Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหิน เปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง น้อมรำลึกในหลวง ร.9

หัวหิน เปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง น้อมรำลึกในหลวง ร.9

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่วิถีคนเมือง Beloved King Learning Center ที่อาคารสัมมนา “สานต่อที่พ่อทำ” ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและสืบสานพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ เผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่แก่นักเรียนและผู้ที่สนใจโดยการลงมือปฏิบัติจริง มีนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายเชาวรัตน์ เกิดทอง นายก อบต.ทับใต้ กลุ่มคนรักสถาบัน ดารานักแสดง อาทิ โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์, แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์, บุ๋ม รัญญา ศิยานนท์, ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี, ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิด

พร้อมกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้เยี่ยมชมพื้นที่ในส่วนต่างๆ ของเกษตรทฤษฎีใหม่จัดสรรในพื้นที่ 1 ไร่ โดยรูปแบบการสาธิตจะสอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพพื้นที่ความเป็นอยู่ของคนเมือง สามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ด้วยตนเองที่บ้านได้ ซึ่งจะยึดหลักการทำเกษตรพอเพียง มุ่งเน้นให้มีผักที่ปลอดภัยจากสารพิษรับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องซื้อ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ถ้าปลูกได้เกินกว่าที่ต้องการรับประทานในครัวเรือน ก็สามารถนำไปแจกจ่ายหรือขายให้กับเพื่อนบ้านเป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ร่วมรดน้ำต้นยางนา ต้นไม้ที่ในหลวงทรงห่วงใยทั้งหมด 9 ต้น และเดินชมนิทรรศการในหลวง ร.9 และโครงการพัฒนาชนบทตามพระราชดำริแห่งแรกถนนห้วยมงคล – หัวหิน และรถยนต์พระนั่งของรัชกาลที่ 9 ที่ทรงใช้ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ได้ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มาร่วมงาน

น.ส.เบญจนิษฐ์ พุ่มสุโขรักษ์ ประธานโครงการ กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในวิถีคนเมือง จัดทำขึ้นเพื่อน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านในเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ อันเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการดำเนินชีวิตของปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ยังมีจำนวนผู้คนมากมายที่ยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงคำว่าเกษตรทฤษฎีใหม่ หลายคนยังมีความคิดถึงความจำเป็นในการดำเนินชีวิตในเมือง ไม่สามารถละทิ้งชีวิตที่เป็นอยู่เพื่อน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาดำเนินชีวิตได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ในทุกด้าน ทุกสถานที่ เพื่อให้อยู่ดีกินดี ทั้งที่มีกินมีใช้เองในครัวเรือน จนสามารถนำไปดำเนินอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ ที่ให้ปวงชนชาวไทยได้เข้ามารำลึกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระมหากษัติรย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เซ็นทาราฯ หัวหินกระตุ้นสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ชวนป้อนขยะปลาโกบี้

เซ็นทาราฯ หัวหินกระตุ้นสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ชวนป้อนขยะปลาโกบี้

วันที่ 8 มิถุนายน 2566 โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ร่วมฉลองวันสิ่งแวดล้อมโลกและวันทะเลโลก 8 มิถุนายนของทุกปี สานต่อโครงการด้านสิ่งแวดล้อม Plastic Only, Please’ (P-O-P) ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายในเครือเซ็นทาราทุกแห่ง จะจัดให้มีถังขยะรูปทรงสัตว์ทะเลน่ารักๆ ไว้ภายในพื้นที่ของโรงแรม เพื่อกระตุ้นให้แขกผู้เข้าพักและพนักงานสามารถนำเอาขยะพลาสติกต่างๆ ไปป้อนให้กับถังขยะได้ด้วยตัวเอง

“วันสิ่งแวดล้อมโลก” ตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมาของทุกปี เป็นวันที่ได้รับการประกาศจากองค์การสหประชาชาติ สืบเนื่องมาจากโลกของเราเกิดวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เพื่อให้เกิดความร่วมมือและรู้ทันเหตุการณ์ จึงได้มีการจัดประชุมใหญ่ระดับโลกขึ้นที่กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน ในช่วงวันที่ 5 – 16 มิถุนายน พ.ศ.2515

น.ส.เดือนเพ็ญ เพ็งเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายรับรองคุณภาพ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์บีช รีสอร์ทและวิลลา หัวหิน กล่าวว่า โรงแรมเซ็นทาราฯ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ปีนี้ได้จัดจุดรองรับขยะพลาสติกเป็นตัว “ปลาโกบี้” หรือเราเรียกว่าอีกอย่างว่า “ป๊อป” (P-O -P ) หรือ Plastics Only, Please’ ซึ่งปลาตัวนี้จะช่วยในการส่งเสริมและรณรงค์ในการลดปริมาณขยะพลาสติกของนักท่องเที่ยว โดยจัดไว้ที่บริเวณชายหาดด้านหน้าโรงแรม ปลาตัวนี้จะมีพวกขวดพลาสติก ขยะพลาสติกต่างๆ จากนักท่องเที่ยว ขยะพลาสติกทั้งหมดจะนำไปขาย หลังจากที่ขายและมีรายได้ ก็จะนำไปซื้อถังขยะ เพื่อที่จะมาติดตั้งในบริเวณชายหาดของโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมได้ประสานงานกับเทศบาลเมืองหัวหินในการบริจาคนี้

น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าวอีกว่า ลักษณะของวัสดุที่ใช้ทำตัวปลา ที่ผ่านมาเราใช้พลาสติกและท่อ PVC แต่ปีนี้เราต้องการรณรงค์เพื่อลดขยะพลาสติก จึงหันมาใช้วัสดุที่เป็นไม้ไผ่ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ การจัดทำโครงสร้าง เป็นผลงานของแผนกช่างของโรงแรม และแผนกกองสวนของโรงแรม จัดทำเป็นตัวรูปปลาขึ้นและใช้ตาข่าย ซึ่งเดิมใช้เป็นตาข่ายพลาสติก พบว่ามีปัญหาในเรื่องการผุพัง การย่อยสลาย และชำรุดง่าย ปีนี้จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นโครงตาข่ายแบบเหล็ก ซึ่งหลังจากที่ใช้ในกิจกรรมปีนี้แล้ว โครงสร้างนี้ยังสามารถนำกลับไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ของโรงแรมอีกด้วย

“จากสถิติของปีที่ผ่านมา สามารถเก็บขยะได้มากกว่า 4,000 กิโลกรัม เราทำกิจกรรมยาวนานถึง 3 เดือน โดยได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ที่นำขวดพลาสติกมาให้ปลาของเรา ในส่วนของในโรงแรมมีกิจกรรมคัดแยกและลดขยะอยู่แล้ว ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรงแรมเราเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี โรงแรมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ คิดว่าจะมีโครงการดีๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และยินดีให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน” น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าว.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนโหวต “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ติดแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters

ททท.ประจวบฯ ชวนโหวต “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ติดแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวประจวบฯ ได้มีส่วนร่วมช่วยกันลงคะแนนโหวตให้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ หรือพระมหาเจดีย์เก้ายอด พระปรางค์จัตุรมุข สูงสามชั้น สวยอลังการยิ่งใหญ่บนยอดเขาธงชัย วัดทางสาย อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวใน 25 แห่งของประเทศไทย จากแหล่งท่องเที่ยว 77 แหล่งทั่วประเทศ (หนึ่งจังหวัดต่อหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว) โดยนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานการพิจารณาร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัด และ ททท.สำนักงานประจวบฯ ซึ่งได้เห็นชอบร่วมกันในการเสนอพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ของจังหวัดประจวบฯ

ทั้งนี้แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters จะมาจากการลงคะแนนโหวตของคนไทย จำนวน 20 แหล่งท่องเที่ยว และอีก 5 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับกติกาการลงคะแนนโหวต จำกัดสิทธิ 1 คน สามารถโหวตได้ 5 สิทธิต่อสัปดาห์ โดยแต่ละสิทธิต้องใช้โหวตให้กับแหล่งท่องเที่ยว 1 แห่ง ในแต่ละภูมิภาค (5 สิทธิ สำหรับการโหวตแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งใน 5 ภูมิภาค) โดยระยะเวลาสะสมผลโหวตต่อสัปดาห์ จะสิ้นสุดในทุกวันอาทิตย์ เวลา 24.00 น. และเริ่มนับคะแนนใหม่ ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม มีสิทธิลุ้นรับของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบินไป – กลับ เส้นทางภายในประเทศ บัตรกำนัลสำหรับใช้บริการโรงแรมที่พัก ร้านอาหารมิชลินไกด์ บัตรเติมน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งจะมีการจับรางวัลและประกาศผลผู้โชคดีทุกสัปดาห์ ผ่านหน้าเว็บไซต์โครงการ รอบที่ 1 เริ่มโหวตวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ติดตามรายละเอียดและร่วมโหวตผ่านช่องทาง www.tourismthailand.org/unseennewchapters.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภอหัวหิน ชวนชิมทุเรียนป่าละอู งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10

1 ปีมีครั้งเดียว นายอำเภอหัวหิน ชวนชิมทุเรียนป่าละอู งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าทุเรียนป่าละอู เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงพระราชทานให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ครั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนอานันท์ ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2509 จนกลายเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าละอู ที่มีความพิเศษบนพื้นที่สูง สภาพอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้ได้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ มีรสหวาน เนื้อหนา เหนียว เนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน เม็ดลีบเล็ก กลิ่นไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับจากผู้โปรดปรานทุเรียนว่ามีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับเครื่องหมายสินค้า GI (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 แสดงถึงแหล่งเพาะปลูกที่เจาะจงแค่ที่ใดที่หนึ่ง เป็นสินค้าเด่นของชุมชน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าการเกษตร โดยผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมาย GI ได้แก่ เกษตรกรผู้ผลิตในพื้นที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งได้ร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐาน ชื่อเสียงและอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นนี้เอาไว้

สำหรับทุเรียนป่าละอู จะเริ่มออกผลผลิตสู่ท้องตลาด ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม โดยขณะนี้เริ่มมีทุเรียนป่าละอูบางส่วนออกจำหน่ายแล้ว พร้อมกันนี้ อำเภอหัวหิน ร่วมกับ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เตรียมจัดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 19 – 25 มิถุนายนนี้ ที่บริเวณสนาม ข้าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทุเรียนให้กับผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนตามมา ภายในงานจะมีเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่นำผลไม้และพืชผลทางการเกษตร อาทิ เงาะ มังคุด และของดีต่างๆ ในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มาจำหน่าย โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอู ทั้งพันธุ์หมอนทองและชะนี ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกได้คัดทุเรียนป่าละอูเกรด A จากสวนโดยตรง นำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมที่ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ในราคาเดียวกันทุกร้าน กิโลกรัมละ 250 บาท นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้าโอทอป สินค้าเกษตรแฟร์ ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ เครื่องมือการเกษตร เฟอร์นิเจอร์ สินค้าโรงงานมาร่วมจำหน่ายตลอดงาน โดยมี รมต.ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชิมทุเรียนป่าละอูแสนอร่อยแล้ว ยังได้ชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวไทยภูเขา และน้ำตกป่าละอูเลื่องชื่อ ที่มีความสวยงามสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งปี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อากาศร้อนจัด ปลาในอ่างเก็บน้ำ น็อกน้ำตายเป็นเบือ

อากาศร้อนจัด ปลาในอ่างเก็บน้ำ น็อกน้ำตายเป็นเบือ

วันที่ 5 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีสัตว์น้ำประเภทปลาตายลอยแพจำนวนมากในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำโจน หมู่ 6 บ้านหุบไผ่ ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ความจุ 1.4 แสนลูกบาศก์เมตร อยู่ในจุดแคบสุดในประเทศไทย ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย – เมียนมา พบว่ามีปลาหลากหลายสายพันธุ์ลอยน้ำตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

จากการสอบถามนางอำไพ บุตรดี อายุ 68 ปี ประธานกลุ่มแม่บ้านหุบไผ่ กล่าวว่า พบปลาลอยน้ำตายต่อเนื่องมาประมาณ 1 สัปดาห์ มีทั้งปลาบู่ ปลานิล ปลาตะเพียน แต่ละวันมีไม่ต่ำกว่า 400 – 500 กิโลกรัม ชาวบ้านในพื้นที่ต้องช่วยกันเก็บซากปลาที่เริ่มเน่ารอบอ่างเก็บน้ำใส่ถุงปุ๋ยเพื่อนำไปฝัง บางรายนำไปทำปุ๋ยในสวนมะพร้าว ไม่เช่นนั้นซากปลาจะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ช่วงแรกที่ปลาตาย ชาวบ้านคิดว่ามีการวางยาหรือเป็นโรค แต่จากการนำซากปลาไปตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีสารเคมีปนเปื้อน ขณะที่การตรวจสอบตัวอย่างน้ำ ไม่มีปัญหาน้ำเน่าเสีย

ปัจจุบันชาวบ้านมากกว่า 100 หลังคาเรือน ใช้น้ำในอ่างผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและน้ำ เพื่อการเกษตรในการเลี้ยงโคนม จึงต้องเร่งเก็บซากปลาเพื่อให้การผลิตน้ำประปาไม่มีผลกระทบจากกลิ่นเหม็นและชาวบ้านสามารถใช้น้ำตามปกติ ส่วนตัวยอมรับว่าในรอบ 30 ปี ตั้งแต่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ ไม่เคยพบปลาตายในลักษณะนี้มาก่อน บางปีเจอภัยแล้งนานหลายเดือน น้ำในอ่างลดลงมาก แต่ไม่พบว่ามีปลาลอยน้ำตาย สำหรับปีนี้คาดว่าปลาตายทั้งอ่าง มีสาเหตุจากสภาพอากาศร้อนจัดนานผิดปกติ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน และหลังจากนี้ชาวบ้านต้องช่วยกันหาพันธุ์ปลาไปปล่อยในอ่างเพื่อทดแทนปลาที่ตายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พบซากช้างป่าละอูขึ้นอืดคาลำห้วย ผ่าพบหัวกระสุนหลายชิ้น

พบซากช้างป่าละอูขึ้นอืดคาลำห้วย ผ่าพบหัวกระสุนหลายชิ้น

วันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายประธาน สังวรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า และชุดลาดตระเวนผลักดันช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ, ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก, ตำรวจพลร่ม (ด่านตรวจพุไทร), ตำรวจตระเวนชายแดน ชุด 1454 และ เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย เข้าพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากนายโรม ยิ้มรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหนองสะแก ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าพบซากช้างป่าเสียชีวิตอยู่บริเวณค่าพิกัดดาวเทียม ระบบ (WGS84) UTM 47 P 0564612 E 1379094 N ในบริเวณท้องที่หมู่ 10 บ้านหนองสะแก ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าตัวโตเต็มวัย ไม่ทราบเพศ (ไม่มีงา) นอนตายอยู่ในบริเวณลำห้วย ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ สภาพขึ้นอืด คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน คณะเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับคณะสัตวแพทย์ เพื่อมาผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตายของช้างป่าตัวนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบโดยใช้เครื่องสแกนโลหะ สแกนบริเวณลำตัวซากช้างป่าเพื่อตรวจหาวัตถุโลหะ ก่อนให้นายสัตวแพทย์อนุรักษ์ สกุลพงษ์ สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย และชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผ่าชันสูตรซากช้างป่า พบวัตถุคล้ายกระสุนปืนบริเวณสะโพกซ้าย จำนวน 2 ชิ้น, บริเวณกลางลำตัวด้านซ้าย จำนวน 3 ชิ้น และบริเวณหน้าอกด้านล่างซ้าย จำนวน 2 ชิ้น ซึ่งนายสัตวแพทย์ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน นำส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาสารพิษและโรค หรือสาเหตุการตายของช้างป่าตัวดังกล่าวนี้ และต้องรอผลยืนยันการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะทราบผล ก่อนเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทำลายซากใช้รถแบคโฮทำการขุดฝังกลบซากช้าง พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และโรยปูนขาวรอบๆ ตามหลักวิชาการเป็นที่เรียบร้อย ก่อนนำหลักฐานเข้าแจ้งความ สภ.บ้านหนองพลับ เพื่อหาตัวคนยิงช้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ชวนเที่ยวผาฝั่งแดง หรือหาดฝั่งแดง ชมหัตถกรรมอัตลักษณ์บางสะพานน้อย

ชวนเที่ยวผาฝั่งแดง หรือหาดฝั่งแดง ชมหัตถกรรมอัตลักษณ์บางสะพานน้อย

วันที่ 4 มิถุนายน 2566 สำนักงานพัฒนาชุมชนบางสะพานน้อย ร่วมกับกลุ่มแม่บ้านสตรีตำบลทรายทอง ระดมความคิดเกี่ยวกับการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ร่วมกับทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน นำดินฝั่งแดงมาเพิ่มมูลค่า และได้ของบประมาณสนับสนุนจาก อบต.ทรายทอง และสำนักงานแรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดฝึกอบรมหลักสูตรทำผ้ามัดย้อมระหว่างวันที่ 24 – 28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ อบต.ทรายทอง มีวิทยากรจากอำเภอบางสะพาน ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ขณะนี้ทางกลุ่มได้พัฒนาลวดลายและพร้อมจำหน่ายแล้ว โดยมีนายนันทปรีชา คำทอง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้แก่กลุ่มด้วย

ผาฝั่งแดง อำเภอบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ตั้งตระหง่านริมทะเล ท้าคลื่นลม มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร ลักษณะพิเศษ คือแนวหน้าผาสีแดง ลักษณะเป็นดินลูกรังแดง ลวดลายสวยงาม หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้วยความสูงประมาณ 20 – 30 เมตร ผาฝั่งแดงมีชายหาดซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของคลื่นและลมทะเลเป็นเวลานับแสนปี จนเกิดลวดลายสวยงามตระการตาดังเช่นปัจจุบัน หากท่านสนใจสินค้าของชุมชน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.098 – 8848791 (พี่ตา) ประธานกลุ่ม “ผ้ามัดย้อมดินฝั่งแดง”.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กรมทรัพยากรน้ำใช้งบ 102 ล้าน ซ่อมอ่างเก็บน้ำมรสวบ หลังมีปัญหาซ้ำซากกว่า 10 ปี

กรมทรัพยากรน้ำใช้งบ 102 ล้าน ซ่อมอ่างเก็บน้ำมรสวบ หลังมีปัญหาซ้ำซากกว่า 10 ปี

วันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ว่าที่ ส.ส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงการซ่อมสร้างอ่างเก็บน้ำมรสวบ ที่หมู่ 4 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ หลังจากสันอ่างทรุดตัวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ต่อมาถูกปล่อยร้างไม่สามารถใช้งานได้ โดยก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2557 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้งบ 37.9 ล้านบาท ปรับปรุงอ่างเก็บน้ำความจุ 1.6 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่กลับมีปัญหาสันอ่างเกิดรอยรั่วซ้ำซากใกล้สปิลเวย์ ทำให้สันอ่างทรุดยาวกว่า 20 เมตร ลึก 5 เมตร ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำดังกล่าวยังไม่สามารถใช้กักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตรได้ตามศักยภาพ หลังจากมีการประเมินแนวทางในการแก้ไขปัญหาจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ กรมทรัพยากรน้ำ ได้เสนอใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2564 จำนวน 102 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงฐานรากให้มีความมั่นคงแข็งแรง เมื่ออ่างเก็บน้ำได้รับการแก้ไขปรับปรุงซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ให้สามารถเก็บกักน้ำได้ตามปกติ จะเกิดประโยชน์กับประชาชน ต.ชัยเกษม ต.ธงชัย และเขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินงานการปรับปรุงซ่อมแซมให้สามารถใช้ประโยชน์ สันอ่างเก็บน้ำมีความยาวตั้งแต่ริมถนนสาธารณะ เข้าไปสุดสันอ่างเก็บน้ำ มีความยาว 580 เมตร การซ่อมแซมแบ่งเป็น 2 ช่วง ในช่วงที่ได้รับความเสียหายที่สันอ่างทรุดตัวลงไป 102 เมตร ต้องมีการขุดดินเดิมออกไป จากนั้นมีการบดอัดสันอ่างขึ้นมาใหม่ ในส่วนที่สันเดิมมีสภาพดี ได้ใช้วิธีการฉีดอัดน้ำปูนลงเป็นแกนกลาง ตามหลักวิศวกรรมการก่อสร้าง

ด้านนายณัฐพล จอมแก้ว อายุ 35 ปี ผู้ควบคุมงานบริษัทรับเหมา กล่าวว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ หากบริษัทดำเนินการไม่เสร็จตามสัญญาจ้างที่ได้รับการขยายเวลาจากเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ก็จะถูกปรับรายวันๆ ละกว่า 1 แสนบาท จึงต้องเร่งรัดซ่อมสร้างให้เสร็จตามเป้าหมาย โดยเพิ่มการทำงานล่วงเวลาถึง 22.00 น.ทุกวัน ส่วนตัวคาดว่างานน่าจะเสร็จทันเวลาที่กำหนด สำหรับการซ่อมสันอ่างโครงสร้างเดิม ยอมรับว่ามีปัญหาพอสมควร เนื่องจากแกนในเป็นดินปนทรายและมีโพรงจำนวนมาก จึงต้องใช้ดินเหนียวที่ซื้อจากอำเภอบางสะพาน เข้ามาทำการบดอัด และหลังการซ่อมครั้งนี้ก็ยังไม่กล้ารับประกัน 100% ว่าจะใช้งานได้จริง เนื่องจากของเดิมที่ทำไว้สภาพสันอ่างชำรุดมากพอสมควร โดยวัสดุในสันเขื่อนที่บริษัทเก่าทำไว้ ไม่ได้ฉีดปูนซีเมนต์ลงไป เนื่องจากการก่อสร้างมีแค่การบดอัดดินเท่านั้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

วัดสะพานขี้เหล็ก เททองหล่อพระโมคคัลลานะ – พระสารีบุตรประจำพระธาตุเจดีย์พุทธมหาปัญจภัทร

วัดสะพานขี้เหล็ก เททองหล่อพระโมคคัลลานะ – พระสารีบุตรประจำพระธาตุเจดีย์พุทธมหาปัญจภัทร

วันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเททองหล่อพระโมคคัลลานะ – พระสารีบุตร ประจำพระธาตุเจดีย์พุทธมหาปัญจภัทร (หลวงพ่อโต) ที่วัดสะพานขี้เหล็ก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล ตลอดจนพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธี พร้อมกันนี้คณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมกันทำพิธีเททองนำฤกษ์หล่อพระโมคคัลลานะ – พระสารีบุตร เพื่ออัญเชิญประดิษฐานประจำพระธาตุเจดีย์พุทธมหาปัญจภัทร (หลวงพ่อโต) วัดสะพานขี้เหล็ก ต่อไป

วัดสะพานขี้เหล็ก สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เมื่อปี พ.ศ.2543 จ.ส.ต.จรูญ ฤกษ์อุโฆษณ์ บริจาคที่ดินจำนวน 6 ไร่ เพื่อสร้างศาสนสถานในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่รกร้าง กันดาร ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา ทายกทายิกาจึงได้นิมนต์พระอาจารย์วิชิต จารุกุโล และพระอุทัย จารุธมฺโม มาจำพรรษาเพื่อบริหารงานและดูแลการก่อสร้างเป็นที่พักสงฆ์ ชื่อว่า “ต้นจรูญ” จึงได้พัฒนาก่อสร้างเสนาสนะให้เป็นที่พำนักของพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เพื่อปฏิบัติธรรม ต่อมาได้ขออนุญาตสร้างวัดและตั้งวัด อนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2545 ด้วยความเห็นชอบของพระมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงมีประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2546 ชื่อว่าวัดสะพานขี้เหล็ก สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้าน ต่อมาได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 127 ตอนพิเศษ 104 ง ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2553 และได้ทำพิธีปักหมายกำหนดเขตพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553 และคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งพระอุทัย จารุธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2547 ปัจจุบันท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท นามว่าพระครูโอภาสกาญจนธรรม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ตั้งแต่นั้นมา.