Categories
ข่าว ทั้งหมด

รอง ผบ.ตร. เน้นตำรวจหัวหิน ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน

รอง ผบ.ตร. เน้นตำรวจหัวหิน ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน

วันที่ 23 มกราคม 2568 พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมข้าราชการที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อประชุมติดตามการปฏิบัติการนำร่องในการขับเคลื่อนและยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิธ ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน) นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผ๔้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมวางแนวทางและมาตรการด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง หลังจากการประชุมแล้ว รอง ผบ.ตร. ได้มอบสิ่งของให้แก่ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาล

สำหรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ เป็นปีที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับนโยบายการท่องเที่ยวเที่ยวปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้นำแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถดาวโหลดเพื่อใช้งานทางโทรศัพท์ได้ทุกระบบ เป็นทางเลือกให้สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานราตรีการกุศลนานาชาติ 2025

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานราตรีการกุศลนานาชาติ 2025

ช่วงค่ำวันที่ 23 มกราคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงานราตรีการกุศลนานาชาติ ชาวประจวบฯ ร่วมใจ สานสายใยเพื่อสังคม ที่ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและคึกคักจากผู้เข้าร่วมงาน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภายในงานมีบุคคลสำคัญร่วมให้การต้อนรับ อาทิ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ ดร.หยุ่นหลิน หยาง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มร.ไบรอัน แอนเดอร์สัน นายกสโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก

งานเริ่มต้นด้วยคำกล่าวสนับสนุนจากตัวแทนองค์กรต่างๆ ได้แก่ ดร.หยุ่นหลิน หยาง มร.ไบรอัน แอนเดอร์สัน ต่อด้วยการกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานโดยนายเมธพนธ์ สังข์น้อย นายกสโมสรโรทาแรคท์มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ประธานจัดงานชี้แจงว่างานราตรีการกุศลนานาชาติเป็นโครงการประจำปีที่มุ่งระดมทุนช่วยเหลือโรงเรียนและนักเรียนผู้ขาดแคลนในจังหวัดประจวบฯ โดยรายได้ส่วนหนึ่งในปีนี้จะมอบให้กับโรงเรียนชลประทานปราณบุรี สาขาบ้านวังปลา เพื่อจัดซื้อแบตเตอรี่สำหรับโซล่าเซลล์ โต๊ะและเก้าอี้เรียน อุปกรณ์การเรียน กีฬา รวมถึงเลี้ยงอาหารกลางวันและจัดกิจกรรมเสริมภาษาอังกฤษในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ เป็นโครงการแรก

ู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวเปิดงาน พร้อมชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่จัดโครงการดีๆ นี้ เป็นตัวอย่างที่ดีในการปลูกฝังจิตสาธารณะให้เยาวชน และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ตลอดจนชาวต่างชาติในพื้นที่ ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งยังเน้นถึงความสำคัญของการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนผ่านกิจกรรม เช่น การประกวดชุดนานาชาติ การแสดงความสามารถพิเศษ และการแสดงศิลปะ ซึ่งล้วนเป็นเวทีที่ช่วยพัฒนาทักษะและความมั่นใจของเยาวชน ไฮไลท์ของงานได้แก่ แฟชั่นโชว์ International Walk โดยนางงามชื่อดัง อาทิ คุณอภิสรา ธาดาดลทิพย์ มิสไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024, คุณเจมม่า สุธิดา ยาร์โนส มิสแกรนด์ประจวบคีรีขันธ์ 2568 และคุณอีฟ บุญสิตา เกิดก้าน มิสประจวบคีรีขันธ์ 2024 ที่ปรากฏตัวในชุดราตรีอันงดงามตระการตา สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน

ต่อเนื่องด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์ คือการประกวด International Costume and Talent Contest 2025 สำหรับนักเรียนอายุ 13 – 15 ปี จากทั่วประเทศ ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 36,000 บาท โดยผู้เข้าแข่งขันได้แสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่

งานราตรีการกุศลนานาชาติครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความสามัคคีของชุมชนในจังหวัดประจวบฯ อีกทั้งยังสะท้อนถึงพลังของการร่วมมือร่วมใจกันเพื่อสังคมอย่างแท้จริง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คู่รักนั่งรถไฟไปจดทะเบียนเท่าเทียม พร้อมฮันนีมูนสุดโรแมนติก

คู่รักนั่งรถไฟไปจดทะเบียนเท่าเทียม พร้อมฮันนีมูนสุดโรแมนติก

วันที่ 23 มกราคม 2568 ที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารใหม่) จ.ประจวบฯ บรรดาคู่รักรวม 6 คู่ นั่งรถไฟขบวน Royal Blossom ออกจากสถานีหัวลำโพง มาที่สถานีรถไฟหัวหิน เพื่อจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมกับคู่รักอีก 17 คู่ รวมทั้งหมด 23 คู่ ในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี นายศรัณยศักดิ์ ศรีเครือเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสราวุธ เจริญธนาสกุล ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัทหัวหิน แอสเสท จำกัด พร้อมคนในวงการบันเทิง อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และแขกผู้มีเกียรตินับพันคน ร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของหัวหินและจังหวัดประจวบฯ ในการแสดงออกถึงการยอมรับและสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และคุณค่าของความรักในทุกมิติ ซึ่ง Hua Hin Grand Inter Pride 2025 ไม่เพียงแต่เป็นงานที่สะท้อนถึงการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของหัวหิน ในฐานะเมืองที่เปิดกว้างและเต็มไปด้วยความอบอุ่น สร้างสรรค์กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็นอย่างแท้จริง โดยหัวหิน ถือเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ไม่เพียงแต่ในด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมเศรษฐกิจของความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งการจัดงานในวันนี้ คือส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบที่ครอบคลุมและสร้างโอกาสใหม่ ทั้งในด้านของธุรกิจโรงแรม การบริการ ร้านอาหาร และกิจกรรมท้องถิ่น ที่จะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนในพื้นที่ ที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เมืองหัวหินและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยว ที่ยกระดับในการเป็นเมืองที่พร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม”

น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัทหัวหิน แอสเสท จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดงานในครั้งนี้ว่า ในฐานะที่บลูพอร์ตหัวหิน เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญในการจัดงาน Hua Hin Grand Inter Pride 2025 เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้หัวหินเป็นเมืองที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างเต็มที่ ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีความเท่าเทียม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างธุรกิจการท่องเที่ยวและการส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมในสังคมไทย ถือเป็นก้าวแรกในการปูทางสู่การจัดกิจกรรม Pride Month ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2568 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับหัวหินในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจในระดับโลก ที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนความเท่าเทียม แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รองรับความหลากหลายได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งการสร้างความน่าสนใจให้กับหัวหินในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและจากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่กำลังกลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงในการใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเมืองหัวหินมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กองทัพบก ร่วมใจแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

กองทัพบก ร่วมใจแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

ตามนโยบายของกองทัพบกในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กองกำลังสุรสีห์ โดย พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก มอบหมายให้ พ.อ.เพรียว เลี้ยงชีพชอบ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมบูรณาการความร่วมมือกับชุดปฏิบัติการไฟป่าและหมอกควันของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำโดยนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด นำโดยนายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ไฟป่าและข้อมูลจุดความร้อนในพื้นที่ รวมถึงประสานการปฏิบัติในการกำหนดแนวทางการป้องกันและควบคุมไฟป่า ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

ในการนี้ หน่วยได้จัดชุดวิทยากรเผยแพร่ความรู้ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ของหน่วย ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างการรับรู้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมทั้งแจกจ่ายอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ อาทิเช่น หน้ากากอนามัย และกระบอกสำหรับล้างจมูก ให้กับกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ของตำบลอ่าวน้อยและตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านสุดทนถูกทำลายป้ายค้านบ่อขยะเถื่อน หลังถูกเมินจากหน่วยงานรัฐ

ชาวบ้านสุดทนถูกทำลายป้ายค้านบ่อขยะเถื่อน หลังถูกเมินจากหน่วยงานรัฐ

วันที่ 22 มกราคม 2568 ตัวแทนชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 8 ,10, 11,12 และหมู่อื่นๆ ในพื้นที่ตำบลห้วยทราย กว่า 50 คน รวมตัวกันนำป้ายมาปักตามทางแยกต่างๆ พร้อมไลฟ์สดผ่านโซเชียลระบายแสดงความอัดอั้นในใจ เพื่อคัดค้านไม่เอาบ่อขยะที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ต้นน้ำ หมู่ 10 ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยข้อความในป้ายระบุว่าชาวบ้านพึ่งใคร ผู้นำตำบลห้วยทรายไปไหน อย่าลืมวันที่พวกท่านมายกมือไหว้ขอคะแนนประชาชน ท่านเป็นตัวแทนชาวบ้าน หรือขี้ข้านายทุน นอกจากนี้ภายในป้ายอื่นๆ ยังมีข้อความระบุว่า ขอคัดค้านสร้างบ่อขยะ โดยเอาขยะที่ไม่ใช่ของตำบลห้วยทรายมาทิ้งในพื้นที่ของพี่น้องชาวตำบลห้วยทราย อย่าเห็นชาวบ้านเป็นขี้ข้าของท่าน อย่าข้ามหัวประชาชน เป็นต้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านมีการปักป้ายคัดค้านแสดงประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านไม่เอาบ่อขยะที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและจังหวัด ขอให้เข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้าน เนื่องจากบ่อขยะดังกล่าวไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์และไม่มีการศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมให้ชาวบ้านได้รับทราบก่อน อีกทั้งยังไม่ได้ผ่านการเห็นชอบของสภาตำบลห้วยทราย ซึ่งหลังจากที่ได้ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าให้กับชาวบ้านทราบผลแต่อย่างใด และต่อมาป้ายคัดค้านที่ชาวบ้านได้ปิดประกาศไว้ถูกมือดีทำลายได้รับความเสียหายทั้งหมดทุกป้าย ชาวบ้านจึงได้รวมตัวบริจาคเงินจัดทำป้ายคัดค้านขึ้นมาใหม่ แล้วนำมาติดตั้งซ้ำในจุดเดิมที่ถูกทำลายไป พร้อมกับเดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรคลองวาฬ เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบเพื่อให้ช่วยหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ชาวบ้านเปิดเผยว่า การที่รวมตัวกันมาปักป้ายใหม่ในวันนี้ เนื่องจากป้ายเดิมถูกมือดีทำลายได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่เอาบ่อขยะนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำ อยู่เหนือหมู่บ้านสูงกว่าระดับน้ำทะเล 130 เมตร กลัวว่าจะได้รับผลกระทบในระยะยาว ทั้งด้านมลพิษและด้านอื่นๆอีกมากมายที่จะตามมา อีกทั้งโรงเรียนและวัดก็อยู่ใกล้กับบ่อขยะ ปัจจุบันผู้นำท้องที่ทุกหน่วยงานไม่เคยออกมาอธิบายศึกษาผลกระทบ และให้เหตุผลกับชาวบ้าน หน่วยงานรัฐก็เงียบเฉย ปล่อยให้ชาวบ้านต่อสู้คัดค้านเพียงลำพัง

ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าชาวบ้านหมู่ 10 ลงชื่อเห็นชอบให้มีบ่อขยะนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากวันนั้นเป็นวันประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านตามปกติ ผู้นำหมู่บ้านได้นำเรื่องต่างๆ มาพูดให้ชาวบ้านฟัง รวมถึงบ่อขยะนี้ บอกว่าเป็นขยะที่เอามาจากในพื้นที่ตำบลห้วยทรายเอง ไม่ได้นำเอาขยะจากภายนอกเข้ามาในพื้นที่ แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นตามที่ได้บอกกับชาวบ้าน ในวันประชุมมีการลงชื่อผู้เข้าร่วมประชุมและลงชื่อรับแจกข้าวสารเท่านั้น ไม่ได้เป็นการลงชื่อเพื่ออนุญาตให้มีบ่อขยะ.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ส่งมอบปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีนพระราชทาน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ส่งมอบปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีนพระราชทาน

วันที่ 22 มกราคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์เสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็มและอาหารที่มีสารไอโอดีนพระราชทาน ให้แก่โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีนส่วนพระองค์ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรีตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งมอบให้กับพลเรือตรีกรัณย์ กลิ่นบัวแก้ว รอง ผบ.ทรภ.1 มีนายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน, นายชลธี ศรีชะเอม นายกสมาคมชาวประมงอำเภอบางสะพาน, นายสมหมาย ปานทอง อุปนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ประธานกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอบางสะพาน พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอบางสะพาน ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น, หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่, น.ส.แววตา โต๊ะทอง ตัวแทนเครือข่ายชาวประมงอำเภอบางสะพาน เครือข่ายชาวประมงประจวบคีรีชันธ์เข้าร่วมในพิธีที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายสิทธิชัย สวัสดิ์เสน กล่าวว่า โครงการต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันนี้ ได้ร่วมกันสนับสนุนโครงการฯ มีการรวบรวมปลากะตักแห้ง 2,100 กิโลกรัม เกลือไอโอดีน 3,060 กิโลกรัม และปลากระป๋อง 1,000 กระป๋อง ส่งมอบให้กับผู้แทนกองทัพเรือ รับไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป ต้องขอขอบคุณผู้นำองค์กรภาคประมงต่างๆ ที่เป็นการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่นำความปรารถนาดีของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปส่งมอบให้พี่น้องในพื้นที่ห่างไกลในครั้งนี้.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาการสื่อมวลชนฯ จัดอบรมครูประจวบฯ – เพชรบุรี ช่วยเด็กรู้เท่าทันสื่อ กระตุ้นการวิเคราะห์ผ่านการอ่านหนังสือพิมพ์

สภาการสื่อมวลชนฯ จัดอบรมครูประจวบฯ – เพชรบุรี ช่วยเด็กรู้เท่าทันสื่อ กระตุ้นการวิเคราะห์ผ่านการอ่านหนังสือพิมพ์

วันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุม โรงแรมจีหัวหิน รีสอร์ทแอนด์มอลล์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มูลนิธิสภาการสื่อมวลชน และสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หนังสือพิมพ์หัวหินสาร จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ โดยมีนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เป็นประธานเปิดสัมมนา มีคณะครูระดับชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนต่างๆ ในอำเภอหัวหิน 15 โรงเรียน และในจังหวัดเพชรบุรี 10 โรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรม

ภายในงานมีกิจกรรม อาทิ การบรรยาย‘รู้จักหนังสือพิมพ์’โดย รศ.ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการกล่าวแนะนำ “หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์หัวหินสาร” โดยนายชลวิวัฒน์ โฆษิตชัยวัฒน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์หัวหินสาร การกล่าวแนะนำ “หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์เพชรภูมิ” โดยนายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลศิลป์โสภณ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เพชรภูมิ กิจกรรมสัปดาห์สร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ รวมถึงการเวิร์กช็อปสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ โดย รศ.ดร.วิไลวรรณ จงลิไลเกษม, คุณครูนิภารัตน์ ยังพระเดช และนายฐิติชัย อัฏฏะวัชระ

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูมีแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่กระตุ้นให้นักเรียนรักการอ่าน รู้จักคิดวิเคราะห์ให้หลากหลาย รู้เท่าทันสื่อและความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น โดยใช้หนังสือพิมพ์เป็นสื่อการเรียนการสอน รวมถึงเพื่อให้นักเรียนมีองค์ความรู้เท่าทันสื่อและความเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้น จากเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรวิชาชีพสื่อ เครือข่ายโรงเรียน เครือข่ายนักเรียน และส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดกลไกและกระบวนการคัดกรอง เฝ้าระวังและรู้เท่าทันสื่อ จากเครือข่ายความร่วมมือระหว่างองค์กรวิชาชีพสื่อ เครือข่ายโรงเรียน และเครือข่ายนักเรียน นิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์

ทั้งนี้ การสร้างภูมิการเรียนรู้อย่างเท่าทันสื่อ และการสร้างการเรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์ ในวัยเด็กระดับชั้นประถมศึกษา จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้จากการอ่าน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาความรู้ และใช้ความรู้ที่ได้จากการอ่านในการปรับตัว เป็นทักษะด้านการรับรู้ที่สำคัญมาก เพราะเป็นเครื่องมือเรียนรู้สิ่งต่างๆ อันเป็นรากฐานของการเรียนรู้แต่ละสาขาวิชา และเพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ ความสามารถของผู้อ่าน ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ได้ผลระยะยาวมากที่สุด และยังได้เสริมสร้างชุดทักษะความรู้ จากกระบวนโต้ตอบ การพูดคุย ซักถาม ผ่านกิจกรรมในกระบวนการระหว่างการเรียนรู้จากการอ่าน.

Categories
กีฬา ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เตรียมจัดงานรากเหง้าภูมิปัญญามวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก ที่อุทยานราชภักดิ์ 5 – 6 กุมภาพันธ์นี้

เตรียมจัดงานรากเหง้าภูมิปัญญามวยไทย เกรียงไกรสู่ชาวโลก ที่อุทยานราชภักดิ์ 5 – 6 กุมภาพันธ์นี้

วันที่ 21 มกราคม 2568 ดร.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568“Amazing MuayThai World Festival 2025”ในวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมด้วย น.ส.วราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นางพัชรินทร์ สิทธิพรรณโยธา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม ฝ่ายกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, พล.ต.พิพัฒน์ จงวัฒนาไพศาล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก และผู้ให้การสนับสนุนร่วมการแถลงข่าวที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกมวยไทยลุมพินี กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ กองทัพบกประสานความร่วมมือกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รวมทั้งภาคเอกชนและส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ กำหนดจัดงานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568 “Amazing MuayThai World Festival 2025” ในวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) องค์พระบิดามวยไทย ในโอกาสครบ 323 ปีแห่งวันขึ้นครองราชย์ (ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568) เพื่อส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทยและมรดกของชาติไทย

รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงรากเหง้าของศิลปะทางปัญญาของบรรพบุรุษไทย ในการต่อสู้ในระยะประชิด ซึ่งเป็นวิชาการป้องกันตัวของนักรบไทย อีกทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย“ปัญญา”และ“สร้างสรรค์”เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้ประสบความสำเร็จ และผลักดันซอฟพาวเวอร์ไทย ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอด สร้างสรรค์สินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง

โดยมีกิจกรรมที่สำคัญที่เน้นไปถึงการย้อนอดีตในแง่ประวัติศาสตร์ จารีต ประเพณีและวัฒนธรรม ที่ใช้นักแสดงกว่า 2,000 คน ประกอบด้วย 1. พิธีย้อนประวัติศาสตร์รากเหง้าสู่ความยิ่งใหญ่มวยไทย ของบรรพบุรุษไทยโบราณที่ได้คิดค้น ฝึกฝนและพัฒนาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพื่อใช้ในการป้องกันตัว และปกป้องประเทศชาติจากการทำศึกสงคราม 2. การแปรรูปขบวนทหารเป็นตัวเลขไทย 323 ปี เพื่อน้อมรำลึกถึงบิดามวยไทย 3. การแสดงผลสัมฤทธิ์ของกีฬามวยไทยไปสู่ความเป็นสากล และการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยและรำไหว้ครู อันงดงามยิ่งใหญ่ของคนที่มาร่วมในพิธีทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบแสง สี เสียง และการจุดพลุเฉลิมฉลองประเพณีมวยไทยอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา

สำหรับในปีนี้จะมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ พิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ 7 พระองค์ และสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ), การถวายพระราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, การจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์มวยไทย, การแข่งขันชกมวยไทย, กิจกรรมส่งเสริมในอุตสาหกรรมมวยไทย, การจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมืองของจังหวัดประจวบฯ กว่า 60 ร้านจากร้านดังทั่วจังหวัด และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีเมืองประจวบฯ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน จากสมาชิกทั่วทุกมุมโลกที่จะมาเข้าร่วมในการจัดงานครั้งนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหินตรวจสอบอ่างเก็บน้ำเขาเต่า หลังเกิดแพลงก์ตอนบลูม จนน้ำสีเขียวขุ่น

เทศบาลหัวหินตรวจสอบอ่างเก็บน้ำเขาเต่า หลังเกิดแพลงก์ตอนบลูม จนน้ำสีเขียวขุ่น

วันที่ 20 มกราคม 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยนายกิติศักดิ์ บัวลาด ประมงอำเภอหัวหิน นายภูมิรินทร์ สุขประเสริฐ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ รักษาการหัวหน้าฝ่ายควบคุมและจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองหัวหิน และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบน้ำภายในอ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการตามพระราชดำริ อ.หัวหิน หลังจากที่หลายวันมานี้น้ำมีสีเขียวขุ่น มีคราบสีเขียวปนฟ้า ลอยเป็นแพบนผิวน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นเล็กน้อย แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยังทำบุญปล่อยสัตว์น้ำลงอ่างฯ ตามปกติ

นายนพพร กล่าววว่า จากการตรวจสอบ พบว่าเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า “แพลงก์ตอนบลูม” หรือ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี เกิดจากสาหร่ายเซลล์เดียวหรือแพลงก์ตอนพืช เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้สีของน้ำเปลี่ยนไปจากสีปกติ เนื่องจากสีของสารสี (คลอโรฟิลล์เหมือนในพืช) ที่อยู่ในเซลล์ ส่งผลทำให้น้ำมีสีเขียวและกำลังจะย่อยสลาย แต่ยังไม่พบว่ามีสัตว์น้ำตายแต่อย่างใด ก่อนที่ลมพัดเอาสาหร่ายหรือแพลงก์ตอนดังกล่าวไปรวมไว้บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของน้ำด้วย ลักษณะนี้จะเกิดประมาณไม่เกินหนึ่งเดือนก็จะหายไปเอง ตอนนี้เทศบาลได้ประสานไปทาง ผูอำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14 ว่าจะช่วยดำเนินการเติมน้ำใหม่เข้าไปในอ่างฯ เพื่อเร่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้เร็วขึ้น ขอให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลใจว่าเกิดน้ำเน่าเสียแต่อย่างใด

ด้านนายกิติศักดิ์ บัวลาด ประมงอำเภอหัวหิน กล่าวว่าปกติสำนักงานประมงจะตรวจสัตว์น้ำและตรวจสภาพน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว เราเพิ่งตรวจไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพบว่าค่า PH คุณภาพของน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เราพบตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ทางกรมประมงถือว่าเป็นเรื่องปกติ สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เดี๋ยวก็จะหายไปเอง ส่วนผลกระทบกับสัตว์น้ำนั้นค่อนข้างมีน้อย แต่ในอีกส่วนหนึ่งมันก็เป็นอาหารของสัตว์น้ำด้วยเช่นกัน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดค่ายลูกเสือ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เปิดค่ายลูกเสือ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วันที่ 20 มกราคม 2568 นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการค่ายลูกเสือเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ที่ค่ายลูกเสือจังหวัดประจวบฯ มี ดร.กันยมาส ชูจีน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ในฐานะหัวหน้าสำนักงานลูกเสือจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณะครู ผู้บริหารสถานศึกษา ลูกเสือ เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่จากโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดประจวบฯ ได้แก่ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบฯ เขต 1, สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาประจวบฯ เขต 2, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบฯ, สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดประจวบฯ (โรงเรียนเอกชน) และสำนักงานเทศบาลเมืองประจวบฯ จำนวน 26 โรงเรียน ลูกเสือ เนตรนารี 130 คน ผู้บังคับบัญชา จำนวน 26 คน รวมทั้งสิ้น 156 คน ร่วมในพิธี

ทั้งนี้ ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงศึกษาธิการ มีความประสงค์ที่จะตกลงความร่วมมือ และพัฒนางานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยพลังเยาวชน โดยมีสาระสำคัญคือการจัดการสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การดำเนินงานส่งเสริมและสนับสนุนกระบวนการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษา โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและการจัดตั้งกองลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสร้างเครือข่ายลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จึงกำหนดจัดโครงการค่ายลูกเสือเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ณ ค่ายลูกเสือจังหวัดทุกจังหวัด หรือค่ายลูกเสือเขตพื้นที่

สำนักงานลูกเสือจังหวัดประจวบฯ ตระหนักถึงการสร้างจิตสำนึกเยาวชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงจัดโครงการค่ายลูกเสือเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกเสือ เนตรนารี มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.