Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรีรวบต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บริเวณช่องหัวเขาสิบศพ

อุทยานกุยบุรีรวบต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บริเวณช่องหัวเขาสิบศพ

วันที่ 5 เมษายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กร.3 (ด่านสิงขร) ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ได้ 12 ราย ที่บริเวณด่านช่องทางธรรมชาติ เขาช่องสิบศพ หมู่ 3 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก และ ตชด.146 ค่ายพระมงกุฎฯ ได้ร่วมกันลาดตระเวนเข้มข้น และดักซุ่มเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางป่าไม้ และเฝ้าระวังไฟป่า ในพื้นที่อุทยานฯ บริเวณช่องทางธรรมชาติดังกล่าว

ซึ่งระหว่างการลาดตระเวนและเฝ้าระวังไฟป่านั้น เวลาประมาณ 09.40 น. ของวันที่ 5 เมษายน บริเวณพื้นที่ หมู่ 3 บ้านหนองขาม ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบฯ ได้ยินเสียงเดินเท้าของบุคคลต้องสงสัย จึงทำการดักซุ่มจนสามารถจับกุมตัวได้ เป็นชาวเมียนมา ชาย 5 คน หญิง 6 คนและเป็นเด็กชาย 1 คน รวม 12 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำตัวชาวเมียนมาทั้ง 12 คน ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ลงพื้นที่อำเภอทับสะแก รับฟังปัญหาของชาวบ้าน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ลงพื้นที่อำเภอทับสะแก รับฟังปัญหาของชาวบ้าน

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด นายวิโรจน์ ชูแก้ว จ่าจังหวัด รับฟังบรรยายสรุปจากนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก ด้านข้อมูลต่างๆ ของอำเภอ ด้านปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งหาดทับสะแก ปัญหาเรื่องภัยแล้ง ปัญหาศัตรูมะพร้าว ที่ห้องประชุม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนลงพื้นที่จริง

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ไปบ้านเลขที่ 310/23 หมู่ 10 ต.ทับสะแก เข้าเยี่ยมและสอบถามความเป็นอยู่ของ น.ส.อาภัสรา หลักทรัพย์ นักศึกษาชั้น ม.3 โรงเรียนทับสะแกวิทยา ที่ได้ทำเรื่องขอทุนการศึกษาจากมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ทุน มทศ.) โดยสอบถามความเป็นอยู่ เรื่องครอบครัว และผลการเรียนต่างๆ พร้อมนำเข้าคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดต่อไป

จากนั้นเดินทางไปยังชายทะเลทับสะแก เพื่อดูปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทับสะแก พร้อมสอบถามผู้บริหารท้องถิ่นและชาวบ้านที่เดือดร้อน โดยตอบกันเป็นเสียงเดียวว่าปัญหาการที่คลื่นกัดเซาะชายหาด เข้าที่ชาวบ้าน ทำให้ที่ชาวบ้านสูญหายไปกับคลื่นทะเล เกิดจากสาเหตุการสร้างช่วงหัวเขื่อนที่ผิด แต่กรมเจ้าท่าอ้างว่าไม่มีผลกระทบ และเคยส่งหนังสือให้ อบต.แล้ว แต่นายก อบต.ทับสะแก ยังไม่เคยเห็นหนังสือฉบับดังกล่าว ด้านโยธาธิการผังเมืองประจวบฯ บอกตอนนี้การก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่น ถูกสั่งหยุดโครงการหมดทั่วประเทศ ด้านการทำวิจัยผลกระทบฯ หรือ EIA นั้น การดำเนินการประมาณปี พ.ศ.2569 ทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้ให้กรมเจ้าท่า ตามหนังสือที่เคยออกวนให้หน่วยงานมาตรวจดูอีกครั้ง เพื่อดูรายละเอียดและจะได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไป

จากนั้นคณะผู้ว่าราชการจังหวัด ไปที่วัดอ่างสุวรรณ (วัดหนองหอย) เข้ากราบนมัสการพระครูผาสุกวิหารการ เจ้าคณะอำเภอทับสะแก เจ้าอาวาสวัดหนองหอย เพื่อหารือโครงการนมไข่เพื่อสตรีตั้งครรภ์ และรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ในพื้นที่ เสร็จแล้วเดินทางไปยังฝายแก้มลิง ห้วยยางแพรกขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีความจุของอ่าง 100,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้ประสบภัยแล้งอย่างหนัก น้ำแห้งจนสะดืออ่างโผล่พ้นน้ำ ซึ่งอ่างน้ำนี้ส่งไปให้ชาวบ้านใช้นับพันครัวเรือน ทั้งนี้นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง ได้จ้างรถเอกชน รวมถึงรถน้ำของ อบต.ห้วยยาง กว่า 10 คัน วิ่งนำน้ำไปบรรจุใส่ในหอถังประปาหมู่บ้าน วันละประมาณ 300,000 ลิตร เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ไม่ให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ซึ่ง อบต.จะเป็นผู้ออกค่าไฟฟ้าในการจ่ายน้ำให้ชาวบ้านและไม่ให้เก็บค่าน้ำชาวบ้าน ซึ่ง อบต.ห้วยยาง บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านจนกว่าจะพ้นวิกฤติภัยแล้ง โดยดำเนินการมากว่า 3 อาทิตย์แล้ว.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เทศบาลเมืองประจวบฯ จัดงานสงกรานต์ไร้แอลกอฮอล์ สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย

เทศบาลเมืองประจวบฯ จัดงานสงกรานต์ไร้แอลกอฮอล์ สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย

วันที่ 5 เมษายน 2567 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัด นายธนวัฒน์ เรืองเดช รักษาการหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ นายวันชัย เหี้ยมหาญ ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จ.ประจวบฯ พ.ต.ต.เชษฐ์ จำปาหอม สารวัตรชุมชนสัมพันธ์ สภ.เมืองประจวบฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่อ “สงกรานต์ถนนเลียบชายทะเล ไร้แอลกอฮอล์” ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมรับฟัง พร้อมชมการแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

นายกมล แก้วเทศ กล่าวว่า เทศบาลเมืองประจวบฯ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริม สืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงามของชาติ ส่งเสริมและสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญตักบาตรและสนุกสนานรื่นเริงตามประเพณีท้องถิ่น อันจะก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะ กระตุ้นให้เด็กเยาวชนและประชาชนได้เห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น และสนุกสนานรื่นเริงในเทศกาลสงกรานต์อย่างมีสติ ปราศจากแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชนชาวประจวบฯ แต่งชุดไทยทำบุญตักบาตรพร้อมกัน ณ สะพานสราญวิถี ชมขบวนแห่นางสงกรานต์ และเล่นสาดน้ำร่วมกันที่ถนนเลียบชายทะเล ในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายน นี้

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมมหาสงกรานต์ที่เทศบาลเมืองประจวบฯ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดขึ้นในปีนี้ จึงเป็นการขับเคลื่อนคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีของพี่น้องประชาชนคนไทยและชาวจังหวัดประจวบฯ เป็นการสร้างเสน่ห์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สื่อให้ประชาชนรับทราบถึงพื้นที่อัตลักษณ์สำคัญของอำเภอเมืองประจวบฯ และส่งเสริมให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเก่าแก่ของชุมชนและวิถีชีวิตของประชาชนชาวประจวบฯ ที่มีความเรียบง่าย มีวัฒนธรรมประเพณีที่ยึดโยงกับพุทธศาสนา ที่สำคัญจุดขายทางการท่องเที่ยวของพื้นที่อำเภอเมืองฯ คือความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ความเรียบง่าย ความสงบ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ททท.ประจวบฯ จึงขอชวนพี่น้องประชาชนมาเที่ยวงานสงกรานต์ไร้แอลกอฮอล์ สุขทันทีที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

บางสะพาน เตรียมจัด Run Khan Do “วิ่งกันดุ๊” Track 7 “วิ่งเก็บตะวัน@บางสะพาน”

บางสะพาน เตรียมจัด Run Khan Do “วิ่งกันดุ๊” Track 7 “วิ่งเก็บตะวัน@บางสะพาน”

วันที่ 5 เมษายน 2567 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายประสิทธิ์ ภู่งาม นายก อบต.แม่รำพึง พร้อมด้วยนายพีระ ร่วมพุ่ม รองนายก อบต.แม่รำพึง นายเจริญ ออมสิน ปลัด อบต.แม่รำพึง คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบต.แม่รำพึง เตรียมจัดงานกิจกรรม Run Khan Do “วิ่งกันดุ๊” Track 7 “วิ่งเก็บตะวัน@บางสะพาน” ในวันพุธที่ 10 เมษายน 2567 ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพด้วยกัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ที่ลานกิจกรรมหน้า อบต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมวิ่งครั้งนี้ จะวิ่งไปตามถนนเพื่อชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ของบ้านอ่าวยาง แม่รำพึง ในวันที่ 10 เมษายน ก่อนเทศกาลสงกรานต์ กิจกรรม Run Khan Do “วิ่งกันดุ๊” Track 7 “วิ่งเก็บตะวัน@บางสะพาน” เป็นภาษาที่ชาวบ้านพื้นถิ่นเรียกแต่โบราณ อยากให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการออกกำลังกาย แต่ในขณะที่ออกกำลังกายจะมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่หลายๆ คนไม่เคยได้มาชมตรงนี้ คือสามารถชมพระอาทิตย์ก่อนตกดิน ถ่ายภาพสวยๆสำหรับคนที่ไม่เคยมา หรือว่าเคยมาแล้ว อาจจะไม่เคยเห็นมุมสวยๆ ที่พระอาทิตย์ตก เราจะทำที่ถ่ายรูปไว้ให้ได้ถ่ายรูปกัน โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป นอกจากมีการวิ่งแล้ว ยังมีการแสดงดนตรี การออกซุ้มอาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลที่มาจากพื้นบ้าน เป็นกิจกรรมเล็กๆ เพื่อเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวในอนาคตและก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 11 – 13 เมษายน ของ อบต.แม่รำพึง

ด้านนายพีระ ร่วมพุ่ม รองนายก อบต.แม่รำพึง กล่าวเสริมว่า หลังกิจกรรม”วิ่งกันดุ๊” Track 7 “วิ่งเก็บตะวัน@บางสะพาน” จะเป็นวันผู้สูงอายุ วันที่ 11 เมษายน ที่ อบต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน มีการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ร่วมกับอำเภอบางสะพาน เพื่อนำสิ่งของที่ตักบาตร ไปมอบให้กับผู้ที่ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง ในเขตของตำบลแม่รำพึง เป็นโครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังของอำเภอด้วย และจะมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นทุกปี และมีการทำบุญไหว้ศาลเจ้าแม่รำพึงที่ชาวบ้านและชาวประมงเคารพนับถือ

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอบางสะพาน อยากให้ท่านมาเที่ยวอ่าวแม่รำพึง อ่าวยาง และอ่าวบ่อทองหลาง ซึ่งเป็นอ่าวที่สวยงามที่สุดของอำเภอบางสะพานแห่งหนึ่ง และได้เคยถ่ายทำภาพยนตร์ไว้ 2 เรื่องด้วยกัน ที่อยากให้ชมและไปเที่ยวคือ เส้นทางทะเลแหวก อยู่ติดกับอ่าวบ่อทองหลางที่สวยงาม สงกรานต์ปีนี้อยากให้มาเที่ยวทะเลอ่าวบ่อทองหลางกันครับ นายพีระ ร่วมพุ่ม รองนายก อบต.แม่รำพึง กล่าว.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เฝ้าระวังโรคลีเจียนแนร์ หลังพบผู้ป่วยต่างชาติ 4 รายในหัวหิน

ประจวบฯ เฝ้าระวังโรคลีเจียนแนร์ หลังพบผู้ป่วยต่างชาติ 4 รายในหัวหิน

วันที่ 5 เมษายน 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบฯ มี นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อสำคัญในพื้นที่ โดย 10 ลำดับโรคที่พบผู้ป่วยสะสมสูงสุด ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ 1,226 ราย ปอดบวม 933 ราย ไข้เลือดออก 229 ราย วัณโรค 183 ราย มือ เท้า ปาก 177 ราย อาหารเป็นพิษ 173 ราย มาลาเรีย 131 ราย โควิด – 19 ผู้ป่วยสะสม 46 ราย หนองใน 33 ราย และไข้ซิกา 24 ราย

นพ.วรา เศลวัตนะกุล ได้รายงานสถานการณ์โรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires’ Disease) ของจังหวัดประจวบฯ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ – 18 มีนาคม 2567 มีรายงานผู้ป่วยสะสม 5 ราย ได้แก่ สัญชาติเมียนมา 1 ราย (อาศัยในพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด) และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอหัวหิน 4 ราย ได้แก่ สัญชาติเนเธอร์แลนด์ 2 ราย สวีเดน 1 ราย และเยอรมนี 1 ราย ซึ่งมีประวัติเข้าพักในโรงแรม คอนโดมิเนียม เกสต์เฮาส์และโครงการบ้าน ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ทำการสอบสวนควบคุมโรค สำรวจเก็บตัวอย่างน้ำใช้ในบ้าน โรงแรมและที่พักของผู้ป่วยทั้ง 4 ราย สำรวจโครงสร้างระบบน้ำประปาของเทศบาลเมืองหัวหิน รวมถึงการหาจุดที่คาดว่าจะพบเชื้อในสถานที่ต่างๆ ที่สอดคล้องกับการเกิดโรค ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ

ทั้งนี้ โรคลีเจียนแนร์ ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ เป็นโรคที่เกิดจากการที่ปอดติดเชื้อแบคทีเรียลีจิโอเนลลา โดยแบคทีเรียชนิดนี้สามารถพบได้ในแหล่งน้ำ โดยเฉพาะในน้ำอุ่นประมาณ 32 – 45 องศาเซลเซียส ทั้งแหล่งน้ำตามธรรมชาติ อย่างแม่น้ำหรือทะเลสาบ และแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียลีจิโอเนลลาส่วนใหญ่ มักได้รับเชื้อมาจากแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเฉพาะในอาคารขนาดใหญ่และโรงแรม ลักษณะอาการเด่นที่มักพบได้ เช่น ปวดศีรษะขั้นรุนแรง ไข้ขึ้นสูง หายใจไม่อิ่ม ปวดกล้ามเนื้อ และไอ ถ้าเป็นมากอาจพบลุกลามเป็นโรคปอดบวม ช่องทางการติดเชื้อติดได้จากการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ ความชื้น การสำลักน้ำที่มีเชื้อเข้าไปในปอดโดยตรง เป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่ต้องเฝ้าระวังการระบาดไม่ให้ขยายวงกว้าง โดยขณะนี้ ร.พ.หัวหิน และ ร.พ.กรุงเทพ หัวหิน ได้ประสานความร่วมมือ หากพบผู้ป่วยรายใหม่ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 24 เมษายน จะมีการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อลีเจียนแนร์

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ระหว่างที่รอผลตรวจตัวอย่างน้ำ ขอให้เทศบาลเมืองหัวหิน ดูเรื่องของปริมาณคลอรีนน้ำประปาของเทศบาลให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม้โรคนี้จะไม่ได้น่ากลัวมากนัก ไม่ได้ติดต่อจากคนสู่คน แต่หากพบผู้ป่วยมาก ก็อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวได้

ด้านนางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงแรมสถานที่พักซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้รับทราบแล้วเกี่ยวกับการพบผู้ป่วยโรคลีเจียนแนร์ที่หัวหิน เพื่อเฝ้าระวังตรวจสอบระบบน้ำ ช่องน้ำทิ้งต่างๆ ภายในโรงแรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ รวมพลังสามัคคี สตรีเมืองประจวบฯ ร่วมรณรงค์“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

ประจวบฯ รวมพลังสามัคคี สตรีเมืองประจวบฯ ร่วมรณรงค์“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงานรวมพลังสร้างสรรค์ สามัคคี สตรีอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และร่วมรณรงค์ การสวมใส่ผ้าไทย“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”เนื่องในวันสตรีสากล ปี 2567 ที่บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบฯ มีนายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัด นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัด นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองประจวบฯ นางสุคนธ์ สุขอนุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และสตรีจากทุกหมู่บ้าน ตำบล ในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบฯ เข้าร่วมงาน มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับสตรีผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมดีเด่น 12 คน จาก 6 ตำบล อีกทั้งมีการเดินแบบสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้แนวคิด“ผ้าไทยใส่แล้วสนุก”ของหัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรสตรีทุกตำบล

ตามที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนประเทศสมาชิกจัดงานวันสตรีสากลประจำปีขึ้น โดยปีนี้อำเภอเมืองประจวบฯ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองประจวบฯ คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองประจวบฯ ได้ร่วมกันจัดงานวันสตรีสากลขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สตรีจากทุกหมู่บ้าน ตำบล ได้มาร่วมกันแสดงพลัง ความสามัคคี และร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีและสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป รวมทั้งรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ด้านการอนุรักษ์และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาการทอผ้าของไทย ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งคุมเข้มคุณภาพ “ทุเรียน GI ป่าละอู” ก่อนถึงมือผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคมนี้

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ สั่งคุมเข้มคุณภาพ “ทุเรียน GI ป่าละอู” ก่อนถึงมือผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคมนี้

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัด ครั้งที่ 2/2567 ที่ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบฯ มีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน ท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้จังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) โดยมีกระบวนการส่งเสริม คุ้มครอง ดูแลรักษามาตรฐาน เพื่อเพิ่มมูลค่าการตลาดให้แก่สินค้า จึงมีคำสั่งที่ 8749/2566 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดประจวบฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและพาณิชย์จังหวัดประจวบฯ เป็นคณะกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลและส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัด การรับรองคำขอจดทะเบียน หรือคำขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัด รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงาน หรือคณะอนุกรรมการ ซึ่งสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้วมี 2 ชนิด ได้แก่ “ทุเรียนป่าละอู” และ “มะพร้าวทับสะแก” และสินค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนอีก 2 ชนิด คือ “ทุเรียนตะนาวศรีคีรีขันธ์”และ “สับปะรดสยามโกลด์ประจวบคีรีขันธ์” สินค้าที่อยู่ระหว่างการจัดทำคำขอและกำลังจะยื่นขอจดทะเบียน 1 ชนิด คือ “มะม่วงแก้วพุสามร้อยยอด” ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้รับรองการตรวจสอบคุณภาพทุเรียนป่าละอู ประจำปี 2567 จำนวนทั้งสิ้น 226 ราย (เกษตรกร 274 ราย) โดยเลขาฯ จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่าทุเรียนป่าละอู เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงพระราชทานให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนนำไปปลูกที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ครั้ง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนอานันท์ ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2509 จนกลายเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าละอูที่มีความพิเศษบนพื้นที่สูง สภาพอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้ได้ผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ มีรสหวาน เนื้อหนา เหนียว เนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้ง มีความมันมากกว่าความหวาน เม็ดลีบเล็ก กลิ่นไม่รุนแรง ได้รับการยอมรับจากผู้โปรดปรานทุเรียนว่ามีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับเครื่องหมายสินค้า GI (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 แสดงถึงแหล่งเพาะปลูกที่เจาะจงแค่ที่ใดที่หนึ่ง เป็นสินค้าเด่นของชุมชน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าการเกษตร โดยผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมาย GI ได้แก่เกษตรกรผู้ผลิตในพื้นที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งได้ร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐานชื่อเสียงและอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นนี้เอาไว้

“ขณะนี้ทุเรียนป่าละอูซึ่งติดดอกมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 และจะเข้าสู่ตลาดได้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม เป็นช่วงเฝ้าระวังปริมาณการให้น้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แดดแรง และสภาวะอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำดูแลต้นทุเรียนมากขึ้น บางส่วนไม่ติดดอก/ร่วง ในปีนี้ คาดการณ์ผลผลิตจะออกสู่ตลาดประมาณ 2,700 ไร่ จากทั้งหมด 4,000 กว่าไร่ (รวมพื้นที่ GI) โดยช่วงต้นฤดูปลายเดือนพฤษภาคม จะออกประมาณ 10% ช่วงกลางฤดู กลางเดือนมิถุนายน ประมาณ 40% เดือนกรกฎาคม ประมาณ 40% และช่วงปลายฤดูประมาณ 10% คาดการณ์ว่าจะได้ผลผลิตเฉลี่ย 800 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน ในภาพรวมอาจได้น้อยกว่าปีที่แล้ว” นายพลกฤต กล่าวตอนท้าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าของไร่ผูกเปลนอนเฝ้าสวนมะม่วง ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต

เจ้าของไร่ผูกเปลนอนเฝ้าสวนมะม่วง ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รับแจ้งว่า เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต ที่บ้านเข็ดกา หมู่ 12 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นสวนมะม่วง ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และที่โคนมะม่วงต้นหนึ่งมีเปลผ้าร่มสีลายพราง ด้านหนึ่งผูกกับต้นมะม่วง อีกด้านหนึ่งผูกกับต้นกระถิน ที่เปลมีร่องรอยฉีกขาด ใกล้กันพบกองเลือดที่พื้น และมีกระเป๋าย่ามสำหรับใส่โทรศัพท์แล้วของใช้อื่นๆ พร้อมทั้งผ้าห่มอีก 1 ผืน ตกอยู่ใกล้กัน ส่วนผู้ถูกช้างทำร้าย ญาติได้นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งต่อมาได้เสียชีวิต ทราบชื่อว่านายฉัตรชัย เปรมปรี อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ที่เกิดเหตุ

ต่อมา นายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี และนายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เดินทางไปที่วัดวังยาว อ.กุยบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต โดยหัวหน้าอุทยานฯ กุยบุรี ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีให้กับญาติของผู้ตายไว้จำนวนหนึ่ง หลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อเสนอขอรับเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิตตามระเบียบต่อไป ส่วนเรื่องของพื้นที่ ที่เกิดเหตุนั้น ตนจะตั้งชุดเฝ้าระวังขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อเฝ้าคอยดูแลโซนนี้เป็นพิเศษ ให้คอยช่วยเหลือชาวบ้านในการผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า และดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง

นางทองพิน เกิดลาภ อายุ 52 ปี และนางทองพูน เปรมปรี ซึ่งทั้งสองคนเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่านายฉัตรชัยและพวกตนเริ่มไปเฝ้าสวนมะม่วงตั้งแต่ 18.00 น.เศษ โดยตนเฝ้าอยู่อีกสวนหนึ่ง ไม่ห่างกันนัก ในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ได้ยินเสียงเพื่อนไร่ข้างเคียงจุดประทัดไล่ช้าง จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงไซเรนดังที่ไร่ของน้องชาย ดังอยู่นานไม่ยอมเงียบ เลยชวนกันเดินไปดู เมื่อไปถึงไร่ จุดที่น้องชายผูกเปลนอน ก็พบว่าเปลฉีกขาดกองกับพื้น ส่องไฟดูข้างๆ เปล ก็พบร่างน้องชายนอนคว่ำหน้ากับพื้น จึงช่วยกันประคองขึ้นมา ได้ยินเสียงน้องชายหายใจเฮือกก่อนจะแน่นิ่งไป นางทองพินจึงโทรตามให้สามีมาพาน้องชายไปโรงพยาบาลกุยบุรี แต่ก็ไม่ทันการณ์ โดยพบว่าแถวหน้าอกซ้ายมีรอยบวมช้ำ คาดว่าน้องชายนอนดึก ช่วงที่มีช้างป่าเข้ามาในสวน น้องชายอาจหลับไม่ได้ยินเสียงหวอดัง จนช้างเดินมาถึงเปลและอาจถูกช้างป่าเตะ จนทำให้เปลขาดและตกจากเปลจนเสียชีวิตดังกล่าว

นางทองพิน กล่าวต่อ ว่าตนก็ไม่ได้หวังอะไรจากภาครัฐ ขอเพียงให้หัวหน้าอุทยานฯ ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลและผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า เนื่องจากที่ผ่านมา น้องชายของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว เลี้ยงดูลูกเมียและแม่ นอกจากนั้นยังช่วยพวกพี่เฝ้าสวนมะม่วง โดยตอนนี้ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลตรงนี้ด้วย.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ตหัวหิน เปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของประจวบฯ

บลูพอร์ตหัวหิน เปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของประจวบฯ

ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดตัวสถานีพักรถและสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รับเทศกาลท่องเที่ยวเมษายนนี้ โดยบลูพอร์ตหัวหินจะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับจอดพักและรองรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ว่าจะเดินทางกลับบ้าน เดินทางท่องเที่ยวทางภาคใต้ หรือทะเลชะอำ – หัวหิน ในเทศกาลวันหยุดยาวนี้ สามารถมาแวะพักรถและพักผ่อนร่างกาย หรือจอดเพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่จุดพักรถ Bluport Recharge Destination ของบลูพอร์ต หัวหิน ที่นี่มีแหล่งรวมร้านค้าสำหรับช้อปปิ้งและร้านอาหารมากมาย นอกจากนี้ยังมี Gourmet Market สำหรับแวะซื้อของสดและของใช้ต่างๆ ระหว่างการเดินทาง เรียกได้ว่าเป็นจุดพักรถและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์คนเดินทางได้ครบทุกระบบ ที่สำคัญยังช่วยหนุนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ขานรับกระแสยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความต้องการของสถานีชาร์จแบตเตอรี่ที่มากขึ้นตามกันไป

จุดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจุดนี้ เป็นจุดศูนย์กลางที่มีสถานีมากที่สุดแห่งเดียวในเมืองหัวหินและจังหวัดประจวบฯ สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มในการเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยลูกค้าสามารถนำรถเข้ามาชาร์จไฟระหว่างที่เข้ามาใช้บริการในบลูพอร์ตหัวหิน ได้สะดวกสบาย ตอบทุกโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน และที่สำคัญเมื่อมาที่นี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการไม่มีที่จอดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างการเดินทางอีกต่อไป เพราะที่นี่ได้รวบรวมทุกระบบ ทุกแบรนด์ ให้ตัวเลือกที่หลากหลายแก่ผู้ใช้บริการที่เดินทางเข้ามาใช้บริการ

น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของภาคการขนส่ง ถือเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของไทย ส่งผลให้รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนลง โดยหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ คือ แนวทางส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573 ด้วยแนวโน้มที่เกิดขึ้น และอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน บลูพอร์ตหัวหิน ซี่งมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคุมและลดผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยพร้อมที่จะเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวในเดือนเมษายนนี้ ทางเราตั้งใจว่าจะทำให้บลูพอร์ตหัวหิน เป็นจุดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด แห่งเดียวในเมืองหัวหินและจังหวัดประจวบฯ ไม่ใช่เพียงเพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐเท่านั้น แต่ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าของเรา ที่เน้นความสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย ระหว่างที่รับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ช้อปปิ้งในบลูพอร์ต หรือแม้กระทั่งจอดเพื่อพักรถ เรียกได้ว่าเป็น Bluport recharge destination อย่างแท้จริง”

สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า บลูพอร์ตหัวหิน จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ รวมไปถึงประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางกลับบ้าน โดยเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า 2 สถานี รวม 21 จุดจอด ได้แก่ สถานีแรกตั้งอยู่บริเวณลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าบลูพอร์ตหัวหิน 4 ช่องจอด และสถานีที่ 2 จะอยู่บริเวณพื้นที่ลานจอดรถชั้น G และชั้น 1 ของบลูพอร์ต หัวหิน เป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว DC Fast Charge 11 ช่องจอด และ AC Charge 10 ช่องจอด เพื่อรองรับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในบลูพอร์ต รองรับการใช้งานได้อย่างทั่วถึง สะดวกและรวดเร็ว โดยผู้ที่เข้ามาใช้บริการสามารถเดินช้อปปิ้ง หรือทำธุระต่างๆ ขณะรอชาร์จรถได้อีกด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ตหัวหิน โทร.032 – 905111, เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line : @Bluport.

Categories
ทั้งหมด สังคม

มอบงบประมาณสนับสนุนชุมชนศึกษาดูงาน

ข่าวสังคม

วันวิสาข์ หุ้นจิ้น ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์และพัฒนาชุมชน เอสวีแอลกรุ๊ป มอบงบประมาณสนับสนุนชุมชนศึกษาดูงาน และร่วมกับผู้นำ 4 ชุมชนต้นแบบ ประกอบด้วยบ้านนาผักขวง บ้านระหารรวม ต.กำเนิดนพคุณ บ้านม้าร้อง ต.พงศ์ประศาสน์ และบ้านทางสาย ต.ธงชัย พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านกว่า 40 คน ศึกษาดูงานเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การบริหารจัดการขยะจากถุงพลาสติกในชุมชน” และกระบวนการนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ (การผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก)“ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพชุมชน ต่อยอดเรื่องการจัดการขยะอย่างยั่งยืน ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและพลังงานทดแทน บ้านโนนแดง ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน