Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายฝ่ายร่วมทำและทิ้งซั้งกอ สร้างบ้านให้ปลาและพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง

หลายฝ่ายร่วมทำและทิ้งซั้งกอ สร้างบ้านให้ปลาและพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานเปิดโครงการทิ้งซั้งกอ สร้างให้บ้านปลา ส่งเสริมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง ตำบลแม่รำพึง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่สะพานปลาบ้านอ่าวยาง ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายพีระ ร่วมพุ่ม รองนายก อบต.แม่รำพึง นายสมบัติ แก้วบุดดา ผู้จัดการอาวุโสชุมชนสัมพันธ์ สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารกลุ่มเหล็กสหวิริยา นายพัลลภ ลิ่มสกุล ผู้แทนบริษัท ปตท.สผ. นายนันทชัย สุขเกื้อ นายกสมาคมชาวประมงบางสะพาน ประธานเครือข่ายชาวประมงบางสะพาน นายถาวร โรจนะรัตน์ ประมงอำเภอบางสะพาน นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยามเตรียมการ ตัวแทนกลุ่มเหล็กสหวิริยา ท่าเรือประจวบฯ และเครือข่ายประมงบางสะพาน กลุ่มประมงพื้นบ้าน เข้าร่วมกิจกรรม

นายนันทชัย สุขเกื้อ นายกสมาคมชาวประมงบางสะพาน ประธานเครือข่ายชาวประมงบางสะพาน กล่าวว่า เครือข่ายชาวประมงบางสะพาน ได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง กลุ่มเหล็กสหวิริยา ปตท.สำรวจและผลิตจำกัด (ปตท.สผ.) อบต.แม่รำพึง ในการจัดกิจกรรมทิ้งซั้งกอประจำปี 2567 โดยมีกลุ่มประมงในพื้นที่อำเภอบางสะพาน ได้แก่ สมาคมชาวประมงบางสะพาน กลุ่มประมงพื้นบ้านเชิงอนุรักษ์พงศ์ประศาสตร์ กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านต้นทองหลาง วิสาหกิจชุมชนประมงและการท่องเที่ยวบางสะพาน กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านบางสะพาน กลุ่มประมงพื้นบ้านคลองบางสะพาน กลุ่มชุมชนประมงบ้านปากคลอง กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบางสะพาน กลุ่มธนาคารปูม้าบ้านกรูด กลุ่มประมงพื้นบ้านปากคลองบ้านกรูด กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านทางสาย กลุ่มเรือตกปลาบางสะพานกลุ่มชาวเลรักถิ่นบางสะพานน้อย มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้สัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นเขตในทะเลชายฝั่งเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่อำเภอบางสะพานและใกล้เคียง โดยแผนการทิ้งปี 2567 นี้ ทางกลุ่มประมงตั้งใจดำเนินการมากกว่า 1,000 ชุด ซึ่งได้รับงบประมาณจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนด้วยกันเอง โดยสมาชิกสมาคมชาวประมงบางสะพานจะมีเรือประมงพาณิชย์ช่วยสนับสนุนในโครงการนี้ด้วย.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ธารน้ำใจหลั่งไหลร่วมบริจาคของรางวัลการกุศล งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26

ธารน้ำใจหลั่งไหลร่วมบริจาคของรางวัลการกุศล งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน พร้อมคณะกรรมการกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน ร่วมกันรับมอบสิ่งของต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โรงแรม ร้านอาหาร สถานประกอบการต่างๆ และประชาชนที่ร่วมแรงร่วมใจนำมามอบให้ในงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ที่สำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อนำไปร่วมจับรางวัลการออกร้านมัจฉากาชาดการกุศล ในงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคมนี้ บริเวณลานกิจกรรม 25 ไร่ ซอยหัวหิน 102 หลังศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน

นายพลกฤต กล่าวว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งถือเป็นวันแห่งความรักและมอบสิ่งของแทนใจ จึงจัดงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาดขึ้น เพื่อรับบริจาคสิ่งของจากหน่วยงาน ภาคเอกชนต่างๆ ไปเป็นรางวัลการออกร้านมัจฉากาชาดการกุศล งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 เพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในกิจการบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ในเขตอำเภอหัวหินและใกล้เคียง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการจัดหาถุงยังชีพ ทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนที่ยากจนได้มีโอกาสทางการศึกษา เป็นต้น โดยจำหน่ายบัตรการกุศลราคาใบละ 20 บาท ลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย ตั้งแต่เวลา 17.30 – 23.00 น.

นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีของฝากจากหัวหิน การจำหน่ายสินค้าราคาถูก เครื่องอุปโภคบริโภค บูธอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น อาหารทะเลสด สะอาด อร่อย การแสดงของนักเรียน ลีลาศการกุศล พบกับสวนสนุกเคลื่อนที่กับเครื่องเล่นทันสมัย และคอนเสิร์ตศิลปินนักร้องชั้นนำตลอดทุกค่ำคืนการจัดงาน จึงขอเชิญทุกท่านร่วมเที่ยวงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 ได้ตามวันดังกล่าว “เราช่วยกาชาด กาชาดช่วยเรา” เงินรายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน.

Categories
ทั้งหมด สังคม

มอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2566

ข่าวสังคม

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2566 ให้แก่ วิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ ที่ได้รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภท ได้แก่การเพิ่มผลผลิต และประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจัดให้มีการมอบรางวัลอุตสาหกรรม เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความคิดริเริ่ม และมีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บางสะพานน้อยเปิดศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด แห่งเดียวในประจวบฯ

บางสะพานน้อยเปิดศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด แห่งเดียวในประจวบฯ

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายนิมิต วงษ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อย พ.ต.อ.ธฤต เรืองเดชา ผกก.สภ.บางสะพานน้อย พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทหาร ฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่เข้าร่วมบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด กว่า 300 คน ร่วมพิธีเปิดศูนย์การบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ศาลาหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายนิมิต วงษ์จินดา กล่าวว่ารัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของชาติ ซึ่งอำเภอบางสะพานน้อย เป็นอำเภอเดียวที่เปิดศูนย์การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ตามโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล มีชุดปฏิบัติการช่วยแนะนำการดูแลผู้ที่ติดยาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน ให้การฟื้นฟู โดยใช้กระบวนการชุมชนบำบัดนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งแบบยั่งยืน

พ.ต.อ.ธฤต เรืองเดชา กล่าวว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 7 และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบกับคำสั่งอำเภอบางสะพานน้อย ที่ 423/2566 ลงวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2566 มอบหมายให้ สภ.บางสะพานน้อย ดำเนินโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน เสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจและรับรู้ปัญหาพิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไขและการบำบัดยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของคนในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้เข้มแข็ง ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยมีหน่วยงานบูรณาการในการขับเคลื่อน ดังนี้ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางสะพานน้อย สภ.บางสะพานน้อย สาธารณสุขอำเภอ รพ.บางสะพานน้อย องค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานราชการอื่นๆ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และคณะกรรมการหมู่บ้าน ตำบล.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ลงนามขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาและยกระดับความโปร่งใส

ประจวบฯ ลงนามขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาและยกระดับความโปร่งใส

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการสำหรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปี 2567 มีนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ, นายองครักษ์ ทองนิรมล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด, น.ส.จุฑารัตน์ เหลืองเพิ่มสกุล ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2565 เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 – 2570 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้รับทราบสถานะของตนเองในด้านคุณธรรม ความโปร่งใส และนำไปปรับปรุงพัฒนาตนเองนั้น ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำหนดเป้าหมายให้หน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน ITA ทุกหน่วยงานได้ผลคะแนนการประเมิน 85 คะแนนขึ้นไป จังหวัดประจวบฯ มีหน่วยงานของรัฐที่จะต้องเข้ารับการประเมิน ITA ประกอบด้วยหน่วยงานส่วนภูมิภาคในจังหวัด 33 หน่วยงาน ประเมินในภาพรวมของจังหวัด อำเภอ 5 อำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล 16 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 44 แห่ง รวมทั้งสิ้น 70 หน่วยงาน ปีงบประมาณ 2566 ผลการประเมินในภาพรวมจังหวัดประจวบฯ มีหน่วยงานที่ผ่านการประเมิน จำนวน 57 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 81.43

ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันในการประสานงานและสนับสนุนการดำเนินการขับเคลื่อนการประเมิน ITA ของจังหวัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ครบถ้วน ยกระดับคะแนนการประเมินและหน่วยงานผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนด จังหวัดประจวบฯ จึงได้จัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด กับรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และท้องถิ่นอำเภอ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดประจวบฯ ร่วมเป็นพยาน.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เอสวีแอลกรุ๊ป เปิดตัวโครงการ “รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า” ที่วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน

เอสวีแอลกรุ๊ป เปิดตัวโครงการ “รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า” ที่วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน เป็นประธานเปิดโครงการ “รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า” มีนายอุดม สดใส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลน์ทรานสปอร์ต จำกัด ในนามตัวแทนธุรกิจขนส่งทางบก กลุ่มธุรกิจเอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) และในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่งบางสะพาน, นายชัชวาลย์ อิ่มบัญชร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก เอสวีแอลกรุ๊ป พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาอำเภอบางสะพาน ทีมตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรบางสะพาน รวมถึงผู้นำท้องถิ่น คณะอาจารย์นักศึกษา ร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันและรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อควรระวัง ในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ โดยกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้ คือกลุ่มเยาวชนและชุมชนในพื้นที่บางสะพาน เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในชุมชน มีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 300 คน ณ หอประชุมทองนพรัตน์ วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน จ.ประจวบฯ และจะขยายผลไปอีก 4 โรงเรียน คือโรงเรียนบางสะพานวิทยา, โรงเรียนธนาคารออมสิน, โรงเรียนธงชัยวิทยา และโรงเรียนชัยเกษมวิทยา นอกจากนี้จะมีการเดินสายไปให้ความรู้ในพื้นที่ชุมชนต่อไป

โครงการ “รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า” มีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยรอบด้าน ทั้งภายในองค์กร พนักงาน ลูกค้า และที่สำคัญกลุ่มบุคคลภายนอก เยาวชน ชุมชน ที่ผ่านมาบริษัท ไลน์ทรานสปอร์ต จำกัด ดำเนินงานภายใต้มาตรการความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางและปลายทาง ด้วยกฎระเบียบการเดินรถขนส่งสินค้าของเครือสหวิริยาในเขตพื้นที่ชุมชน เน้นย้ำนโยบายความปลอดภัยมาเป็นอย่างแรก และครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่มีการร่วมช่วยกันดูแลความปลอดภัยของชุมชน รวมถึงร่วมมือกันพัฒนาสิ่งดีๆ สร้างวินัยจราจร ภายใต้ “ขนส่งปลอดภัย ใส่ใจชุมชน”

นายอุดม สดใส กล่าวว่าในนามตัวแทนธุรกิจขนส่งทางบก เอสวีแอลกรุ๊ป และในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่ง เราดำเนินธุรกิจบริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ อยู่ร่วมกับพี่น้องชาวบางสะพาน มากว่า 25 ปี พี่น้องลูกหลานหลายๆ คน ก็ร่วมงานกับบริษัทในเครือต่างๆ ที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญในการส่งเสริมและร่วมพัฒนาระบบการศึกษาในท้องถิ่นให้กับเยาวชนในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงสนับสนุนให้ความร่วมมือกับวิทยาลัยการอาชีพบางสะพานมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายในการดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับการดูแลชุมชน สังคมและพัฒนาพื้นที่อำเภอบางสะพานไปด้วยกัน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุด เกิดความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน สถานศึกษาต่างๆ ภายใต้โครงการ “รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า” ด้วยวัตถุประสงค์รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อควรระวังในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย คือเยาวชนและชุมชนในพื้นที่บางสะพาน พร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องมาตรการความปลอดภัย ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยกฎระเบียบการเดินรถขนส่งสินค้าที่ได้มีการกำหนดไว้.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รพ.กรุงเทพหัวหิน อบรมการช่วยชีวิตให้กำลังสำรองค่ายธนะรัชต์

รพ.กรุงเทพหัวหิน อบรมการช่วยชีวิตให้กำลังสำรองค่ายธนะรัชต์

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน จ.ประจวบฯ จัดโครงการ BDMS อบรมการช่วยชีวิต ให้แก่กำลังพลกว่า 100 นาย ณ สโมสรศูนย์การกำลังสำรอง ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี โดยมีพลตรี นิรินธน์ ปุณโณทก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง (ศสร.) ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี และ นพ.วีระศักดิ์ พงษ์พัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ร่วมพิธีเปิด โดย พล.ต.นิรินธน์ ปุณโณทก ผบ.ศูนย์การกำลังสำรอง กล่าวว่า ศสร.เล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหินจัดกิจกรรมนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่กำลังพล ให้มีความพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต หากพบเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าสามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญกำลังพลที่เข้ารับการอบรมนี้ จะส่งต่อความรู้ในการช่วยชีวิตไปยังผู้อื่น สร้างผู้ที่สามารถช่วยชีวิตคนในสังคมของเราเพิ่มได้อีกด้วย

ด้าน นพ.วีระศักดิ์ พงษ์พัฒนพันธุ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์โครงการนี้ว่าโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ภายใต้การบริหารงานของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) จัดการอบรมนี้เป็นรุ่นที่ 25 เราตั้งเป้าหมายในการอบรมการช่วยชีวิตครั้งนี้ ให้กำลังพล ศสร. ผู้ที่ได้เข้ารับการอบรมมีความรู้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนได้อย่างถูกวิธีก่อนส่งถึงมือแพทย์ การอบรมจะมีทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้น ด้วยการปั๊มหัวใจ (CPR) กับหุ่นฝึกกู้ชีพ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) และการช่วยเหลือผู้ป่วยสำลักอุดกั้นทางเดินหายใจ (Choking) ซึ่งผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับมอบประกาศนียบัตรจาก BDMS ตามแนวคิดที่ว่าแม้ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ หากเรามีองค์ความรู้และมีความมั่นใจ ผ่านการอบรมและฝึกปฏิบัติจริง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน ตีเส้นเตรียมเก็บค่าจอดรถบริเวณตลาดฉัตร์ไชย 15 กุมภาพันธ์นี้

เทศบาลหัวหิน ตีเส้นเตรียมเก็บค่าจอดรถบริเวณตลาดฉัตร์ไชย 15 กุมภาพันธ์นี้

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ นำเจ้าหน้าที่กองช่าง เทศกิจ และ ตำรวจจราจร สภ.หัวหิน ลงพื้นที่ถนนเดชานุชิต ตั้งแต่จุดตัดถนนพระปกเกล้า – ถนนนเพชรเกษม บริเวณปากซอยหัวหิน 72 ซึ่งถนนดังกล่าวอยู่ติดกับตลาดฉัตร์ไชย และเป็นที่ตั้งตลาดโต้รุ่งหัวหิน เพื่อตีเส้นกำหนดพื้นที่จอดรถ หลังเทศบาลเมืองหัวหินออกเทศบัญญัติเก็บค่าจอดรถพื้นที่ถนนดังกล่าวทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่หน้าร้านขายยาจี้อันตึ๊งจนถึงร้านแว่นท๊อปเจริญ ให้เป็นพื้นที่จอดเฉพาะรถจักรยานต์เท่านั้น

ทั้งนี้อัตราค่าธรรมเนียมการจอดรถที่ถนนเดชานุชิตทั้งสองฝั่ง บริเวณตลาดโต้รุ่ง 1 – 2 เริ่มวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. รถยนต์ 4 ล้อ คิดค่าบริการชั่วโมงละ 10 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 20 บาท, รถยนต์ขนาด 6 ล้อ ชั่วโมงละ 20 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 30 บาท, รถยนต์ขนาดตั้งแต่ 8 ล้อขึ้นไป ชั่วโมงแรก 30 บาท ชั่วโมงต่อไป 40 บาท, รถจักรยานยนต์ ชั่วโมงละ 5 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 10 บาท เศษของชั่วโมงให้คิดเป็น 1 ชั่วโมง นอกจากนี้รถยนต์ที่มาจอดเปิดท้ายจำหน่ายสินค้าบนถนนดังกล่าวนั้นจะถูกห้ามขายไปด้วย เพื่อมีพื้นที่จอดรถสำหรับประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในตลาดฉัตร์ไชย ส่วนที่เหลือโดยรอบตลาดนั้นยังให้ใช้วิธีการจอดรถเหมือนปกติที่ผ่านมา.

Categories
กีฬา ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินเตรียมจัดแข่งจักรยานกราเวลทางไกล ลุยเส้นทางธรรมชาติ

หัวหินเตรียมจัดแข่งจักรยานกราเวลทางไกล ลุยเส้นทางธรรมชาติ

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ พร้อมด้วยนายไพศาลสุข สุขเกษม ปลัดอำเภอหัวหิน, นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน, นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ, นายคงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบค์โซน จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันจักรยานกราเวลทางไกล DUSTMAN The Gravel Journey Hua Hin ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 2 มีนาคม 2567 ที่ไร่วนาทิพย์ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมรับฟังที่ห้องบีชคลับ อินดอร์ โรงแรมเบสเวสเทิร์น พลัสคาราเพซ หัวหิน

บริษัท ไบค์โซน จำกัด ได้จัดแข่งขันจักรยานเสือหมอบแนวผจญภัยครั้งแรกของประเทศไทย ในปี 2565 ซึ่งการปั่นจักรยานเสือหมอบแนวผจญภัย หรือเป็นที่รู้จักกันว่า “กราเวล” กำลังเป็นเทรนสุดฮิตอย่างมาก ทั้งในฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรป การปั่นจักรยานประเภทนี้จะนิยมกันปั่นบนถนนที่มีขนาดเล็ก หรือถนนลูกรังที่มีรถยนต์สัญจรไปมาน้อย เพราะมีความปลอดภัยและความเป็นอิสระสูง การแข่งขันจักรยานเสือหมอบแนวผจญภัยจะใช้เวลาระหว่าง 4 – 8 ชั่วโมง ตามทักษะและความแข็งแกร่งของนักกีฬา โดยมากเส้นทางการแข่งขันจะประกอบไปด้วยพื้นดิน 70% และพื้นถนนอีก 30%

ระยะทางการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะทาง 130 กิโลเมตร (ความชันสะสม 1,700 เมตร) ระยะทาง 70 กิโลเมตร (ความชันสะสม 1,000 เมตร) มีรางวัลผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 – 3 ทุกรุ่นอายุ ประเภทชายและหญิงเดี่ยว และรางวัลผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 – 3 ประเภททีม สำหรับผู้ที่ต้องการชิมลางของการปั่นจักรยานกราเวล จะมีระยะทางสนุกๆ 35 กิโลเมตร (ความชันสะสม 300 เมตร) บนเส้นทางลูกผสมที่จะได้ทดลองและเปิดโลกทัศน์ใหม่ ระยะนี้จะไม่เป็นการแข่งขัน แต่เป็นการปั่นท่องเที่ยว ชมวิวทิวทัศน์ ลองเส้นทางกรวด และเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า หัวหินเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยวดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. ในการนำ Soft Power 5 F มาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ตามแนวคิด “ประจวบคีรีขันธ์ เที่ยวได้ 365 วัน” การจัดกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการสื่อสารถึงภาพลักษณ์ของหัวหินอย่างชัดเจน ในการเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแล้ว ที่สำคัญคือการจัดกิจกรรมกีฬาการแข่งขันจักรยานประเภทกราเวล ยังได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักจักรยานทั่วโลก และเป็นที่น่ายินดีว่าเมืองหัวหินได้รับการต้อนรับจากนักจักรยานที่ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้อย่างมากตั้งแต่การจัดครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองจะเป็นการดึงดูดกลุ่มนักกีฬา ครอบครัวและผู้ติดตามให้เดินทางมาเที่ยว ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับสนามการแข่งขันกีฬาจักรยานประเภทกราเวลที่ได้รับการยอมรับจากสากล นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ในอนาคต.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ จัด ‘Hua Hin Yoga Festival 2024’ ชูท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ททท.ประจวบฯ จัด ‘Hua Hin Yoga Festival 2024’ ชูท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานประจวบฯ ร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ, สายการบินไทยแอร์เอเชีย หัวหิน, กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC จังหวัดประจวบฯ, โรงแรมเวอร์โซ หัวหิน – อะ วีรันดา คอลเลคชั่น หัวหิน, โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน, ชัคติ โยคะ และหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม ‘Hua Hin Yoga Festival 2024’ ระหว่างวันที่ 16 – 18 กุมภาพันธ์นี้ ที่บริเวณหาดเขาตะเกียบ หน้าโรงแรมเวอร์โซ หัวหิน – อะ วีรันดา คอลเลคชั่น ชวนนักท่องเที่ยวร่วมทำกิจกรรม Workshop เรียนโยคะกับครูสอนโยคะ ที่นักโยคะรู้จักชื่อเสียงเป็นอย่างดี ซึ่งจะมาถ่ายทอดความรู้แก่นักโยคะในช่วงเย็นของทั้งสามวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกยามเย็น ไม่มีค่าใช้จ่าย มุ่งใช้กิจกรรม Soft Power 5 F การท่องเที่ยวเชิงกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พำนักทำงานในประเทศไทย (Expat) และนักท่องเที่ยวคนไทยกลุ่ม Millennium ที่ชื่นชอบโยคะ โดยเฉพาะกลุ่ม Expat จากกรุงเทพฯ ให้เดินทางมาท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Hua Hin Yoga Festival 2024 ในพื้นที่หัวหิน เน้นการสร้างกระแสการเดินทาง โดยการสื่อสารตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ชัดเจนการท่องเที่ยวหัวหิน ในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของกลุ่ม Expat

โดยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะร่วม Workshop และเรียนโยคะกับครู JIMMY วันที่ 17 กุมภาพันธ์พบกับครูโยคะ SANDEED วันสุดท้าย 18 กุมภาพันธ์ พบกับครู VAN ROMANO ทั้งนี้กิจกรรมโยคะเป็นรูปแบบการออกกำลัง ทั้งร่างกายและการฝึกจิตใจที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่น้อยกว่ากิจกรรมกีฬาหรือรูปแบบการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เนื่องจากโยคะเป็นการออกกำลังกายที่มีความเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย รวมถึงทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งการเล่นโยคะอาจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ ที่สำคัญคือมีส่วนสำคัญในการสร้างการผ่อนคลาย สร้างสมาธิในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้การจัดกิจกรรม Hua Hin Yoga Festival ในปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกลุ่ม Expat จำนวนมาก เนื่องจากเป็นการจัดกิจกรรมโยคะชายหาดที่มีเสน่ห์ของหัวหิน ได้รับการแชร์และการบอกต่อจากนักท่องเที่ยว ททท.สำนักงานประจวบฯ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมกิจกรรม สมัครผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ทางแฟนเพจ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ หรือสมัครหน้างานในวันที่จัดกิจกรรมและรับจำนวนจำกัด.