Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด เปิดคลังความรู้เรื่องทองบางสะพานให้นักเรียน

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด เปิดคลังความรู้เรื่องทองบางสะพานให้นักเรียน

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ถือได้ว่าเป็นคลังความรู้ในเรื่องของ “ทองบางสะพาน” ซึ่งเป็นทอง 99.99% และยังเป็นทองแห่งความเชื่อ นิยมนำมาพกติดตัวบูชา เป็นของขวัญจากธรรมชาติ ซึ่งยังมีคนอีกจำนวนมากที่มาร่อนทอง แต่ไม่เคยได้รับรู้ถึงวิวัฒนาการของการหาทองบางสะพาน ที่มีอยู่หลายรูปแบบ ตลอดจนรูปลักษณ์ของทองบางสะพาน ที่พบได้จากคลองทอง สายน้ำแห่งทองบางสะพาน

และเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นักเรียนจากโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 100 คน ได้เข้ามาเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการนำเสนอของที่ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด มีนายจิรฐกรณ์ อิสระพานิชย์ หรือโจ้ บ้านทองเม็ด เจ้าของศูนย์เเห่งนี้ให้การต้อนรับ พร้อมจัดกิจกรรมในการเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนที่มาเยี่ยมชม

นายจิรฐกรณ์ เปิดเผยว่า ศูนย์เเห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อหวังจะให้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เรื่องราวของทองบางสะพาน เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชม ศึกษาเรื่องราวความเป็นมา ตลอดจนวิธีการในการหาทองบางสะพาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านการแสดงภายในศูนย์ พร้อมทั้งวีดีทัศน์ ซึ่งวันนี้ยินดีที่มีโอกาสต้อนรับนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว ซึ่งศูนย์ฯ ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับน้องๆ แบ่งออกเป็น 4 ฐาน ประกอบด้วย

1. ฐานการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและการหาทองคำบางสะพาน ผ่านสื่อวีดีทัศน์ ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของทองบางสะพาน ตลอดจนวิธีหาทองบางสะพานตั้งแต่อดีตจนถึงปัขจุบัน
2. ฐานการเรียนรู้เปิดขุมทรัพย์ทองบางสะพาน ที่รวมรวบจัดแสดงทองบางสะพานชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบทองผง – ทองเกล็ด – ทองเม็ดและทองอมหิน มาที่นี่เห็นของจริงว่าแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร และที่นี่คือแหล่งเก็บสะสมทองบางสะพานมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้
3. ฐานการเรียนรู้ร่อนทอง ฐานนี้ทุกคนจะได้เรียนรู้วิธีการร่อนทองด้วย “เลียง” ที่มีลักษณะคล้ายกระทะ ทำมาจากไม้ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดสำหรับการร่อนทอง ทุกคนจะทดสอบการร่อนทองจริงๆ
4. ฐานสุดท้าย “เป่าคาถาหาทอง” ที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ได้ประยุกต์กิจกรรมนันทนาการสุดฮิต ที่ทุกคนต้องรู้จักมาให้ได้สนุกสนานกัน นอกจากความสนุกในฐานนี้แล้ว น้องๆ ยังได้เรียนรู้ลักษณะรูปลักษณ์ของทองเม็ดที่มีความไม่แน่นอนและปรับเปลี่ยนได้ตามจินตนาการของแต่ละคน ว่าจะเห็นรูปร่างเป็นอย่างไร

นายจิรฐกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าผู้ที่สนใจหรือหมู่คณะใด ที่ต้องการเข้ามาเรียนรู้ ติดต่อได้ที่ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 087-5565697.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 22 วันที่ 9 – 16 ก.ย.นี้

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 22 วันที่ 9 – 16 ก.ย.นี้

วันที่ 16 สิงหาคม 2566 นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี กล่าวว่าชายหาดชะอำ เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ที่มีศักยภาพทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะหาดทรายชายทะเล พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทางด้านท่องเที่ยวไว้คอยบริการอย่างครบครัน เป็นที่รู้จักและนิยมแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ประกอบกับพื้นที่ชายฝั่งทะเลตั้งแต่ อ.บ้านแหลม เรื่อยมาจนถึง อ.ชะอำ มีการเพาะเลี้ยงหอยมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาหมึกที่ชุกชุม โดยเฉพาะชายฝั่งชะอำช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมของทุกปีจะมีปลาหมึกมากและมีชาวประมงออกเรือไปจับปลาหมึกกลางทะเลเป็นจำนวนมาก จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จึงได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก ขึ้นเป็นประจำทุกปี

สำหรับการจัดงานในปีนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นงานเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ชะอำ เนื่องมาจากปัจจุบันนี้มีนกอพยพน้อยลง อีกทั้งกิจกรรมดูนกไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากเหมือนก่อนแล้ว

ในปีนี้ เทศบาลเมืองชะอำร่วมกับ ททท.สำนักงานเพชรบุรี สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กำหนดจัดงานเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ครั้งที่ 22 ขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 16 กันยายนนี้ รวม 8 วัน 8 คืน ที่บริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ เลิศรสที่ปรุงด้วยเมนูหอยเป็นหลักและอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายจากโรงแรมและร้านอาหารชื่อดังในอำเภอชะอำและจังหวัดเพชรบุรี กว่า 50 ร้าน ในราคายุติธรรมและเหมาะสมกับการที่จังหวัดเพชรบุรีได้ชื่อว่าเป็นเมืองสร้างสรรค์อาหาร หรือ Phetchaburi City of Gastronomy อีกทั้งยังจัดให้มีการแสดงดนตรีจากวงดนตรีที่ได้รับความนิยมบนเวทีทุกคืน วันที่ 9 กันยายน แบมๆ แก้มใส วันที่ 10 กันยายน พลอย เดอะวอยซ์ วันที่ 11 กันยายน โดนัท วันที่ 12 กันยายน เรไร ไลฟ์สด วันที่ 13 กันยายน ข้าว ธิดาทิพย์ วันที่ 14 กันยายน ฝ้ายไทย ไหทองคำ วันที่ 15 กันยายน พชิหนองหินห่าว เจศุภกฤษ์ และวันที่ 16 กันยายน หลีช้ง ไหทองคำ

นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น บนถนนคนเดินรอบบริเวณจุดชมวิวชายหาดชะอำ และยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หาได้เฉพาะในงานเทศกาลนี้ 1 ปีมีครั้งเดียวกับบริการนำนักท่องเที่ยวลงเรือตกหมึกกลางทะเล ที่น่าตื่นเต้นประทับใจทุกวันในราคาถูกเป็นพิเศษ เพียงคนละ 100 บาท พร้อมอุปกรณ์ตกหมึก “โยธกา’’ ไว้บริการบริเวณจุดหน้าทะเล โดยวันเปิดงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมรังสรรค์เมนูจานเด็ดจากเซฟจากโรงแรมชั้นนำในพื้นที่ชะอำ โดยใช้ปลาหมึกสดที่ได้มาจากประมงพื้นบ้าน แจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองทาน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเที่ยวชมงานตามวันดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวแห่ดูนกในกิจกรรม “ดูไพร ส่องนก อุทยานแห่งชาติหาดวนกร” ครั้งที่ 1

นักท่องเที่ยวแห่ดูนกในกิจกรรม “ดูไพร ส่องนก อุทยานแห่งชาติหาดวนกร” ครั้งที่ 1

วันที่ 14 สิงหาคม 2566 น.ส.เนตรนภา งามเนตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ได้จัดกิจกรรม “Bird Walk @Hatwanakorn National Park ดูไพร ส่องนก อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ครั้งที่ 1” ขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 14 สิงหาคมนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และชาวต่างชาติมาในรูปแบบครอบครัว จำนวน 25 คน กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีความรู้พื้นฐานในการดูนก ซึ่งนกถือว่าเป็นสัตว์ป่าที่สามารถพบได้ง่าย ทั้งในพื้นที่เมืองเเละพื้นที่ป่า เเละมีความสำคัญในด้านระบบนิเวศอีกด้วย โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีนกนานาชนิดตลอดเส้นทาง ได้รู้จักอุทยานแห่งชาติหาดวนกรมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยอุทยานฯได้จัดเตรียมอุปกรณ์ ประกอบด้วยกล้องส่องทางไกลแบบสองตา (Binocular) กล้องส่องทางไกลแบบตาเดียว (Telescope) คู่มือดูนกเมืองไทย (Bird Guide) ไว้บริการ พร้อมของรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนจากเพจผ้าขาวม้าติ่งป่าให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

ในการสำรวจครั้งนี้ พบความหลากชนิดของนกในอุทยานแห่งชาติหาดวนกร จำนวน 12 ชนิด เช่น กระเเตแต้แว้ด (Vanellus indicus) กะรางหัวขวาน (Upupa epops) กินปลีอกเหลือง (Nectarinia jugularis) เขาเปล้าธรรมดา (Treron curvirostra) เค้าจุด(Athene brama) จาบคาคอสีฟ้า (Merops viridis) แซงแซวหางบ่วงใหญ่ (Dicrurus paradiseus) ตะขาบทุ่ง (Coracias benghalensis) บั้งรอกใหญ่ (Phaenicophaeus tristis) โพระดกธรรมดา (Psilopogon lineatus) แอ่นกินรัง (Collocalia germani) ยางกรอกพันธุ์จีน (Ardeola bacchus) เป็นต้น สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหาดวนกรมีการสำรวจพบนกจำนวน 43 วงศ์ 76 สกุล 100 ชนิด จัดเป็นนกประจำถิ่น 73 ชนิด และนกอพยพ 27 ชนิด โดยในทุกๆ เดือน อุทยานแห่งชาติหาดวนกรจะจัดกิจกรรม “Bird Walk @Hatwanakorn National Park” เดือนละ 1 ครั้ง ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ในครั้งถัดไปทางเพจเฟซบุ๊ก “Hatwanakorn National Park”.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวคึกคักช่วงวันหยุด พิชิตยอดเขาล้อมหมวก สูง 902 ฟุต ชมวิว 3 อ่าว

นักท่องเที่ยวคึกคักช่วงวันหยุด พิชิตยอดเขาล้อมหมวก สูง 902 ฟุต ชมวิว 3 อ่าว

วันที่ 14 สิงหาคม 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันแม่แห่งชาติ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ทั้งที่อำเภอหัวหิน บริเวณชายหาดและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ และกระจายไปทั้ง 8 อำเภอ แต่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากกับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวพิชิตเขาล้อมหมวก สูง 902 ฟุต ภายในกองบิน 5 อ.เมืองประจวบฯ รอบพิเศษในช่วงวันหยุดยาวรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 12 – 14 สิงหาคมนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติลงทะเบียนหน้างาน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 10.00 น. ซึ่งตั้งแต่วันแรกจนถึงขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาร่วมกิจกรรมกันประมาณ 600 คน ส่วนใหญ่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และภาคกลาง ปีนป่ายโขดหินสูงชันเพื่อขึ้นไปชมวิวที่สวยงามของท้องทะเลเมืองประจวบฯ ทั้งสามอ่าว ได้แก่ อ่าวมะนาว อ่าวประจวบฯ และอ่าวน้อย ตลอดจนเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ประกอบกับมีช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง 6 วันก่อนหน้านี้ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลงกว่าการจัดกิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวกครั้งที่ผ่านมา โดยนาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกดูแลและมอบใบประกาศนียบัตรผู้พิชิตยอดเขาล้อมหมวกเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสพิชิตเขาล้อมหมวกให้กับนักท่องเที่ยวด้วย พร้อมกันนี้นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรมยังได้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ให้อาหารน้องค่างแว่นถิ่นใต้ ซึ่งนำมาเป็นมาสคอต “น้องเอ็นดู” สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ตลาดบกถนนสู้ศึก บรรยากาศวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น สมัยสงครามโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยว

ตลาดบกถนนสู้ศึก บรรยากาศวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น สมัยสงครามโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยว

ช่วงเย็นวันที่ 13 สิงหาคม 2566 ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก ชุมชนหัวบ้าน เขตเทศบาลเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเปิดเป็นตลาดยามเย็น เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งนอกและในพื้นที่ เข้ามาเที่ยวชมสัมผัสบรรยากาศวิถีชุมชนบ้านไม้เก่าโบราณ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งชาวบ้านในชุมชนพร้อมใจคงสภาพอัตลักษณ์ความเก่าแก่เอาไว้ เพื่อสื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นได้เรียนรู้ศึกษา ร่วมภาคภูมิใจและซึมซับบรรยากาศย่านเก่าแก่ในบรรยากาศวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนอาคารไม้เก่าแก่ รวมไปถึงของเก่าโบราณล้ำค่า และภาพถ่ายทหารไทย – ทหารญี่ปุ่น ในสมัยยุคสงครามโลก รวมไปถึงเครื่องดนตรี เครื่องเล่นแผ่นเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จัดแสดงและเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชม ณ บ้านอาจารย์ไก่ ซึ่งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนถนนสู้ศึก นอกจากนี้ภายในชุมชนยังเปิดให้เกษตรกรนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ พืชผักผลไม้ และผักสวนครัวรั้วกินได้ มาจำหน่ายภายในตลาด รวมไปถึงขนมไทย ขนมสด อาทิเช่น ถั่วแปบ ผัดไทย หอยทอด ข้าวหมากโบราณ เป็นต้น

ตลาดบกสู้ศึกแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น 1 ใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ ระดับประเทศ อีกทั้งชุมชนหัวบ้านแห่งนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ และเป็นชุมชนนำวิถี 1 ใน 20 ของประเทศอีกด้วย

สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจ และชื่นชอบบรรยากาศวิถีชุมชนย่านบ้านเก่าโบราณ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างทหารไทย – ญี่ปุ่น ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สามารถมาร่วมกิจกรรมและชมตลาดได้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 06.30 น.จะมีการแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง และกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วมกันสืบสานประเพณีทำบุญใส่บาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากนั้นในช่วงเย็นประมาณ 16.00 น.เป็นต้นไปจะเป็นบรรยากาศของตลาดบกสู้ศึก ถนนสายวัฒนธรรม.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวห่มผ้าหลวงพ่อทวดวัดห้วยมงคล คึกคัก

นักท่องเที่ยวห่มผ้าหลวงพ่อทวดวัดห้วยมงคล คึกคัก

วันที่ 13 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดวันแม่แห่งชาติที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่ โดยเฉพาะที่วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ททท. นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นำแขกผู้มีเกียรติและนักท่องเที่ยวนับพันคน ถือผ้าเหลืองความกว้าง 3 เมตร ความยาว 399 เมตร

เดินเวียนทักษิณาขึ้นห่มหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ สก ในกิจกรรม “เพิ่มพลังใจด้วยศรัทธาห่มผ้าหลวงปู่ทวด ครั้งที่ 10” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566 พร้อมกราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่ “ท้าวเวสสุวรรณ” และ “ไอ้ไข่” ขนาดใหญ่สูง 3 เมตรจากไม้ตะเคียนพันปี ที่ตั้งไว้ในศาลาด้านข้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ก็มีประชาชนนักท่องเที่ยวแห่กราบไหว้ขอโชคลาภเลขเด็ดงวดที่จะถึงนี้อย่างไม่ขาดสาย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

วัฒนธรรมประจวบฯ เปิด “10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ” กระตุ้นท่องเที่ยว

วัฒนธรรมประจวบฯ เปิด “10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ” กระตุ้นท่องเที่ยว

วันที่ 13 สิงหาคม 2566 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล เปิดโครงการ 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก ชุมชนหัวบ้าน อ.เมืองประจวบฯ มีนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรม

โครงการ 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกันยกระดับตลาดน้ำและตลาดบกของไทยให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงพัฒนาศักยภาพชุมชนและองค์กรเครือข่ายรองรับการท่องเที่ยวชุมชนผ่านโครงการดังกล่าว โดยได้คัดเลือก “ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึกชุมชนคุณธรรมหัวบ้าน” เป็น 1 ใน 10 ตลาดบกจากทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งนี้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับคณะกรรมการตลาดบก ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก จัดกิจกรรมในทุกเช้าวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ตักบาตรพระสงฆ์ และช่วงเย็น เวลา 17.00 – 21.00 น. เป็นกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป

สำหรับถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก เป็นถนนที่ได้รับการประกาศและจัดตั้งโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม 1 ใน 11 แห่ง เป็นชุดแรกเมื่อปี 2560 ซึ่งก่อนจะเป็นถนนสายวัฒนธรรมนี้ เป็นชุมชนเก่าแก่ มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เรียกว่าชุมชน “เกาะหลัก” ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ของชาวประมงและเป็นที่พักเรือที่จะเดินทางไปทางใต้ ต่อมามีประวัติศาสตร์ที่สำคัญสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2484 เมื่อทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกเพื่อเดินทัพต่อไปยังประเทศพม่าหรือเมียนมา ในปัจจุบัน ณ อ่าวมะนาว กองบินน้อยที่ 5 หรือกองบิน 5 ในปัจจุบัน “ถนนสู้ศึก” ตั้งชื่อเพื่อให้เป็นเกียรติประวัติและเป็นที่ประจักษ์มาจนถึงปัจจุบัน มีความยาวตั้งแต่เขาช่องกระจก ไปถึงชุมชนหัวบ้านและจรดทางเข้ากองบิน 5 เป็นที่ตั้งของของสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (ศาลหลักเมืองเก่า) บ้านเรือนของวีรชน และบ้านเก่าเล่าเรื่องที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและทรงคุณค่าควรแก่การเรียนรู้และท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีที่พักโรงแรม ร้านอาหาร และมีกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นอัตลักษณ์ของถนนสายวัฒนธรรม เช่น กิจกรรมตักบาตรเช้าวันอาทิตย์ การบรรเลงดนตรีไทยเดิมของคนในชุมชน กิจกรรมลีลาศของชมรมลีลาศประจวบฯ รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนห่มผ้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล 13 สิงหาคมนี้

ททท.ประจวบฯ ชวนห่มผ้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล 13 สิงหาคมนี้

วันที่ 6 สิงหาคม 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน กำหนดจัดงานบุญห่มผ้าเหลืองหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ สก ในกิจกรรม “เพิ่มพลังใจด้วยศรัทธาห่มผ้าหลวงปู่ทวด ครั้งที่ 10” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ในวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2566 เวลา 09.45 น. พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ เวลา 10.30 น. ตั้งขบวนแห่ผ้าจีวร วนรอบหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปลงชื่อและครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคลบนผ้าจีวรผืนใหญ่ยาว 399 เมตร ที่ใช้ห่มหลวงปู่ทวด ในศาลาด้านหน้าหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ได้ตั้งแต่บัดนี้

พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล กล่าวว่าวัดห้วยมงคลได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ให้กับชาวศรีลังกา 108 คน และบวชชีพราหมณ์อีก 108 คน รวม 10 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และฉลองหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกทุกท่านร่วมงานบุญได้ตามวันดังกล่าว พร้อมกันนี้ขอเชิญนักท่องเที่ยวกราบสักการะหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ด้านหลังหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ซึ่งสร้างขึ้นไว้เป็นพุทธบูชา มีหน้าตักกว้าง 14.19 เมตร ความสูง 29 เมตร และปิดทองพระพุทธพี่น้อง 5 พระองค์ที่ประดิษฐานรอบองค์พระพุทธโสธร พร้อมขอโชคลาภจากท้าวเวสสุวรรณและไอ้ไข่ ที่บริเวณศาลาด้านข้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ นอกจากนี้ทางวัดยังมีมุมกาแฟและศาลาริมน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน ให้อาหารปลาหลากหลายชนิดนับหมื่นตัวในลำน้ำห้วยมงคล ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริแห่งแรกของประเทศไทย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ท่าอากาศยานหัวหินเดินหน้าพัฒนาศักยภาพ ยกระดับสู่สนามบินนานาชาติ

ท่าอากาศยานหัวหินเดินหน้าพัฒนาศักยภาพ ยกระดับสู่สนามบินนานาชาติ

วันที่ 5 สิงหาคม 2566 นายรัฐพล เจริญผล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนการพัฒนาท่ากาศยานหัวหิน ว่าปัจจุบันได้มีการปรับปรุงขยายรันเวย์ตามมาตรฐานสำหรับการบินแล้ว คือมีความยาว 2,100 เมตร ความกว้างรวมไหล่ทาง 60 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินแอร์บัส A320 ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังติดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยพื้นที่รอบข้างสนามบิน จึงได้ทำการศึกษาการบินเฉพาะสนามบินที่มีข้อจำกัดด้านกายภาพ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยมีประชุมร่วมกับสายการบินต่างๆ ที่จะมาเปิดเส้นทางการบินที่ท่าอากาศยานหัวหินแล้ว เพื่อรับทราบถึงด้านกายภาพและการประเมินความเสี่ยง จากนั้นจะจัดทำรายงานเสนอต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตเปิดการบินระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันในส่วนของแผนการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยพื้นที่รอบข้างสนามบิน ก็จะดำเนินการควบคู่กันไป โดยขณะนี้ได้ผู้รับจ้างแล้วจากการเปิดประมูลโครงการ แต่กรมท่าอากาศยานยังไม่ได้ลงนามในสัญญา อยู่ระหว่างเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อเสนอต่อไปยังสำนักงบประมาณ หากลงนามในสัญญาแล้ว จะมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 600 วัน ระยะแรกจะเป็นการขยายความกว้างของอุโมงค์รถยนต์บนถนนเพชรเกษม ทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่องข้างละ 20 เมตร ให้ได้ตามมาตรฐานเขตปลอดภัยรอบข้างรันเวย์ จากนั้นจะขยายความกว้างของอุโมงค์รถไฟที่ปลายรันเวย์ พร้อมถมดินขยายพื้นที่เขตปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO หากแล้วเสร็จ ท่าอากาศยานหัวหินจะมีศักยภาพรองรับการบินระหว่างประเทศได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

“น้องเอ็นดู” ประชาสัมพันธ์ของดีประจวบฯ ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41

“น้องเอ็นดู” ประชาสัมพันธ์ของดีประจวบฯ ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานประจวบฯ นำผู้ประกอบการ 5 แห่ง ร่วมออกบูธโชว์ของดีของเด่นจังหวัดประจวบฯ ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 2 – 6 สิงหาคม 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ที่พิเศษสุดได้พาค่างแว่นถิ่นใต้ “น้องเอ็นดู” มาสคอตนำโชคของชาวจังหวัดประจวบฯ โดยได้รับการอนุเคราะห์จากศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน มาร่วมกิจกรรมแสดงในงาน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของดีของเด่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สู่สายตานักท่องเที่ยว และได้รับความสนใจมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานติดใจในความน่ารักแสนซน ขอถ่ายรูปกับน้องเอ็นดูเป็นที่ระลึกจำนวนมาก พร้อมกันนี้น้องเอ็นดูได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้กำลังใจอุดหนุนแวะบูธผู้ประกอบการจากจังหวัดประจวบฯ กันให้มากๆ

สำหรับผู้ประกอบการ 5 ราย ที่เข้าร่วมกิจกรรมได้แก่ ร้านปิ้งงบทะเล อาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชายทะเล ร้านหนูจวบฯ นำขนมปังชีสเชครูปหอยใส่ไส้สัปปะรดกวนอันแสนอร่อยให้ลองชิม ร้านอาคมขนมไทย นำขนุนจากผลิตผลของชาวชุมชนบ้านใหม่ อ.สามร้อยยอด มาแปรรูปเป็นขนุนทอดกรุบกรอบเจือด้วยความหอมของขนุน ผสานกับรสเค็มเบาๆ ของเกลือ กินจนเพลินอร่อยไม่หยุด บูธงานคราฟต์ ได้แก่ ร้านโขมพัสตร์ แบรนด์ผ้าไทยทำมือเก่าแก่กว่า 75 ปี ปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของผ้าพิมพ์ลายไทยของหัวหินไว้ และบูธสินค้าการท่องเที่ยวชุมชน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก เจ้าของรางวัลกินรี ไฮไลท์คือกิจกรรมห่มทรายเพื่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาชาวบ้านที่โดดเด่นนำมาผสานกับกิจกรรมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ อาทิ ไหว้พระวัดทุ่งประดู่ นั่งแท็กซี่ซาเล้ง ฟังเรื่องราวของมะพร้าว GI พันธุ์นกคุ้ม ร่วมทำผ้ามัดย้อมและชิมอาหารท้องถิ่น เป็นต้น ทั้งนี้ “น้องเอ็นดู” ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจอุดหนุนบูธร้านค้าของจังหวัดประจวบฯ ตั้งอยู่โซนภูมิภาคภาคกลาง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.