Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

โจรฟันน้ำนมตัดกล้องวงจรปิด ขโมยเงินในร้านทุกอย่าง 20

โจรฟันน้ำนมตัดกล้องวงจรปิด ขโมยเงินในร้านทุกอย่าง 20

วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านจำหน่ายสินค้าทุกชิ้นราคา 20 บาท หน้าห้างโลตัส สาขาเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากเจ้าของร้านนำภาพจากกล้องวงจรปิดโพสต์ลงเฟซบุ๊ก กลุ่มประจวบคีรีขันธ์เมือง 3 อ่าว เพื่อเตือนภัย กรณีมีแก๊งเด็ก อายุ 7 ขวบ และ 11 ขวบ รวม 3 คน เข้าก่อเหตุตัดไฟกล้องวงจรปิดและขโมยยกลิ้นชักเก็บเงิน รวมถึงสินค้าภายในร้านไปจำนวนหนึ่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 8,000 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.17 น. ของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุ ได้ให้พนักงานของร้านเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ถูกปฏิเสธการรับแจ้ง เนื่องจากลูกจ้างไม่ใช่เจ้าของร้านที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง และถูกทางตำรวจถามกลับว่า“จะเอาอะไรจากเด็ก ถ้าจะแจ้งความ ต้องไปหาหลักฐานและตัวเด็กมาว่าบ้านอยู่ที่ไหน ตำรวจถึงจะเรียกตัวมาไกล่เกลี่ยให้ได้”

จากการสอบถาม น.ส.ณัฐกานต์ แก้วนุ่ม อายุ 27 ปี เจ้าของร้านทุกอย่าง 20 บาท หน้าห้างโลตัสเมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ต่างจังหวัด แต่มีลูกจ้างเฝ้าร้านและขายของแทน ช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งปิดร้านแล้ว มีเด็กชาย 3 คน อายุไม่น่าจะเกิน 12 ขวบ มุดผ้าใบที่ปิดบังด้านหน้าร้านไว้ แล้วเข้ามาขโมยของสินค้าต่างๆ เช่น ไขควง กรรไกร ของเล่นเด็ก และสินค้าอื่นๆ พร้อมกับงัดลิ้นชักเก็บเงิน เมื่องัดไม่ได้จึงตัดสายไฟและยกทั้งลิ้นชักเก็บเงินไปด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด และเมื่อเด็กเห็นกล้องวงจรปิด จึงได้ชักปลั๊กปิดสวิตช์ของกล้องทั้งหมดทุกตัว ตนจึงไม่สามารถดูกล้องวงจรปิดได้ จึงรู้สึกแปลกใจ เพราะปกติตนจะคอยตรวจสอบความปลอดภัยของร้านแต่ละสาขาอยู่ตลอดเวลา

หลังจากเกิดเหตุ ได้ให้พนักงานของร้านไปแจ้งความกับตำรวจโรงพักในพื้นที่ แต่กลับถูกปฏิเสธไม่สามารถแจ้งความได้ โดยทางตำรวจให้เหตุผลว่าไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เป็นลูกจ้างจะต้องมีใบมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน จึงสามารถแจ้งความได้ พนักงานจึงได้ต่อสายตรงให้ตำรวจคุยกับตน ตำรวจได้ถามตนว่าคุณต้องการอะไรจากเด็ก ถ้าจะแจ้งความต้องไปหาตัวเด็กมาเองว่าเด็กชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ตำรวจถึงจะดำเนินการนำตัวมาไกล่เกลี่ยให้ได้ แต่กับเด็กไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากเด็กมี พ.ร.บ.คุ้มครอง ตนจึงถามตำรวจไปว่าถ้าเอาผิดกับเด็กไม่ได้ ก็เอาผิดกับผู้ปกครองได้หรือไม่ ซึ่งทางตำรวจก็ตอบว่าถ้าจะเอาผิดกับผู้ปกครอง จะต้องรอให้เรื่องถึงศาลก่อน จึงสามารถทำได้ ตนข้องใจว่าถ้าตนไปแจ้งความกับตำรวจแล้วต้องให้ไปหาตัวเด็ก ไปหาหลักฐานเองทุกอย่าง ไม่รู้ว่าจะมีตำรวจไว้ทำไม หลังจากตนนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กประจวบ 3 อ่าว ก็มีคนส่งคลิปวีดีโอและหลักฐานต่างๆ รวมถึงที่อยู่ของเด็ก พฤติกรรมต่างๆ ในการก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ มาให้ตนจำนวนมาก โดยเด็กทั้งสามคนนี้มีพฤติกรรมการก่อเหตุมาอย่างช่ำชอง เหมือนไม่เกรงกลัวอะไรและคงคิดว่าไม่มีใครทำอะไรได้ จึงย่ามใจและก่อเหตุมาเรื่อยๆ หลายสถานที่ ซึ่งหลังจากก่อเหตุจากร้านตนแล้ว ก็ไปขโมยทุเรียนของแม่ค้าบริเวณตลาดนัดริมทางรถไฟ จนมีชาวบ้านที่เฝ้าอยู่บริเวณนั้นพบเห็น ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปตรวจสอบ ก่อนพาเด็กไปส่งบ้าน เนื่องจากผู้ที่แจ้งตำรวจไม่ใช่เจ้าของและเจ้าทุกข์โดยตรง จึงไม่สามารถแจ้งความเอาผิดเด็กได้ นอกจากนี้ยังมีคนบอกว่าเด็กสามคนนี้ ยังไปก่อเหตุในพื้นที่บ้านคลองวาฬ และไปขโมยเงินบริจาคที่วัดอ่าวน้อยอีกด้วย ตนอยากได้ค่าเสียหายคืน แต่ถ้าหากไม่ได้เงินคืน อย่างน้อยเด็กก็ต้องได้รับบทลงโทษเพื่อให้หลาบจำ มิฉะนั้นอาจจะไปก่อเหตุเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด สังคม

นายอำเภอหัวหิน แถลงข่าวจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 27

นายอำเภอหัวหิน แถลงข่าวจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 27

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน / นายกกิ่งกาชาดหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 27 ประจำปี 2568 ที่หัวหินคอนเวนชั่นเซนเตอร์ ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน รีสอร์ทมอลล์ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน นายโชคชัย วงศ์จักรภัทร กรรมการผู้จัดการบลูพอร์ตหัวหิน ร่วมแถลงข่าว มีนายภานุมาศ อจลบุญ อัยการจังหวัดหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติร่วมรับฟัง พร้อมชมการเดินแบบผ้าไทยกิตติมศักดิ์เพื่อการกุศลจำนวน 17 คู่ ก่อนทั้งหมดจะนั่งรถ 4 ล้อเล็กจำนวน 10 คัน ออกประชาสัมพันธ์งานดังกล่าวไปรอบๆ เมืองหัวหินด้วย

นายประสูตร กล่าวว่า งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 27 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 บริเวณลานกิจกรรม 25 ไร่ หลังศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ซอยหัวหิน 102 เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อจัดหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในกิจการบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสและกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ในเขตอำเภอหัวหินและใกล้เคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค (ถุงยังชีพ) อุปกรณ์เครื่องครัว ที่นอนหมอนมุ้ง ยารักษาโรค การซ่อมสร้างบ้านพักอาศัยผู้ยากไร้ การช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง มอบรถวีลแชร์ เป็นต้น ภายในงานมีการออกร้านมัจฉากาชาดเพื่อการกุศล ร่วมลุ้นรับรางวัลรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถจักรยานกว่า 100 คัน ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้าและรางวัลต่างๆ มากมายในราคาบัตรใบละ 20 บาท สนุกสนานได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 17.30 – 24.00 น. พบกับการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีของฝากอำเภอหัวหิน การจำหน่ายสินค้าราคาถูก เครื่องอุปโภคบริโภค เฟอร์นิเจอร์ ไม้ดอกไม้ประดับ บูธอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น อาหารทะเลสด สะอาดอร่อย การแสดงของนักเรียนและรำวงย้อนยุค พบกับสวนสนุกเคลื่อนที่กับเครื่องเล่นทันสมัยจากต่างประทศนานาชนิด และศิลปินนักร้องชั้นนำและวงดังอีกหลายคณะทุกค่ำคืนตลอดจัดงาน พร้อมกันนี้ขอเชิญประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมเที่ยวงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 27 ได้ตามวันดังกล่าว “เราช่วยกาชาด กาชาดช่วยเรา” เงินรายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

จักรภพ เปิดงาน“LGBTQ+ Festival Thailand”ฉลอง Pride Month หัวหิน

จักรภพ เปิดงาน“LGBTQ+ Festival Thailand”ฉลอง Pride Month หัวหิน

ช่วงเย็นวันที่ 8 มิถุนายน 2568 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน“LGBTQ+ Festival Thailand”ที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อเฉลิมฉลอง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ความหลากหลายทางเพศและเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมคู่สมรส คุณสุไพรพล เพ็ญแข, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ แขกผู้มีเกียรติ และและกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+ จากหลากหลายประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยก่อนหน้านี้ นายจักรภพ เพ็ญแขและแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมกันปล่อยลูกโป่งหลากสีขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นขบวนพาเหรด Pride ที่เคลื่อนจากโรงแรมอมารี หัวหิน ไปยังศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน สถานที่จัดงาน สร้างความครึกครื้นและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก

นายจักรพล กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินหน้าผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงาน Pride World พร้อมผลักดันพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม ซึ่งบัดนี้ได้บังคับใช้แล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น การเปลี่ยนคำนำหน้า การยอมรับเพศสภาพ และการทำให้ประเทศไทยเป็น“LGBTQ+ Destination”ชั้นนำของโลก ในมิติด้านเศรษฐกิจ หัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละกว่า 11 ล้านคน และติดอันดับท็อป 5 เมืองท่องเที่ยวของไทยที่สร้างรายได้สูงสุด จึงเหมาะสมอย่างยิ่งจัดงาน LGBTQ+ Festival หลังประเทศไทยประกาศให้ปีนี้ เป็นปี“Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025”โดยจะมีการจัดบิ๊กอีเวนท์ผสานกีฬาและการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวอย่างซาบซึ้งใจว่า ตนและคู่สมรสได้รอคอยวันแห่งความเท่าเทียมมากว่า 23 ปี และการที่สมรสเท่าเทียมได้รับการรับรองตามกฎหมาย ทำให้ความรักของพวกเขาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ เป็นเหมือนการปลดล็อกหัวใจ ที่สำคัญไม่ใช่แค่เราที่ได้สิทธิขั้นพื้นฐาน แต่คือทุกคนที่มีความรัก ได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียม…และสำหรับคนที่ไม่ได้เป็น LGBTQ+ ก็สามารถภูมิใจว่าพวกเขาได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและเป็นธรรม

สำหรับงาน“LGBTQ+ Festival Thailand”ในปีนี้ ยังมีกิจกรรมไฮไลต์มากมาย เช่น การประกวด Miss Diamond Thailand 2025 สำหรับสาวประเภทสองที่แต่งกายสะท้อนอัตลักษณ์ LGBTQ+, เวทีเสวนาเรื่อง“เสียงเพื่อความเท่าเทียม”รวมถึงกิจกรรมด้าน Wellness ที่ส่งเสริมทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ร่วมงาน การจัดงานครั้งนี้ยังช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย หลังจากประเทศไทยเพิ่งคว้ารางวัล Best LGBTQ Destination เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ พร้อมตั้งเป้าการจัดงานนี้ให้เป็นเทศกาลประจำปีของนครหัวหิน ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปีอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

หลายหน่วยงาน เร่งค้นหาลุงวัย 74 ปี ขึ้นเขาไปตัดไม้ ทำด้ามจอบ หายไป 2 วัน ยังไม่กลับลงมา

หลายหน่วยงาน เร่งค้นหาลุงวัย 74 ปี ขึ้นเขาไปตัดไม้ ทำด้ามจอบ หายไป 2 วัน ยังไม่กลับลงมา

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี, ฝ่ายปกครองอำเภอสามร้อยยอด, ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อาสาสมัคร หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถาน ญาติๆ และชาวบ้านกว่า 50 คน ร่วมกันวางแผนที่บ้านหนองเป่าปี่ หมู่ 3 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณตีนเขาหุบตาชิด เพื่อค้นหานายชิด มีถาวร อายุ 74 ปี ที่ขึ้นไปตัดต้นมหาพรหมณ์ เพื่อทำด้ามจอบขาย ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนแล้วยังไม่กลับลงมา ซึ่งปกติลุงชิดจะขึ้นไปต้นไม้ตอนเช้า และจะกลับลงมาตอนเย็นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ยังไม่ลงมา ลูกๆ จึงช่วยกันออกค้นหา พบเพียงแต่ถุงย่ามวางไว้บนพื้น ข้างในมีถุงข้าว ขวดน้ำ ขนมปัง ขนมขบเคี้ยว เมื่อทราบพิกัดแล้วได้กระจายกำลังออกค้นหา แต่ไม่เจอ จึงต้องลงจากเขามาเตรียมตัวค้นหาใหม่ในวันรุ่งขึ้น ส่วนถุงย่ามไม่ได้นำกลับมา เผื่อว่าถ้าลุงชิดกลับมาจะได้เอาไปกิน โดยใช้เวลาค้นหาเกือบ 10 ชั่วโมง จึงลงจากบนเขามา เพื่อรวบรวมชาวบ้าน เสบียงอาหารให้พร้อมและเดินขึ้นไปอีกครั้ง โดยปูพรมรัศมีจุดที่พบถุงย่าม เสบียง นานกว่า 8 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบ จึงขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานในพื้นที่ ให้ช่วยค้นหากันอีกครั้ง โดยแบ่งกำลังเป็น 3 ชุด แยกย้ายกันค้นหา

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงในพื้นที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่น้อมนำแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย

น.ส.วัลยา ลูกสาวลุงชิด เล่าว่า พ่อขึ้นไปตัดต้นมหาพรมณ์ เพื่อนำมาทำด้ามจอบขาย ครั้งนี้พ่อไม่กลับลงมาเหมือนทุกครั้ง จึงช่วยกันออกตามหามาสองวันแล้ว ก็ยังไม่พบ ไม่ทราบว่าหายไปทางไหน มีด เลื่อยที่ใช้ตัดต้นไม้ก็ไม่พบ คิดว่าพ่อนำติดตัวไปด้วย พบเพียงถุงย่าม ที่น่าเป็นห่วงคือพ่อมีโรคประจำตัว โรคความดัน โรคเบาหวาน ขนาดที่ต้องฉีดอินซูลีนที่หน้าท้อง แทนการกิน คาดว่าขณะออกไปหาตัดต้นไม้ ห่างจากจุดที่พบถุงย่าม แล้วโรคประจำตัวกำเริบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

โรตารีรอยัลจัดงานสถาปนานายกและคณะกรรมการสโมสรและสโมสรโรทาแรคท์ ประจำปี 2568 – 2569

โรตารีรอยัลจัดงานสถาปนานายกและคณะกรรมการสโมสรและสโมสรโรทาแรคท์ ประจำปี 2568 – 2569

ช่วงค่ำวันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีสถาปนานายกและคณะกรรมการบริหาร ประจำปี 2568 – 2569 ที่โรงแรมอมารี หัวหิน มีนายจักรชัย วิสุทธากุล ผู้ว่าการภาค 3330 โรตารีสากล พลโทกนิษฐ์ จําจุนทร์ อดีตผู้ว่าการภาค 3330 คณะกรรมการบริหารสโมสร สมาชิกโรแทเรียน แขกผู้มีเกียรติ และสมาชิกจากสโมสรโรตารีในพื้นที่ต่างๆ กว่า 200 คน เข้าร่วมพิธี

ซึ่งวันนี้ได้มีการแต่งตั้งและสถาปนา นายกสโมสรและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของทั้ง 3 สโมสร ประจำปี 2568 – 2569 ได้แก่ มร.ไบรอัน แอนเดอร์สัน นายกสโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน, นางศรีเรือน อาร์เชอร์ นายกสโมสรโรทาแรคท์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด น.ส.ฐานิตา พรพิมลวงศา นายกสโมสรโรทาแรคท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล

สโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน เป็นสโมสรโรตารีนานาชาติ ที่มีสมาชิกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมกว่า 63 คน จาก 12 ประเทศ ได้ดำเนินโครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชนในพื้นที่หัวหินอย่างต่อเนื่องมากว่า 16 ปี ทางสโมสรให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในด้านการศึกษา การพัฒนาศักยภาพ สุขภาพและคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน

ในปีบริหาร 2567 – 2568 สโมสรได้จัดสรรงบประมาณมากกว่า 4.2 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการบำเพ็ญประโยชน์ถึง 40 โครงการ อาทิการจัดซื้อและมอบรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมอุปกรณ์มูลค่า 2.5 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลหัวหิน จัดซื้อเครื่องดมยาสลบระบบใหม่ มูลค่า 2.6 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลหัวหิน การจัดอบรมหลักสูตรความปลอดภัยทางน้ำและการป้องกันการจมน้ำสำหรับเด็ก ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 7 มีเด็กและเยาวชนผ่านการอบรมมาแล้ว กว่า 700 คน โครงการ ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์พลังงานหมุนเวียน ในโรงเรียนบ้านเนินพะยอมและโรงเรียนในพื้นที่ชนบทอื่นๆ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

ใช้เส้นทางในศูนย์กรมชลประทาน

 เทศบาลหัวหินขอใช้เส้นทางในศูนย์การเรียนรู้เกษตรชลประทาน ลดจราจรติดขัดบริเวณโค้งพระจันทร์

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลนครหัวหิน รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีนครหัวหิน พร้อมด้วยนายกลยุทธ กุยุคำ ผู้อำนวยการสำนักช่าง หัวหน้าส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณถนนโค้งพระจันทร์ ร่วมกับนายธนชาติ สุขอนันตวงษ์ ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 14 และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมที่ห้องประชุมชลประทานชูชาติ อาคารศูนย์การเรียนรู้เกษตรชลประทาน

นายจีรวัฒน์ พราหมณี กล่าวว่าเนื่องจากขณะนี้มีการก่อสร้างถนนบริเวณวงเวียนโค้งพระจันทร์ ถนนหัวหิน – ห้วยมงคล ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เทศบาลนครหัวหินได้ประสานขอความร่วมมือกับสำนักงานชลประทานที่ 14 เพื่อขอใช้เส้นทางภายในอาคารศูนย์การเรียนรู้เกษตรชลประทาน และประสานไปยังอธิบดีกรมชลประทาน ขออนุญาตใช้ถนนภายในศูนย์การเรียนรู้เกษตรชลประทาน เพื่อเพิ่มช่องทางการจราจรจากถนนเลียบคลองชลประทาน เข้าเมืองหัวหินเป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่มีการก่อสร้างถนนวงเวียนโค้งพระจันทร์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย และลงพื้นที่ร่วมกันในการเตรียมความพร้อมเปิดเส้นทางดังกล่าว

 ในที่ประชุมกำหนดให้รถจักรยานยนต์และรถยนต์สี่ล้อเท่านั้นที่จะใช้เส้นทางนี้ได้ และกำหนดให้มีการเดินรถทางเดียว (วันเวย์) โดยรถที่จะเข้าเมืองหัวหิน สามารถใช้เส้นทางเลี่ยงวงเวียนโค้งพระจันทร์ ผ่านหน้าบริเวณตลาดแพไม้ เข้าประตูด้านหลังศูนย์การเรียนรู้เกษตรชลประทาน ออกทางประตูด้านหน้า กำหนดช่วงเวลาเปิด – ปิด สองช่วง คือช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.30 – 09.00 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 15.00 – 18.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน – วันที่ 30 กรกฎาคม ทั้งนี้เทศบาลนครหัวหินจะจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ และ อปพร. 3 – 5 คน คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมติดตั้งป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงดังกล่าว ขณะที่ในส่วนของสำนักงานชลประทานที่ 14 จะช่วยจัดการจราจรภายใน ไม่ให้มีรถจอดกีดขวางเส้นทาง คาดว่าการเปิดเส้นทางเลี่ยงเพิ่มเติมนี้จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

สุวัจน์เปิดบิ๊กซี หัวหินมาร์เช่

สุวัจน์เปิดบิ๊กซี หัวหินมาร์เช่

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัว ‘Big C Hua Hin Marche’ อย่างเป็นทางการ ภายในพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ที่ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ มี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายอัศวิน – นางฐาปนีย์ เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กซี ชูเปอร์เซนเตอร์ จำกัด (มหาชน), นายภาณุมาศ อจลบุญ อัยการจังหวัดหัวหิน, พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ, พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน, นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน, นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล รักษาการนายกเทศมนตรีนครหัวหิน, น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยททท.สำนักงานประจวบฯ, น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด, นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ นายโชคชัย วงศ์จักรภัทร กรรมการผู้จัดการบลูพอร์ตหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดี ท่ามกลางประชาชนนักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางบิ๊กซี มาร์เช่ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของบิ๊กซี มาเปิดที่หัวหิน ถือว่าเป็นพรีเมียมที่สุดของบิ๊กซีมาร์เช่ ที่แรกที่เปิด คือที่วันแบงก์กอก แล้วมาเปิดแห่งที่ 2 ที่หัวหิน เป็นการแสดงออกถึงศักยภาพของเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก การมาของบิ๊กซี มาร์เช่ ครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นการสร้างไลฟ์สไตล์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ที่เมืองหัวหิน เรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ฉะนั้นการที่บิ๊กซีขยายการลงทุนในเมืองท่องเที่ยว เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วย เป็นการส่งเสริมในเรื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้เป็นจุดแข็งที่สุดของประเทศไทย แล้วเมืองหัวหินเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงสุดเมืองหนึ่งที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ช่วยกันแสดงออกถึงความมั่นใจต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการแสดงออกถึงการส่งเสริมอุตสากรรมการท่องเที่ยว อย่างน้อยผู้ประกอบการก็มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจของประเทศยังดีอยู่

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กล่าวว่า ห้างบิ๊กซีหัวหินมาร์เช่ เป็นห้างเปิดใหม่และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ที่ให้บริการอย่างครบครัน ด้วยสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม บรรยากาศที่ทันสมัยและครบครันเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน ‘Big C Hua Hin Marche’ ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ รวมถึงคนในพื้นที่ โดยเน้นการให้บริการที่ครบครัน สะดวกสบาย และคุณภาพระดับสูงในราคาที่จับต้องได้ พร้อมนำเสนอบรรยากาศที่ทันสมัย ภายในศูนย์การค้าที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของหัวหิน โดดเด่นด้วยกลุ่มสินค้าสด คุณภาพดี และสินค้านำเข้าหลากหลายประเภทจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป สแกนดิเนเวีย และออสเตรเลีย รวมถึงโซนสินค้าท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ ทั้งการใช้งานและการเลือกซื้อสำหรับเป็นของฝากด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

กรมคุมประพฤติติวเข้มผู้ปฏิบัติงาน ลดการกระทำความผิดซ้ำและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด

กรมคุมประพฤติติวเข้มผู้ปฏิบัติงาน ลดการกระทำความผิดซ้ำและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 นางนุสรา วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ การติดตามผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 มีนายนำโชค สอนวงษา ผู้อำนวยการกองอำนวยการเฝ้าระวังความปลอดภัยของสังคม กรมคุมประพฤติ กล่าวรายงาน และมีผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติในเขตพื้นที่ เขต 7 ทั้ง 8 จังหวัด 9 สำนักงาน ประกอบด้วยสำนักงานคุมประพฤติ จ.นครปฐม จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สำนักงานประจวบฯ, สำนักงานสาขาหัวหิน) เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติทั้ง 9 สำนักงาน เจ้าหน้าที่กองเฝ้าระวังความปลอดภัยของสังคม ตลอดจนประธานอาสาสมัครคุมประพฤติ (อ.ส.ค.) และตัวแทนอาสาสมัครคุมประพฤติทั้ง 8 จังหวัดเข้าร่วม

นางนุสรา วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า การติดตามผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ด้วยพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีเจตนารมณ์เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้เสียหายและสังคม ลดการกระทำความผิดซ้ำและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยการบูรณาการความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมา กรมคุมประพฤติได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจในพระราชบัญญัตินี้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ จึงมีความสำคัญยิ่ง เพื่อติดตามและประเมินความก้าวหน้าและประสิทธิภาพของการดำเนินงานของหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจนรับทราบปัญหา อุปสรรคในการดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565

นายนำโชค สอนวงษา ผู้อำนวยการกองอำนวยการเฝ้าระวังความปลออดภัยของสังคม กล่าวว่า จากการดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ตามแนวทางของกรมคุมประพฤติ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ดำเนินการขับเคลื่อนโดยผู้ถูกเฝ้าระวังแล้วกว่า 3,000 ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการติดตามผลและรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินการของสำนักงานคุมประพฤติ อันจะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง พัฒนาแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจแก่พนักงานคุมประพฤติ ในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 ให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน และสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้
กองอำนวยการเฝ้าระวังความปลอดภัยของสังคม กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จึงจัดประชุมขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 มีผู้เข้าร่วมโครงการจากสังกัดสำนักงานคุมประพฤติเขต 7 จำนวนทั้งสิ้น 108 คน โดยในช่วงเช้าจะเป็นการบรรยายให้ความรู้ ส่วนในช่วงบ่ายจะเป็นการแบ่งกลุ่มระดมสมอง มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเล เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก

อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเล เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรม “SSI Group Plogging” ปีที่ 4 กิจกรรมเดิน-วิ่งเก็บขยะชายหาดแม่รำพึง เพื่อสร้างชายหาดสะอาดและลดขยะพลาสติก จัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) และวันทะเลโลก (World Ocean Day) โดยมีนายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย อบต.แม่รำพึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่รำพึง และหน่วยงานราชการต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำหอยแมลงภู่จำนวน 3,000,000 ตัว ณ คลองปากปิด บ้านฝ่ายท่า ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ร่วมกับประมงอำเภอบางสะพาน กลุ่มประมงพื้นบ้านเชิงอนุรักษ์พงศ์ประศาสน์ และเครือข่ายประมงบางสะพาน

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงในพื้นที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่น้อมนำแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย

นายเอกฤทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงาน ในการปกป้องและอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติทางทะเล ตามแนวทางการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อให้ระบบนิเวศทางทะเลคงความอุดมสมบูรณ์ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง นอกจากนี้กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

กิจกรรมเดิน – วิ่ง เก็บขยะชายหาดแม่รำพึง ครั้งที่ 4

ข่าวสังคม

กลุ่มเหล็กสหวิริยา ร่วมกับ อบต.แม่รำพึง และเครือข่ายประมงบางสะพาน จัดกิจกรรมเดิน – วิ่ง เก็บขยะชายหาดแม่รำพึง ครั้งที่ 4 เนื่องในโอกาสสองวันสำคัญของโลก คือวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนของทุกปี และวันทะเลโลก 8 มิถุนายนของทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยกันปกป้องและรักษาทะเล พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนในพื้นที่ตำบลแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ

โดยนายสุทิน ประเสิรฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานปล่อยตัวนักเดิน – วิ่ง เก็บขยะ ซึ่งประกอบไปด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่มเหล็กสหวิริยา ผู้นำชุมชน เยาวชนและประชาชนกว่า 600 คน เก็บขยะชายหาดแม่รำพึง ระยะทางไปกลับ ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยเก็บรวบรวมและคัดแยกขยะชายหาด นำส่งเข้าโครงการการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี 2568 ที่ดำเนินการโดย อบต.แม่รำพึง เพื่อนำขยะที่ได้ไปรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่สร้างมูลค่าและทำประโยชน์ต่อไป.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน