Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำสื่อมวลชนทัศนศึกษาการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟด้วยขบวนสุดหรู SRT Royal Blossom จากสถานีหนองแก – ประจวบฯ

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำสื่อมวลชนทัศนศึกษาการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟด้วยขบวนสุดหรู SRT Royal Blossom จากสถานีหนองแก – ประจวบฯ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้การต้อนรับนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และสื่อมวลชนจากหลายสำนักที่สถานีรถไฟหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ซึ่งมาท่องเที่ยวที่อำเภอหัวหิน กับขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT Royal Blossom จากนั้นเดินทางต่อจากจากสถานีหนองแกถึงสถานีประจวบฯ ในกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรทัศนศึกษาทิศทางการท่องเที่ยวทางรถไฟ เพื่อชมพื้นที่การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และการเชื่อมต่อการเดินทางโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 กรุงเทพฯ – หัวหิน – ประจวบฯ พร้อมกันนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ และคณะได้ร่วมนั่งขบวนรถไฟดังกล่าวไปลงยังสถานีประจวบฯ ด้วย

ระหว่างทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ต่อสื่อมวลชนว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 – 3 ของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจังหวัดประจวบฯ กว่า 8,500,000 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 39,000 ล้านบาท นับเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทยที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุด และเป็นอันดับ 9 ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด ถือได้ว่าประจวบฯ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าและมีธรรมชาติ ทั้งภูเขาและทะเลที่สวยงาม นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดคุยถึงความร่วมมือกันระหว่างจังหวัดประจวบฯ และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่เขตทางรถไฟ และพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องในจังหวัดประจวบฯ เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และการจัดการสาธารณภัย ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณทางรถไฟแล้ว ยังเป็นการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่และยังสามารถควบคู่ไปกับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อันเป็นการก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งประชาชนและเศรษฐกิจของจังหวัดได้อีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กองบิน 5 เตรียมจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ถวายอาลัยสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

กองบิน 5 เตรียมจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ถวายอาลัยสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 น.อ.รัตนศักดิ์ โพธิ์แก้ว ผู้บังคับการกองบิน 5 พร้อม พ.อ.วีระชัย ศิระสากร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รมน.) จังหวัดประจวบฯ ผู้แทนนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าฯ จ.ประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2568 ที่ห้องดุสิตา อาคารอากาศคำรณ กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.นลิน มาคเชนทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด น.ส.สุชาดา ธุมะลิ ผู้อำนวยการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บังคับบัญชาประจำกองบิน 5 ผู้แทนหน่วยงานชมรมแม่บ้านทหารอากาศกองบิน 5 หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงฯ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทหารอากาศ และสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เข้าร่วม

น.อ.รัตนศักดิ์ โพธิ์แก้ว ผบ.กองบิน 5 กล่าวว่า การจัดงานสดุดีวีรชนฯ ในปีนี้ กองทัพอากาศ โดยกองบิน 5 กำหนดจัดงานเน้นจัดเฉพาะงานพิธีการ และกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ ณ บริเวณอนุสาวรีย์วีรชนฯ ในส่วนของงานพิธีการจะเริ่มในวันที่ 7 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. พิธีเปิดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 โดยผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมเป็นประธาน กับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หลังจากนั้น จะชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ, กิจกรรมการแสดงสดุดีวีรชนของนักเรียน ต่อด้วยการชมวิดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพิธีมอบรางวัลผู้ชนะเลิศกิจกรรมการประกวด

และช่วงเช้าวันที่ 8 ธันวาคม จะเป็นพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนฯ ของส่วนราชการจังหวัดประจวบฯ และพวงมาลาจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารอากาศ และพวงมาลาจากแต่ละกองบินทั่วประเทศ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะเดินทางมาวางพวงมาลาในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พวงมาลาของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพวงมาลาผู้บัญชาการทหารอากาศ และร่วมงานบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน

ในปีนี้ กองบิน 5 ได้ปรับรูปแบบของกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมและสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังคงมีจัดกิจกรรม และพิธีการต่างๆ มากมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับงานพิธีการหลัก โดยกำหนดจัดงานบริเวณอนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ซึ่งในงานมีการจัดนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การแนะแนวสถานศึกษาในกองทัพอากาศ และการจัดแสดงผลงานการประกวดประเภทต่างๆ ของนักเรียนที่ศึกษาในสถานศึกษาจังหวัดประจวบฯ เยาวชนและประชาชนทั่วไป และการพิชิตยอดล้อมหมวก โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก เพื่อรำลึกเส้นทางอพยพของกำลังพลกองบิน 5 และครอบครัวไปยังถ้ำหลบภัย บนเขาล้อมหมวก ระหว่าง 5 – 7 และ 9 – 11 ธันวาคม 2568 2. กิจกรรมชมวิดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ ณ พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ฯ ตลอดเดือนธันวาคม 2568

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่มุ่งให้เกิดการมีส่วนร่วมในกลุ่มนักเรียนที่ศึกษาในสถานศึกษาจังหวัดประจวบฯ เยาวชนและประชาชนทั่วไป คือ กิจกรรมการประกวดชิงเงินรางวัลและโล่เกียรติยศ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แก่ 1. การประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “ประจวบคีรีขันธ์ มนต์เสน่ห์แห่งรุ่งอรุณและยามเย็น” สำหรับเยาวชนหรือประชาชนทั่วไป 2. การประกวดกลอนสุภาพ หัวข้อ “เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี” สำหรับนักเรียนชั้น ม.ปลาย 3. การประกวดโคลงสี่สุภาพ หัวข้อ “พิทักษ์มาตุภูมิ ด้วยลมหายใจและปณิธาน” สำหรับนักเรียนชั้น ม.ปลาย 4. การประกวดวิดีโอสั้นส่งเสริมการท่องเที่ยว หัวข้อ “1 วัน..ก็หลงรักประจวบได้” สำหรับเยาวชนหรือประชาชนทั่วไป 5. การประกวดเรียงความ หัวข้อ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงกับการฟื้นฟูและส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทย จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล” สำหรับนักเรียนชั้น ม.ต้น 6. การประกวด Infographic หัวข้อ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงกับการฟื้นฟูและส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทย จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล” สำหรับเยาวชนหรือประชาชนทั่วไป 7. การประกวดวาดภาพระบายสี “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงกับการฟื้นฟูและส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทย จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล” สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ทั้งนี้ในกิจกรรมการประกวดทั้ง 7 กิจกรรม มีโล่เกียรติยศ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และเงินรางวัลดังนี้ ชนะเลิศทุกการประกวด ที่ 1 ได้เงิน 5,000 บาท ที่ 2 ได้เงิน 3,000 บาท ที่ 3 มี 2 รางวัลๆ ละ 2,000 บาท และรางวัลชมเชยมี 2 รางวัลๆ ละ 1,000 บาท ส่งผลงานการประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 และจะประกาศผลในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ติดต่อสอบถาม ได้ที่ 063 – 8719369

ด้าน พ.อ.วีระชัย ศิระสากร รอง ผอ.รมน.จังหวัด กล่าวถึงประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดงาน ว่าเพื่อสดุดีความกล้าหาญของทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวชน ตำรวจและวีรชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ยอมสละชีวิต เลือด เนื้อ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ให้พี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีส่วนทราบ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา

เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในห้วงปี 2484 ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ก่อตัวขึ้นมา ณ ผืนแผ่นดินไทย โดยกองทัพญี่ปุ่นได้นํากําลังพลขึ้นบริเวณชายฝั่งทะเลตอนใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี ส่วนทางบกยกพลขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า และมลายู สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกัน ระหว่างทหารอากาศแห่งกองบิน 5 และพี่น้องประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะกองกําลังแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น ได้นํากําลังพลขึ้นบก ณ อ่าวประจวบฯ อ่าวมะนาว และมีการสู้รบกัน เป็นเวลา 33 ชั่วโมง จึงสงบ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งต้องนํามาเป็นข้อคิดให้กับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันไทยและญี่ปุ่นได้สานสัมพันธ์และมีสัมพันธไมตรีต่อกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความรัก ความเป็นมิตร

ในปีนี้ กองบิน 5 ได้ปรับรูปแบบของกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมและสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังคงมีจัดกิจกรรม และพิธีการต่างๆ มากมาย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยว เข้ามาชมเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ให้แพร่หลายต่อไป

ด้านนายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ กล่าวว่า อบจ. ยินดีให้การสนับสนุน ส่งเสริมการจัดงาน และรูปแบบงานอย่างเต็มความสามารถ อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาให้จังหวัดประจวบฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า โดยเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของกองบิน 5 นั่นคือ การเชื่อมโยงชายหาดอ่าวมะนาว เข้ากับประวัติศาสตร์ความกล้าหาญของวีรชนในการสู้รบ ช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อเป็นการรําลึกถึงวีรกรรม ความกล้าหาญ สละชีวิตเข้าต่อสู้กับศัตรูเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ตลอดจนสนับสนุนการจัดกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ผ่านกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ โดยเน้นกิจกรรมที่จัดเพื่อถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โรตารีรอยัลหัวหิน ห่วงใยเยาวชนให้ความรู้โครงการสอนน้องว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดปีที่ 4

โรตารีรอยัลหัวหิน ห่วงใยเยาวชนให้ความรู้โครงการสอนน้องว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดปีที่ 4

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน เทศบาลนครหัวหิน และสถานีตำรวจน้ำปราณบุรี จัดโครงการสอนน้องว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดปีที่ 4 (Children’s Water Safety & Drowning Prevention) ที่สระว่ายน้ำโรงแรมนาวีภิรมย์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มี มร.ไบรอัน แอนเดอร์สัน นายกสโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน นางอารีย์ มิตรอุปถัมภ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการภาคพื้นที่ 17 มร.กึนเธอร์ บุช ประธานโครงการ นายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน พลเรือตรีธานินทร์ จันทร์วิรัช ผู้จัดการกิจการสถานพักฟื้นข้าราชการ ทร.ส่วนกลาง (หัวหิน) พ.ต.ท.ราชวัตร ลาบุตร สว.ส.รน.5 กก.4 บก.รน. (ตำรวจน้ำปราณบุรี) สมาชิกสโมสรโรตารีรอยัลหัวหินและแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธี

มร.กึนเธอร์ บุช กล่าวว่า โครงการสอนน้องว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทักษะให้กับเด็กและเยาวชนในการช่วยเหลือตนเอง ให้สามารถเอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ด้วยการลอยตัวอยู่ในน้ำและให้ความรู้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ มีนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลหัวหิน (บ้านหนองขอน) จำนวน 50 คน เข้ารับการฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายน 2568 โดยมีครูฝึกสอนจากตำรวจน้ำปราณบุรี และทีมผู้ก่อการดี เทศบาลนครหัวหิน มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับเด็กนักเรียน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สมาคมรถโบราณฯ จับมือดุสิตธานีหัวหิน และพันธมิตรจัดงาน“เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์พาเหรด ครั้งที่ 23

สมาคมรถโบราณฯ จับมือดุสิตธานีหัวหิน และพันธมิตรจัดงาน“เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์พาเหรด ครั้งที่ 23”

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์พาเหรด ครั้งที่ 23” ตามแนวคิด “เสน่ห์วันวาน…สีสันเมืองทะเล” ระหว่างวันที่ 19 – 21 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นายธวัช สิทธิยานุรักษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบุรี นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายยุทธพล อินมอญ ปลัดเทศบาลเมืองชะอำ นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครหัวหิน นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “งานเพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์พาเหรด จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 เป็นครั้งแรกที่เพิ่มจังหวัดเพชรบุรีเข้าไปในชื่องาน และมีการปรับรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งสมาคมฯ ร่วมกับโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน เป็นปีที่ 4 และได้รับการสนับสนุนอย่างดีเช่นเคยจากพันธมิตรเดิม ทั้งหอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลนครหัวหิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึงมีพันธมิตรใหม่ ฮาร์ดร็อคคาเฟ่ หัวหิน”

“สมาคมฯ หวังสร้างมิตรภาพตลอดการเดินทาง กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยขบวนรถโบราณและรถคลาสสิค บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – หัวหิน ตามแนวคิด “เสน่ห์วันวาน…สีสันเมืองทะเล – The Charm of Yesteryear…a Seaside Town with Local Colour” เพื่อให้บรรดาคนรักรถโบราณได้สัมผัสกับหัวหิน เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่สวยงาม สร้างเสน่ห์ และสีสันที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว” นายขวัญชัยกล่าว

นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กล่าวว่า “โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานขบวนพาเหรดรถโบราณหัวหินต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ขอขอบคุณสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจและเลือกโรงแรมของเราเป็นสถานที่จัดงานอันทรงคุณค่านี้ ขบวนพาเหรดรถโบราณนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ชาวเพชรบุรีและหัวหิน ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างรอคอยทุกปี เพราะเป็นโอกาสได้ชื่นชมความงดงามของยนตรกรรมคลาสสิกที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน มีความยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมเปิดพื้นที่อันกว้างขวาง รวมถึงศูนย์การประชุมที่สามารถรองรับการจัดงานและคาราวานรถโบราณได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

พิธีปล่อยขบวนรถโบราณ “เพชรบุรี – หัวหิน วินเทจคาร์พาเหรด ครั้งที่ 23” จะเริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM-BANGKOK ถนนประชาอุทิศ สู่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ในวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยประชาชนทั่วไปสามารถชมรถคลาสสิค และรถโบราณอันทรงคุณค่าได้อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/VintageCarClub.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ตรวจสถานการณ์ชายแดนที่ด่านสิงขร หลังเหตุการณ์ทหารเมียนมาปะทะกองกำลังกระเหรี่ยง KNU

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ตรวจสถานการณ์ชายแดนที่ด่านสิงขร หลังเหตุการณ์ทหารเมียนมาปะทะกองกำลังกระเหรี่ยง KNU

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ลงพื้นที่และติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – เมียนมา ที่จุดผ่อนปรนด่านสิงขร บ้านไร่เครา หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ จากเหตุปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังกะเหรี่ยง KNU โดยมีนายชัยชาญ มูลมาก ป้องกันจังหวัดประจวบฯ ตชด.146 และหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกให้การต้อนรับและรายงานข้อมูล

โดยก่อนเกิดเหตุปะทะกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ทหารเมียนมา พัน ร.224 ได้เห็นโดรนของกองกำลังกะเหรี่ยง KNU บินขึ้นเหนือน่านฟ้าเขตของตนและทราบว่ามีกองกำลังกระเหรี่ยง KNU เสริมกำลังเข้ามายังบริเวณจุดป่าช้า เลยไม้กั้นหน่วยราชการเมียนมา บ้านมูด่อง จึงใช้ปืน ค.ขนาด 81 มม. ขนาด 105 มม. และขนาด 120 มม. ยิงออกจากฐานใส่บริเวณพิกัดที่มีกองกำลังกะเหรี่ยงซุ่มอาศัยอยู่เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันฐานปฏิบัติการจากการถูกปิดล้อมของฝ่ายต่อต้าน รวมถึงเป็นการผลักดันให้ฝ่ายต่อต้านถอนกำลังออกจากพื้นที่ ทำให้มีกระสุนตกห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 1 กิโลเมตร

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มีชาวเมียนมาที่อาศัยภายในบ้านมูด่อง ประมาณ 30 คน ได้อพยพหนีภัยออกจากพื้นที่มาพักชั่วคราวอยู่บริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ (โนแมนแลนด์) พรมแดนด่านสิงขร โดยมีเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยเฝ้าสังเกตการณ์จนกว่าเหตุการณ์จะสงบ สำหรับการสู้รบดังกล่าวขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่มีกระสุนตกข้ามมายังฝั่งประเทศไทย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเน้นย้ำการทำงานให้มีความรอบคอบ มีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เก๋งเสียหลักชนต้นไม้ริมทาง เเม่ลูกเจ็บสาหัส 4 ราย คาดหลับใน

เก๋งเสียหลักชนต้นไม้ริมทาง เเม่ลูกเจ็บสาหัส 4 ราย คาดหลับใน

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ท.สุชาติ รุ่งเรือง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานทับสะแก ว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ ช่วงระหว่างหลักกมที่ 361 – 362 หมู่ 3 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ จึงพร้อมด้วยอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองฯ กู้ชีพโรงพยาบาลทับสะแก กู้ชีพเทศบาลตำบลทับสะแก กู้ภัยตำรวจทางหลวง นำรถพยาบาล และรถอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างไปตาวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบรถยนต์นิสสัน มาร์ช สีแดง ด้านหน้าชนอัดติดกับต้นไม้ ตัวถังอัดติดเข้าอัดกับห้องโดยสาร มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 4 ราย ออกมาอย่างทุลักทุเล พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งไปยัง รพ.ทับสะแก ทราบชื่อดังนี้ 1. น.ส.จินดา เหมทานท์ อายุ 51 ปี ที่อยู่ 155/57 หมู่ 7 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา, 2. น.ส.พิชชาภา วิบูรณ์ธนโชติ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 11/26 หมู่ 3 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป๋า จ.พังงา, 3. น.ส.พิชชาภรณ์ วิบูรณ์ธนโชติ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 11/26 หมู่ 3 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และ 4.นางเพ็ญศิริ วิบูรณ์ธนโชติ อายุ 54 ปี ที่อยู่ 155/57 หมู่ 7 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวขับอยู่เลนขวา จู่ๆ ก็เสียหลักแฉลบลงข้างทางซ้าย ชนต้นไม้อย่างแรงโดยไม่ได้เฉี่ยวรถคันอื่นเลย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว จากการสอบถามคนขับ ทราบว่ามาจากชลบุรี จะกลับไปบ้านที่พังงา แต่มาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“คนละครึ่งพลัส” ประจวบฯ 2 สัปดาห์แรกเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท

“คนละครึ่งพลัส” ประจวบฯ 2 สัปดาห์แรกเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.จังหวัดฯ) ที่ห้องประชุมสิงขร ศาลากลางจังหวัด มีนายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมประชุม โดยก่อนเริ่มวาระการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอความร่วมมือสภาหอการค้าจังหวัดประจวบฯ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบฯ ช่วยประสานโรงแรม โรงงาน สถานประกอบการต่างๆ จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน ขณะเดียวกัน จังหวัดฯ ได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง รวม 3,000 คน แบ่งเป็น 4 รอบๆ ละ 750 คน ดังนี้ รอบที่ 1 วันที่ 24 พฤศจิกายน รอบที่ 2 วันที่ 13 ธันวาคม รอบที่ 3 วันที่ 1 มกราคม 2569 และรอบที่ 4 วันที่ 20 มกราคม 2569 ซึ่งในรอบแรกนี้จะประกอบด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมเดินทาง ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทุกอำเภอสำรวจประชาชนในพื้นที่ ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ แล้วเพื่อแจ้งรายชื่อมายังจังหวัด

นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสายการบิน Ezy Airlines ได้เปิดเที่ยวบินใหม่ที่ท่าอากาศยานหัวหิน เส้นทาง หัวหิน – กรุงเทพฯ, หัวหิน – ภูเก็ต, หัวหิน – สุราษฎร์ธานี, หัวหิน – หาดใหญ่ ทั้งแบบประจำและเช่าเหมาลำ เพื่อเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียหรือนักท่องเที่ยวจากภาคใต้ จึงขอความร่วมมือภาคเอกชนจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับทางสายการบิน เพื่อสร้างแรงจูงใจการเดินทาง เกิดประโยชน์ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

สำหรับวาระการประชุมในครั้งนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ได้รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ คือตั้งแต่เดือน มกราคม – กันยายน 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 8,558,173 คน เป็นชาวไทย 8,009,471 คน ชาวต่างชาติ 548,702 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 39,020.32 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้หารือร่วมกับภาคเอกชนในการเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ด้านสำนักงานคลังจังหวัด รายงานผลการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัสในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ซึ่งเริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน พบว่าในช่วง 2 สัปดาห์แรกของโครงการ มีเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 201 ล้านบาท มีร้านค้าที่ได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ 6,921 ราย เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม 4,255 ราย ร้านโอทอป 37 ราย ร้านค้าทั่วไป 2,462 ราย ร้านค้าบริการ 166 ราย และขนส่งมวลชนสาธารณะ 1 ราย และขณะนี้กระทรวงการคลังยังคงเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสะพานข้ามทางรถไฟทางคู่ 32 แห่ง ซึ่งปัจจุบันการรถไฟฯ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 1 แห่ง คือสะพานข้ามทางรถไฟถนนเกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ โดยมีการปูผิวคอนกรีต แอสฟัลต์ และตีเส้นจราจร ในเดือนพฤศจิกายนนี้ การรถไฟฯ จะเร่งปรับปรุงสะพานข้ามทางรถไฟอีก 6 แห่งในระยะเร่งด่วน ได้แก่ สะพานข้ามทางรถไฟบริเวณด้านหลังสถานีรถไฟกว้ากอ อ.เมืองประจวบฯ สะพานข้ามทางรถไฟ อบต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก สะพานข้ามทางรถไฟ หมู่ 13 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก สะพานข้ามทางรถไฟ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน สะพานข้ามทางรถไฟเทศบาลตำบลบ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน และสะพานข้ามทางรถไฟ ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จากนั้นจะทยอยดำเนินการปรับปรุงให้ครบทุกแห่งต่อไป

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้เชิญชวนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคระดมทุนจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ AI เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดประจวบฯ ที่มีความต้องการตามนโยบายด้านการพัฒนาการศึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หลังจากที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมกับภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธา จัดกิจกรรมระดมทุนจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ AI มอบให้แก่โรงเรียนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการศึกษาของเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมอุทิศถวายแด่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ประจวบฯ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมอุทิศถวายแด่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ที่วัดดอนมะกอก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีพระสงฆ์สมณศักดิ์จากวัดดอนมะกอก จำนวน 4 รูปประกอบพิธี มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม / กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ / กระทรวงกลาโหม ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมในพิธี เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน

ทั้งนี้ จังหวัดประจวบฯ กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวัดพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 11 – 21 พ.ย.68 เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนชาวไทยตลอดมา.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหินจับมือกรมชลประทาน ขอใช้ที่ดิน รฟท. ผลิตน้ำประปาเพิ่มให้ประชาชน

เทศบาลหัวหินจับมือกรมชลประทาน ขอใช้ที่ดิน รฟท. ผลิตน้ำประปาเพิ่มให้ประชาชน

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน พร้อมด้วย จ่าเอกลิขิต หนูนิน รองปลัดเทศบาล ประชุมร่วมกับนายณฤทธิ์ หวานแก้ว วิศวกรชลประทานชำนาญการ และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ที่สำนักงานเทศบาลนครหัวหิน จ.ประจวบฯ เรื่องการแจ้งข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้เช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อดันท่อประปาใต้ทางรถไฟ ระหว่างสถานีห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี – หัวหิน

นายสรรภพ กล่าวว่า ตามที่สำนักชลประทานที่ 14 กรมชลประทาน ได้ก่อสร้างโครงการวางท่อลอดส่งน้ำ ใต้ทางรถไฟระหว่างสถานีห้วยทรายใต้ – หัวหิน เพื่อผลิตน้ำประปา ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบงานให้กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการ และทางสำนักชลประทานที่ 14 ได้ทำเรื่องขอนุญาตเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อขอใช้ประโยชน์ในโครงการดังกล่าว ซึ่งทาง รฟท. ได้ตรวจสอบแล้วและพิจารณาพร้อมทั้งส่งเอกสารข้อกำหนดและเงื่อนไขในการให้เช่าที่ดินดังกล่าว จึงขอให้เทศบาลนครหัวหินประสานเกี่ยวกับการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี สำนักงานชลประทานที่ 14 ในส่วนของการขอใช้น้ำเพื่อผลิตน้ำประปาให้เพียงพอกับประชาชนและจ่ายค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ รองนายกเทศมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีน้ำประปาขุ่นในขณะนี้ ว่าเกิดจากน้ำดิบที่ส่งมาจากเขื่อนเพชรบุรี มีความขุ่นมากและส่งมายังถังตกตะกอนของเทศบาลนครหัวหินที่เติมปริมาณสารตกตะกอนในปริมาณปกติ จึงทำให้ปฏิกิริยาตกตะกอนไม่ทันต่อการผลิตน้ำประปาที่ส่งไปยังบ้านเรือนประชาชน ทั้งนี้ได้ให้กองการประปาดำเนินการแก้ไขใส่สารตกตะกอนเพิ่มขึ้นทำให้น้ำประปาใสขึ้นตามลำดับแล้ว.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

สุวัจน์เปิดการแข่งขันเทนนิสนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์เทนนิสทัวร์ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท

สุวัจน์เปิดการแข่งขันเทนนิสนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์เทนนิสทัวร์ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี / นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และประธานที่ปรึกษาการแข่งขัน กล่าวเปิดการแข่งขันเทนนิสนานาชาติ รายการ “แคล-คอม แอนด์ซีซีเอยู อินดัสตรี 4.0 ไอทีเอฟ เวิลด์เทนนิสทัวร์ 2025” (Cal-Comp & CCAU Industry 4.0 ITF World Tennis Tour 2025) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม – 23 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามเทนนิสอารีน่าหัวหิน สปอร์ตคลับ จ.ประจวบฯ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและแฟนเทนนิสเข้าชมอย่างคับคั่ง โดยก่อนเปิดการแข่งขันได้เชิญผู้ชมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมกันนี้กลุ่มบริษัทพราวได้ประกาศให้การสนับสนุน“น้องบัว”กมลวรรณ ยอดเพ็ชร นักเทนนิสเยาวชนดาวรุ่งของไทย วัย 18 ปี มือวางอันดับ 52 ของโลก (Junior) สู่นักเทนนิสหญิงระดับโลกด้วย

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า การแข่งขันเทนนิสนานาชาติ ในรายการแคล-คอม แอนด์ซีซีเอยู อินดัสตรี 4.0 ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ 2025 จัดขึ้นโดยความร่วมมือของอารีน่าหัวหิน สปอร์ตคลับ และผู้สนับสนุนหลัก บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท แคล-คอมพ์ ออโตเมชั่น แอนด์ อินดัสเทรียล 4.0 เซอร์วิส (ประเทศไทย) และกลุ่มบริษัทพราว นับเป็นอีกครั้งที่ อารีน่าหัวหิน สปอร์ตคลับ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิสของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือไอทีเอฟ อีกครั้ง หลังจากได้รับความไว้วางใจให้จัดการแข่งขันตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา เพราะอารีน่า หัวหิน มีสนามที่สวยงามและได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันยังเคยจัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงของดับเบิลยูทีเอมาแล้วด้วย ซึ่งอารีน่าหัวหิน สปอร์ตคลับ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หัวหินเป็นจุดหมายปลายทางที่นักกีฬาและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง

ในครั้งนี้ อารีน่าหัวหิน สปอร์ตคลับ จัดการแข่งขันจำนวน 4 รายการ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท มีนายภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมืออันดับ 9 ของโลกเป็นทัวร์นาเมนต์ไดเร็กเตอร์ หรือผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน เริ่มการแข่งขันเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักเทนนิสจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตลอดจนผู้ฝึกสอน ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และผู้ติดตามเดินทางมาร่วมการแข่งขัน สร้างความคึกคักอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน ซึ่งกว่าจะจบการแข่งขันลงในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะทำให้หัวหินได้รับประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ การได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬา ยังสร้างโอกาสหลายเรื่อง ทั้งการเปิดโอกาสให้นักเทนนิสไทยที่มีฝีมือ แต่อันดับโลกยังไม่สามารถเข้าร่วมได้ ก็จะได้รับไวลด์การ์ดหรือสิทธิพิเศษให้เข้าร่วม เพื่อพัฒนาฝีมือและเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก อีกทั้งยังช่วยนักเทนนิสไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคาสูงเหมือนกับการเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันเทนนิสทั้ง 4 รายการนี้ จะช่วยให้นักเทนนิสไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จทั้งชายและหญิง สำหรับแฟนกีฬาเทนนิส นอกจากการรับชมที่สนามแล้ว ยังสามารถชมการแข่งขันแบบ Live สด ผ่านทาง youtube : Arena HuaHin และเฟซบุ๊ก : ArenaHuaHin.