Categories
ข่าว ทั้งหมด

รวบแก๊งลักลอบขนหินพระธาตุ อุทยานเขาสามร้อยยอด หนักกว่าร้อยกิโลกรัม

รวบแก๊งลักลอบขนหินพระธาตุ อุทยานเขาสามร้อยยอด หนักกว่าร้อยกิโลกรัม

วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี รับรายงานจากนายจำลอง จงศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามฯ สายที่ 2, สายที่ 3 เจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ พบ.2 (หุบตะเคียนยักษ์) ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้กระทำความผิด จำนวน 3 คน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบฯ

สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ออกลาดตระเวนในพื้นที่ ตามนโยบายของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการป้องกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติ พบกลุ่มคนลักลอบขนหินพระธาตุ บริเวณเส้นทางเข้าสำนักสงฆ์เกาะไผ่ หมู่ 5 ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ พิกัดที่ 47 P 600201 E 1347604 N (พื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด) จึงได้แจ้งขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และตำรวจ ปทส. เพื่อร่วมจับกุม พบชาย 3 คน ทราบชื่อภายหลังว่านายอมฤต อายุ 35 ปี 2. นายเอกพล อายุ 36 ปี 3. นายเรืองเดช ทั้งหมดเป็นชาวสามร้อยยอด พร้อมของกลาง หินที่นำลงมาจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จำนวน 6 เป้/ถุงปุ๋ย น้ำหนักรวม 132.5 กิโลกรัม อยู่ท้ายรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ 4 ประตูสีเทา ทะเบียน กน 8178 เพชรบุรี จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับหินดังกล่าว เป็นที่ต้องการของนายทุน มีลักษณะสีแดงและสีน้ำตาล มีความสวยงาม ทำให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้รับซื้อที่ต้องการนำไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปและเครื่องประดับเพื่อจำหน่าย ตามความเชื่อของคนบางกลุ่มว่าพระธาตุเหล่านี้เกิดจากพระอรหันต์.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ททท.เปิดงานฉลองครบ 100 ปี สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน และวันกอล์ฟไทย

รองผู้ว่าฯ ททท.เปิดงานฉลองครบ 100 ปี สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน และวันกอล์ฟไทย

ช่วงค่ำวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนายสุวิทย์ เหรียญรุ่งเรือง นายกสมาคมกีฬากอล์ฟประจวบคีรีขันธ์ – เพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 100 ปี สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน และครบรอบ 100 ปี วันกอล์ฟไทย ที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าการ ททท. นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา อดีตนายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย นายสุเมธ อินทามระ กรรมการผู้จัดการ สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์รอยัล คันทรีคลับ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายอำนาจ ป่านแก้ว ผู้จัดการสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติร่วมงานและแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

“วันกอล์ฟไทย” ถูกกำหนดไว้ เนื่องด้วยวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2467 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงกอล์ฟเป็นปฐมฤกษ์ ณ สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน นับเป็นวันประวัติศาสตร์แห่งการเริ่มการแข่งขันกีฬากอล์ฟในประเทศไทย และสำคัญยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด คือการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน “รัชกาลที่ 6” ในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นี้ซึ่งเป็นวันครบรอบ “100 ปี วันกอล์ฟไทย” สมาคมกีฬากอล์ฟประจวบฯ – เพชรบุรี จึงจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี วันกีฬากอล์ฟไทยขึ้น ภายในงานมีการจัดนิทรรศการความเป็นมาและวิวัฒนาการของกีฬากอล์ฟในประเทศไทย และกิจกรรมมากมาย รวมถึงมีการแข่งขันกอล์ฟ รายการ “Thailand National Golf Day” (100 year Anniversary) ชิงถ้วยรางวัลของสมาคมฯ ในสนามกอล์ฟพื้นที่หัวหิน – ชะอำ รวม 6 ครั้ง ได้แก่ สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน, สนามกอล์ฟปาล์มฮิลล์, สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์รอยัลคันทรีคลับ, สนามกอล์ฟซีไพน์, สนามกอล์ฟเลควิว, สนามกอล์ฟมาเจสติคครีก ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมนี้ ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดแสดงดนตรีที่สถานีรถไฟหัวหิน

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดแสดงดนตรีที่สถานีรถไฟหัวหิน

วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อโณทัย นิติพน รักษาการแทนอธิการบดีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ อาทิ น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ, นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ, นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน, นายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน ที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารใหม่) จ.ประจวบฯ ในโอกาสเข้าร่วมชมการแสดงดนตรีของสมาชิก โครงการ “Music on the Move” ของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ท่ามกลางนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารร่วมรับฟังด้วยความเพลิดเพลิน เข้าบรรยากาศความสวยงามคลาสสิคของสถานีรถไฟหัวหินหลังใหม่ และในวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. สมาชิกโครงการ Music on the Move จะไปแสดงดนตรีในกิจกรรม “ชมวัง ฟังเสียง (เพลง)” ที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ด้วย

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา (สถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านดนตรีในกำกับของรัฐ) ก่อตั้งขึ้นตามพระปณิธานองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงมีความสนพระทัยในดนตรีคลาสสิกอย่างลึกซึ้งและทรงสนับสนุนกิจกรรมด้านดนตรีคลาสสิกเพื่อพัฒนาเยาวชนไทย ให้มีทักษะความสามารถที่เป็นเลิศ ทัดเทียมกับนานาชาตินั้น เพื่อเป็นการสานต่อพระปณิธานของพระองค์ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาจึงได้จัดโครงการ “Music on the Move” ค่ายดนตรีสำหรับนักดนตรีทุกช่วงวัย ที่มุ่งเนันการพัฒนาทักษะการเล่นดนตรีรวมวงเล็ก (Chamber Music) สอนโดยวิทยากรระดับนานาชาติ พร้อมเสริมทักษะการแสดงดนตรีต่อสาธารณชนในพื้นที่การแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ ที่มีความสอดคล้องกับบริบทในศตวรรษที่ 21 โดยทั้งผู้เล่นและผู้ฟังจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นและชมดนตรีในรูปแบบใหม่ พร้อมทดลองการขยายแง่มุมของศิลปะในมิติต่างๆ

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาเป็นอย่างสูง ที่ได้จัดกิจกรรมโครงการค่ายดนตรี Music on the Move ในรูปแบบการเล่นวงดนตรีรวมวงเล็ก Chamber Music ของน้องๆ เยาวชน แสดงในพื้นที่อำเภอหัวหิน เพื่อส่งเสริมน้องๆ เยาวชน ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะและประสบการณ์การเล่นดนตรีต่อหน้าผู้ชม ที่สำคัญคือเพื่อให้เกิดเรียนรู้การทำงานในด้านดนตรีด้วยกันกับอาจารย์และเพื่อนร่วมวง โดยเฉพาะการเล่นดนตรีของน้องๆ เยาวชน ในวันนี้ที่สถานีรถไฟหัวหินที่มีเอกลักษณ์ความสวยงามอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟแห่งเก่า ซึ่งมีความเก่าแก่ เป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยว เป็นภาพทรงจำที่สวยงามของเมืองหัวหิน เป็นการช่วยย้ำการสื่อสารภาพลักษณ์การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงดนตรีของหัวหิน ซึ่งเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ไม่เพียงแต่นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน แต่ยังสร้างคุณค่าความสุขทางการท่องเที่ยวอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รวบคนบุกรุกป่าในเขตอุทยานเสด็จในกรมฯ วันเดียว 2 ราย

รวบคนบุกรุกป่าในเขตอุทยานเสด็จในกรมฯ วันเดียว 2 ราย

วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายกิตติศักดิ์ สมศรี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบฯ ว่าเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จับกุมผู้ต้องหาบุกรุกพื้นที่ป่า คดีที่ 1 เวลา 11.30 น. ได้ 1 ราย คือนายสำรวย อายุ 48 ปี ชาวบางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ บริเวณป่าคลองคราม ท้องที่บ้านทองอินทร์ หมู่ 4 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย พิกัดที่ 47 P 0521790 E/1217997 N พื้นที่บุกรุก จำนวน 18 – 1 – 64 ไร่ พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่ 1. อาวุธปืนลูกซองยาว ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก 2. เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 2 นัด 3. วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ SPENDER สีแดง 1 เครื่อง 4. วิทยุสื่อสารเครื่องโมบายสีแดง ยี่ห้อ ICOM จำนวน 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

คดีที่ 2 เวลา 13.25 น. จับกุมผู้ต้องหาบุกรุกพื้นที่ป่าอีก 1 ราย ชื่อนายพันธ์ อายุ 66 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี บริเวณป่าคลองคราม ท้องที่บ้านทองอินทร์ หมู่ที่ 4 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย พิกัดที่ 47 P 0522020 E 1218271 N พื้นที่บุกรุก จำนวน 4 – 0 – 88 ไร่ รับสารภาพว่าบุกรุกป่า โดยว่าจ้างคนเข้ามาแผ้วถาง เพื่อปลูกต้นทุเรียนและต้นเงาะ พร้อมต่อท่อน้ำมายังแปลงบุกรุกดังกล่าวเพื่อรดต้นทุเรียนและเงาะ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพานน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) นายก อบต.ช้างแรก อ.บางสะพาน เคยออกมาเปิดเผยว่าตนสุดทนกับพฤติกรรมของลูกบ้าน ที่มีพฤติกรรมตัดไม้ทำลายป่าและบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จนต้องโพสต์เตือนสติลูกบ้านว่า “เรียนพี่น้องชาวช้างแรก ใครมีที่ดินติดแนวเขตรักษาพันธุ์ฯ หรือใกล้แนวเขต ช่วงนี้ให้งดเข้าพื้นที่ก่อนนะครับ เนื่องจากมีการกวดขันและจับกุมทุกวันเลย ตอนนี้หมดคนประกันแล้วครับ” โดยสถิติการจับกุมดำเนินคดีของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) นับตั้งแต่นายกิตติศักดิ์ สมศรี มาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฯ มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 175 คดี ผู้ต้องหา 150 ราย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดนิทรรศการ “หัวหินงามผ่านงานศิลป์” ผลงานศิลปิน 8 ประเทศ

เปิดนิทรรศการ “หัวหินงามผ่านงานศิลป์” ผลงานศิลปิน 8 ประเทศ

วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ เป็นประธานเปิดนิทรรศการ “หัวหินงามผ่านงานศิลป์” (Hua Hin International Contemporary Art 2024) ที่โรงแรมเนินชเล หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีครูเล็ก นางภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและภาพยนตร์) นายดี ช่างหม้อ ศิลปินไทย ผู้ริเริ่มการจัดงาน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ นางฆรนี เทียนไทย ประธานบริหารและเจ้าของโรงแรมเนินชเล แขกผู้มีเกียรติ และเหล่าศิลปินทั้งชาวไทยและต่างชาติให้การต้อนรับ

โรงแรมเนินชเล จัดงาน “หัวหินงามผ่านงานศิลป์” ภายใต้แนวความคิด “The Beauty of Hua Hin” ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน – 13 กรกฎาคม 2567 มีศิลปินนานาชาติ 11 คน จาก 8 ประเทศ มาสร้างสรรค์งานปั้นและงานวาดภาพ โดยนำมุมมอง ความรู้สึกจากความงดงามของสิ่งที่ได้สัมผัสและพบเห็นระหว่างมาพักอยู่ในหัวหิน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสรรค์สร้างงานศิลปะ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจในศิลปะได้เข้ามาเรียนรู้และพูดคุยกับศิลปิน รวมถึงสื่อสารภาพลักษณ์ของอำเภอหัวหิน ว่าเป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบงานศิลปะ และเป็นการประชาสัมพันธ์หัวหินให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทย

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มางาน Hua Hin International Contemporary Art 2024 “หัวหินงามผ่านงานศิลป์” โดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการแถลงข่าวและเป็นวันเริ่มต้นการรังสรรค์ผลงานศิลปะจนมาเปิดการแสดงนิทรรศการในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงฐานรากที่แข็งแกร่งทางศิลปะและศักยภาพของศิลปินทั้ง 11 ท่าน ที่ได้รังสรรค์ผลงานออกมาสู่สายตาของประชาชนและนักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ดื่มด่ำผลงานทางศิลปะ นำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy เมืองหัวหิน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวในเชิงศิลปะให้กับหัวหิน ทาง ททท.สำนักงานประจวบฯ ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ มาชมผลงานศิลปะได้ที่โรงแรมเนินชเล หัวหิน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัว ในพื้นที่ประจวบฯ

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัว ในพื้นที่ประจวบฯ

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมด้วยนางอานุสรา โรจนประดิษฐ นายกสมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และคณะผู้บริหารระดับสูงขององค์การฯ เดินทางพบปะเยี่ยมเยียน พร้อมมอบสิ่งของเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่วัดคลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

หลังจากนั้น พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ และคณะ เดินทางไปมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่พลทหาร อรชุน พุ่มโศรก ทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 4 อายุ 51 ปี ณ บ้านพักในอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก นายสุทิน ตั้งเขาทอง รองนายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก ผู้นำท้องถิ่น เครือข่ายทหารผ่านศึกอำเภอทับสะแกให้การต้อนรับ สำหรับพลทหาร อรชุน พุ่มโศรก ได้ปลดประจำการตั้งแต่ปี 2538 และประสบอุบัติเหตุทางน้ำตั้งแต่ พ.ศ.2541 และเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาจนถึงปัจจุบัน มีนางอารมณ์ พุ่มโศรก มารดาคอยดูแลมาโดยตลอด

การเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยของผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมนายกสมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและคณะในครั้งนี้ นอกจากจะได้รับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานในส่วนภูมิภาคขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกแล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งพบปะเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึกและครอบครัวอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง ความเดือดร้อน อีกทั้งความต้องการที่จะให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทหารผ่านศึกและครอบครัวต่อไป.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตม.ประจวบฯ กวาดล้างแรงงานต่างด้าวในตลาดโต้รุ่งหัวหิน เตือนผู้ประกอบการให้ที่พักพิงมีโทษสูง

ตม.ประจวบฯ กวาดล้างแรงงานต่างด้าวในตลาดโต้รุ่งหัวหิน เตือนผู้ประกอบการให้ที่พักพิงมีโทษสูง

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.รรท.ผกก.ตม.จ.ประจวบฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฎฐวรรธ แก้วทิพย์เนตร สว.ตม.จ.ประจวบฯ ร.ต.อ.อชิตะ บันเทิงจิตร รอง สว.ตม. นำกำลังชุดปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบฯ เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายภายในตลาดโต้รุ่งหัวหิน แหล่งท่องเที่ยงดังในเขตเทศบาลเมืองหัวหินเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทยเป็นจำนวนมาก พบว่ามีแรงงานชาวเมียนมา ทั้งหญิงและชายหลายคนกำลังทำงานปรุงอาหารอยู่ตามร้านอาหารต่างๆ ตรวจสอบแล้วส่วนใหญ่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถูกต้อง และมีใบอนุญาตการทำงานกับนายจ้างเจ้าของร้านถูกต้อง และพบแรงงานชาวเมียนมาที่ไม่มีเอกสารการเดินทางและใบอนุญาตการทำงาน 2 คน คือนายกัน เกาอูน อายุ 20 ปี และนายเกา เที๊ยต อายุ 19 ปี โดยทั้งคู่สารภาพว่าลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนและได้เร่ร่อนหางานทำไปหลายที่ จนมารับจ้างย่างหมึกในตลาดโต้รุ่งหัวหิน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท จนถูกจับกุม จากนั้นจึงนำตัวสองผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง และนายจ้างหรือสถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคน หากกระทำผิดซ้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคน และหากคนต่างด้าวเป็นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง นายจ้างยังคงต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ 2522 ในข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้าในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำหน่วย พอ.สว.ให้บริการประชาชนในพื้นที่หัวหิน เนื่องในวันคล้ายวันประสูติเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำหน่วย พอ.สว.ให้บริการประชาชนในพื้นที่หัวหิน เนื่องในวันคล้ายวันประสูติเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ครั้งที่ 20 ที่สำนักสงฆ์บึงนคร หมู่ 5 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อให้บริการประชาชนในด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มีนางณัชราลักณา สุขภาคกุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ นพ.วรา เศลวัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายวิชัย ศรีอุทารวงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พอ.สว.จังหวัดประจวบฯ ร่วมในพิธี พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหัวหิน ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจสุขภาพช่องปาก ตรวจหาเชื้อมาลาเรีย แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ตรวจสุขภาพนักเรียน และให้คำแนะนำด้านสุขภาพให้กับประชาชน โดยมีประชาชนในพื้นที่และตำบลใกล้เคียงเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ และหัวหน้าส่วนราชการ ได้มอบชุดยังชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาส มอบสิ่งของอุปกรณ์การเรียนให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเนินพยอม สาขาบึงนคร และครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ มอบชุดยาสามัญประจำบ้านพระราชทานให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแพรกตะคร้อ อ.หัวหิน ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบวิทยาลัย นำร่องเปิดศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย แก้ปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุ

ประจวบวิทยาลัย นำร่องเปิดศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย แก้ปัญหาการจราจรและลดอุบัติเหตุ

วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัยโรงเรียนประจวบวิทยาลัย และเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูลปัญหาอุปสรรคนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งโรงเรียนประจวบวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) ตั้งขึ้นเพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยในการเดินทางมาโรงเรียนด้วยรถรับส่งนักเรียน ผ่านระบบการทำงาน 7 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบข้อมูลการจัดการรถโรงเรียน 2.ระบบดูแลนักเรียนภายในรถ 3.ระบบรับรองรถโรงเรียน 4.ระบบเฝ้าระวังรถโรงเรียน 5.ระบบการจัดการจุดจอดรถรับส่งรถโรงเรียน 6.ระบบประกันภัยรถโรงเรียน และ 7.ระบบการติดตามประเมินผล โดยมี น.ส.ทวีพร เพิ่มทวี ขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางวรรณา ศรีจุฬางกูล รองนายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายเธียนชัย แสงชาตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนประจวบวิทยาลัย นางสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สภาองค์กรของผู้บริโภค ดร.ภวินท์ธนา เจริญบุญ หัวหน้าสาขาวิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาองค์กรของผู้บริโภค พร้อมด้วยคณะครูอาจารย์ ผู้บริหารโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน ผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียน ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์เรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยโรงเรียนประจวบวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) ที่ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น โดยได้รับความอนุเคราะห์ความร่วมมือให้การสนับสนุนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนประจวบวิทยาลัย สมาคมครูและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประจวบวิทยาลัย สมาคมครูและศิษย์เก่าโรงเรียนประจวบวิทยาลัย คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง คณะผู้บริหารโรงเรียน คณะครู นักเรียน และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าหากพวกเราทุกคนมีความรับผิดชอบ และมีวินัยในตัวเอง ความปลอดภัยของตัวเองก็จะมีเพิ่มมากขึ้นด้วย

นายเดชา ศิริพิบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนประจวบวิทยาลัย กลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน เปิดเผยว่า โรงเรียนประจวบวิทยาลัย ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงาน สสส. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้เป็นสถานที่จัดตั้งศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัยประจำภาคตะวันตก ในการสำรวจวิเคราะห์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นโรงเรียนนำร่อง เป็นต้นแบบของศูนย์เรียนรู้การจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนปลอดภัยและการแก้ไขปัญหา และเป็นพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะโรงเรียนระดับมัธยม มีจำนวน 18 โรง ซึ่งทุกโรงเรียนทั่วประเทศจะมีศูนย์รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย มีรูปแบบที่เหมือนกัน มีระบบการทำงาน 7 ระบบ 9 ขั้นตอน โดยโรงเรียนประจวบวิทยาลัย อยู่ในระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาวิจัยในการแก้ไขปัญหา ซึ่งโรงเรียนของโรงเรียนประจวบวิทยาลัย มีนักเรียนประมาณ 2,800 คน บางส่วนเดินทางไปกลับโดยรถส่วนตัวของผู้ปกครอง อีกส่วนเดินทางโดยรถรับส่งประจำ ซึ่งมักจะเกิดปัญหาการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากติดปัญหาและอุปสรรคที่รถรับส่ง และรถผู้ปกครองบางส่วนยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ทางโรงเรียนใช้วิธีพูดคุย เจรจาขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและผู้ประกอบการรถรับส่ง โดยโรงเรียนได้จัดสถานที่ลานจอดรถพักคอยไว้ให้ด้านนอกโรงเรียน บริเวณลานจอดรถฝั่งทิศตะวันตก จากนั้นให้นักเรียนเดินไปขึ้นรถ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และนักเรียน ร.ด. คอยอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัย และในอนาคตอาจมีการวางแผนให้รถรับส่งเข้ามาจอดรอรับนักเรียนภายในโรงเรียน แต่จะเน้นเฉพาะรถที่รับส่งนักเรียนของโรงเรียนประจวบวิทยาลัยเท่านั้น แต่ถ้าเป็นรถรับส่งนักเรียนรวม ซึ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นด้วยจะให้จอดรออยู่ด้านนอก เพื่อป้องกันปัญหาการทะเลาะวิวาท จึงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียนและผู้ปกครอง ช่วยปฏิบัติตามนโยบายของทางโรงเรียนด้วย.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เร่งกรมชลฯ สร้างอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ ตั้งเป้าเสร็จภายใน 4 ปี

เร่งกรมชลฯ สร้างอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ ตั้งเป้าเสร็จภายใน 4 ปี

วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชุมชนต่างๆ ที่ห้องประชุมสิงขร โรงแรมประจวบแกรนด์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ในช่วงบ่ายนายอาทร สุทธิกาญจน์ ผู้อำนวยการส่วนวางโครงการที่ 4 กรมชลประทาน และ ดร.ไชยทัศน์ อิ่มสำราญรัชต์ บริษัท ธาราคอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ปรึกษาโครงการ ได้นำคณะสื่อมวลชนติดตามความก้าวหน้าโครงการและพื้นที่รับประโยชน์ มีนายเกษม สุวรรณชาติ นายก อบต.เขาจ้าว นายเพชรพร โกมลฤทธิ์ กำนันตำบลเขาจ้าว นายสวัสดิ์ ชูยิ้ม รองนายก อบต.บึงนคร พร้อมคณะผู้บริหาร ผู้นำท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่

นายอาทร สุทธิกาญจน์ ผู้อำนวยการส่วนวางโครงการที่ 4 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงความเป็นมาในการจัดทำโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าเนื่องจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี ต.หนองตาแต้ม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่กรมชลประทานได้ก่อสร้างไว้เมื่อปี 2510 และมีการใช้งานเพื่อกักเก็บน้ำ ตั้งแต่ปี 2522 เพื่อส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกเป็นบางส่วน ปัจจุบันอาคารต่างๆ ได้ถูกใช้งานมานานกว่า 40 ปี ประกอบกับพื้นที่ในเขตชลประทานทั้งหมด 212,175 ไร่ แต่มีการใช้น้ำที่มากขึ้น ส่งผลให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรีสามารถส่งน้ำได้เพียง 167,100 ไร่ เท่านั้น

ดังนั้น เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำแบบยั่งยืนให้ชาวประจวบคีรีขันธ์ กรมชลประทานจึงวางแผนปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี ประกอบด้วยการเพิ่มระดับเก็บกักอ่างเก็บน้ำปราณบุรี การปรับปรุงคลองส่งน้ำและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อส่งน้ำให้กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ อ่างเก็บน้ำคลองน้อย อ่างเก็บน้ำตะลุยแพรกซ้าย และอ่างเก็บน้ำแพรกกระทุ่ม โดยจะเริ่มดำเนินการอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อเป็นโครงการแรก เพื่อเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่ทำการเกษตรบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำของราษฎรสองแห่ง คือตำบลเขาจ้าว อ.ปราณบุรี และตำบลบึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเสริมศักยภาพให้กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี และลดปัญหาอุทกภัยบริเวณริมฝั่งคลองแพรกตะคร้อ ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี หรือแล้วเสร็จประมาณปี 2571 ราษฎรจึงจะสามารถใช้งานได้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ อ่างดังกล่าวจะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภคบริโภคของราษฎรได้เพียงพอตลอดปี ตลอดจนเพิ่มศักยภาพปริมาณน้ำให้กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรีอีกทางหนึ่งด้วย

ดร.ไชยทัศน์ อิ่มสำราญรัชต์ บริษัท ธาราคอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า ในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อ จำเป็นต้องมีการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอต่อการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ก่อนที่จะมีการสำรวจ ออกแบบและก่อสร้างต่อไป โดยสภาพพื้นที่ศึกษา ตั้งอยู่บนห้วยตะลุยแพรกขวา มีพื้นที่รับน้ำฝนจากตำแหน่งที่ตั้งหัวงาน 179.73 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 112,331 ไร่ และอยู่ในลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำปราณบุรี ซึ่งมีพื้นที่ลุ่มน้ำทั้งหมดประมาณ 2,917.28 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,823,300 ไร่ ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาหนึ่งในลุ่มน้ำเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำปราณบุรี ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์

น.ส.สุทธิกานต์ แซ่ปัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านตำบลบึงนครส่วนใหญ่จะทำการเกษตร ทั้งพืชใช้น้ำน้อยและทำสวนทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่าพันไร่ แต่เนื่องจากขาดแคลนแหล่งน้ำ ทำให้ได้ผลผลิตไม่ดี ชาวบ้านมีรายได้ต่ำ ซึ่งชาวบ้านดีใจมากที่กรมชลประทานมีแผนที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำ เพราะจะช่วยให้ชาวบ้านมีแหล่งน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก ทำกิน รวมทั้งมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ แทนการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติจากแม่น้ำลำธาร ซึ่งไม่มีความสะอาด ปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี

ส่วน นายเกษม สุวรรณชาติ นายก อบต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพื้นที่เขาจ้าวไม่มีที่อ่างกัก เก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ยิ่งช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง น้ำในแม่น้ำลำคลองเหือดแห้ง ชาวบ้านและเกษตรกรประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างมาก ต้องวิ่งไปหาน้ำพื้นที่อื่นมาใช้ในพื้นที่ทำการเกษตรและน้ำกิน น้ำใช้ ในอนาคตมีแหล่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านก็จะหมดไป ปัจจุบันพื้นที่เขาจ้าว มีราษฎรอาศัยอยู่ 300 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ปลูกทุเรียนซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำมากพอสมควร ดังนั้นชาวบ้านมีความเข้าใจอย่างมากถึงความจำเป็นในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ และขอบคุณกรมชลประทานที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความรู้และทำความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ เช่น หากก่อสร้างจะได้รับผลกระทบอย่างไรและได้ประโยชน์อย่างไร รวมถึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขต่างๆ จนชาวบ้านมีความเข้าใจและยอมรับในที่สุด

นายเพชรพร โกมลฤทธิ์ กำนันตำบลเขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากได้เข้าร่วมรับฟังประชาพิจารณ์เกี่ยวกับผลกระทบของโครงการร่วมกับสมาชิกในชุมชน แม้การดำเนินโครงการจะมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากอาจต้องอพยพบ้านเรือนหรือพื้นที่ทำกินไปยังพื้นที่อื่น แต่ชาวบ้านพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา เพื่อแก้ไขข้อติดขัดต่างๆ ร่วมกันเพื่อให้กรมชลประทานสามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้ซึ่งจะเป็นผลดีต่อชาวบ้านในระยะยาว อยากจะให้เร่งสร้างอ่างเก็บน้ำแพรกตะคร้อให้เสร็จเร็วๆ เพื่อลดความเดือดร้อนของชาวบ้านจากปัญหาขาดแคลนน้ำ.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน