Categories
ข่าว ทั้งหมด

พบเลียงผา อวดโฉมบนเขาสามร้อยยอด สะท้อนความสมบูรณ์พื้นที่ชุ่มน้ำแรมซาร์แห่งแรกของไทย

พบเลียงผา อวดโฉมบนเขาสามร้อยยอด สะท้อนความสมบูรณ์พื้นที่ชุ่มน้ำแรมซาร์แห่งแรกของไทย

วันที่ 8 มีนาคม 2568 นายพิศิษฐ์ เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ระหว่างการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่อุทยาน พบ “เลียงผา” สัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ปรากฏตัวอยู่บนยอดเขาหินปูนสูงชัน บริเวณเขาลูกน้อย (สะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติ) หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้จากระยะไกล นับเป็นภาพที่หาชมได้ยากและสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ เลียงผา (Serow) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเยียงผา หรือโครำ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Bovidae ที่มีวิวัฒนาการทางร่างกายเหมาะสมกับการอาศัยอยู่บนหน้าผาและภูเขาสูงชัน ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ ตามบัญชีแดงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) และได้รับการคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวนตามกฎหมายไทย

“อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 98,000 ไร่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทย (Ramsar Site) ประกอบด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งภูเขาหินปูน ป่าชายเลน ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะนกน้ำและนกอพยพกว่า 300 ชนิด การพบเลียงผาออกหากินในครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์และการทำงานอย่างทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ ในการดูแลผืนป่าและสัตว์ป่า พร้อมเน้นย้ำขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ และแจ้งเบาะแสหากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ” นายพิศิษฐ์ กล่าว

นอกจากความสำคัญด้านระบบนิเวศแล้ว เขาสามร้อยยอดยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดประจวบฯ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ถ้ำที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนตลอดทั้งปี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กฟผ.จัดโครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ 70 พรรษา

กฟผ.จัดโครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ 70 พรรษา

วันที่ 6 มีนาคม 2568 นายนพดล สรวงประดิษฐ์ พลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานโครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัดอาวุโสอำเภอทับสะแก นายชัยยศ หาญอมร ผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์โครงการ นายสมชาย จันทร์เย็น ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ์ นางลาวัลย์ คงแสงบุตร หัวหน้ากองบริหารงานชุมชนสัมพันธ์ นายฉัตรชัย มหาโพธิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอทับสะแก นายเชาว์ เอี่ยมสุขขา นายก อบต.นาหูกวาง นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นางกาญจนา ศุภานุสนธิ์ กำนันตำบลทับสะแก นายอรุษ ห้วยหงษ์ทอง กำนันตำบลนาหูกวาง พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก เจ้าหน้าที่พนักงาน กฟผ.ร่วมกิจกรรม

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ดำเนินภารกิจหลักในการผลิตและส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการสนับสนุนกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อความสุขของคนไทยมาโดยตลอด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาความบกพร่องทางสายตาในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ “โครงการแว่นแก้วเฉลิมพระกียรติ” เป็นโครงการที่ กฟผ. ร่วมกับพันธมิตร ออกหน่วยบริการวัดสายตาประกอบแว่นโดยไม่คิดมูลค่าให้กับผู้มีปัญหาทางด้านสายตา เพื่อส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อยมาจนถึงปัจจบัน นับเป็นปีที่ 22 โดยให้บริการออกหน่วยทั่วทั้งประเทศมาแล้ว กว่า 573 ครั้ง ครอบคลุม 70 จังหวัด และได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาไปกว่า 346,000 แว่นตา

ในปี 2568 กฟผ.ได้จัดทำโครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 มีเป้าหมายในการดำเนินงาน ปี 2568 จำนวน 35,000 แว่นตา โดยครั้งนี้ กฟผ. มาออกหน่วยตรวจวัดสายตาประกอบแว่น ให้ประชาชนในอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 6 – 7 มีนาคม 2568 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย และหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ มีเป้าหมายสนับสนุนแว่นตา จำนวน 1,000 แว่นตา.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

โรงเรียนมัธยมประจวบฯ จัดกีฬาเครือข่ายประจวบฯ เกมส์ ครั้งที่ 2

โรงเรียนมัธยมประจวบฯ จัดกีฬาเครือข่ายประจวบฯ เกมส์ ครั้งที่ 2

วันที่ 7 มีนาคม 2568 ดร.อาทิตย์ ธำรงชัยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา“หัวใจสีชมพู”เครือข่ายประจวบฯ เกมส์ ครั้งที่ 2 โดยมีนายเธียรชัย แสงชาตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนประจวบวิทยาลัย กล่าวรายงาน มีผู้อำนวยการ คณะครูจากทุกโรงเรียนในสังกัดเข้าร่วมงานที่สนามกีฬาโรงเรียนสามร้อยยอดวิทยาคม ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

สำหรับการแข่งขันกีฬาเครือข่ายเกมส์ มีผู้บริหารและครูในสังกัดสำนักงานเขตมัธยมศึกษา พื้นที่จังหวัดประจวบฯ จำนวน 18 โรงเรียน แบ่งเป็น 6 สี คือ 1.สีเหลือง รร.ประจวบวิทยาลัย, รร.หว้ากอวิทยาลัย, รร.ห้วยยางวิทยา และสำนักงานเขตพื้นที่ฯ 2.สีฟ้า รร.หัวหิน, รร.หัวหินวิทยาคม, รร.หนองพลับวิทยา 3. สีแดง รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปราณบุรี, รร.เมืองปราณบุรี, รร.ปากน้ำปราณวิทยา 4. สีม่วง รร.สามร้อยยอดวิทยาคม, รร.อ่าวน้อยวิทยานิคม, รร.ชัยเกษมวิทยา 5. สีเขียว รร.กุยบุรีวิทยา, รร.ทับสะแกวิทยา, รร.ยางชุมวิทยา 6. สีชมพู รร.บางสะพานวิทยา, รร.บางสะพานน้อยวิทยาคม และ รร.ธงชัยวิทยา มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภท อาทิ วอลเลย์บอล, ฟุตบอล, เซปักตะกร้อ, เปตอง, แบดมินตัน เป็นต้น การแข่งขันกีฬานี้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ความรัก ความสามัคคีระหว่างผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และคณะครู

บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งนักกีฬา กองเชียร์ รวมถึงขบวนพาเหรดของแต่ละโรงเรียนที่จัดเต็มชนิดที่ไม่ยอมแพ้กัน และในปีหน้าโรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม รับช่วงต่อในการเป็นเจ้าภาพครั้งที่ 3.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ปลัดจังหวัดตรวจประเมินคัดเลือกหมู่บ้าน ประจำปี 2568 บ้านหัวตาลแถว สามร้อยยอด

ปลัดจังหวัดตรวจประเมินคัดเลือกหมู่บ้าน ประจำปี 2568 บ้านหัวตาลแถว สามร้อยยอด

วันที่ 5 มีนาคม 2568 นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด ตรวจพิจารณาคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็ง ตามแนวทาง“แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง”(หมู่บ้านอยู่เย็น) เพื่อประเมินผลการดำเนินงานของหมู่บ้าน ประจำปี 2568 ที่อาคารประชารัฐ (หนองสองห้อง) หมู่ 5 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพระใบฎีกาประสาท อภิวณฺโณ เลขาเจ้าคณะตำบลสามร้อยยอด วัดพุน้อย นายวราวุฒิ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด ปลัดอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านบ้านหัวตาลแถว ภาคีเครือข่ายที่ร่วมทำงานในพื้นที่และชาวบ้านสามร้อยยอดร่วมให้การต้อนรับ และมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐเป็นคณะกรรมการระดับจังหวัด เข้าร่วมพิจารณาคัดเลือก

กรมการปกครอง ได้ดำเนินโครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งฯ ขึ้นเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) รวมถึงเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในระดับพื้นที่ ตลอดจนสร้างความตระหนักและประชาสัมพันธ์ผลงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้สาธารณชนรับทราบอย่างแพร่หลาย ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 นี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้พิจารณาคัดเลือกหมู่บ้านที่สามารถขับเคลื่อนการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีผลงานโดดเด่น ทั้งหมด 3 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านระหาร ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน, หมู่บ้านฝั่งท่า ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี และหมู่บ้านหัวตาลแถว ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด โดยในช่วงเช้าคณะกรรมการได้เดินทางไปตรวจพิจารณาที่หมู่บ้านฝั่งท่า หมู่ 5 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี และในช่วงบ่ายได้มาที่บ้านหัวตาลแถว ต.สามร้อยยอด สำหรับหมู่บ้านที่ได้รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 12,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้รับ 9,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับ 7,000 บาท โดยทุกรางวัลจะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากปลัดกระทรวงมหาดไทย

หมู่บ้านหัวตาลแถว หมู่ 5 อยู่ในตำบลสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ มีเรื่องเล่าถึงที่มาของหมู่บ้าน สมัยก่อนหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นตาลขึ้นเรียงกัน 5 ต้น บริเวณหัวบ้านที่ติดต่อกับบ้านพุน้อย ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาจึงเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่า“บ้านหัวตาลแถว”ต่อมามีการตัดผ่านถนน จึงทำให้ต้นตาลทั้ง 5 ต้น ถูกโค่นไป แต่ยังคงชื่อหมู่บ้านหัวตาลแถวไว้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันหมู่บ้านหัวตาลแถว มีวิสัยทัศน์ว่า“บ้านหัวตาลแถวเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนทรงคุณค่า”พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะส่วนใหญ่เป็นดินทราย ภูมิอากาศโดยทั่วไปอยู่ในเขตมรสุม หรือลักษณะอากาศแบบร้อนชื้น ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป มีจำนวนประชากรทั้งหมด 333 ครัวเรือน ประชากรอาศัยอยู่จริง 1,042 คน เป็นชาย 460 คน หญิง 582 คน ตามทะเบียนราษฎร์ มกราคม 2568 ชาวบ้านโดยทั่วไปประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าขาย เกษตรกรรม ประมง และรับราชการ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่นทำสวนมะพร้าว สวนมะม่วง เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น มีรายได้เฉลี่ยของประชากร 295,270.62 บาท/ครอบครัว/ปี (จากการสำรวจ จปฐ. 2568) บางส่วนมีอาชีพค้าขายและอาชีพรับจ้าง ถ้ารับจ้างตามไร่ หรือธุรกิจโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท รายได้รวมของหมู่บ้านประมาณ 95 ล้านบาท/ปี (การสำรวจ จปฐ. 2568) เป็นที่ตั้งของสถาบันการเงินชุมชนตำบลสามร้อยยอด และมีกองทุนหมู่บ้านเป็นแหล่งเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ มีปั๊มน้ำมันชุมชนบ้านหัวตาลแถว ร้านค้าชุมชน ช่วยให้ชาวบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในการลดต้นทุนการผลิต การระดมทุนในชุมชน เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง มีความสมบูรณ์ด้านแหล่งท่องเที่ยวหลายหลาย เช่น ทะเล ภูเขา และมีการต่อยอดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นหมู่บ้านที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของอำเภอสามร้อยยอดได้ มีวัฒนธรรม ประเพณี นอกจากนี้ยังมีแผนในการเพิ่มศักยภาพการพัฒนาชุมชนโดยการการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้าน ผ่านกลไกสภาผู้นำ สร้างการรับรู้ผ่านช่องทางต่างๆ ให้รับทราบกิจกรรมของชุมชน ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นภายในชุมชน จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้การจัดการสุขภาพ ส่งเสริมกิจกรรม/กลุ่ม พบปะและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีสวัสดิการชุมชน เช่น ชมรมผู้สูงอายุ ปลูกฝังเยาวชนส่งเสริมกิจกรรมให้ห่างไกลยาเสพติด ปัญหาสุขภาพ ส่งเสริมกิจกรรมออกกำลังกาย ด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมกิจกรรมสร้างจิตสำนึก และการจัดการขยะ เช่น โครงการ“หมึกกินขวด”ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเศษเหลือทางการเกษตร ลดขยะและมลพิษจากการเผา เช่น การแปรรูปกาบมะพร้าว เป็นวัสดุปลูกต้นไม้ การผลิตถ่านกะลามะพร้าว และการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษวัสดุเหลือใช้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและป่าชุมชนน้อย สร้างความหลากหลายในพื้นที่เกษตร“ธนาคารต้นไม้”เพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน ที่เขาดินสอ ซึ่งจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของหมู่บ้าน และปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ชายหาด ได้มีการจัดระเบียบ สร้างความเข้าใจ กติกาของชุมชน และควบคุมบังคับใช้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้คณะกรรมการจะประชุมเพื่อตัดสินผลการคัดเลือก และจะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

นักวอลเลย์บอลหญิงโรงเรียนบ้านนาวัลเปรียงคว้าแชมป์ระดับประเทศ รายการวิทยุการบินฯ 2 สมัยซ้อน

นักวอลเลย์บอลหญิงโรงเรียนบ้านนาวัลเปรียงคว้าแชมป์ระดับประเทศ รายการวิทยุการบินฯ 2 สมัยซ้อน

วันที่ 5 มีนาคม 2568 เทศบาลตำบลไร่ใหม่จัดขบวนแห่ฉลองแชมป์ให้กับนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงโรงเรียนบ้านนาวัลเปรียง ที่บริเวณหน้าตลาดไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีคณะครูและนักกีฬา พร้อมนางรำ ร่วมในขบวนแห่ นำโดย น.ส.สมคิด จันทะเวช ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูปรีดี ภมรสูตร ครูสวีวรรณ์ ภมรสูตร ครูผู้ฝึกสอน คณะครูและนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ที่ไปคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ในการแข่งขันรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 มีชาวสามร้อยยอดและประชาชนทั่วไปร่วมแสดงความยินดี

การแข่งขันวอลเลย์บอลรายการวิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ครั้งที่ 24 และเป็นปีที่ 42 แล้ว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 10 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งเป็นเวทีสำคัญสำหรับยุวชนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ได้ลงสนามแข่ง เรียนรู้กฎกติกาที่มาตรฐาน เพื่อสร้างรากฐานระดับยุวชนสู่นักกีฬามืออาชีพระดับโลกให้เด็กๆ ได้แสดงศักยภาพทักษะกีฬาวอลเลย์บอล อีกทั้งยังได้รับประสบการณ์การอยู่ร่วมกับทีมอื่นๆ ซึ่งทีมชนะเลิศจะได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมทุนการศึกษาทีมละ 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 40,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 ทุนการศึกษา 10,000 บาท โดยวิทยุการบินฯ ได้สนับสนุนงบประมาณในการแข่งขัน รวมถึงจัดคลีนิคกีฬาวอลเลย์บอล และกิจกรรมสันทนาการสำหรับน้องๆ ตลอดการแข่งขัน ทั้งนี้ วิทยุการบินฯ จะยังคงสานต่อโครงการดีๆ เช่นนี้เพื่อสร้างรากฐานนักกีฬายุวชนสู่ทีมชาติและทีมระดับโลกต่อไป

ด้านครูสวีวรรณ์ ครูผู้ฝึกสอน กล่าวว่าในครั้งนี้เราไม่ต้องไปแข่งในรอบคัดเลือก เนื่องจากเป็นแชมป์เก่า ส่วนการแข่งขันรายการอื่นๆ เราก็มีส่ง เช่นการแข่งขันของกรมพลศึกษา เราก็เป็นแชมป์ 2 สมัยซ้อนเหมือนกัน โรงเรียนของเราจะใช้กีฬาเป็นบันได เพื่อให้เด็กๆ มีประสบการณ์ และเพิ่มพูนความสามารถ เพื่อว่าจะได้ไปเรียนต่อโดยใช้กีฬา ซึ่งเรามีรุ่นพี่ที่ได้ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทแล้ว และเล่นกีฬาเป็นอาชีพไปด้วย ทำให้มีรายได้ แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้ นอกจากนี้มีโอกาสที่จะไปให้ถึงระดับชาติและระดับโลกต่อไป สำหรับใครที่อยากจะช่วยสนับสนุนน้องๆ สามารถสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 062 – 2322255 หรือที่โรงเรียนบ้านนาวัลเปรียง ได้ทุกวันเวลาราชการ.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ปล่อยขบวนรถบรรทุกถังน้ำช่วยประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ปล่อยขบวนรถบรรทุกถังน้ำช่วยประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก

วันที่ 6 มีนาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ร่วมรับมอบถังเก็บน้ำพลาสติก ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 100 ใบ และกล่องพลาสติกบรรจุสิ่งของอุปโภคบริโภค จำนวน 150 ชุด จากคุณวิรัช – คุณพรพิศ อาชวกุลเทพ กรรมการผู้จัดการบริษัท พรหมสิน พี.เอส.ซี. จำกัด และรับมอบเก้าอี้สุขา จำนวน 200 ตัว จากคุณสมาน – คุณเพียงเพ็ญ คุณากรไพบูลย์ศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จำกัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 721,000 บาท ที่อาคารโรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬากลางจังหวัดประจวบฯ โดยมีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเรวัต ประสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติร่วมรับมอบ โอกาสนี้ พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี ได้กล่าวสัมโมทนียกถา ขอบคุณคณะผู้บริจาค

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้มอบของที่ระลึก โล่ประกาศเกียรติคุณ หนังสือแสดงความขอบคุณให้กับคณะผู้บริจาค ก่อนร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกถังน้ำเคลื่อนออกจากสนามกีฬากลางจังหวัด ไปมอบให้แก่ครัวเรือนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในอำเภอทับสะแก 41 ใบ อำเภอเมืองประจวบฯ 57 ใบ และอำเภอสามร้อยยอด 2 ใบ เพื่อให้มีภาชนะสำหรับใช้ในการเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ส่วนสิ่งของอุปโภคบริโภคจะนำไปมอบให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ตามที่ได้มีการสำรวจข้อมูลความต้องการในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ แบ่งเป็น อ.เมืองประจวบฯ 50 ชุด อ.ทับสะแก 40 ชุด ส่วนอีก 6 อำเภอ ได้แก่หัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี บางสะพาน และ บางสะพานน้อย ได้รับมอบอำเภอละ 10 ชุด ขณะที่เก้าอี้สุขาจะนำไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่อำเภอหัวหิน 3 ตัว ปราณบุรี 22 ตัว สามร้อยยอด 1 ตัว กุยบุรี 63 ตัว เมืองประจวบฯ 27 ตัว ทับสะแก 26 ตัว บางสะพาน 48 ตัว และบางสะพานน้อย 10 ตัว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“โอทอปหัวหิน” เตรียมผลักดันสินค้าสู่ตลาดจีน ผ่านแอป Tiktok

“โอทอปหัวหิน” เตรียมผลักดันสินค้าสู่ตลาดจีน ผ่านแอป Tiktok

วันที่ 5 มีนาคม 2568 นายตติย อัครวานิชตระกูล ผู้จัดการศูนย์โอทอปหัวหิน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือ MOU ระหว่างตัวแทนจากบริษัท ชงชิ่ง รองอี้ต๋า ซัพพลายเชนแมเนจเมนต์ จำกัด และตัวแทนจากบริษัท เอาร์ยี่ เทคโนโลยี จำกัด ที่ศูนย์โอทอปหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการร่วมบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1.เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทย หรือโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และนำภูมิปัญญาที่มีอยู่ มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชน 2.เพื่อสร้างฐานผู้บริโภคจำนวนมากในประเทศจีนและการค้าข้ามพรมแดน 3.เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยาวนานในการผลักดันผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็ว

นายตติย อัครวานิชตระกูล กล่าวว่า นี่คือโอกาสสำคัญของสินค้าโอทอปของประเทศไทย ทางกรมการค้าภายในและทุกภาคส่วน ได้พาไปจับคู่ธุรกิจที่เมืองจีนมาตั้งแต่ก่อนโควิดแล้ว เราได้ทำความรู้จักและประสานงานกับนักธุรกิจจีนมาพอสมควร วันนี้เป็นโอกาสที่เราได้ลงทุนร่วมกันและเซ็นสัญญา MOU ร่วมกัน จะทำให้เกิดการสั่งซื้อสินค้า OTOP ของประเทศไทยส่งออกไปยังประเทศจีน นอกจากการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศแล้ว เรายังมีอีกช่องทางหนึ่งคือ การนำ tiktok ของจีนซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เข้มแข็งระดับโลก จะมีทีมที่ทำ tiktok ของจีน ขายผ่าน tiktok โดยการไลฟ์สด 2 ประเทศร่วมกัน จากเดิมที่เราจะขายแค่ 60 ล้านคนของไทย เราก็จะมีโอกาสขาย 1,400 กว่าล้านคนที่ประเทศจีนด้วย ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้สินค้าชุมชนหรือท้องถิ่นของเราสู่ทั่วโลกได้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

วัดราชายตนบรรพต ทำบุญครบรอบ 5 ปี รำลึกหลวงปู่ก้าน พระเถระผู้เมตตาของชาวหัวหิน

วัดราชายตนบรรพต ทำบุญครบรอบ 5 ปี รำลึกหลวงปู่ก้าน พระเถระผู้เมตตาของชาวหัวหิน

วันที่ 4 มีนาคม 2568 พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 – 15 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศารามวรวิหาร จ.ราชบุรี มาประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีบำเพ็ญกุศลน้อมรำลึกครบรอบ 5 ปี มรณภาพของพระเนกขัมมมุนี (หลวงปู่ก้าน ฐิตธัมโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชายตนบรรพต อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหัวหิน (ธรรมยุต) พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 20 รูป สวดพระพุทธมนต์ และสวดทักษิณานุปทาน ที่วัดราชายตนบรรพต (เขาต้นเกด) อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมี พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร พระครูธรรมานุจารี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) เจ้าอาวาสวัดเขาเต่า พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี พระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยะบรรพต พระปลัดไพโรจน์ วิโรจโน เจ้าอาวาสวัดราชายตนบรรพต นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลฯ แขกผู้มีเกียรติ และศิษยานุศิษย์ร่วมในพิธี พร้อมทั้งมีผู้ใจบุญมาออกโรงทานแจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

“หลวงปู่ก้าน ฐิตธมฺโม”ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 สิริอายุ 100 ปี มีนามเดิมว่าก้าน ด้วงเด่น เกิดเมื่อวันพุธที่ 11 สิงหาคม 2463 ปีวอก อยู่ที่บ้านโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ในสกุลของพ่อเจียม – แม่กุล ด้วงเด่น ท่านเป็นคนกลางของพี่น้อง 3 คน ซึ่งชื่อเรียงกันว่า ใบ ก้าน กิ่ง และบุตรชายในครอบครัวนี้ได้อุปสมบททั้งหมด ท่านเองได้อุปสมบทเมื่อปี 2483 ขณะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ โดยโยมบิดามารดาได้อุปสมบทให้ที่วัดถนนสุทธาราม จ.อ่างทอง หลังจากนั้นเพียง 4 ปี คือในปี 2487 ท่านก็สอบได้นักธรรมเอก ต่อมาวันที่ 24 กันยายน 2505 หลวงปู่ได้ขออนุญาตสร้างวัดให้ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2515 โดยเรียกขานอย่างเป็นทางการว่า“วัดราชายตนบรรพต” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า“วัดต้นเกด”ต่อมาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยของทั้งสองพระองค์ ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันพระอุโบสถและทรงปลูกต้นศรีตรังไว้ที่หน้าอุโบสถ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2517

หลวงปู่ก้านเป็นพระมหาเถระซึ่งดำรงอยู่ในวิถีแห่งพระสุปฏิปันโน ท่านเป็นรัตตัญญู ผู้ใดได้ไปกราบสักการะและฟังธรรมท่านแล้ว ล้วนซาบซึ้งใจ เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีเมตตา เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ที่เป็นสงฆ์และฆราวาส หลังจากที่สร้างวัดเพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ และเป็นของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปแล้ว หลวงปู่ก้านก็ไม่เคยย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นใดอีกเลยจนกระทั่งมรณภาพ และไม่เคยลืมเลือนด้วยความเมตตาที่มีต่อชาวหัวหิน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กอ.รมน. ติวเข้ม อปท.หัวหิน เฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

กอ.รมน. ติวเข้ม อปท.หัวหิน เฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

วันที่ 4 มีนาคม 2568 พล.ต.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.ศปป.3 กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) เป็นประธานเปิดอบรมการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ห้องประชุมโรงแรมบลูเวฟโฮเทล หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยศูนย์ปฏิบัติการที่ 3 กอ.รมน. มี พ.อ.ปรเชษฐ กันทอง ผอ.สพป.ศปป.3 กอ.รมน. พ.อ.ทรงพล เหลืองทองคำ หัวหน้าการข่าว กอ.รมน.ประจวบฯ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอหัวหิน กว่า 80 คน เข้าร่วมรับการอบรม ระหว่างวันที่ 4 – 6 มีนาคมนี้

พล.ต.เฉลิม เนียมช่วย กล่าวว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยของเราเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้พยายามหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว ยังไม่สามารถขจัดให้หมดสิ้นไปได้ ยังคงมีช่องทางให้เกิดการกระทำความผิดอยู่เสมอ ทั้งที่ตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยให้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้นลดน้อยลงและหมดสิ้นไปในอนาคต การจัดอบรมในวันนี้ถือว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับปัญหาด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในหลายมิติ ทั้งด้านนโยบายของรัฐบาล ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ให้ข้อมูลข่าวสารกับหน่วยงานภาครัฐได้อย่างถูกต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

พ.อ.ปรเชษฐ กันทอง กล่าวว่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. ร่วมกับ กอ.รมน.ประจวบฯ จัดการอบรมครั้งนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มผู้นำชุมชน ลูกค้ารายย่อยและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ได้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตระหนักรู้ถึงความกระทบจากการจำหน่าย หรือใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงเข้าเป็นส่วนสนับสนุนการดำเนินงานให้กับหน่วยงานภาครัฐในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สว.ลงพื้นที่สะพานข้ามแยกแสงอรุณ หลังชาวบ้านร้องได้รับผลกระทบ

สว.ลงพื้นที่สะพานข้ามแยกแสงอรุณ หลังชาวบ้านร้องได้รับผลกระทบ

วันที่ 2 มีนาคม 2568 น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำในพื้นที่ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างสะพานข้ามแยกกลับรถ บ้านแสงอรุณ ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก หลังได้รับการร้องเรียนให้แก้ไข เนื่องจากช่วงถนนเพชรเกษมเลนคู่กับสะพานฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ที่จะเลี้ยวเข้าบ้านไร่ใน แบบโครงการเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ถนนจะมีความลาดชันต่ำกว่าถนนสายรอง ประมาณ 1.50 เมตร รถเล็กอาจไม่สามารถขึ้นลงได้ตามปกติ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน และผู้ปกครองที่มารับส่งบุตรหลาน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมนายช่างผู้ควบคุมงานบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สายบ้านห้วยยาง – อำเภอบางสะพาน (4 ช่องจราจร ) สัญญาที่ สท.1/10/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 เริ่มต้นสัญญาวันที่ 26 เมษายน 2566 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ผู้รับจ้างคือบริษัท เอ็ม.ซี. คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด ออกแบบโดยสำนักสำรวจและออกแบบกรมทางหลวง ควบคุมงานโดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง ซึ่งหากทำตามแบบแปลนการก่อสร้าง จะทำให้ถนนสายรองแยกเข้าบ้านไร่ใน จะมีความชันสูง เนื่องจากถนนเพชรเกษมจะต่ำลง ชาวบ้านเกรงได้รับอันตราย จึงขอให้กรมทางหลวงแก้ไขแบบแปลน หรือทำถนนให้รับกับทางสายรองดังกล่าว

ด้านนายกวีวัฒน์ รุจิรปัญญานนท์ ผู้บริหาร หจก.ตรงตวงปิโตรเลียม ซึ่งเป็นปั้มน้ำมันอยู่ช่วงขาลงสะพานข้ามแยก ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีโครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 ตำแหน่ง กม. 340+770 ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างและปรับเปลี่ยน เบี่ยงทางจราจรหน้า PTT Station ประมาณ 200 เมตร และทราบว่าโครงการมีแผนจะสร้างเกาะทางเท้า หน้าสถานีบริการน้ำมัน หจก.ตรงตวงปิโตรเลียม ในส่วนนี้จึงขอให้พิจารณายกเลิกการสร้างเกาะทางเท้าหน้าสถานีบริการน้ำมัน หจก.ตรงตวงปีโตรเลียม หรือให้ทำเป็นก้างปลาจะดีกว่า โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ได้มีการตรวจรับงานโครงการบางส่วน ประธานโครงการได้รับปากว่าจะแก้ไขปรับปรุง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใดๆ จึงแจ้งให้ศูนย์ดำรงธรรรมเพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการสะพานข้ามแยก ทล.4 บ้านห้วยยาง – บางสะพาน มาตกลงแบบการก่อสร้างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะทำการแก้ไขได้อย่างไร

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าหลังจากรับทราบปัญหา จึงลงพื้นที่พบว่าการก่อสร้างของกรมทางหลวงนั้นมีประโยชน์ต่อชาวบ้าน แต่อยากให้กรมทางหลวงปรับแก้ไขเรื่องแบบแปลนการก่อสร้าง ให้เข้ากับสภาพปัญหาในพื้นที่ ให้กับชาวบ้านที่ต้องใช้สัญจรในชีวิตประจำวัน เบื้องต้นจะประสานไปทางกรมทางหลวงเพื่อหาแนวทางแก้ไขและปรับแปลนแบบได้แค่ไหน.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน