Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน นำร่องเก็บค่าจอดรถบริเวณตลาดฉัตร์ไชย เพิ่มพื้นที่จอดรถให้กับผู้มาใช้บริการ

เทศบาลหัวหิน นำร่องเก็บค่าจอดรถบริเวณตลาดฉัตร์ไชย เพิ่มพื้นที่จอดรถให้กับผู้มาใช้บริการ

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าเทศบาลเมืองหัวหินได้เรียกประชุมผู้ประกอบการค้าตลาดโต้รุ่ง และพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดฉัตร์ไชย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ในการจัดระเบียบพื้นที่จำหน่ายสินค้าและการพัฒนาตลาดให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการจัดระเบียบการจราจรโดยรอบตลาดฉัตร์ไชย ตามระเบียบเทศบัญญัติเทศบาลเมืองหัวหิน พ.ศ. 2566 โดยกำหนดให้บริเวณถนนเดชานุชิต ตั้งแต่จุดตัดถนนพระปกเกล้า – ถนนนเพชรเกษม บริเวณปากซอยหัวหิน 72 ทั้งสองฝั่ง เป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งถนนดังกล่าวอยู่ติดกับตลาดฉัตร์ไชย และเป็นที่ตั้งตลาดโต้รุ่งหัวหิน

นายนพพร วุฒิกุล กล่าวถึงเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมค่าการจอดรถบริเวณถนนเดชานุชิต (ตลาดโต้รุ่ง) สาเหตุเกิดจากพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าของอาคารพาณิชย์บ่นเรื่องขายของไม่ค่อยดี เพราะไม่มีที่จอดรถ บางคันจอดทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง แถมช่วงระยะเวลาที่ขายของก็สั้น เช้าถึงเที่ยงตลาดก็วายแล้ว เทศบาลพยายามแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้ามาโดยตลอด ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบที่จะจัดเก็บเงินค่าจอดรถ เพื่อที่จะให้ประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาตลาดได้หมุนเวียนในการจอดรถให้ได้มากที่สุด โดยจะนำร่องเก็บค่าธรรมเนียมการจอดรถที่ถนนเดชานุชิตทั้งสองฝั่ง บริเวณตลาดโต้รุ่ง 1 – 2 เท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 15.30 น. รถยนต์ 4 ล้อ คิดค่าบริการชั่วโมงละ 10 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 20 บาท, รถยนต์ 6 ล้อ ชั่วโมงละ 20 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 30 บาท, รถจักรยานยนต์ ชั่วโมงละ 5 บาทต่อหนึ่งคัน ชั่วโมงต่อไป 10 บาท รถยนต์ที่มาจอดเปิดท้ายขายสินค้าบนถนนดังกล่าวนั้น ก็จะถูกห้ามขายไปด้วย ส่วนที่เหลือโดยรอบตลาดนั้น ยังให้ใช้วิธีการจอดรถเหมือนปกติที่ผ่านมา จึงขอประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถได้รับทราบและขอความร่วมมือจากพ่อค้าแม่ค้า ว่าถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้นำรถมาจอดบริเวณนี้ เทศบาลไม่ได้อยากได้เงินจากพ่อค้าแม่ค้าจากส่วนนี้ เพราะเงินที่เก็บก็ไม่ได้เป็นจำนวนมาก แต่ต้องการที่จะให้ประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าได้มีพื้นที่จอดรถมากกว่า.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

มูลนิธิเวชดุสิตฯ และ รพ.กรุงเทพหัวหิน ปรับปรุงห้องพยาบาล พร้อมยาและเวชภัณฑ์ให้กับ ให้โรงเรียนที่ห่างไกล

มูลนิธิเวชดุสิตฯ และ รพ.กรุงเทพหัวหิน ปรับปรุงห้องพยาบาล พร้อมยาและเวชภัณฑ์ให้กับ ให้โรงเรียนที่ห่างไกล

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 มูลนิธิเวชดุสิต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ได้ไปปรับปรุงห้องพยาบาล พร้อมยาและเวชภัณฑ์ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสุขภาพที่ดี ในพื้นที่ห่างไกลให้กับโรงเรียนบ้านเนินพยอม และโรงเรียนบ้านเนินพยอม สาขาบึงนคร โดย นพ.วีระศักดิ์ พงษ์พัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีส่งมอบการปรับปรุงห้องปฐมพยาบาลโรงเรียนบ้านเนินพยอม ทั้งสองแห่ง โดยมี น.ส.ภรณ์ชนก ชัยหา รักษาการ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเนินพยอม เป็นผู้รับมอบ

โรงเรียนบ้านเนินพยอม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 มีห้องปฐมพยาบาลที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ได้ชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ควรได้รับการปรับปรุง ส่วนที่โรงเรียนบ้านเนินพยอม สาขาบึงนคร ไม่มีห้องพยาบาลไว้ให้บริการ จึงได้กั้นพื้นที่ของอาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียน เพื่อให้มีพื้นที่ในการดูแลปฐมพยาบาลแก่นักเรียนที่เจ็บป่วยอย่างเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งโครงการปรับปรุงห้องปฐมพยาบาลของโรงเรียนทั้งสองแห่ง ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเวชดุสิตฯ และโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน เพื่อส่งเสริมการบริการด้านสุขภาพที่เหมาะสมและมีคุณภาพให้กับนักเรียน ตลอดจนคุณครู และบุคลากรในโรงเรียนบ้านเนินพยอมต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดเวทีบันทึกความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการปี 2567 เสริมชุมชนท้องถิ่น

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดเวทีบันทึกความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการปี 2567 เสริมชุมชนท้องถิ่น

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานและกล่าวให้กำลังใจผู้เข้าร่วมเวทีบันทึกความร่วมมือ ระหว่างขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดประจวบฯ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการขับเคลื่อนงาน ปี 2567 และเพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการสมทบงบประมาณกองทุนสวัสดิการชุมชน มีนายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานคณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชน จ.ประจวบฯ กล่าวต้อนรับ และมีนางนิธิมา เงินสุวรรณ คณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัด กล่าวรายงาน มีนางสุพัตรา ไพฑูรย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) นายศุภสิทธิ์ ศรีสว่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานภาคกลางและตะวันตก พอช. นายพิรุณ กองแปง หัวหน้างานปฏิบัติการชุมชน กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 พอช. เจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน คณะประสานงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดฯ ผู้นำและตัวแทนสภาองค์กรชุมชนตำบลในแต่ละพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ เข้าร่วมที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายองครักษ์ ทองนิรมล กล่าวว่า ตามที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน สนับสนุนงบประมาณขับเคลื่อนงานให้แก่องค์กรชุมชนประจำปี 2567 โครงการบ้านพอเพียงชนบท 40 ตำบล โครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้พี่น้องประชาชน ผ่านการสนับสนุน ประกอบกับการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อเติมเต็มศักดิ์ศรีและรักษาประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขอขอบคุณคณะทำงาน พี่น้องเครือข่ายและขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดประจวบฯ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่อุทิศตนและเสียสละกำลังกาย กำลังใจในการขับเคลื่อนงานแก้ไข และพัฒนาชุมชนท้องถิ่นร่วมกัน

นางนิธิมา เงินสุวรรณ เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดฯ กล่าวว่า ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดประจวบฯ เป็นองค์กรภาคประชาชนที่ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในจังหวัด ผ่านกลไกและเครื่องมือการทำงานต่างๆ ได้แก่ สภาองค์กรชุมชน กองทุนสวัสดิการชุมชน รวมถึงเครือข่ายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบท มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาคชุมชน ภาครัฐและเอกชน ในปี 2566 ที่ผ่านมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จำนวน 7 โครงการ งบประมาณรวม 9,399,864 บาท ประกอบด้วย 1. โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถขบวนองค์กรชุมชนจังหวัด 199,432 บาท
2. โครงการสนับสนุนกองทุนสวัสดิการชุมชนจังหวัดประจวบฯ 1,645,966 บาท 3. โครงการป้องกันและต่อต้านการทุจริตโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชนและองค์กรชุมชนจังหวัดฯ 50,000 บาท 4. โครงการสนับสนุนบ้านพอเพียงจังหวัดฯ งบประมาณ 286,000 บาท 5. โครงการบ้านพอเพียงชนบทตำบล จำนวน 35 ตำบล 11,809.000 บาท
6.โครงการป้องกันและต่อต้านการทุจริตโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชนและองค์กรชุมชนตำบล 24 ตำบล 587,280 บาท 7. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบท 4 ตำบล 184,000 บาท.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

อบต.อ่างทอง จัดตลาดนัดท้องถิ่นสีเขียว ส่งเสริมรายได้ชุมชน

อบต.อ่างทอง จัดตลาดนัดท้องถิ่นสีเขียว ส่งเสริมรายได้ชุมชน

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายบังเอิญ พึ่งโพธิ์ทอง นายก อบต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายธานินธ์ บุญนี ปลัด อบต.อ่างทอง น.ส.ภัณฑ์ธิมา รังสิกุล รองปลัด อบต.อ่างทอง น.ส.ทิพวรรณ ปัญญาหาญ หัวหน้าสำนักปลัด นายอภินัทธ์ นิลสุข นักวิชาการสาธารณสุข รักษาการแทนผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พร้อมข้าราชการ พนักงาน อบต.อ่างทอง ร่วมกิจกรรมรณรงค์ตลาดนัดท้องถิ่นสีเขียว (Green market) เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด การจำหน่าย และการสร้างรายได้แก่ชุมชน

ทั้งนี้กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.อ่างทอง จัดกิจกรรมรณรงค์ตลาดนัดท้องถิ่นสีเขียว (Green maket) โดยรณรงค์เชิญชวนให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย ใช้ถุงผ้าและบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ เพื่อลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้ อบต.อ่างทอง ยังมีโครงการเกี่ยวกับจังหวัดสะอาดอีกด้วย คือ ธนาคารขยะ โดยนำขยะรีไซเคิลมาฝากไว้กับอบต.อ่างทอง สำหรับขยะที่รับ ได้แก่ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ขวดเบียร์ ขวดเหล้า กระป๋อง กระดาษสี กระดาษขาวดำ กระดาษลัง และขยะอื่นๆ ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ ในการฝากขยะนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเงิน เหมือนเป็นการออมเงินไปในตัวอีกทางหนึ่ง โดยรับซื้อราคาเท่ากับท้องตลาดทั่วไป แต่ถ้าต้องการเงิน ก็สามารถถอนออกได้เลย หรือต้องการฝากไว้ก่อน พอครบปีจะมีดอกเบี้ยให้ด้วย ส่วนจุดที่รับฝากธนาคารขยะ ที่หอประชุมของหมู่บ้าน สำหรับพี่น้องชาวตำบลอ่างทองท่านใดสนใจอยากร่วมธนาคารขยะ สามารถติดต่อมาที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.อ่างทอง ตามวันและเวลาราชการ หรือที่ สมาชิก อบต.อ่างทอง ในหมู่บ้านของท่าน.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสยากไร้ทางสังคม

เทศบาลสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสยากไร้ทางสังคม

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางวรรณา ศรีจุฬางกูล รองนายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ นางรัชนีวรรณ พรมเล็ก ปลัดเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคมเทศบาลเมืองประจวบฯ พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ทั้ง 15 ชุมชน พร้อมกับมอบถุงบรรเทาภาระค่าครองชีพ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และไข่ไก่ เป็นต้น

นายกมล แก้วเทศ กล่าวว่า คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคม ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพบปะพูดคุยและสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคมว่ามีชีวิตความเป็นอยู่เป็นเช่นไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง จะได้ให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ พร้อมมอบถุงยังชีพให้คนแก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ ทั้ง 15 ชุมชนๆ ละ 5 ครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นอีกด้วย

นอกจากนี้ ในการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านในครั้งนี้เป็นการสำรวจพื้นที่ควบคู่ไปในตัวด้วย เพื่อตรวจดูว่าระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น ระบบระบายน้ำ ถนนหนทางเป็นเช่นไร ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ให้ได้มากที่สุด หากเรื่องไหนที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ ก็จะเข้าดำเนินการแก้ไขให้กับชาวบ้านทันที แต่ถ้าเรื่องไหนที่ต้องแก้ไขโดยใช้เงินงบประมาณ ก็ต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ ขอให้ชาวบ้านอดใจรอ ขณะนี้เทศบาลได้ทำโครงการเสนอของบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมืองไปแล้วประมาณ 20 โครงการ เพื่อที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขบรรเทาปัญหาและความเดือดร้อนให้ชุมชนเขตเทศบาลทั้ง 15 ชุมชน ให้ได้มากที่สุด.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

วนอุทยานห้วยน้ำซับ ชวนชม “ปอคาวร้อยปี” ออกดอกปีละครั้ง

วนอุทยานห้วยน้ำซับ ชวนชม “ปอคาวร้อยปี” ออกดอกปีละครั้ง

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.วราภรณ์ ไชยสมุทร หัวหน้าวนอุทยานห้วยน้ำซับ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าวนอุทยานห้วยน้ำซับ จัดกิจกรรม “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม ชมความงามดอกกาสะลอง” ประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลา 15 ปี ของชุมชนบ้านสายเพชร ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลชมดอกปอคาวร้อยปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าดอกกาสะลอง ที่ออกดอกสีแดงส้มทั่วทั้งยอดเขาปู่ด่าง ให้ชมเพียงปีละครั้ง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวย่างเข้าสู่ฤดูร้อน บนยอดเขาปู่ด่าง ซึ่งเป็นเขาหินปูนในวนอุทยานห้วยน้ำซับ ซึ่งมีต้นปอคาว หรือ “กาสะลองคำ” หลายร้อยต้น พร้อมใจกันเริ่มผลัดใบออกดอกสีส้มอมแดง เป็นช่อแยกที่ปลายกิ่งและง่ามใบ ช่อดอกยาว 5 – 12 เซนติเมตร ปลายกลีบดอกแยกเป็น 5 แฉก อวดโฉมความงดงามบานสะพรั่งไปทั่วทั้งยอดเขาปู่ด่าง ซึ่งต้นปอคาวจัดเป็นพันธุ์ไม้โบราณ ปัจจุบันเป็นต้นที่หาชมได้ยากอีกชนิดหนึ่งในประเทศไทย ยังพบเห็นได้ตามยอดเขาหินปูนในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป ซึ่งวนอุทยานห้วยน้ำซับเป็นสถานที่ชมดอกปอดาว (ดอกกาสะลอง) แห่งเดียวในจังหวัดประจวบฯ

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. นอกจากขึ้นเขาเพื่อตามหาดอกปอคาวร้อยปีแล้ว ยังมีกิจกรรมเผาข้าวหลามโดยชาวบ้านในชุมชนจะร่วมใจกันนำมะพร้าว นำข้าวเหนียวมาทำเป็นข้าวหลาม แจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวและแบ่งกันกลับบ้านไปรับประทาน สร้างความสมัครสมานสามัคคีภายในหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ยังคงเอกลักษณ์และวิถีชุมชน เปรียบเสมือนการเปิดฤดูกาลขึ้นเขาปู่ด่าง เพื่อชมดอกปอคาวอายุร้อยปี ที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ ฟรี ! ตลอดงาน เป็นกิจกรรมเปิดการท่องเที่ยวที่อิ่มความสุขและอิ่มท้อง สำหรับผู้ที่สนใจจะขึ้นชมดอกปอคาว หรือดอกกาสะลอง และเข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊ก วนอุทยานห้วยน้ำซับ หรือติดต่อสอบถามได้ที่โทร. 087 – 4030757 หัวหน้าวนอุทยานห้วยน้ำซับ โดยวนอุทยานฯ จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจจะขึ้นชม สามารถมองเห็นธรรมชาติและทัศนียภาพของอำเภอบางสะพาน ได้ 360 องศา

วนอุทยานห้วยน้ำซับ ประกาศจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2549 ครอบคลุมเนื้อที่ 2,705 ไร่ ในพื้นที่ ต.ทองมงคล และ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประจวบฯ ประมาณ 90 กิโลเมตร มีต้นปอคาว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “กาสะลองคำ” เป็นไม้โขดหรือไม้โบราณ มีอายุประมาณ 100 ปี ซึ่งมีอยู่จำนวนหลายร้อยต้นภายในวนอุทยานนี้ สามารถทนแล้งได้ดี ขึ้นอยู่ตามยอดเขาหินปูน จะออกดอกให้ชมเพียงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหิน นำภาคเอกชนนั่งรถประชาสัมพันธ์งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26

นายอำเภอหัวหิน นำภาคเอกชนนั่งรถประชาสัมพันธ์งานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 พร้อมด้วยนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก หลังการแถลงข่าวแล้ว นายอำเภอหัวหินได้นำนักธุรกิจภาคเอกชนต่างๆ นั่งรถ 4 ล้อเล็กเกือบ 20 คัน ออกประชาสัมพันธ์งานดังกล่าวไปรอบๆเมืองหัวหินด้วย

นายพลกฤต พวงวลัยสิน กล่าวว่า อำเภอหัวหินร่วมกับสำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน กำหนดจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 ประจำปี 2567 เพื่อจัดหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในกิจการบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสและกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ในเขตอำเภอหัวหินและใกล้เคียง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้การสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” รวมถึงการให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค (ถุงยังชีพ) อุปกรณ์เครื่องครัว ที่นอนหมอนมุ้ง ยารักษาโรค การซ่อมสร้างบ้านพักอาศัยผู้ยากไร้ การช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง มอบรถวีลแชร์ เป็นต้น

ด้านนางอุษา พวงวลัยสิน กล่าวว่างานกาชาดและของดีอำเภอหัวหินจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 26 แล้ว ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2567 บริเวณลานกิจกรรม 25 ไร่ ซอยหัวหิน 102 หลังศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ภายในงานมีการออกร้านมัจฉากาชาดเพื่อการกุศล ร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถจักรยานยนต์ 2 คัน รถจักรยาน 200 คัน สร้อยคำทองคำ ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้าออกรางวัลทุกคืน และรางวัลต่างๆ มากมายในราคาบัตรใบละ 20 บาท ตั้งแต่เวลา 17.30 – 23.00 น. พบกับการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีของฝากหัวหิน การจำหน่ายสินค้าราคาถูก เครื่องอุปโภคบริโภค เฟอร์นิเจอร์ ไม้ดอก – ไม้ประดับ บูธอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นถิ่น อาหารทะเลสด สะอาด อร่อย บูธนิทรรศการของหน่วยงานราชการ การแสดงของนักเรียน ลีลาศการกุศล พบกับสวนสนุกเคลื่อนที่กับเครื่องเล่นทันสมัย และคอนเสิร์ตศิลปินนักร้องชั้นนำ อาทิ มนต์แคน แก่นคูน, เนสกาแฟ ศรีนคร, เฟิร์ส หนูเป็นคนไทย, แนนซี่ ท๊อปไลน์, วุฒิ ป่าบอน, โชครถแห่, วงดนตรี Back Stage on Tour, รำวงคณะ มังคุดเพชร และวงดังอีกหลายคณะทุกค่ำคืนตลอดจัดงาน พร้อมกับกำหนดจัดงานวันรวมน้ำใจให้กิ่งกาชาดหัวหิน ในวันวาเลนไทน์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ที่สำนักงานกิ่งกาชาดหัวหิน เพื่อรวบรวมสิ่งของและเงินสนับสนุนจากผู้มีจิตสาธารณกุศล นำไปเป็นของรางวัลในการออกร้านมัจฉากาดต่อไป จึงขอเชิญชาวหัวหินและใกล้เคียง ร่วมเที่ยวงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหิน ครั้งที่ 26 ได้ตามวันดังกล่าว “เราช่วยกาชาด กาชาดช่วยเรา” เงินรายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ของกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

สมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ เลือกหัวหินจัดแข่งเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2024 ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย สนามที่ 1

สมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ เลือกหัวหินจัดแข่งเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2024 ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย สนามที่ 1

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานประชุมเตรียมจัดการแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์แห่งประเทศไทย “วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ 2024 (WaterJet PrpTour 2024)” สนามที่ 1 มีนายวิรัตน์ ทองใบเพชร อุปนายกสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ นายสิทธิชัย สืบสหการ กรรมการการบริหารสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ คณะผู้บริหารเทศบาลฯ ททท.สำนักงานประจวบฯ มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมฯ ณ ห้องนเรศดำริห์ สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน

ด้วยสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี กำหนดจัดแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์แห่งประเทศไทยประจำปี 2564 ขึ้น เพื่อเก็บคะแนนต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 4 สนาม และกำหนดให้เมืองหัวหินเป็นสนามจัดแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์แห่งประเทศไทย สนามที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน บริเวณหาดหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน ในระหว่างวันที่ 6 – 7 เมษายนนี้ โดยในที่ประชุมเป็นการหารือพิจารณาพื้นที่ความเหมาะสมของการจัดงาน และขอความอนุเคราะห์ภาคีเครือข่ายในการร่วมกันจัดงานพร้อมประชาสัมพันธ์การแข่งขันให้ประชาชนได้ทราบต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ พร้อมรับมือภัยแล้ง หลังคาดการณ์ปีนี้หลายพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรง

ประจวบฯ พร้อมรับมือภัยแล้ง หลังคาดการณ์ปีนี้หลายพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรง

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงในหลายพื้นที่ เนื่องจากปีที่แล้วปริมาณฝนตกสะสมตลอดทั้งปี น้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ถึงร้อยละ 50 ทำให้แหล่งน้ำต้นทุนมีปริมาณน้อย ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 9 อ่างของจังหวัดประจวบฯ มีปริมาณน้ำรวมกันเพียง 175 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 35 ของความจุอ่าง น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่มีปริมาณน้ำร้อยละ 60 ทำให้ขณะนี้โครงการชลประทานจังหวัดฯ จำเป็นต้องงดการส่งน้ำเพื่อการเกษตร และพยายามบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก เพื่อรอจนถึงช่วงฤดูฝนให้มีน้ำเพิ่มในอ่าง ขณะที่จังหวัดได้เตรียมความพร้อมรับมือภัยปัญหาแล้งอย่างเต็มที่ มีการวางแผนนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกพื้นที่รับทราบสถานการณ์น้ำ เพื่อร่วมกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะเกษตรกร ขอให้วางแผนการใช้น้ำให้ดีเพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหาย ส่วนพื้นที่อำเภอบางสะพานและบางสะพานน้อย ที่ไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขณะนี้ได้มีการสำรวจแหล่งน้ำสำรองไว้แล้ว เพื่อให้การประปาส่วนภูมิภาคนำชุดผลิตน้ำประปาฉุกเฉินไปติดตั้ง ผลิตน้ำประปาส่งเข้าสู่ระบบ ท่อจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนกรณีที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด พร้อมกันนี้ ได้ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรอีกทางหนึ่ง เพื่อขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนเทียมทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและปริมาณน้ำฝนทั้ง 9 แห่งในจังหวัดประจวบฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ดังนี้
1. เขื่อนปราณบุรี อ.ปราณบุรี ความจุเขื่อน 391,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในเขื่อน 144,696 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 37.01 %
2. อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม อ.หัวหิน ความจุอ่าง 9,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 2,085 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 21.95 %
3. อ่างเก็บน้ำห้วยมงคล อ.หัวหิน ความจุอ่าง 5,850 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 1,006 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 7.20 %
4. อ่างเก็บน้ำยางชุม อ.กุยบุรี ความจุอ่าง 41,100 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 12,770 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 31.07 %
5. อ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น อ.กุยบุรี ความจุอ่าง 11,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 4,075 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 35.75 %
6. อ่างเก็บน้ำคลองบึง อ.เมืองฯ ความจุอ่าง 22,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 5,306 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 23.90 %
7. อ่างเก็บน้ำห้วยอ่างหิน อ.เมืองฯ ความจุอ่าง 2,800 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 1,009 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 36.04 %
8. อ่างเก็บน้ำคลองช่องลม อ.ทับสะแก ความจุอ่าง ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 843 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 15.33 %
9. อ่างเก็บน้ำคลองจะกระ อ.ทับสะแก ความจุอ่าง 10,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง 1.478 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 14.21 %
จะเห็นได้ว่าเขื่อนปราณบุรี, อ่างเก็บน้ำยางชุม, อ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น และอ่างเก็บน้ำห้วยอ่างหิน ยังมีปริมาณน้ำพอใช้ ส่วน อำเภอหัวหิน 2 แห่ง อำเภอเมืองฯ 1 แห่ง และอำเภอทับสะแก 2 แห่ง ปริมาณน้ำมีน้อย ถือว่าเป็นความเสี่ยง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดมุมมองใหม่ สายมู สายแคมป์ปิ้ง ต้องไม่พลาด

เปิดมุมมองใหม่ สายมู สายแคมป์ปิ้ง ต้องไม่พลาด

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ตรุษจีนปีนี้ไม่รู้จะไปไหน อยากเชิญชวนมาเปิดมุมมองใหม่ สายมู สายแคมป์ปิ้ง ต้องไม่พลาด ไหว้พระพุทธสีไสยาสน์ (พระนอน) ขนาดใหญ่ มนัสการหลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ ชมถ้ำจำลองเสมือนจริง ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบภูเขา ในทริปเดียวกัน นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนตั้งแคมป์ปิ้งริมอ่างเก็บน้ำเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติได้

วัดห้วยพลับวนาราม ตั้งอยู่ในหมู่ 5 บ้านห้วยพลับ หุบกะปิ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯคีรีขันธ์ ตั้งอยู่กลางป่า มีหุบเขาล้อมรอบ บรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามลมพัดเย็นสบาย ยิ่งยามเย็น บรรยากาศดีมากๆ เดิมสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและที่พักของพระสงฆ์ ขึ้นอยู่กับวัดเขาเต่า แต่ถูกผลกระทบจากโรคโควิด – 19 ทำให้ไม่มีการทำกิจกรรมใดๆ เลย มีเพียงผู้ใหญ่บ้านและประชาชนที่เข้ามาร่วมดูแล จึงเล็งเห็นว่าน่าจะปรับปรุงให้เป็นจุดชมวิวและท่องเที่ยวในเขตอำเภอปราณบุรี เพราะมีความเป็นธรรมชาติ สามารถมาปั่นจักรยาน วิ่ง หรือเดินเล่น มาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด

เมื่อเข้ามาในวัดจะพบกับองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ เอนพระวรกายตะแคงขวา แบบสีหไสยาสน์ หรือเรียกตามชาวบ้านว่า “พระนอน” ทอดกายไปตามเทือกเขา มองจากระยะไกลจะงดงามสะดุดตา ยาวประมาณ 40 เมตร และภายใต้ฐานพระนอน มีการจำลองเป็นถ้ำขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 ห้อง ภายในตรงกลางถ้ำ ประดิษฐานพระพุทธรูป ไว้ให้ประชาชนที่มาได้กราบไหว้ขอพร และเมื่อมองขึ้นไปบนเพดานและผนังถ้ำ จะมีหินงอกหินย้อย สร้างไว้เหมือนธรรมชาติ เปล่งแสงเสมือนจริง ด้านขวาถ้ำมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เป็นพระบรมรูปทรงยืน สง่างามเคียงข้างกับพระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ท่าประทับนั่ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

ถ้ำด้านซ้ายมีโครงกระดูกมนุษย์ตั้งไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติแก่สาธุชนทั้งหลาย ว่าคนเราเกิดมาก็ต้องตายไป ไม่มีใครนำข้าวของหรือทรัพย์สมบัติติดตัวไปได้ซักคน ส่วนด้านหลังจะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีรูปปั้นพระสงฆ์ในอริยาบถต่างๆ ตั้งอยู่โดยรอบ
เมื่อเดินมาทางขวา จะมีหลวงปู่ทวด ความสูงประมาณ 9 เมตร มีลานปูนกว้างอากาศเย็นสบาย สามารถชื่นชมทิวทัศน์ได้แบบ 180 องศา

ส่วนนักท่องเที่ยวสายแค้มป์ปิ้ง สามารถมาพักกางเต็นท์ นอนได้บริเวณรอบๆ อ่างเก็บน้ำ มีป่าเขาล้อมรอบ จุดนี้สามารถมองเห็นวัดห้วยพลับได้ในระยะไกล การมากางเต็นท์ค้างแรมไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะจะมีอาสาสมัครของหมู่บ้านมาคอยดูแลให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนได้อย่างสบายใจ

นายสมพร ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านห้วยพลับ กล่าวว่า ปี พ.ศ.2552 มีหลวงพ่อวัดถ้ำเขาเต่า มาสร้างเป็นที่พักสงฆ์และที่ปฏิบัติธรรม ให้ชื่อว่าสำนักสงฆ์ห้วยพลับวนาราม (หุบกะปิ) ที่เรียกว่าหุบกะปิ ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันมานานแล้ว เพราะมีต้นไม้ชื่อว่าต้นกะปิ ดอกสีขาวอมม่วง จะออกดอกในช่วงหน้าหนาว เห็นได้ในปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม

การเดินทางมาที่วัดนี้อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม เข้าทางสามแยกเขื่อนปราณ ถึงอ่างหุบกะปิ 11 กิโลเมตร สังเกตป้าย อบต.หนองตาแต้ม มีป้ายบอกทางไปอ่างเก็บน้ำ ชมพระนอน นมัสการหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ซึ่งบรรยากาศตลอดสองข้างทาง ผ่านหมู่บ้าน เทือกสวนไร่นาที่ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ มีคลองชลประทานน้ำไหลผ่านหน้าหมู่บ้าน และมีสะพานเหลืองเป็นสัญลักษณ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นายสมพร ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านห้วยพลับ โทร.092 – 8936251.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน