Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ พร้อมจัดงาน “Gastronomy @ Prachuapkirikhan#2” 12 – 14 กันยายนนี้

ประจวบฯ พร้อมจัดงาน “Gastronomy @ Prachuapkirikhan#2” 12 – 14 กันยายนนี้

วันที่ 10 กันยายน 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมจัดงานเทศกาล‘Gastronomy Food and Culinary @ Prachuapkirikhan#2’ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ มีนายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ นายอิศรา กาญจนรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด พร้อมด้วยคณะบริหารเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

จากการที่จังหวัดประจวบฯ กำหนดจัดงาน “Gastronomy Prachuapkirikhan”ขึ้น เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ที่เชื่อมโยงกับวัฒธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจังหวัด เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ชุมชนท้องถิ่นและผู้ผลิตสินค้าพื้นเมือง ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน รวมถึงกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยกำหนดจัดงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกจัดในธีม “จากคลื่นสู่ครัว Sense on the Beach @ Khao ka lok” เมื่อวันที่ 29 – 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณชายหาดเขากะโหลก อ.ปราณบุรี และ ครั้งที่ 2 ในธีม “รสมือแม่ Mother’s Taste” ระหว่างวันที่ 12 – 14 กันยายนนี้ ที่บริเวณหน้าศูนย์การท่องเที่ยวและเรียนรู้ ชายหาดบ้านกรูด อ.บางสะพาน

นายปรีดา สุขใจ กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมเพื่อเตรียมพร้อมจัดงาน Gastronomy @ Prachuapkirikhan#2 โดยครั้งแรกจัดที่บริเวณชายหาดเขากะโหลกและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าร่วมงาน การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือเพื่อสรุปรายละเอียดกิจกรรมภาคส่วนต่างๆ การติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดงาน การจัดการจราจรและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการเสนอแนะความคิดเห็นเพิ่มเติมของหน่วยงานต่างๆ ที่จัดกิจกรรม ภายในงานพบกับมหกรรมอาหารและเครื่องดื่มบรรยากาศริมทะเลสุดชิลล์ที่คัดสรรแต่ของดี ของอร่อย อาหารสายสุขภาพ ฮาลาล Food Truck กว่า 100 บูธ ฟังเพลงไพเราะๆ กับศิลปิน “เล็ก-รัชเมศฐ์ The Voice Thailand” เจ้าของเพลงร้อยล้านวิว และจากวงดนตรีมืออาชีพ ชมการแสดงควงกระบองไฟ จุดเช็คอินถ่ายภาพเก็บความประทับใจ การแข่งขันทำอาหารชิงเงินรางวัลกว่า 30,000 บาท และกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย ที่พิเศษสุดการจำหน่ายกุ้งขาวแวนนาไมสด ในราคาพิเศษกว่าท้องตลาด พร้อมกิจกรรมตักกุ้งสุดมันส์ และนาทีทองซื้อกุ้งราคาพิเศษผ่านคูปองส่วนลด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบฯ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทุกท่าน เข้าร่วมงานเทศกาลอาหาร Gastronomy @ Prachuapkirikhan#2 ระหว่างวันที่ 12 – 14 กันยายนนี้ ที่ชายหาดบ้านกรูด เพื่อสัมผัสประสบการณ์ด้านอาหารในรูปแบบใหม่ และบรรยากาศสุดชิลล์ริมทะเล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวเน็ตแห่ชื่นชมตำรวจหญิง สภ.เมืองประจวบฯ ช่วยลุงพิการท่ามกลางสายฝน

ชาวเน็ตแห่ชื่นชมตำรวจหญิง สภ.เมืองประจวบฯ ช่วยลุงพิการท่ามกลางสายฝน

วันที่ 10 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจหญิงปฏิบัติหน้าที่ให้บริการกับลุงพิการ ที่มาติดต่องาน ที่ สภ.เมืองประจวบฯ ท่ามกลางฝนโปรยปราย ทำให้ชาวเน็ตประทับใจเห็นตำรวจทำหน้าที่ดูแลแล้วใจฟู และชื่นชมตำรวจหญิงรายนี้อย่างมาก เนื่องจากบริการประชาชนที่เป็นผู้สูงวัยด้วยความอ่อนน้อมดูแลประชาชนดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว

จากการสอบถาม พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ทราบว่า ตำรวจหญิงรายนี้ ชื่อว่า ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา หรือผู้กองเดียร์ อายุ 37 ปี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ
โดย ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ เล่าถึงเหตุการณ์ว่า หลังออกเวรแล้วได้มาช่วยงานที่โรงพัก มีชายชราขาพิการ ขี่รถซาเล้งมาคนเดียว จอดที่หน้า สภ.ท่ามกลางฝนโปรยปราย และลงรถเข็นด้วยความลำบาก ตนเห็นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงลุงขึ้นรถเข็น แล้วรุนเข้าไปใน สภ. ก่อนสอบถามลุงว่ามาติดต่อเรื่องใด และได้คำตอบว่ามาแจ้งสมุดธนาคารหายจึงพาเข้าไปติดต่อร้อยเวรด้านในด้วยความขอบคุณจากคุณลุงในความมีน้ำใจ ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้ช่วยเหลือ แม้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

ด้าน พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน กล่าวสั้นๆ ว่า รู้สึกชื่นชม ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ ถึงความมีน้ำใจไม่นิ่งเฉย เป็นแบบอย่างที่ดี และช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ออกหน่วยในหัวหิน เร่งแก้ปัญหาที่ดิน ไฟฟ้า แหล่งน้ำให้ชาวบ้าน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ออกหน่วยในหัวหิน เร่งแก้ปัญหาที่ดิน ไฟฟ้า แหล่งน้ำให้ชาวบ้าน

วันที่ 10 กันยายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานนเปิดโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” หรือโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ อบต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายประยูร ขันแก้ว นายก อบต.บึงนคร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ และประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี ในการนี้ พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชน เตือนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันดูแลเฝ้าระวังเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติด การพนัน ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ชีวิตตกต่ำ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวเปิดกิจกรรม พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่ 2 โรงเรียน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้นำท้องถิ่น และร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคจำนวน 300 ชุดให้แก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ประกอบด้วยสิ่งของอุปโภคบริโภคจากพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ จำนวน 100 ชุด สิ่งของอุปโภคบริโภคจากสภากาชาดไทย จำนวน 100 ชุด และสถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติฯ 100 ชุด พร้อมมอบทุนการศึกษาจากกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ให้แก่นักเรียนจำนวน 7 ทุนๆ ละ 1,200 บาท ในการนี้ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ มีเมตตามอบอุปกรณ์เครื่องครัว ข้าวสาร ให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ จำนวน 2 ราย พร้อมเงินดำรงชีพรายละ 2,000 บาท

โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ในวันนี้มีหน่วยงานภาครัฐจำนวน 46 หน่วยงาน ร่วมให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การให้คำปรึกษาช่วยเหลือด้านกฎหมาย การแก้ไขปัญหาการเกษตร การลงทะเบียนผู้ว่างงาน บริการตัดผม บริการทำหมันสุนัขและแมว การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด การออกโรงทาน การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลหัวหิน ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป พร้อมการรับบริจาคโลหิตจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ โดยมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมรับบริการอย่างคึกคัก

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่าตำบลบึงนคร อ.หัวหิน มีจำนวน 12 หมู่บ้าน ประชากร 2,430 ครัวเรือน 5,068 คน เป็นพื้นที่ติดกับชายแดนไทย – เมียนมา ปัญหาสำคัญในพื้นที่ คือเรื่องของการไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยทางทหาร ปัจจุบัน ประชาชนในพื้นที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ไม่สะดวก ทุกปัญหาเป็นเรื่องสำคัญ เป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ภาครัฐต้องเข้ามาดูแลแก้ไข เบื้องต้น ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางไปพร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงาน เพื่อหารือร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาที่กรุงเทพฯ หาแนวทางแก้ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลบึงนคร โดยประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 9 ที่ขณะนี้ถูกฟ้องขับไล่ จำนวน 34 ราย จะติดตามช่วยแก้ปัญหาให้เป็นรายกรณี ส่วนเรื่องความต้องการในพื้นที่ ทั้งการก่อสร้างปรับปรุงเส้นทางคมนาคม พัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในสถานที่ หรือจุดที่จำเป็นต่อการสัญจรเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน จะเร่งบรรจุแผนงานโครงการ และหางบประมาณมาดำเนินการให้โดยเร่งด่วน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ครั้งแรกของไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมกับกองทัพไทย จัดงานแสดงศักยภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ฝีมือคนไทย มาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นพร้อมป้องกันประเทศ

ครั้งแรกของไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมกับกองทัพไทย จัดงานแสดงศักยภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ฝีมือคนไทย มาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นพร้อมป้องกันประเทศ

วันที่ 9 กันยายน 2568 พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการทดสอบการใช้อาวุธทางยุทธวิธี MOD Challenge 2025 ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่สนามยิงปืนหัวหิน Shooting Range จ.ประจวบฯ โดยมีพลโท ปวริศ ปั้นทอง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพและผู้เกี่ยวข้องกว่า 600 คน เข้าร่วม ถือเป็นครั้งแรกของการรวมตัวเหล่าทัพไทยทั้ง 6 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในด้านความพร้อมการป้องกันประเทศ รวมทั้งแสดงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ พัฒนาขึ้นซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของประเทศไทย ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาวุธและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสการพัฒนาและขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบันภาครัฐและเอกชนของไทยสามารถผลิตอาวุธได้หลายรายการ ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการนำปืนไทย แบรนด์คชสีห์ ที่พัฒนาโดยศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ ได้แก่ ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม. และปืนพกขนาด 9 มม.มาทำการทดสอบแข่งขันโดยชุดรบพิเศษของแต่ละหน่วย ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยโดยจำลองสถานการณ์ที่เป็นยุทธวิธีจริงๆ ใช้กติกาสากล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สมรรถนะของอาวุธที่เราผลิต มีขีดความสามารถที่จะทำการรบได้จริงๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมแล้ว สำหรับกิจกรรมในวันนี้นอกจากเป็นการทดสอบอาวุธปืนฝีมือคนไทยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรกำลังพลด้วย เพื่อให้มีความพร้อมปกป้องผืนแผ่นดินไทย

พลเอก ณัฐ กล่าวอีกว่า อาวุธปืนแบรนด์คชสีห์ เป็นการออกแบบเองทั้งหมด โดยนำเอาแบบอย่างที่ดีของปืนเล็กยาวทั่วโลกมาประยุกต์ ทำการผลิตในโรงงานที่ทันสมัย มีมาตรฐานระดับสากล ISO 9001 และได้ขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการนำปืนไทยแบรนด์คชสีห์ ไปทดลองใช้ ทั้งในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เช่นเดียวกับหน่วยงานอย่างกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่มีความต้องการอาวุธที่ทันสมัย สะดวกในการใช้งานในพื้นที่ป่ารกทึบ ก็มีความสนใจสั่งซื้อ ซึ่งในอนาคต หากสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน นำไปสู่การจำหน่ายต่อยอดสู่การส่งออก มั่นใจว่าจะช่วยสร้างจีดีพีของประเทศให้สูงขึ้น

ด้านพลโท ปวริศ ปั้นทอง กล่าวว่า การจัดงาน “MOD CHALLENGE 2025” เป็นการแสดงศักยภาพผลิตภัณฑ์อาวุธและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย เสริมสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ภายในงานมีการเปิดตัวอาวุธปืนภายใต้แบรนด์ “คชสีห์” ได้แก่ ปืนเล็กยาว รุ่น MOD 2020 (เอ็มโอดี 2020) และรุ่น NIN9 (นินเก้า) และปืนพก ขนาด 9 มม. รุ่นใหม่ล่าสุด SAN 9 (แซนเก้า) ซึ่งผลิตภัณฑ์อาวุธที่ผลิตโดยศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล การออกแบบที่เหมาะสมกับสรีระและการใช้งานของคนไทย กระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยี Internet of Thing สำหรับการจัดการผลิต ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง รวมทั้งพัฒนาวัสดุใหม่ที่มีคุณภาพสูง สำหรับกิจกรรมภายในงาน “MOD CHALLENGE 2025”มีการสาธิตการใช้อาวุธและเทคโนโลยีทันสมัย การแข่งขันทดสอบการยิงปืนระหว่างเหล่าทัพ การแสดงศักยภาพของอุปกรณ์และยานพาหนะ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ด้านการป้องกันประเทศ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคนิคระหว่างหน่วยงาน เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ และพัฒนาความเข้าใจในภารกิจร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความร่วมมือของเหล่าทัพไทยในยุคที่ภัยคุมคามมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาการใช้งานสะพานลอยเกือกม้าข้ามรถไฟทางคู่ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และลดปัญหาการจราจร

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาการใช้งานสะพานลอยเกือกม้าข้ามรถไฟทางคู่ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และลดปัญหาการจราจร

วันที่ 8 กันยายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (กรอ.ปข.) ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มีนายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมประชุม โดยมีการรายงานผลการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสะพานลอยเกือกม้าข้ามรถไฟทางคู่ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ที่มีปัญหาการใช้งาน โดยจากการที่จังหวัดได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน 2 ชุด จากหน่วยงานภาครัฐ และผู้แทน กรอ.จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบระหว่างวันที่ 21 – 22 สิงหาคม 2568 รวม 32 จุด ตามแนวรถไฟทางคู่ ครอบคลุมสะพานลอยจุดกลับรถและจุดกลับรถขนาดเล็ก โดยตรวจสอบสภาพการก่อสร้างสะพาน บริเวณคอสะพาน พื้นสะพาน และรอยต่อสะพาน ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมจุดที่มีปัญหาให้เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยมีประธานคณะทำงาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และโครงสร้างพื้นฐานโดยตรง ได้แก่ ชุดที่ 1 ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท จ.ประจวบฯ และชุดที่ 2 โยธาธิการและผังเมือง จ.ประจวบฯ

ผลการตรวจสอบพบว่า มีสะพานลอยเกือกม้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน ได้แก่ สะพานลอยเกือกม้า ถ.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ ซึ่งคณะทำงานได้เสนอให้ปรับระดับสะพาน ปรับผิวจราจรให้เรียบ สร้างวงเวียนด้านทิศตะวันตก และขยายช่องทางเลี้ยวซ้ายลงจากสะพานด้านทิศตะวันตกให้กว้างขึ้น เพื่อลดปัญหาการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ภาคเอกชนเสนอให้ระหว่างที่ดำเนินการปรับปรุงสะพาน ขอให้เปิดแบริเออร์ใช้งานเส้นทางเดิมข้ามทางรถไฟไปก่อน และเสนอให้เสริมราวกั้นสะพานให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันการพลัดตกจากสะพาน ส่วนสะพานอีกจุดในพื้นที่ อ.เมืองประจวบฯ ที่ต้องแก้ไขคือบริเวณด้านหลังสถานีรถไฟหว้ากอ ที่พบว่าผิวจราจรสะพานมีรอยแตก ต้องปรับพื้นให้ราบเรียบ

นอกจากนี้ ยังมีสะพานเกือกม้าที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขในพื้นที่ อ.ทับสะแก 2 จุด ได้แก่ กม.343+189 ต.นาหูกวาง กม.344+980 ต.นาหูกวาง และพื้นที่ อ.บางสะพาน 3 จุด ได้แก่ กม.374 ต.กำเนิดนพคุณ กม.355 ต.ธงชัย และ กม.368+920 ต.ธงชัย

ที่ประชุม กรอ.จังหวัด ในครั้งนี้ ยังมีการหารือแนวทางการพัฒนาจังหวัด ทั้งเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามแนวทาง Wellness Economy การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร การพัฒนาการศึกษาตามแนวทาง 10 ห้องเรียน ส่งเสริมการศึกษา การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ YPC (Young Public and Private Collaboration) ขณะที่ภาคเอกชน มีข้อเสนอในเรื่องต่างๆ เช่น ให้มีการปรับปรุงร่างผังเมืองในบางพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบท เช่น พื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การผลักดันให้มีศูนย์วิจัยพันธุ์พืชในจังหวัดประจวบฯ นอกจากนี้ น.ส.กนกกร เอี่ยมเพชร์ คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง มีความพร้อมในการขับเคลื่อนโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนตุลาคม 2568 โดยใช้งบกลางเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่จำนวน 25,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่ลงทะเบียนในระบบอยู่แล้วทั่วประเทศพร้อมที่จะรองรับการใช้จ่ายตามโครงการ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กลับมาอีกครั้ง “Pink Panther & Friends” คอนเสิร์ตแห่งมิตรภาพและตำนานของวงการเพลงไทย

กลับมาอีกครั้ง “Pink Panther & Friends” คอนเสิร์ตแห่งมิตรภาพและตำนานของวงการเพลงไทย

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน และกลุ่มบริษัทพราว ร่วมกับบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ชวนย้อนคืนสู่ความทรงจำอันแสนอบอุ่นในคอนเสิร์ตสุดพิเศษ “Pink Panther & Friends” การกลับมาของวงดนตรีระดับตำนาน “พิงค์แพนเตอร์” ที่จะพาทุกคนร่วมเดินทางผ่านบทเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ของวง พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของมิตรภาพ ความคิดถึง และเส้นทางบนถนนสายดนตรีที่ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างสง่างาม พบกับบทเพลงสุดคลาสสิกที่แฟนเพลงคิดถึง อย่าง “รักฉันนั้นเพื่อเธอ” และอีกหลากหลายเพลงที่อยู่ในความทรงจำ โดยในครั้งนี้พิงค์แพนเตอร์ได้ชวนเพื่อนๆ ศิลปินชื่อดัง ที่เคยร่วมเส้นทางดนตรีเดียวกัน มาร่วมเวทีด้วยอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น สุชาติ ชวางกูร, เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์, ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์, วิยะดา โกมารกุล ณ นคร และชมพู ฟรุตตี้ ที่จะมาร่วมถ่ายทอดความสนุกสนาน ความทรงจำ และพลังแห่งเสียงเพลง ให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ประทับใจ ที่แฟนเพลงไม่ควรพลาด

เตรียมพบกับค่ำคืนแห่งความทรงจำในคอนเสิร์ต “Pink Panther & Friends” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2568 ณ หัวหิน คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 บลูพอร์ตหัวหิน โดยบัตรเข้าชมมีทั้งแบบ VIP Zone ราคา 1,200 บาท และ Friends Zone ราคา 800 บาท เปิดจำหน่ายแล้ววันนี้ทางเว็บไซต์ https://bppinkpanther.gosalepage.co/fsn-gnft-cgw มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนแห่งเสียงเพลง มิตรภาพและเรื่องราวที่หัวใจยังไม่ลืม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ต หัวหิน โทร. 032 – 905111 เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประชาชนร่วมทำบุญสืบสานประเพณีฉลากภัต ที่วัดห้วยมงคล

ประชาชนร่วมทำบุญสืบสานประเพณีฉลากภัต ที่วัดห้วยมงคล

วันที่ 7 กันยายน 2568 พระพิศาลสิทธิคุณ (ท่านเจ้าคุณไพโรจน์) เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล เจ้าคณะตำบลทับใต้ เป็นประธานในพิธีทำบุญประเพณีสลากภัต เพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์งานประเพณีเก่าแก่และเป็นการอุทิศส่วนกุศล ทำบุญให้บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมเป็นเจ้าภาพทั้งสิ้น 44 หาบ ถวายสลากภัตแด่พระสงฆ์ 9 วัด จำนวน 23 รูปจากละเเวกใกล้เคียงวัด ที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประเพณีสลากภัต หรือที่ชาวล้านนาทางภาคเหนือเรียกว่า ประเพณีตานก๋วยสลาก ภาคอีสานเรียกบุญข้าวสาก ส่วนมากจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ชาวบ้านจะนำชะลอมหรือตะกร้า แล้วใส่ของต่างๆ ลงไป เช่นอาหารคาวหวาน ผลไม้ สบู่ ยาสีฟัน เครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมด้วยปัจจัยหรือที่ชาวบ้านนิยมเรียก คือใส่ยอด ก็คือใส่ซองเงินเสียบยอดไม้ไผ่ลงไป เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลไปหาญาติสนิทมิตรสหายที่ได้ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อ เพื่อให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้มีของกินของใช้ในโลกหลังความตาย จากนั้นจะนำเบอร์ไปติดที่หาบเพื่อให้พระสงฆ์ได้ทำการจับเบอร์ ด้วยหลักอุปโลกกรรม คือ ของที่ถวายในหาบนั้นมีทั้งของมากและของน้อยแล้วแต่เจ้าภาพจัดมา พระสงฆ์รูปใดจับได้เบอร์ไหน เจ้าภาพก็จะหาบๆ นั้นไปถวาย ซึ่งการทำบุญสลากภัตในพระพุทธศาสนาเป็นประเพณีสืบเนื่องมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการ “จานใหม่…หัวใจจวบ” ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการ “จานใหม่…หัวใจจวบ” ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์

วันที่ 7 กันยายน 2568 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการ “จานใหม่…หัวใจจวบ” การพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้านเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ BCG และ SDG เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนฐานอัตลักษณ์ทุนทางวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ ที่หัวหินคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7- 8 กันยายนนี้ มีผู้ช่วยศาสตราจารย์นภาพร นาคทิม รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตวังไกลกังวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, รองศาสตราจารย์วิวรณ์ วงศ์อรุณ คณบดีคณะอุตสาหกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวฯ, นายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน, นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ, ดร.สิริกร หน่อทิม นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยแห่งประเทศไทย จ.ประจวบฯ แขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ หลังเปิดงานแล้ว รองผู้ว่าราชการประจวบฯ ได้เยี่ยมชมบูธจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและลองชิมอาหารจานใหม่จากแม่ครัวชุมชนทั้ง 8 อำเภอด้วย

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล กล่าวว่าจังหวัดประจวบฯ ตั้งอยู่ในภาคตะวันตก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็น 1 ใน 3 แห่งของใครงการไทยแลนด์ริเวียร่า (Thailand Riviera) ที่รัฐบาลมุ่งพัฒนาโดยนำชายฝั่งทะเลอ่าวไทยของจังหวัด มาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญรองรับนักท่องเที่ยว เชื่อมต่อกับจังหวัดชุมพรและระนอง ด้วยเส้นทางการคมนาคมที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้ ทั้งทางรถยนต์ รถไฟและทางอากาศ ชี้ให้เห็นว่าจังหวัดประจวบฯ มีศักยภาพในการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ประกอบกับความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ของจังหวัด สามารถรองรับและให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และส่งผลต่อการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก หรือกลุ่มพื้นที่ท่องเที่ยวภาคตะวันตก และการที่จังหวัดประจวบฯ มีแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยยาวกว่า 200 กิโลเมตร วิถีวัฒนธรรมที่สำคัญที่เป็นต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจของจังหวัด คือการทำประมง จึงมีชุมชนประมงชายฝั่งที่ทำการประมงพื้นบ้านจำนวนมาก เป็นแหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ ทำให้เกิดโครงการ “จานใหม่…หัวใจจวบ” ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ BCG และ SDG เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนฐานอัตลักษณ์ทุนทางวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ

รองศาสตราจารย์วิวรณ์ วงศ์อรุณ กล่าวว่า โครงการ “จานใหม่…หัวใจจวบ” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างศักยภาพให้กับชุมชนและผู้ประกอบการ ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินโครงการ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า บริการ อาหารและแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเพิ่มขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวให้ประเทศไทย สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกต่อไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนในชุมชน 8 ชุมชนแต่ละอำเภอในจังหวัดประจวบฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการการท่องเที่ยววิถีประมงพื้นบ้าน ชุมชนละ 10 คน รวมทั้งสิ้น 80 คน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กระบะยางระเบิดพลิกคว่ำ ยาบ้าหล่นเกลื่อน 5 ล้านกว่าเม็ด

กระบะยางระเบิดพลิกคว่ำ ยาบ้าหล่นเกลื่อน 5 ล้านกว่าเม็ด

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 7 กันยายน 2568 พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ จงดี สารวัตรใหญ่ สภ.สามกระทาย ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านพลเมืองดี พบรถยนต์กระบะรั้วบรรทุกประสบอุบัติเหตุ ยางระเบิดพลิกคว่ำกีดขวางถนน บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 271 + 100 หมู่บ้านฟากนา ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยร.ต.ท.นนทนันท์ สิงหนาท รองสารวัตรสอบสวน สภ.สามกระทายรุดตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะรั้วบรรทุก 4 ล้อขนาดใหญ่ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 3 ฒฆ 5327 กรุงเทพฯ กระบะรั้วฉีกขาด ของที่บรรทุกมาหล่นกระจัดกระจายเกลื่อน เบื้องต้นพบเป็นชิ้นส่วนแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเก่า ภายในกองไม้พบกล่องโฟมห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกใสปิดทับด้วยเทปกาวสีน้ำตาลแน่นหนา จำนวน 54 กล่อง มีบางกล่องฉีกขาด ของที่บรรจุภายในกล่องเป็นยาบ้าเม็ดสีส้มจำนวนมาก ส่วนผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ทราบจำนวน ได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุแล้ว

สันนิษฐานว่ารถคันดังกล่าวได้ขนของกลางมา โดยนำกล่องโฟมซึ่งบรรจุยาเสพติดไว้ด้านล่าง จากนั้นใช้แผ่นไม้ปิดบังอำพรางไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เหมือนขนย้ายไม้บ้านเก่าแล้วมุ่งหน้าลงใต้ ระหว่างทางยางล้อหลังเกิดระเบิด ทำให้เสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานรถยกมาลากรถ และขนของกลางทั้งหมดใส่รถพนักงานสอบสวนนำไปตรวจสอบและนับจำนวนของกลางยาเสพติดทั้งหมดอย่างละเอียดที่โรงพักสามกระทาย มีนายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอกุยบุรี พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ พร้อมตำรวจชุมสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบ ซึ่งภายในกล่องลังโฟม 1 กล่อง บรรจุยาบ้าจำนวน 10 ห่อ ยี่ห้อ 999 ที่เม็ดยาพิมพ์ WY รวม 1 แสนเม็ดต่อ 1 กล่อง รวมทั้งหมด 54 กล่อง กับอีก 1 ห่อ จำนวนยาบ้าเม็ดสีส้มทั้งสิ้น 5,440,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 32 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีและหาตัวผู้ร่วมขบวนการที่มาในรถว่ามีจำนวนกี่คน เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นักท่องเที่ยวแน่นหาดประเพณีปล่อยเรือ “ส่งเคราะห์ทางทะเล” ทำบุญให้บรรพบุรุษ

นักท่องเที่ยวแน่นหาดประเพณีปล่อยเรือ “ส่งเคราะห์ทางทะเล” ทำบุญให้บรรพบุรุษ

วันที่ 7 กันยายน 2568 นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยนายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครหัวหิน นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางวาสนา ศรีกาญจนา ที่ปรึกษาสมาคมฯ คณะกรรมการชุมชนชาวประมงหัวหิน ชมรมวัยสดใส ประชาชนชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ร่วมทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน 9 รูป และประกอบพิธีบวงสรวงในพิธีปล่อยเรือส่งเคราะห์ทางทะเลและงานทำบุญประจำปีศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม ข้างโรงแรมฮิลตัน หัวหิน รีสอร์ตแอนด์สปา เขตเทศบาลนครหัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมี พระครูพิสุทธิ์ภาวนาพิธาน (พระปลัดเอกดนัย โชติธัมโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดหัวหิน ประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้นได้ร่วมกันจุดประทัดนับหมื่นดอก ก่อนพร้อมใจกันลากเรือส่งเคราะห์สู่ท้องทะเล มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากเก็บภาพไว้ดูด้วยความสนใจ พร้อมกันนี้ประชาชนนักท่องเที่ยวต่างนำเลขเด็ดหางประทัดไปเสี่ยงดวงงวดนี้ตามๆ กัน

การปล่อยเรือส่งเคราะห์ทางทะเลเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวหัวหินที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่ประชาชนทั่วไปให้ความเคารพบูชา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วและนำเถ้าอังคารมาลอยที่บริเวณชายทะเลหัวหิน แต่ไม่เคยได้กลับมาดูแลกราบไหว้ พร้อมทั้งทำบุญสะเดาะเคราะห์ ปล่อยตุ๊กตาปูนปั้นหุ่นหญิงชาย น้องจุก น้องแกละ ประมาณ 4,000 ตัว ที่ทาสีสดให้ประชาชนแล้วแต่จิตศรัทธาบริจาคทำบุญเขียนชื่อตนเองหรือญาติมิตรลงกระดาษติดกับตัวตุ๊กตา อธิษฐานขอให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆ พ้นไป นำไปวางไว้ในวิมานเรือส่งเคราะห์ทางทะเล พร้อมใจกันลากเรือทั้งลำออกสู่ทะเลบริเวณหินโคร่งที่เป็นแหล่งปลาชุกชุม ก่อนปล่อยวิมานที่บรรจุตุ๊กตาปูนปั้นหุ่นหญิงชาย น้องจุก น้องแกละ ลงสู่ก้นทะเลกลายเป็นแหล่งปะการังหากินของสัตว์ทะเลต่อไป.