรอย หอมกลิ่น อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/4 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ส่วนอีกรายอาการสาหัสไม่ได้สติ ทราบชื่อว่านางประทุม ทับแพ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/1 หมู่ 4 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ

ใกล้กัน บนถนนเลนขวา พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ทะเบียน บย 6719 ประจวบคีรีขันธ์ เป็นกระบะรั้ว ด้านหลังบรรทุกแท๊งค์น้ำและเครื่องฉีดยากำจัดวัชพืช จอดอยู่ในลักษณะหันหน้าสวนทาง ซึ่งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด นั่งมาในกระบะหลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสามร้อยยอด มีนายประนม จันทร์หอม อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับรถ และมีนางวาสนา จันทร์หอม อายุ 47 ปี ภรรยา นั่งมาด้วย ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนกันชนหน้าของรถกระบะคู่กรณี มีแผ่นป้ายทะเบียน กธ 6732 ประจวบคีรีขันธ์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว

จากการสอบถามคุณเอ้ (สงวนนามสกุล) เล่าว่าตนขายอาหารตามสั่ง เพิ่งจะเปิดร้าน ได้ยินเสียงรถชนกันแล้วเห็นคนกระเด็นตกจากรถจำนวน 3 คน และรถกระบะสีดำที่เฉี่ยวชนได้ขับหนีไป จากการสอบถามทราบว่านายประนม จันทร์หอม ขับออกมาจากไร่ที่ปราณบุรี กำลังกลับบ้านที่บ้านสำโหรง อ.กุยบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถกระบะโตโยต้า วีโก้สีดำ พุ่งเข้ามาชนจากด้านข้างจนรถของทั้งคู่หมุน คนงานที่นั่งท้ายรถ กระเด็นออกมาจากรถบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนรถกระบะสีดำเร่งเครื่องหลบหนีไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของชาวบ้านบริเวณนั้น พบว่ารถกระบะนิสสันที่ประสบอุบัติเหตุ ขับมาทางเลนขวา แต่มีกระบะ 4 ประตูสีดำขับแซงขึ้นมาจากเลนซ้าย และเบียดกับรถกระบะนิสสัน จนรถทั้งคู่หมุนจนหันกลับ คนที่นั่งท้ายมาทั้งสามคนกระเด็นตกลงมาจนเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ล่าสุดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตแล้ว.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คุมประพฤติจัดแข่ง Street Food สร้างอาชีพระดับภาค 7 เฟ้นหาสุดยอดอาหารเมนูเด็ด

คุมประพฤติจัดแข่ง Street Food สร้างอาชีพระดับภาค 7 เฟ้นหาสุดยอดอาหารเมนูเด็ด

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ มอบหมายให้สำนักงานคุมประพฤติในเขต 7 จัดโครงการประกวดทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ กรมคุมประพฤติ ระดับภาค (เขต 7) ประจำปี 2568 ที่สถานสงเคราะห์ (บ้านกึ่งวิถี) วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิด และมี ร.ต.ต.กนกศักดิ์ มุทธากาญจน์ ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติ จ.เพชรบุรี ในฐานะประธานชมรมอาสาสมัครคุมประพฤติ (อ.ส.ค.) ภาค 7 กล่าวรายงาน มีนางวราภรณ์ เปล่งแสง ผู้ตรวจราชการกรมคุมประพฤติ นางสิญา ทองดี ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครปฐม (ประธานเขต 7) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ภาคเอกชน ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ ตลอดจนอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาค 7 ในทั้ง 8 จังหวัด 9 สำนักงาน ประกอบด้วยสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และ สำนักงานจังหวัดประจวบฯ สาขาหัวหิน เข้าร่วม

ร.ต.ต.กนกศักดิ์ ประธานชมรมอาสาสมัครคุมประพฤติภาค 7 กล่าวว่า การสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับผู้ที่อยู่ในความดูแล เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ที่อยู่ในความดูแลไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ และการทำอาหารเป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้กระทำผิดที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ ทั้งนี้การจัดงานโครงการในวันนี้เป็นการประกวดการทำอาหารทั้งประเภทอาหารคาวและประเภทอาหารหวาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ ได้แสดงผลงานและแข่งขันกัน เพื่อยกระดับคุณภาพฝีมือให้เป็นมาตรฐาน และต่อยอดผู้ที่มีฝีมือให้ไปสู่เวทีของมืออาชีพ รวมถึงเป็นการสร้างความเข้าใจและยอมรับของสังคมต่อผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติว่ามีศักยภาพและสามารถ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศหากได้รับโอกาสจากสังคม ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบครบวงจร ระหว่างหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งคืออาสาสมัครคุมประพฤติ เพื่อส่งเสริมนโยบายสร้างงาน สร้างอาชีพเพื่อคืนคนดีสู่สังคม

นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การทำอาหารเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเชฟในร้านอาหารหรือโรงแรม หรือเป็นเจ้าของกิจการของตนเอง ขอแสดงความยินดีและให้กำลังใจกับผู้ที่เข้าร่วมประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพของกรมคุมประพฤติ ระดับภาคในวันนี้ ที่แสดงความสามารถเป็นที่ประจักษ์ได้เป็นตัวแทนระดับสำนักงานคุมประพฤติในแต่ละจังหวัดของภาค 7 เข้าร่วมการประกวดแข่งขันระดับภาคในครั้งนี้ และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการที่ได้ร่วมกันดำเนินการต่อไปจนเสร็จสิ้นการประกวด เพื่อการสร้างอาชีพ มอบโอกาสแก่ผู้เคยก้าวพลาด เพื่อคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน

จากนั้นผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งเป็นผู้ถูกคุมประพฤติที่ผ่านการคัดเลือกมาในระดับสำนักงานมาแล้ว ทั้ง 9 สำนักงาน ได้ลงมือประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน โดยคณะกรรมการตัดสินการทำอาหาร ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 คน ได้แก่ นายอำนาจ คำนำ อุปนายก คนที่ 2 สมาคมเดอะเชฟแห่งประเทศไทย นายหมวดตรี เพิ่มสิน เอียดเอื้อ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร และนายณัฐวุฒิ เอกจีโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งรูปแบบการประกวด มีดังนี้ 1. ประกอบอาหารในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยผู้เข้าประกวดเป็นหลักในการประกอบอาหาร และมีผู้ช่วยได้ไม่เกิน 1 คน เช่น บุคคลในครอบครัว, ผู้กระทำผิดอื่นๆ ที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานคุมประพฤติ 2. หลังการประกอบอาหารแล้วเสร็จ ให้จัดอาหารในปริมาณที่คล้ายคลึงกับจำหน่ายจริง จำนวน 3 ชุด เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการตัดสินและสำหรับโชว์ 1 ชุด

สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน แบ่งเป็น 5 ด้าน (คะแนน 100) 1. รสชาติความอร่อย 40 คะแนน พิจารณาจากความอร่อยตามลักษณะของอาหาร 2. ความสวยงามในการจัดอาหาร 10 คะแนน พิจารณาจากการจัดอาหาร เพื่อรับประทานหรือจัดจำหน่ายแบบสั่งกลับบ้าน หรือจัดส่ง Delivery 3. ความสะอาด 20 คะแนน พิจารณาจากความสะอาดในการเตรียมอาหาร ขณะประกอบอาหาร และเมื่อพร้อมส่งให้ผู้รับประทาน 4. ความคิดสร้างสรรค์ 20 คะแนน พิจารณาจากความน่าสนใจ ความแปลกใหม่ แนวคิดในการรังสรรค์เมนูอาหารที่นำมาประกวด วัตถุดิบ ประโยชน์ของวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร 5. แผนการตลาด 10 คะแนน พิจารณาจากการนำเสนอแนวคิด หรือแผนการขาย แผนการตลาด

ผลการแข่งขันรอบคัดเลือก ระดับภูมิภาคของเขต 7 ในครั้งนี้ ประเภทอาหารคาว รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ กับเมนู“แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู + ใบชะพลูกรอบ”รองอันดับ 1 สำนักงานคุมประพฤติ จ.สมุทรสาคร เมนู“บาบีคิว บาบีใจ”รองอันดับ 2 สำนักงานคุมประพฤติ จ.ประจวบฯ (สาขาหัวหิน) เมนู“แกงหลอก”ประเภทอาหารหวาน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร กับเมนู“บัวลอย 5 สี”รองอันดับ 1 สำนักงาน จ.นครปฐม เมนู“สายทองล่องลอย”รองอันดับ 2 สำนักงานสุพรรณบุรี เมนู“บัวลอยมณีแก้วพาเพลิน”ซึ่งทีมชนะเลิศทั้งสองประเภท จะเป็นตัวแทนระดับเขต เข้าร่วมแข่งขันต่อในเวทีรอบสุดท้าย ระดับประเทศต่อไป

สำหรับการประกวด Street Food สร้างอาชีพ กรมคุมประพฤติจะดำเนินการใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับสำนักงานคุมประพฤติ ระดับเขตและระดับประเทศ เพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น พร้อมต่อยอดสู่การเป็นมืออาชีพ และเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จของการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป

ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดหลังพ้นโทษ ด้วยการช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างยั่งยืนโดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ผ่านการสนับสนุนด้านการศึกษาและทักษะที่จำเป็น การจัดฝึกอบรมอาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานสร้างรายได้ รวมถึงให้ทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพ.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ร่วมคัดเลือกตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ร่วมคัดเลือกตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานคัดสรรพัฒนาชุมชนดีเด่น ที่ อบต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ พร้อมด้วย น.ส.กุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัด และคณะกรรมการจากส่วนราชการ ได้แก่ ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ท้องถิ่นจังหวัด, ผู้แทนเกษตรจังหวัด และคณะทำงานจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ ร่วมคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2568 โดยมีนายสิทธิชัย คงหอม นายอำเภอทับสะแก นางรัตนากร ศรวัฒนา พัฒนาการอำเภอทับสะแก นายสายชล ชนะภัย น.ส.ทิฆัมพร ยอดใหญ่ รองนายก อบต.นาหูกวาง นายอรุษ ห้วยหงษ์ทอง กำนันตำบลนาหูกวาง พร้อมด้วยเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ สัสดีอำเภอ และภาคีเครือข่ายการพัฒนาทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนตำบลนาหูกวาง ร่วมให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง

การนำเสนอผลงานวันนี้ พระครูวินัยธรเสรี อตฺตสาโร เจ้าคณะตำบลอ่างทอง เขต 2 เจ้าอาวาสวัดเขาบ้านกลาง มาร่วมรับฟัง เป็นการสร้างขวัญกำลังใจและความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้นำเสนอ ซึ่งอำเภอทับสะแกมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมการคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น รวม 5 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
1. ต.นาหูกวาง ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านหนองกลางดง หมู่ 9 ต.นาหูกวาง
3. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตน้ำมันมะพร้าวบ้านประดู่ลาย
4. นายไพรัช ทองมาก ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ​(ชาย)
5. น.ส.น้ำฝน คีรีศรี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ​(หญิง)

ภายในบริเวณงาน มีการจัดนิทรรศการ ซึ่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานเกษตรอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมชมการจัดนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวหาดแหลมกุ่ม ป่าสนเหมืองแร่ การจัดการขยะ การฝึกอาชีพ การทำกระถางปลูกผักใช้น้ำน้อย การทำหมวกเจล การทำไม้กวาด การทำผ้ามัดย้อม และการแสดง ผลิตภัณฑ์ ด้านการเกษตรจากชาวบ้าน เป็นต้น.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สองโจรสาวอ้วนผอม ขโมยโกศทองเหลืองบรรจุอัฐิในสุสานเจดีย์วัดนับร้อยใบ

สองโจรสาวอ้วนผอม ขโมยโกศทองเหลืองบรรจุอัฐิในสุสานเจดีย์วัดนับร้อยใบ

วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายธนิต กฤตานุสาร ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณที่เก็บอัฐิของผู้เสียชีวิต วัดไร่ใหม่ หมู่ 6 ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ ซึ่งถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์พร้อมลากรถเข็นเข้ามาในวัด เข้ามาทุบเจดีย์เอาโกศทองเหลืองที่บรรจุอัฐิไปกว่า100 ใบ มีหลายเจดีย์ที่ลูกหลานยังไม่ได้เอาป้ายชื่อมาปิดไว้ คนร้ายล้วงเอาไปได้ง่าย ซึ่งในวัดมีเกือบ 100 เจดีย์ แต่ละเจดีย์มีโกศของบรรพบุรุษถูกบรรจุเก็บไว้อย่างน้อยเจดีย์ละ 4 – 6 ใบ

จากภาพวงจรปิดของวัดที่บันทึกภาพได้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 09.25 นาที มีผู้หญิงสองคน ขี่รถจักรยานยนต์แล้วลากรถเข็นเข้ามาภายในวัด คนขี่รถจักรยานยนต์มีลักษณะอ้วน ผมสั้น สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงขาสั้นสีเขียว คนซ้อนท้ายลักษณะผอม สวมหมวก สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีดำ กางขายาวสีดำ ทั้งคู่อายุประมาณ 25 – 30 ปี เมื่อรถของผู้ก่อเหตุมาจอดอยู่ด้านข้างของห้องน้ำที่มีรั้วติดกับสุสานเจดีย์ ทั้งคู่เห็นว่ามีกล้องวงจรปิด หนึ่งในนั้นได้เดินมาใช้ไม้มาเขี่ยให้กล้องหันไปทางอื่น จากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปภายในสุสาน กล้องวงจรปิดอีกตัวสามารถบันทึกภาพไว้ได้ โดยทั้งสองคนล้วงเอาโกศทองเหลืองที่อยู่ภายในเจดีย์ออกมาใส่ถุงปุ๋ยที่เตรียมไว้ จนเต็ม 3 ถุง ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากวัด

นางเล็ก หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า พอทราบข่าวแล้วรู้สึกหดหู่ เพราะแม่เสียไปได้ 2 ปี เพิ่งเอาแม่มาไว้ที่นี่รวมกับของเตี่ย ของพี่สาว น้องชาย หลานชาย มาไว้ตรงนี้รวมกันหมด ถูกเอาไปหมดเลย 5 โกศ ส่วนของสามีเป็นเซรามิก เลยไม่ถูกเอาไป อีกอันเป็นพ่อของสามี ห่อผ้าไว้ เลยไม่ถูกเอาไป เข้ามาดูเห็นเจดีย์ที่ว่างเยอะมาก บางคนก็ยังไม่รู้ว่าโกศของญาติถูกเอาไปแล้ว ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่ร้อยเวรไม่อยู่ มีตำรวจบอกว่าให้เจ้าทุกข์รวมตัวกันหลายๆ คน นัดกันไปแจ้งความพร้อมกัน

นายณรงค์ ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่าหลังจากที่ทราบข่าว มาดูแล้วไม่เห็นโกศ ใจสลายหมดอาลัย โกศที่หาย 3 ลูก เหลือ 1 เพราะอีกโกศล้มนอนอยู่ เป็นโกศสเตนเลสทั้งหมด ตอนนี้แจ้งความไว้แล้ว เสียใจมาก เพราะว่าเป็นพ่อแม่พี่น้อง ป้าน้าอาอยู่ในนี้ คนร้ายยกเอาไปยกไปทั้งหมดเลย ไม่ได้เทอัฐิเอาไว้ด้วย

นายธนิต ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ผ่านไปสองวันถึงจะรู้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่วัดเห็นภาพกล้องวงจรปิดบริเวณตั้งเจดีย์เก็บอัฐิ มุมภาพเปลี่ยนไป เลยเข้ามาดู ตอนแรกนึกว่าถูกนกชน แต่สงสัยว่าทำไมถึงแบบนี้ จึงกลับไปเปิดกล้องดู ถึงเห็นชัดว่ามีคนมาเปลี่ยนมุมกล้อง ส่วนกล้องอีกตัวเห็นผู้หญิงสองคน เข้ามารื้อค้น แล้วเก็บรวบรวมโกศทองเหลืองใส่ถุงปุ๋ยที่เตรียมมาใส่รถเข็นก่อนขับหนีไป ตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัดว่าโกศหายไปเท่าไร เพราะผู้เสียหายยังมาดูไม่หมด เท่าที่รู้ตอนนี้มี 4 – 5 รายแล้ว ส่วนเจดีย์มีบางช่องเขาปิดไว้ บางช่องไม่ได้ปิด ช่องไหนมีแผ่นปูนปิดไว้ ก็ถูกจะทุบ โกศที่คนร้ายเอาไปเป็นโกศทองเหลือง โกศสเตนเลส แต่ถ้าเป็นโกศเซรามิก คนร้ายไม่เอา อยากให้เจ้าหน้าที่รีบติดตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ทราบว่าผู้ก่อนเหตุรายนี้เคยไปก่อเหตุในลักษณะที่วัดอื่นมาแล้วหลายครั้ง.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เฟ้นหาสาวงามประกวด“Miss Grand Prachuap Khiri Khan 2026”ชิงรางวัล 5 ล้านบาท

ประจวบฯ เฟ้นหาสาวงามประกวด“Miss Grand Prachuap Khiri Khan 2026”ชิงรางวัล 5 ล้านบาท

วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายภาติยะ นิ่มน้อย ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสแกรนด์ประจวบฯ และทีมงานกองประกวดมิสแกรนด์ประจวบฯ จัดแถลงข่าวการประกวดมิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ 2026 มีนายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอหัวหิน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายวรพจน์ พฤกษ์วิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเดอะเกษตร หัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมรับฟัง

นายภาติยะ นิ่มน้อย กล่าวว่า การประกวดในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงแรมเดอะเกษตร หัวหิน กับกองประกวดมิสแกรนด์ประจวบฯ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ พร้อมทั้งหาตัวแทนสาวงามเพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดประจวบฯ ประกวดต่อบนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2026 ซึ่งนับเป็นเวทีการประกวดความงามอันดับหนึ่งของประเทศ สำหรับรางวัลการประกวดมิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ 2026 ในครั้งนี้รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พร้อมมงกุฎเพชร และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เปิดรับสมัครสาวงามเข้าประกวดตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เก็บตัวทำกิจกรรมวันที่ 16 – 19 กันยายน 2568 และจะประกวดรอบตัดสินในวันที่ 20 กันยายน จึงขอเชิญสาวงามที่สนใจเข้าสมัครได้ พร้อมเชิญผู้ที่สนใจร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้สาวงามที่เข้าประกวด หรือติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก : มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ – Miss Grand Prachuap Khiri Khan.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ลูกเสือประจวบฯ สวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ครบ 114 ปี

ลูกเสือประจวบฯ สวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ครบ 114 ปี

วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและพิธีสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2568 ซึ่งสำนักงานลูกเสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดขึ้นโอกาสครบรอบ 114 ปี โดยมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือ นำลูกเสือ เนตรนารีเหล่าต่างๆ จากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมพิธีจำนวน 650 คน และมีผู้แทนทหาร ตำรวจ เข้าร่วมชมพิธีสวนสนาม ณ สนามกีฬาโรงเรียนประจวบวิทยาลัย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2454 พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ได้ทรงพระราชทานมรดกชิ้นเอกให้แก่ปวงชนชาวไทย คือการลูกเสือ ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดตั้งกองเสือป่าขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีพระราชประสงค์จะอบรมอนุชนชาวไทยให้มีคุณธรรม พระองค์ทรงเล็งเห็นการณ์ไกลว่าชาติบ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้า ก็เพราะอนุชนชาวไทยที่ได้รับการอบรมมาแล้วทุกทาง เหมาะสมที่จะได้รับภารกิจแทนผู้ใหญ่ในปัจจุบันและเป็นรั้วของประเทศชาติและให้ชาติดำรงเอกราชอยู่ได้ กิจการลูกเสือที่พระองค์จัดตั้งขึ้นนั้น พระองค์ทรงอบรมให้เด็กไทยมีนิสัยที่ดีปลูกฝังไว้ในตัวลูกเสือเป็นประการสำคัญ การที่จะเป็นลูกเสือมิใช่เป็นเพียงการสวมเครื่องแบบที่สวยงามเท่านั้น แต่การเป็นลูกเสือ หมายถึงการอบรมจิตใจและนิสัยให้มีคุณลักษณะที่สมบูรณ์ ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวก็ปรากฏชัดแจ้งอยู่ในคำมั่นสัญญาที่ลูกเสือเนตรนารีได้กล่าวคำปฏิญาณไว้เวลาเข้าประจำกอง

ที่ผ่านมา สำนักงานลูกเสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และเพื่อแสดงความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการลูกเสืยไทย ในรอบปีที่ผ่านมา สำนักงานลูกเสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการลูกเสือ ดังนี้ 1.จัดอบรมวิทยากรแกนนำลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ระจังหวัด 2.อนุมัติการจัดตั้งหน่วย และแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาหน่วยลูกเสือจิตอาสาพระราชทานในสถานศึกษา 3.จัดอบรมโครงการค่ายลูกเสือเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 4.จัดฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้ทั่วไป และผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้เบื้องต้น 5.จัดฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้ขั้นสูง 6.จัดฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือขั้นผู้ช่วยหัวหน้า ขั้นให้การฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือ 7.นำลูกเสือ เนตรนารี บำเพ็ญประโยชน์ และจิตอาสาในสถานศึกษาและชุมชน และ 8.จัดกิจกรรมวันสำคัญๆ ของลูกเสือเป็นประจำทุกปี เช่น วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ที่สนามโรงเรียนหัวหิน นายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวยรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย พร้อมนำถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมกล่าวให้โอวาท มี น.ส.เจนจิรา สีนาค รองผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน กล่าวรายงาน มีนายอมร พัฒน์ทอง รองประธานสภาเทศบาลนครหัวหิน และอดีตผู้บังคับบัญชา รองผู้บังคับบัญชาลูกเสือและแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธี มีผู้บังคับบัญชาลูกเสือสามัญ สามัญรุ่นใหญ่ พร้อมด้วยลูกเสือวิสามัญ ลูกเสือเนตรนารี ผู้บำเพ็ญประโยชน์ โรงเรียนหัวหิน โรงเรียนเทศบาลวัดหนองแก โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมสาธุการและวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล รวมจำนวน 1,690 คน ร่วมประกอบพิธี กล่าวทบทวนคำปฎิญาณ ต่อหน้าพะบรมฉายาลักษณ์.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ และสุทธิศรี อนุคฤหานนท์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พิธีฉลองสัญญาบัตรพัดยศพระครูภาวนาวิโรจน์ วิ. เจ้าอาวาสวัดราชายตบรรพต (เขาต้นเกด)

พิธีฉลองสัญญาบัตรพัดยศพระครูภาวนาวิโรจน์ วิ. เจ้าอาวาสวัดราชายตบรรพต (เขาต้นเกด)

ช่วงค่ำวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่พระอุโบสถวัดราชายตบรรพต (เขาต้นเกด) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพิธีต้อนรับสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร พระราชทาน พระครูสัญญาบัตร เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ตั้งพระครูสัญญาบัตร พระอธิการไพโรจน์ วิโรจโน เจ้าอาวาสวัดราชายตนบรรพต (เขาต้นเกด) เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่พระครูภาวนาวิโรจน์ วิ. ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในราชการปัจจุบัน โดยมีพระครูไพศาลสมณคุณ (เสียงสุนีย์) วัดป่าปลายคลอง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระครูโอภาสธรรมวงศ์ วัดอรัญญิกาวาศ พระครูสุจิตรสิทธิธรรม วัดหนองุ่ม พระสุเมธี วัดเจริญพงศ์วน พระชัยวัฒน์ ขยวฒฺโน สำนักสงฆ์ป่าโปร่งแย้ และคณะสงฆ์จากวัดรารายตนบรรพต จํานวน 10 รูป มีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรี นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี

ประวัติ พระครูภาวนาวิโรจน์ วิ. อายุ 61 ปี พรรษา 36 เจ้าอาวาสวัดราชาตนบรรพต (เขาต้นเกด) เดิมชื่อไพโรจน์ นามสกุล พวงบุญ เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 2507 เป็นบุตรของนายบุญยืน – นางสอิ้ง อยู่บ้านเลขที่ 18 ถนนอำนวยศิลป์ ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ อุปสมบทเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2532 ที่วัดราชาตนบรรพต อ.หัวหิน สอบได้นักธรรมเอก ที่สำนักเรียนราชายตนบรรพต อ.หัวหิน ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาตนบรรพต เมื่อ พ.ศ.2555 และเป็นเจ้าอาวาสวัดราชตนบรรพต พระอธิการไพโรจน์ วิโรจโน เมื่อ พ.ศ.2563 ได้รับพระราชทาน ในราชทินนามที่พระครูภาวนาวิโรจน์ วิ. เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน.