Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานฯ หว้ากอ เตรียมจัดใหญ่งานวันรำลึก“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”เทิดพระเกียรติ ร.4

อุทยานฯ หว้ากอ เตรียมจัดใหญ่งานวันรำลึก“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”เทิดพระเกียรติ ร.4

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ และนายวราวุธ พยัคฆพงษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานวันรำลึกเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”ที่ห้องนวลจันทร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและสื่อมวลชน ร่วมรับฟัง ซึ่งงานดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 สิงหาคม 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรำลึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาพิสูจน์การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง หลังจากพระองค์ได้ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี ว่าจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ในวันอังคารเดือน 10 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช 1230 รวมทั้งเป็นการปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการจัดแสดงแสง สี เสียง ระหว่างวันที่ 18 – 21 สิงหาคม ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป พบกับชุดการแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรสุริยุปราคา พร้อมด้วยทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ และความเชื่อเรื่องการเกิดสุริยุปราคาของผู้คนในสมัยนั้น บรรยากาศความโศกเศร้าของประชาชน เมื่อครั้งเสด็จสวรรคต การนำเสนอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับรัชกาลที่ 4 พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระปรีชาญาณ โดยเรื่องราวทั้งหมดแบ่งเป็น 3 องค์ ใช้เวลาในการแสดงไม่น้อยกว่า 40 นาที ดังนี้ องก์ที่ 1 พระราชประวัติ องก์ที่ 2 สุริยุปราคาบ้านหว้ากอ องก์ที่ 3 พระมหากษัตริย์กับหว้ากอ นอกจากนี้ มีการแสดงมหรสพคืนวันที่ 18 ส.ค. พบกับคณะลิเก นพรัตน์ ไม้หอม คืนวันที่ 19 ส.ค. พบกับรุ่ง สุริยา, วงดนตรีชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนธนาคารออมสิน คืนวันที่ 20 ส.ค. พบกับอ๊อด โฟร์เอส คืนวันที่ 21 ส.ค. พบกับสิทธิพร สุนทรพจน์, วงดนตรีชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนธนาคารออมสิน รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ลานกางเต็นท์ สปาทราย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร เครื่องดื่ม ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมงานดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลนครหัวหิน จัดอบรมสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุป้องกันการหกล้ม

เทศบาลนครหัวหิน จัดอบรมสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุป้องกันการหกล้ม

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “สร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการหกล้ม” ที่โรงแรมหัวหินแกรนด์ แอนด์พลาซ่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนางวราพร สื่อยรรยงศิริ ประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนหัวหินถิ่นมนต์ขลัง กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน มีนายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรี, นายชีพ สุกสี ประธานสภาเทศบาล พร้อมด้วยที่ปรึกษาและสมาชิกสภาเทศบาล คณะกรรมการ และสมาชิกศูนย์การเรียนรู้ชุมชนหัวหินถิ่นมนต์ขลัง รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุในเขตชุมชนนครหัวหินรวม 60 คน เข้าร่วม

นางวราพร กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุและผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ เกี่ยวกับสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การหกล้ม รวมถึงวิธีการป้องกันตนเองจากการหกล้มได้อย่างถูกวิธี และมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลหัวหิน นำโดย น.ส.วันเพ็ญ เหลืองนฤทัย นักกายภาพบำบัดชำนาญการพิเศษ และคณะ มาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ, รูปแบบการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัว, การจัดบ้านที่ถูกต้องตามหลักกายศาสตร์ รวมถึงการมีแสงสว่างที่เพียงพอ และความรู้เกี่ยวกับโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเข่าเสื่อม, โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง

นอกจากเรื่องสุขภาพกายแล้ว โครงการนี้ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านจิตใจที่พบบ่อยในผู้สูงอายุไทย เช่น ภาวะซึมเศร้า, วิตกกังวล, ความรู้สึกเป็นภาระของครอบครัว, ปัญหาความจำ และภาวะสมองเสื่อม

ภายในงานมีการนำเสนอกิจกรรมเสริมสร้างความสุขใน 5 มิติ ได้แก่ สุขสบาย, สุขสนุก, สุขสง่า, สุขสว่างและสุขสงบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้นำความรู้และเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง มีความสุขและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ลดความเสี่ยงจากการหกล้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลนครหัวหิน จัดโครงการ TO BE NUMBER ONE อบรมสร้างแกนนำเยาวชนและชุมชนร่วมป้องกันยาเสพติด

เทศบาลนครหัวหิน จัดโครงการ TO BE NUMBER ONE อบรมสร้างแกนนำเยาวชนและชุมชนร่วมป้องกันยาเสพติด

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน เป็นประธานเปิด โครงการพัฒนาแกนนำเยาวชน และแกนนำชุมชน (TO BE NUMBER ONE) เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2568 ระหว่างวันที่ 14 – 15 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมนาวีภิรมย์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีคณะผู้บริหารเทศบาล นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล และแกนนำในชุมชนเทศบาลนครหัวหิน จำนวน 126 คน เข้าร่วมอบรม

นายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นตามแนวทางพระราชดำริในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนและชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักในกลุ่มเสี่ยงและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 260 คน แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 1 แกนนำชุมชนในเขตเทศบาลนครหัวหิน 42 ชุมชน จำนวน 126 คน, รุ่นที่ 2 แกนนำเยาวชนจากโรงเรียนเทศบาลบ้านบ่อฝ้าย จำนวน 134 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์ทีมวิทยากรจากโรงพยาบาลหัวหินและค่ายอัษฎาวุธ มาให้ความรู้ตลอดการอบรม

วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือ เพื่อให้แกนนำเยาวชนและชุมชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของยาเสพติด, ส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการปัญหายาเสพติด, สร้างแกนนำในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนและชุมชน และสร้างกระแสนิยมและค่านิยมที่ถูกต้องในการป้องกันปัญหายาเสพติด พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน เทศบาลนครหัวหินมุ่งหวังว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเครือข่ายแกนนำที่เข้มแข็ง และขับเคลื่อนการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“เฉลิมชัย” เปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 12 ย้ำเกษตรกรรักษาคุณภาพทุเรียนไทย

“เฉลิมชัย” เปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 12 ย้ำเกษตรกรรักษาคุณภาพทุเรียนไทย

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ประจำปี 2568 ที่ลานกิจกรรม อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายเจษฎา ทวีกาญจน์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองพลับ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกรและประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี ซึ่งงานดังกล่าวจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่สินค้าเกษตรของดีตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอูให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้ รมว.ทส.ได้มอบต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนป่าละอูให้แก่ผู้ใหญ่บ้าน 11 หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ก่อนเยี่ยมชมการออกร้านจำหน่ายทุเรียนป่าละอู สินค้าจีไอ ขึ้นชื่อของตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งนำมาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท รวมถึงผลไม้ต่างๆ เช่น เงาะ กล้วย และสินค้าเกษตรหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่

นายเฉลิมชัย กล่าวว่าที่ผ่านมาทุเรียนไทยมีปัญหาเรื่องการส่งออกไปประเทศจีน เพราะเรื่องของคุณภาพมาตรฐาน ตัดทุเรียนไม่ได้ความสุกแก่ที่เหมาะสม อีกเรื่องคือการตรวจพบสารเคมีตกค้าง แต่ละครั้งที่มีปัญหาก็จะมีผลกระทบกลับมา ดังนั้นหากเกษตรกรช่วยกันรักษาคุณภาพทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนภาคตะวันออก ทุเรียนภาคใต้ ก็เหมือนการรักษาชื่อเสียงของทุเรียนไทย ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีอนาคตสดใส เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกที่สูงเกินกว่า 1 แสนล้านบาท การที่ทุเรียนป่าละอูมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเกษตรกรช่วยกันควบคุมดูแลคุณภาพการผลิต ไม่ตัดทุเรียนอ่อน และนอกจากทุเรียนป่าละอูแล้ว ที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ยังมีเงาะป่าละอูที่รสชาติไม่แพ้ที่ไหน อยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ พร้อมยืนยันว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะดูแลประชาชนที่อาศัยทำกินอยู่ในเขตป่าทั้งหมด

สำหรับงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 20 กรกฎาคม มีการออกร้านจำหน่ายทุเรียนป่าละอู สินค้าเกษตรในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ สินค้าโอทอป สินค้าชุมชน กิจกรรมการประกวดแข่งขัน และการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทุกค่ำคืน ตลอดทั้ง 7 วันของการจัดงาน

ทั้งนี้ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นพื้นที่ในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ โครงการตามพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมอบที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงโคนม ทำการเกษตร ปลูกพืชผักผลไม้ต่างๆ ผลไม้ที่สำคัญที่สร้างชื่อเสียงคือทุเรียนป่าละอู ซึ่งจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมของทุกปี โดยภาพรวมของจังหวัดประจวบฯ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนปี 2568 จำนวน 17,759 ไร่ เนื้อที่ให้ผลผลิตจำนวน 11,563 ไร่ มีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จำนวน 2,329 ราย ในปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนประมาณ 9,250 ตัน โดยอำเภอที่มีปริมาณผลผลิตออกสู่ท้องตลาดมาก ได้แก่ อำเภอบางสะพาน อำเภอหัวหิน อำเภอบางสะพานน้อย และอำเภอปราณบุรี ตามลำดับ.

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

นักวิ่งนับพัน ร่วมวิ่ง “1 ทศวรรษอุทยานราชภักดิ์ หัวหิน”

นักวิ่งนับพัน ร่วมวิ่ง “1 ทศวรรษอุทยานราชภักดิ์ หัวหิน”

วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงานวิ่ง “1 ทศวรรษ อุทยานราชภักดิ์ RUN FOR LOYALTY” ในโอกาสครบรอบ 10 ปี อุทยานราชภักดิ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเขตพื้นที่ทหาร และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานกับประชาชน ซึ่งเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะสมทบกองทุนสวัสดิการอุทยานราชภักดิ์ในการทำนุบำรุงอุทยานฯ ให้มีความเหมาะสม สง่างามและสมพระเกียรติต่อไปในอนาคต โดยมี พล.ต.พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมพญา ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก / ประธานกรรมการบริหารอุทยานราชภักดิ์ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางวาสนา ศรีกาญจนา ที่ปรึกษาสมาคมฯ และนักวิ่งกว่า 2,000 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ระยะ 3.5/ 5.5/ 10 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“อุทยานราชภักดิ์” เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่กองทัพบก ต.หนองแก อ.หัวหิน มีเนื้อที่ 222 ไร่ เป็นที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ 7 พระองค์ โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีและเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์แห่งสยาม โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขณะดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเปิดอุทยาน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2558 ปัจจุบันอุทยานราชภักดิ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ลูกค่างแว่นสีทองเขาล้อมหมวก อวดโฉมความซุกซน นักท่องเที่ยวไทยแห่ชมความน่ารัก

ลูกค่างแว่นสีทองเขาล้อมหมวก อวดโฉมความซุกซน นักท่องเที่ยวไทยแห่ชมความน่ารัก

วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณเชิงเขาล้อมหมวกกองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเดินทางมาลงทะเบียนตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งกองบิน 5 จัดเจ้าหน้าที่มาตั้งจุดเปิดรับลงทะเบียนและให้บริการด้านต่างๆ ในกิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวกความสูง 902 ฟุต ในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา

แต่อีกไฮไลท์ในกิจกรรมนี้และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือค่างแว่นถิ่นใต้ ที่อาศัยอยู่บริเวณเขาล้อมหมวก โดยเฉพาะลูกค่างแว่นตัวสีทอง ที่มาเล่นอวดโฉมความน่ารักให้กับนักท่องเที่ยวได้เห็น โดยมีพ่อแม่ของมันคอยนั่งประกบอยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่งพฤติกรรมของลูกค่างแว่นตัวสีทองนี้ จะกระโดดปีนป่ายไต่ตามกิ่งไม้และตัวของพ่อแม่มัน ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจและอดไม่ได้ที่จะยกโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพ พร้อมกับเซลฟี่เก็บไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเดินขึ้นสู่ยอดเขา เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง พร้อมกราบไหว้สักการะรอยพระพุทธบาทจำลองที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาล้อมหมวก เมื่อพิชิตยอดเขาล้อมหมวกและกลับลงมาถึงด้านล่างแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้รับใบประกาศกลับบ้านอีกด้วย

ทั้งนี้ กองบิน 5 เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ท้าทายความสามารถในการพิชิตยอดเขาล้อมหมวกความสูง 902 ฟุต เป็นเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 10 – 13 กรกฎาคม 2568 โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 06.00 น. และปิดรับลงทะเบียนในเวลา 09.00 น.ของทุกวัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน จะมีแสงแดดอ่อนๆ ทำให้บรรยากาศของการปีนเขาเป็นแบบสบายๆ อากาศกำลังดีไม่ร้อนเกินไป แต่ที่สำคัญกองบิน 5 ให้คำแนะนำ คือต้องใส่รองเท้าหุ้มส้นสำหรับปีนเขา และสวมใส่ถุงมือ เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ที่จุดบริการมีจำหน่ายให้ในราคาถูก เช่น ถุงมือ หมวก และของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทับสะแก จัดประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568

ทับสะแก จัดประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสิทธิพร คำหอม นายอำเภอทับสะแก ร่วมเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2568 ที่ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นางอวยพร คีรีวิเชียร ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทับสะแก นายสะอาด อนุกูลประชา นายก อบต.เขาล้าน นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ นายเชาว์ เอี่ยมสุขขา นายก อบต.นาหูกวาง นายวิบูลย์ เทียนทอง นายก อบต.ทับสะแก นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียนและชาวทับสะแก ร่วมกิจกรรม

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม อนุรักษ์ และสืบทอดประเพณีแห่เทียนพรรษา ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา พร้อมยกระดับให้เป็น Soft Power ของไทยที่สามารถสื่อสารถึงสากล เพื่อยกระดับเทศกาลประเพณีท้องถิ่น ให้เป็นงานวัฒนธรรมที่มีศักยภาพรองรับการพัฒนาในระดับจังหวัด ระดับชาติและต่อยอดสู่ระดับนานาชาติ ตามนโยบายที่เน้นของกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกให้เยาวขนและประชาชนในพื้นที่ได้เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น และร่วมเป็นพลังในการสืบสาน และสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่ร่วมสมัย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจฐานรากของอำเภอทับสะแก โดยในปีนี้ได้เพิ่มจุดเด่นใหม่ คือ การนำเสนอหลากหลายทางวัฒนธรรมด้านอาหาร จากทุกตำบลในอำเภอ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสวิถีท้องถิ่นผ่านมิติอาหาร ซึ่งเป็น Soft Power สำคัญของประเทศไทย เพื่อสร้างความรัก ความผูกพัน และความสามัคคีในชุมชน เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของประชาชนทุกกลุ่มในอำเภอทับสะแก การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากคณะสงฆ์ทับสะแก และงบประมาณจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ จำนวน 27,000 บาท รวมทั้งได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากหน่วยงาน สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาวัฒนธรรมทุกตำบล ตลอดจนภาคเอกชนและชาวทับสะแกอย่างดียิ่ง จากนั้น นางอวยพร คีรีวิเชียร ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทับสะแก ได้มอบต้นเทียนประจำพรรษาให้กับนายสะอาด อนุกูลประชา นายก อบต.เขาล้าน และนายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก ในฐานะกำนันตำบลเขาล้าน เพื่อเตรียมนำไปเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมที่ตำบลเขาล้านต่อไป.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวหัวหินพร้อมใจ “นุ่งผ้าถุง หิ้วปิ่นโต เข้าวัดช่วงพรรษา” สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

ชาวหัวหินพร้อมใจ “นุ่งผ้าถุง หิ้วปิ่นโต เข้าวัดช่วงพรรษา” สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล ประธานศูนย์การเรียนรู้หัวหินถิ่นมนต์ขลังและสมาชิก และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากแต่งชุดไทยร่วมกิจกรรม “นุ่งผ้าถุง หิ้วปิ่นโต เข้าวัดช่วงพรรษา” ถวายภัตตาหารและเครื่องปัจจัยไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่อาคารเอนกประสงค์วัดหัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อสืบสานประเพณีวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งในปีนี้วันอาสาฬหบูชาตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม และวันเข้าพรรษาตรงกับวันที่ 11 กรกฎาคม เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ พร้อมร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษาและกราบสักการะหลวงพ่อนาค เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นไปตามประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญ รักษาศีลและเจริญภาวนาในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จำพรรษา ณ วัดใดวัดหนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน งดการจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด กิจกรรมทำบุญในวันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมถวายกำลังใจและปัจจัยสี่แด่พระภิกษุสงฆ์ ถือเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ส่วนการถวายเทียนพรรษานั้นมีความเชื่อว่าเป็นการถวายแสงสว่างแก่ชีวิต ให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดดุจดั่งแสงเทียนที่ส่องสว่างนำทาง และยังเป็นการช่วยให้พระสงฆ์ได้ใช้เป็นแสงสว่างในการปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเข้าพรรษาอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตะวันทรงกลดขณะทำบุญ กราบหลวงพ่อดำ วัดเก่าเขาน้อย ปากน้ำปราณ

ตะวันทรงกลดขณะทำบุญ กราบหลวงพ่อดำ วัดเก่าเขาน้อย ปากน้ำปราณ

วันที่ 10 กรกกฎาคม 2568 ที่วัดเก่าเขาน้อย ต.ปากปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนักท่องเที่ยวแห่ชมความงามของวัดและกราบไหว้หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดเก่าเขาน้อย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และสวยงามบนภูเขาในอำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในด้านความสงบและความสวยงามของสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะทางเข้าโบสถ์ที่ตกแต่งเป็นรูปนกยูง และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอปราณบุรีได้ ผู้คนนิยมมาสักการะหลวงพ่อดำ เพื่อขอพรและเสริมสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีพระนอนและกิจกรรมลอดใต้โบสถ์เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

สำหรับวัดเก่าเขาน้อยแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ ทำให้สามารถชมทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา สามารถมองเห็นบ้านเรือนของปากน้ำปราณ อีกทั้งยังสามารถมองทะเลที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก ทำให้นักท่องเที่ยที่มาได้ทำบุญแล้ว ยังได้ชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามอีกด้วย

ทั้งนี้ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มาทำบุญและมาร่วมงานบวช ก็เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งมักจะถูกเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงเวลานั้นด้วยว่าพระอาทิตย์ทรงกลด เป็นเสมือนแสงแห่งชัยชนะ เป็นลางดีที่จะช่วยคลี่คลายเงื่อนปมปัญหาสารพัดที่มีอยู่ให้ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤติทั้งปวงไปได้.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้การกองบิน 5 ปลื้มผลการซ้อมใหญ่กู้ชีพเครื่องบินตกในทะเล

ผู้การกองบิน 5 ปลื้มผลการซ้อมใหญ่กู้ชีพเครื่องบินตกในทะเล

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นาวาอากาศเอกพงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 5 เป็นประธานการฝึกซ้อมเสมือนจริงกู้ชีพเหตุเครื่องบินตกในทะเล ที่บริเวณชายหาดทะเลอ่าวประจวบฯ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น นักบินและผู้โดยสารให้ปลอดภัยให้มากที่สุด ตามแผนการฝึกซ้อมทบทวนความรู้และการปฏิบัติการกู้ภัยทางทะเล เมื่ออากาศยานประสบอุบัติเหตุทางทะเล โดยบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฝึกซ้อมครั้งนี้ ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน อุทยานแห่งชาติหาดวนกร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ทีมกู้ภัย อบต.ห้วยทราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ โรงพยาบาลประจวบฯ โรงพยาบาลกองบิน 5 กอ.รมน.จ.ประจวบฯ ฝ่ายปกครองจังหวัด สถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบฯ เป็นต้น

นาวาอากาศเอก พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 เปิดเผยว่า กองบิน 5 เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงเหตุการณ์เครื่องบินตกทั้งสองครั้ง โดยปกติกองบิน 5 ได้ซ้อมกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ซ้อมอยู่ภายในที่ตั้งกองบิน 5 ครั้งนี้เป็นการซ้อมเครื่องบินตกในทะเล เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความราบรื่น รู้ตำแหน่งและหน้าที่ของตนเอง หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ยิ่งซ้อมให้เหมือนจริงก็จะทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความราบรื่น คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ ดังนั้นขั้นตอนต่างๆ จะต้องไม่เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ซึ่งการซ้อมแผน หากพบข้อบกพร่องต้องปรับปรุงแก้ไข ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุมาแล้วจึงนำมาปรับใช้ในการฝึกทบทวน อย่างน้อยอุบัติเหตุเราป้องกันไม่ได้ แต่เราสามารถช่วยชีวิตและลดอัตราการเสียชีวิตผู้ประสบเหตุได้ เนื่องจากกองบิน 5 อยู่ติดกับทะเล จึงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเลได้ จึงเพิ่มวงรอบการซ้อมและเพื่อรองรับเครื่องบินหน่วยงานของรัฐ เอกชนและอื่นๆ ด้วย ผลการฝึกซ้อมเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นความกระตือรือร้น ความพร้อมและความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี นอ.พงศ์ชนินทร์ กล่าว.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน