Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินต้อนรับขบวนรถโบราณพาเหรด ครั้งที่ 22

หัวหินต้อนรับขบวนรถโบราณพาเหรด ครั้งที่ 22

วันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรี พร้อมด้วยนายพรชัย หนูสิทธิ์ อดีตนายสถานีรถไฟหัวหิน และชาวหัวหินร่วมให้การต้อนรับขบวนรถโบราณ รถคลาสสิคหลายสิบคัน นำโดย นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ในโอกาสที่นำสมาชิกขับรถโบราณ เดินทางมาร่วมงานหัวหินวินเทจคาร์ ครั้งที่ 22 พร้อมชมชุดการแสดงของนักเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหัวหินและมอบทุนการศึกษาให้ ก่อนร่วมกันถ่ายภาพที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งเป็นสถานีรถไฟคลาสสิคสวยที่สุดในประเทศไทย

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “งานหัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ – หัวหิน ตามแนวคิด “มิตรภาพไร้กาลเวลา – Timeless Friendship” เพื่อให้เจ้าของรถได้รำลึกถึงความทรงจำที่คุ้นเคย แม้จะพบกันเพียงครั้ง จะยังจดจำมิรู้ลืม โดยปล่อยขบวนจากพิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM-BANGKOK ถนนประชาอุทิศ สู่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เข้าสู่เมืองหัวหิน เพื่อเก็บภาพสถานที่ประทับใจไว้เป็นที่ระลึก โดยประชาชนทั่วไปสามารถชมรถคลาสสิคและรถโบราณอันทรงคุณค่าได้อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีพลอดรักกลางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว

หาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีพลอดรักกลางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว

วันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า มีการบันทึกภาพช้างป่าวัยเจริญพันธุ์ขณะกำลังเกี้ยวพาราสีและผสมพันธุ์กันภายในผืนป่ากุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งถือเป็นภาพที่หาชมได้ยาก การเกี้ยวพาราสีช้างเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสามสัปดาห์ของการปรับตัวให้เข้ากับการสืบพันธุ์ของช้างเพศเมีย ซึ่งเรียกว่าวงจรการเป็นสัด และเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการขยายประชากรตามธรรมชาติของช้างป่าในผืนป่ากุยบุรี และสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของผืนป่ากุยบุรี

การผสมพันธุ์ของช้างป่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูหนาว โดยช้างเพศเมียจะเริ่มพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 18 – 20 ปี และจะสิ้นสุดวัยเจริญพันธุ์ เมื่ออายุประมาณ 40 – 50 ปี ทั้งนี้ ช้างเพศเมียจะตั้งท้องนานประมาณ 19 – 21 เดือน และมักให้กำเนิดลูกครั้งละ 1 ตัว โดยจะมีระยะห่างระหว่างการตั้งท้องแต่ละครั้งประมาณ 3 ปี ตลอดช่วงชีวิตของช้างเพศเมีย 1 ตัว จะสามารถให้กำเนิดลูกได้เฉลี่ย 3 – 4 ตัวเท่านั้น ซึ่งภาพความประทับใจนี้ เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการขยายประชากรตามธรรมชาติของช้างป่าในผืนป่ากุยบุรี และสะท้อนถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์พื้นที่ป่า ที่เป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าและสัตว์ป่านานาชนิด

ผืนป่ากุยบุรีถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการอนุรักษ์ช้างป่าในประเทศไทย ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าจำนวนมาก การพบเห็นพฤติกรรมการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติเช่นนี้ จึงเป็นความหวังของการดำรงอยู่และการสืบทอดเผ่าพันธุ์ของช้างป่าไทยต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานและร่วมเดินแบบผ้าไทยย้อนยุคในงาน “113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง”

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานและร่วมเดินแบบผ้าไทยย้อนยุคในงาน “113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง”

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงาน “113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง” มีนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน น.ส.กิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ คณะผู้บริหารเทศบาล แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมชมงานที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) จ.ประจวบฯ พร้อมถ่ายภาพคู่อุโมงค์ไฟกันอย่างคึกคัก จากนั้นรองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ได้เดินชมนิทรรศการแต่ละโซน และชมการแสดงแสงสีเสียง ก่อนนำนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์ จำนวน 90 คน เดินแบบชุดไทยย้อนยุคการกุศลอย่างสวยงามตระการตา ชุด “มนต์สมัยแห่งอาภรณ์” ในธีมชุดไทย รัชกาลที่ 7, ชุดแกสบี้ วนิดา และปริศนา ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมของงาน โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้คลินิกทะเลใจ โรงพยาบาลหัวหิน

เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ ททท.สำนักงานประจวบฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และหน่วยงานต่างๆ จัดงาน 113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง ขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมนี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน (อาคารเก่า) เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์วิถีชีวิตความเป็นเมืองหัวหินอันเก่าแก่จากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยถ่ายทอดเรื่องราวประวัติของหัวหินในอดีต เช่น วังไกลกังวล สถานีรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ตลาดฉัตร์ไชย เป็นต้น รวมถึงการประกอบอาชีพ วิถีชีวิตการกินอยู่ของชาวหัวหินที่มีมายาวนานถึง 113 ปี ให้นักท่องเที่ยวและเยาวชนรุ่นหลังได้รับทราบ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ความสุขแก่ประชาชน

ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ แบ่งเป็น 6 โซน โซนที่ 1 “มนต์เสน่ห์แห่งเรื่องเล่า” การแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม 113 ปี หัวหินถิ่นมนต์ขลัง ชุดมนต์เสน่ห์จากสมอเรียงสู่หัวหิน การแสดงที่จะพาคุณไปพบเรื่องราวแห่งมนต์เสน่ห์และปลุกความสว่างไสวแห่งเรื่องเล่าประวัติศาสตร์อันมีความงดงามจากสถาปัตยกรรมสมัยวิกตอเรียนของสถานีรถไฟหัวหินเป็นฉากหลัง โซนที่ 2 “มนต์กาลแห่งล้นเกล้า” นิทรรศการที่จะพาคุณย้อนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและความผูกพันอันลึกซึ้งของในหลวงรัชกาลที่ 9 กับหัวหิน เมืองเล็กๆ ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย โซน 3 “มนตราแห่งราตรี” นิทรรศการแสงไฟ เพลิดเพลินไปกับการประดับประดาดวงไฟที่จะเนรมิตค่ำคืนแห่งลมหนาวให้กลายเป็นค่ำคืนอันอันสุกสกาวท่ามกลางบรรยากาศกลิ่นอายอันอบอวลอดีตวันวานของสถานีรถไฟหัวหิน

โซน 4 “มนต์วิถีแห่งหัตถศิลป์” กิจกรรมสาธิต Art and Craft Workshop ที่คุณสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ และสนุกสนานไปกับการประดิษฐ์งานฝีมือระดับภูมิปัญญาจากศิลปินพื้นถิ่นที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าผ่านงานหัตถศิลป์ อาทิ การสาธิตทำขนมลูกชุบ การสาธิตจากร้านผ้าโขมพัสตร์หัวหิน โซน 5 “มนต์มหัศจรรย์แห่งแดนดิน” โชว์การเดินแบบย้อนยุคการกุศลชุด “มนต์สมัยแห่งอาภรณ์” ในธีมชุดไทย รัชกาลที่ 7, ชุดแกสบี้ วนิดา และปริศนา จากนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์ รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้คลินิกทะเลใจ โรงพยาบาลหัวหิน และโซน 6 “มนต์จวักพื้นถิ่นแห่งภูมิปัญญา” การออกบูธอาหารและสินค้าพื้นถิ่นที่จะมาสำแดงรสชาติอันเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ เลือกชม นอกจากนี้พบกับการประกวดมนต์มหัศจรรย์หนูน้อยหัวหิน ชิงเงินรางวัล 3 หมื่นบาท วาดลีลาลีลาศไปพบกับวงโฟร์ซิงเกิ้ลและวงค่ายธนะรัชต์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านแต่งชุดไทยร่วมชมงานดังกล่าวได้จนถึงวันที่ 21 ธันวาคมนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ใช้มาตรการเข้มบนถนนสายหลักลงภาคใต้ สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ช่วงปีใหม่

ประจวบฯ ใช้มาตรการเข้มบนถนนสายหลักลงภาคใต้ สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ช่วงปีใหม่

วันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดประจวบฯ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลและวันหยุด พ.ศ.2568 ที่ศาลากลางจังหวัด ว่าได้หารือเตรียมความพร้อมแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายใต้คำขวัญการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยกำหนดช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 เน้นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1. ด้านการบริหารจัดการ อาทิ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันฯ ศูนย์ประสานการปฏิบัติ 2. มาตรการลดปัจจัยเสี่ยง ด้านการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม อาทิ กำหนดให้ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกเส้นทางเป็นถนนปลอดภัย และกำหนดมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วม ทางแยก 3. ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้วยยานพาหนะ อาทิ กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ พนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด 4. ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อาทิ รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมาย และ 5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ อาทิ เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบบติดต่อสื่อสาร สั่งการ ประสานงาน และประชาสัมพันธ์

ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ ได้เตรียมพร้อมการตั้งจุดตรวจบนถนนเพชรเกษม อำเภอละ 2 จุด บังคับใช้กฎหมายจราจรตาม 10 ข้อหาหลัก มีจุดตรวจวัดความเร็ว ถนนเพชรเกษม กม.287 และ กม.387 ส่วนแขวงทางหลวงประจวบฯ จะปิดทางลักข้ามทุกจุดบนถนนเพชรเกษม และปิดการใช้งานจุดกลับรถบนถนนเพชรเกษม บริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชั่วคราว ได้แก่ กม.260+098 แยกหนองเป่าปี่ อ.สามร้อยยอด กม.311+813 สี่แยกเกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ (ปิดบางช่วงเวลาที่มีรถมาก) กม.317+400 แยกหนองหิน ทางเข้าด่านสิงขร อ.เมืองประจวบฯ กม.335+198 แยกหนองข้าวเหนียว อ.สามร้อยยอด กม.348+238 บริเวณปั๊มต้นสน อ.ทับสะแก กม.349+713 เขตชุมชน อ.ทับสะแก กม.358+680 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก พร้อมติดตั้งสัญญาณไฟวับวาบในช่วงเวลากลางคืน บริเวณพื้นที่เสี่ยงทางร่วมทางแยกต่างๆ เพื่อกระตุ้นเตือนผู้ขับขี่

ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัด จะตั้งจุดตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะจุดใหญ่ ที่หน้าสถานีตำรวจทางหลวง อ.เมืองประจวบฯ รวมทั้งออกตรวจความพร้อมรถโดยสารที่สถานีขนส่ง 2 แห่งที่อำเภอเมืองประจวบฯ และอำเภอหัวหิน จัดชุดเคลื่อนที่ออกตรวจจับรถโดยสารที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วยกล้องเลเซอร์ และร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษา ตั้งจุดบริการอาชีวะอาสาช่วยประชาชน ให้บริการตรวจความพร้อมยานพาหนะให้กับประชาชนฟรี ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 จำนวน 2 จุด คือที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวง อ.เมืองประจวบฯ ถ.เพชรเกษม ขาล่องใต้ และหน้าวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน อ.บางสะพาน ถ.เพชรเกษม ขาล่องใต้ โดยจะมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดประจวบฯ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนนตลอดช่วงเทศกาล.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เกษตรกรประจวบฯ เข้าร่วมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่อย่างเนืองแน่น

เกษตรกรประจวบฯ เข้าร่วมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่อย่างเนืองแน่น

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีนางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตรจังหวัดประจวบฯ นายนิมิต วงษ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกรและนักเรียนในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาให้ได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย

โครงการดังกล่าวเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร พร้อมกับถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรไปในคราวเดียวกัน ซึ่งเกษตรกรจะได้รับบริการแบบครบวงจรในทุกด้าน เป็นการนำบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ และองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาให้บริการแก่เกษตรกรถึงในพื้นที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ กำหนดจัดงานตามรายไตรมาสปีละ 4 ครั้ง กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเปิดให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จำนวน 13 คลินิก ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกหม่อนไหม คลินิกยางพารา คลินิกเกษตรและสหกรณ์ และคลินิกอาหารสัตว์ ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรเป็นอย่างมาก มีเกษตรกรมาลงทะเบียนและรับบริการทางการเกษตรจากคลินิกในโครงการอย่างเนืองเเน่น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เฉลิมชัยเป็นประธานพิธีสมโภชฉลองครบรอบ 101 ปี วัดธรรมิการามวรวิหาร

เฉลิมชัยเป็นประธานพิธีสมโภชฉลองครบรอบ 101 ปี วัดธรรมิการามวรวิหาร

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานฝ่ายฆราวาส เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีสมโภชครบรอบ 101 ปี วัดธรรมิการามวรวิหาร พร้อมด้วยพระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ฝ่ายธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร พระเถระชั้นผู้ใหญ่จากจังหวัดต่างๆ กว่า 40 รูป นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชนและพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากเข้าร่วมพิธีที่วัดธรรมิการามวรวิหาร (วัดเขาช่องกระจก) อ.เมือง จ.ประจวบฯ พร้อมกันนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้มีพิธีตัดหวายลูกนิมิต ณ พระอุโบสถวัดธรรมิการามวรวิหาร โดยมีเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธี

วัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดคณะธรรมยุต ตั้งอยู่ใจกลางเมืองประจวบฯ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ก่อตั้งวัดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2465 ปัจจุบันมีพระเทพวชิรสุธี (สุทิน กโตภาโส) เป็นเจ้าอาวาส และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธ) ได้มีการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เนื่องจากจำนวนพระภิกษุสามเณรมีจำนวนมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการเข้าไปทำสังฆกรรม เช่น การสวดพระปาฏิโมกข์ ทำสังฆกรรมการบวชพระ ซึ่งบรรพบุรุษของไทยถือว่าการสร้างโบสถ์เป็นบุญสูงสุด ผู้ที่มีโอกาสได้สร้างโบสถ์ ถือว่าได้ทำบุญสูงสุดถวายทานสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอุโบสถที่เกิดขึ้นที่วัดธรรมิการามวรวิหาร มีอายุกว่าร้อยปี นับตั้งแต่ปี 2466 จนกระทั่งปัจจุบัน จึงได้สร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ขนาดกว้าง 86 เมตร ยาว 72.30 เมตร และให้นายอำเภอท้องที่ปักหมายเขตให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานวิสุงคามสีมา ณ วันที่ 7 มีนาคม 2544 มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และเพื่อให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย ประเพณีปฏิบัติ และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางวัดจึงได้กำหนดจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตและฉลองสมโภชครบรอบ 101 ปี ขึ้นในระหว่างวันที่ 7 – 15 ธันวาคม 2567 โดยได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวประจวบฯ เป็นอย่างดี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รมว.ติดตามการทำหมันลิงเขาช่องกระจก ลดความเดือดร้อน

รมว.ติดตามการทำหมันลิงเขาช่องกระจก ลดความเดือดร้อน

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม โครงการการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าในเมืองโดยการควบคุมประชากรลิง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่บริเวณเขาช่องกระจก อ.เมือง จ.ประจวบฯ มีนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม ให้การต้อนรับ

โดย รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วยจุดตรวจคัดกรองสุขภาพลิง จัดทำประวัติ ก่อนดำเนินการทำหมันลิง ทั้งเพศผู้และเพศเมีย จากนั้นมีการทำสัญลักษณ์ที่แขนของลิงที่ทำหมันแล้ว บางตัวหากตรวจพบเป็นโรค สัตวแพทย์จะให้ยารักษา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 – 30 ธันวาคม มีเป้าหมายทำหมันลิง 300 ตัว

พร้อมกันนี้ นายเฉลิมชัยได้มอบถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมระบุว่า จะเคลื่อนย้ายลิงแสมเขาช่องกระจกบางส่วน ไปไว้ที่กรงพักพิงลิงที่กรมอุทยานฯ ได้จัดเตรียมไว้ที่หัวหิน เพื่อลดจำนวนลิง ทั้งนี้โครงการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าในเมืองโดยการควบคุมประชากรลิง เป็นไปตามนโยบายแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อควบคุมประชากรลิงไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้นจนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว.

นายภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่า ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กระบวนการทำหมันลิงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาลิงแสมเขาช่องกระจก ซึ่งจะเขื่อมโยงไปถึงการดูแลคนและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยขณะนี้สามารถจับลิงมาทำหมันได้แล้วกว่า 100 ตัว จากเป้าหมาย 300 ตัว ซึ่งที่โรงพยาบาลสนาม จะมีการคัดกรอง จัดทำประวัติ ทำหมัน ทำบัตรประชาชนลิง จากประสบการณ์ที่ทำหมันลิงมา ลิงจะเป็นหมัน 100% ไม่มีการตั้งท้องอีก ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของปัญหาลิงคือการที่คนให้อาหารลิงอย่างไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่คนกินซึ่งมีรสชาติหวาน หอม มีพลังงานสูง ทำให้ลิงร่างกายแข็งแรง มีโอกาสขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นทำให้จำนวนประชากรลิงมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่วนการเคลื่อนย้ายลิงบางส่วนไปยังสถานที่ที่มีความเหมาะสมกว่า ทางกรมอุทยานฯ มีโมเดลที่ทำแล้ว ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อชุมชน รวมทั้งลิงเองก็จะปลอดภัย เพราะจากการตรวจสุขภาพลิงที่ รพ.สนาม พบว่าบางตัวมีลูกแก้วในคอ มีบาดแผลจากการโดนกัด ขนร่วงเป็นขี้เรื้อน บางตัวพบเป็นโรคไต สาเหตุจากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมโดยเฉพาะด้านโภชนาการ ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลสุขภาพ ปรับพฤติกรรม และหาพื้นที่เหมาะสมให้อยู่ หากมีการบริหารจัดการลิง คน สิ่งแวดล้อม เชื่อว่าเขาช่องกระจกจะเป็นแลนมาร์กสำคัญของ จ.ประจวบฯ โดยควรจะเหลือลิงไว้ในจำนวนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณอาหารในพื้นที่.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนตักบาตรส่งท้ายปีรับโชคดีปีใหม่ 2568

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนตักบาตรส่งท้ายปีรับโชคดีปีใหม่ 2568

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ เตรียมจัดงานทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระภิกษุสงฆ์ 99 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2568 ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ณ ลานเดอะ สแควร์ หน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ซึ่งบลูพอร์ตหัวหินจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี เพื่อให้บุคลากรในองค์กร ร้านค้า ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งร่วมกัน เสริมสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว เสริมโชคลาภ และความราบรื่นในชีวิตการงาน ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป

ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ และใกล้เคียง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 99 รูป ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ณ ลานเดอะสแควร์ บลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ต หัวหิน โทร.032 – 905111 เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หนุ่มเทศบาล ขับเก๋งเสยรถบรรทุกพ่วงดับคาซากรถ

หนุ่มเทศบาล ขับเก๋งเสยรถบรรทุกพ่วงดับคาซากรถ

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ บริเวณยูเทิร์นกลับรถ ทางเข้านิคมสร้างตนเอง ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 300/600 หมู่ 4 บ้านบึง ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ รุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบฯ เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัด หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน นำอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง ร่วมตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงยูเทิร์นกลับรถ ห่างจากทางโค้งประมาณ 200 เมตร ทางเข้าสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ (ประจวบโชค) หมู่บ้านนิคมสร้างตนเอง มีรถเก๋งและรถบรรทุกพ่วงชนกัน กีดขวางการจราจรบนถนนเพชรเกษม ทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นรถบรรทุกพ่วงยี่ห้อฮีโน่ 500 สีขาว ทะเบียนส่วนหัว 700 – 2070 กรุงเทพฯ ตัวพ่วงทะเบียน 72 – 8743 สระบุรี มีนายอาคม บุตรงามดี อายุ 47 ปี เป็นคนขับรถ ตรงกลางของรถบรรทุกพ่วง มีรถเก๋งโตโยต้า อแวนซ่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฆภ 2692 กรุงเทพฯ ชนอัดติดอยู่ตรงกลางของรถบรรทุกพ่วง บริเวณหน้ารถกระจกแตก คอนโซลหน้ารถอัดติดอยู่กับผู้ขับขี่ เสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเพื่อนำศพผู้เสียชีวิตออกมาส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทราบชื่อต่อมาคือนายโอภาส แตงเจริญ อายุ 39 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลทับสะแก และเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดทับสะแก รหัสประจำตัว 67 สภาพศพบริเวณใบหน้าและกะโหลกศีรษะยุบจากการถูกกระแทกอย่างแรง

เจ้าหน้าที่กรมทางที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าตนกำลังตัดหญ้าข้างทางอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นเห็นรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวออกมาจากร้านปะยาง ที่อยู่ใกล้กับยูเทิร์นแล้วมากลับรถเพื่อมุ่งหน้าลงใต้ ระหว่างนั้นมีรถเก๋งคู่กรณีซึ่งวิ่งมาทางตรงมุ่งหน้าลงใต้ ชนเข้าอย่างจังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จึงได้หยุดตัดหญ้าแล้วมาดูที่เกิดเหตุ พบว่าคนขับเก๋งเสียชีวิตคาที่แล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจให้มาตรวจสอบ

นายอาคม บุตรงามดี คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ตนนำรถมาปะยางที่ร้านใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อปะยางเสร็จแล้ว ตนมากลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือจังหวัดระนอง ระหว่างรอกลับรถ มีรถบรรทุกผลไม้ผ่านไปแล้วสองคัน ตนจึงได้เลี้ยวรถและมองแล้วว่าไม่มีรถวิ่งผ่านมา จังหวะที่กำลังเลี้ยวรถ จู่ๆ ก็มีรถเก๋งคาดว่าวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วชนเข้าบริเวณกลางรถพ่วงอย่างจัง

ัทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบและบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำรถบรรทุกพ่วงและรถเก๋งที่เสียหายไปเก็บรักษา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายหน่วยงานร่วมพิธีเปิดโครงการพี่น้องกลุ่มออมทรัพย์บ้านมั่นคงชนบท ต.ช้างแรก

หลายหน่วยงานร่วมพิธีเปิดโครงการพี่น้องกลุ่มออมทรัพย์บ้านมั่นคงชนบท ต.ช้างแรก

วันที่ 18 ธันวาคม 2567 นายนิมิต วงษ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อย นายธิรวัฒน์ สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก นายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลช้างแรก ในฐานะตัวแทนสมาชิกวุฒิสภา น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค นายธนวัฒน์ ชื่นขอบทรัพย์ กำนันตำบลช้างแรก นายกรธน จิตต์งามขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงชนบท ตำบลช้างแรก เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฯ พี่น้องกลุ่มออมทรัพย์บ้านมั่นคงชนบทตำบลช้างแรก ร่วมกับท้องถิ่น ท้องที่และหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรม kick off ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตตำบลช้างแรก มีนายอำเภอบางสะพานน้อยเป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับหน่วยงาน และประชาชนในพื้นที่ได้เห็น ว่าการขับเคลื่อนงานโดยองค์กรชุมชนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ได้ให้เห็นความสำคัญของการหนุนเสริมการขับเคลื่อนงานในครั้งนี้ ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน

นายนิมิตร วงศ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับชุมชน และขอให้ทุกภาคส่วนในตำบลร่วมกันขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคงชนบท ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

นายยุทธพงษ์ เขื่อนเมือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานภาคกลางและตะวันตก กล่าวว่าหลักคิดแนวทางการทำงานของโครงการนี้ คือเน้นให้คนในชุมชนและท้องถิ่นเป็นแกนหลัก และเน้นย้ำถึงความสำคัญของกลไกคณะกรรมการตำบล ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการหนุนเสริมการทำงานในครั้งนี้.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน