Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน ติวเข้มนักเรียนทำ CPR กู้ชีพเบื้องต้นให้นักท่องเที่ยวในสถานการณ์วิกฤติ

เทศบาลหัวหิน ติวเข้มนักเรียนทำ CPR กู้ชีพเบื้องต้นให้นักท่องเที่ยวในสถานการณ์วิกฤติ

วันที่ 29 สิงหาคม 2566 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์ ประจำปีงบประมาณ 2566 ที่โรงแรมนาวีภิรมย์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาล งานส่งเสริมสุขภาพ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองหัวหิน ทีมวิทยากรจากมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน / โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และทีมภาคีเครือข่ายชมรม Share for Life join for Love ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครูและนักเรียนระดับชั้น ม.4 – 6 จากโรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน จำนวน 124 คน เข้ารับการอบรม

นายนพพร กล่าวว่า เมืองหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เทศบาลเมืองหัวหินตระหนักถึงความจำเป็นในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหัวหิน ในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการช่วยเหลือ ฝึกปฏิบัติการฟื้นคืนชีพ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR เพื่อช่วยคืนชีวิตให้กับผู้ป่วย และการใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED) กับผู้บาดเจ็บได้อย่างถูกต้อง สามารถขอความช่วยเหลือจากระบบบริการฉุกเฉินทางการแพทย์และส่งต่อผู้บาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย สอดคล้องกับทาง UNESCO ได้ออกมาประกาศว่าเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะต้องมีทักษะในการช่วยเหลือการทำ CPR ได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กๆ จะต้องเรียนรู้ ที่ผ่านมามูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน / โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน / ทีม Share for Life join for Love จิตอาสาและอาสาสมัครได้ลงพื้นที่ให้ความรู้กับนักเรียนระดับมัธยมเขตพื้นที่อำเภอหัวหิน กว่า 4,000 คนแล้ว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สปสช.เขต 5 ราชบุรี นำคณะ อคม. ติดตามประเมินหน่วยรับเรื่องร้องเรียนจังหวัดประจวบฯ

สปสช.เขต 5 ราชบุรี นำคณะ อคม. ติดตามประเมินหน่วยรับเรื่องร้องเรียนจังหวัดประจวบฯ

วันที่ 28 สิงหาคม 2566 นางจินตนา แววสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 5 ราชบุรี พร้อมด้วยนายวันชัย เหี้ยมหาญ, นายปิยะ พวงสำลี คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (อคม.) ระดับเขตพื้นที่เขต 5 น.ส.ใจทิพย์ สอนดี นักวิชาการหลักประกันสุขภาพ สปสช. เขต 5 ร่วมตรวจประเมินหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ร้องเรียน ม.50 (5) ของศูนย์ฯ หลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดประจวบฯ หรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอิสระฯ จังหวัดประจวบฯ ซึ่งเป็นหน่วยที่ 1 ในเขต 5ราชบุรี ที่ผู้แทน อคม.ได้เข้าตรวจประเมินหน่วยรับเรื่องร้องเรียนฯมาตรา 50(5) ที่ต้องตรวจความพร้อมในการให้บริการสุขภาพตามมาตรฐานบริการตามเกณฑ์ที่กรรมการควบคุมฯ ไว้จำนวน 24 คน ที่ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถ.มหาราช อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานศูนย์ฯ จ.ประจวบฯ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานของหน่วยรับเรื่องร้องเรียนฯ มีนางจารุรัตน์ พัฒน์ทอง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายเลิศเชาว์ สุทธาพานิช เภสัชกรชำนาญการ สสจ. นางมณฑา ขนเม่น ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานหลักประกันสุขภาพในแต่ละโรงพยาบาลพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เข้าร่วม

นางจินตนา แววสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ กลุ่มจังหวัด สปสช.เขต 5 กล่าวว่าศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนของ สปสช.เขต 5 ราชบุรี ครอบคลุม 8 จังหวัดในภาคตะวันตก คือ ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ อีกยังเป็นที่ตั้งของหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน ตามมาตรา 50 ( 5 ) ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้ข้อมูลในเรื่องสิทธิหลักประกันสุขภาพ และรับเรื่องร้องเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ในกรณีที่ประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือประชาชนเกิดความเสียหายอันเนื่องจากการเข้ารับบริการสุขภาพ หรือบริการสาธารณสุข ซึ่งหน่วยงานนี้ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ยังช่วยลดความขัดแย้งระหว่างผู้รับบริการและผู้ให้บริการได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ให้ความรู้ ความเข้าใจสุขภาพในทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสร้างสัมพันธภาพกับหน่วยอื่นๆ และภารกิจอีกเรื่อง คือการรับเรื่องร้องเรียนให้ประชาชนรู้ว่ามีมาตรา 41 สำหรับช่วยเหลือเยียวยา กรณีได้รับความเสียหายจากบริการทางการแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การร้องเรียนโดยตรง แต่เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิที่ประชาชนมี รวมถึงข้อมูลที่ประชาชนคนไทยพึงรู้ และสำหรับผู้ที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถสอบถามได้ทางสายด่วน สปสช. โทร.1330 ซึ่งให้บริการ 24 ชั่วโมง

น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานศูนย์ฯ จังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ศูนย์ฯ จังหวัดประจวบฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามายังหน่วยรับเรื่องฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – สิงหาคม 2566 ทั้งเรื่องร้องเรียนในมาตรา 41 และมาตรา 57 และมาตรา 59 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยรับเรื่องร้องเรียนด้านบริการสุขภาพ จำนวนกว่า 38 เรื่อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วทุกเรื่อง

ในส่วนของกลไกการจัดการปัญหาเรื่องร้องเรียนด้านบริการสุขภาพ ตามมาตรา 50 (5) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังเช่นกรณีพบว่าประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง โดนเรียกเก็บเงินเพิ่มจากค่ายานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ในโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดประจวบฯ อีกทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานศูนย์ 50(5) ของจังหวัดประจวบฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ เนื่องจากการร้องเรียนจะเป็นการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ

ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินงานตามภารกิจหลัก ในการเผยแพร่ข้อมูล สร้างความรู้ สร้างความเข้าใจระบบหลักประกันสุขภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งรับเรื่องร้องเรียน ให้คำแนะนำ ปรึกษา ประสานงานแก้ไขปัญหาร่วมกับศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขตและจังหวัด นอกจากนี้ยังพัฒนาและเสริมศักยภาพตัวแทนประชาชนที่เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับจังหวัด ระดับเขต ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชน /องค์กรประชาชน และเข้าร่วมดำเนินงานพัฒนากองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น อีกทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมและการเชื่อมร้อยเครือข่ายประชาชน 9 ด้าน ในการพัฒนาและสร้างมาตรฐานเดียวกันของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และอีกภารกิจคือพัฒนาระบบฐานข้อมูล จัดทำข้อเสนอและความเห็นต่อการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ ร่วมผลักดันเชิงนโยบาย ระบบบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายหน่วยงานร่วมเซ็น MOU ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าชีวภาพสมุนไพร เพิ่มมูลค่า

หลายหน่วยงานร่วมเซ็น MOU ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าชีวภาพสมุนไพร เพิ่มมูลค่า

วันที่ 28 สิงหาคม 2566 นายประดิษฐ์ เกษมวิสิฐกุล เกษตรและสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการเซ็น MOU โครงการส่งเสริมพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพสมุนไพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายชาติชาย ศีรษะนอก เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.จันทร์ติรา ดำแก้ว เกษตรอำเภอบางสะพาน นางจริยา ศิวายพราหมณ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางทัศนีย์ โพธิ์น้อย สจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายประชุม หอมแดง ประธานกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรข่าเหลืองตำบลทองมงคล และสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่เข้าร่วมเซ็น MOU ที่ศาลาประชุมหมู่บ้าน หมู่ 6 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ

นายประชุม หอมแดง ประธานกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรข่าเหลือง กล่าวว่าตำบลทองมงคล มีเกษตรกรปลูกขิงและข่า มานานกว่า 20 ปี ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ข่ามีราคาดี เกษตรกรจึงเพิ่มพื้นที่ปลูก แต่ปี พ.ศ.2565 ข่าเริ่มราคาตก เกษตรกรมาปรึกษาผมว่าให้ช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ผมจึงไปปรึกษาเกษตรอำเภอบางสะพาน และได้จัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรข่าเหลืองขึ้นมา ในระยะแรกการทำแปลงใหญ่ จะทำเรื่องการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน มีสมาชิก 30 ราย 219 ไร่ ผลผลิตต่อไร่ประมาณไร่ละ 4 ตัน คาดว่าจะได้รับ 876 ตัน แต่ขณะนี้ราคาที่พ่อค้ามาซื้อกิโลกรัมละ 3 บาท ผมได้ขอความช่วยเหลือให้เกษตรอำเภอหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ และได้คำแนะนำมาว่า กลุ่มต้องทำตลาดเอง โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ และใช้การบูรณาการระหว่างหน่วยงานราชการและเอกชน ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น ต้องขอขอบคุณ ภญ.สิริปรียา สนใจ โค้ช SME ที่ให้คำปรึกษาด้านการตลาด ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ รวมทั้งเป็นสักขีพยานในการเซ็น MOU ระหว่างกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรข่าเหลือง กับเฮิร์ปแอนด์ออย เนเชอรัล และบริษัท DIY herb จำกัด

ด้าน น.ส.จันทร์ติลา ดำแก้ว เกษตรอำเภอบางสะพาน กล่าวว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้กับมวลมนุษย์ชาติ สามารถนำมาเป็นสมุนไพรพืชสวนครัว ใช้เพื่อประกอบอาหาร เนื่องจากอาหารไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่นในการใส่สมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ทำให้กลิ่นหอม รสชาติอร่อย และได้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ข่า ตะไคร้ ประโยชน์ของสมุนไพร 1. รักษาและบรรเทาอาการของโรค ข่าเหลืองสามารถใช้ทำยาด้วย ข่าเหลืองมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ในตัว ถึง 0.04 เปอร์เซ็นต์ ทำเป็นยานวดคลายปวดเมื่อย, ยาหม่อง, ยาดม แก้วิงเวียนศีรษะ เป็นต้น

นอกจากนี้ ข่าเหลืองยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางได้ด้วย เช่น สบู่ข่าเหลือง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรข่าเหลือง แบรนด์ทองมงคล สามารถนำไปแปรรูป โดยนำข่าสดแห้งที่บรรจุในสูญญากาศ ขนาด 100 กรัม และ 1,000 กรัม ชาข่าเหลือง น้ำพริกเผาข่าเหลือง น้ำพริกปลาย่างข่าเหลือง น้ำพริกกากหมูข่าเหลือง ยาหม่องข่าเหลือง น้ำมันข่าเหลือง 10. สบู่ข่าเหลือง 11. โลชั่นข่าเหลือง

ท่านใดสนใจ ติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ของกลุ่มได้ ดังนี้ 1. facebook : https://www.facebook.com/ThongmongkolGalangal 2. LINE : @946znvap 3. Google Business Profle : Throngmongkol Galangal Produrts หรือติดต่อได้ที่เกษตรอำเภอบางสะพาน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เก๋งเสยหกล้อ สาหัส 2 ราย รถติดยาวหลายกิโลเมตร

เก๋งเสยหกล้อ สาหัส 2 ราย รถติดยาวหลายกิโลเมตร

วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ร.ต.ท.เมธาสิฐ ณ พัทลุง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ภายในรถ บริเวณบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 297 + 100 ช่วงยูเทิร์นบ้านทุ่งมะเม่า ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ นำอุปกรณ์เครื่องมือตัดถ่าง เข้าให้ความช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่ารถที่ประสบอุบัติเหตุกีดขวางการจราจรบนถนนทั้งสองช่องทาง ทำให้รถที่วิ่งสัญจรขึ้นกรุงเทพฯ ไม่สามารถผ่านไปได้ และมีน้ำมันเครื่องรั่วไหลนองเต็มพื้น เป็นเหตุให้จราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องรีบเปิดการจราจรทางเบี่ยงเพื่อระบายรถ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากการตรวจสอบพบเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ สีขาว ทะเบียน 71 – 2485 เพชรบุรี สภาพหัวเก๋งหลุดพังยับ ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ใกล้กันพบเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ MG ZS i – Smart สีขาว ทะเบียน กต 7170 ชุมพร สภาพหน้ารถพังยับ กระจกหน้าแตก กันชนและฝากระโปรงหน้ารถฉีกขาดพังเสียหายยับเยิน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งมาในรถ เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย อายุประมาณ 30 – 35 ปี ได้รับบาดเจ็บขาและแขนหักทั้งสองราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบถามเบื้องต้น คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนขับรถมาตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าลงใต้และกำลังเลี้ยวยูเทิร์น เพื่อที่จะกลับรถไปฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ระหว่างนั้นมีรถเก๋งวิ่งมาทางตรง และตนคิดว่ารถเก๋งจะเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถเช่นกัน ตนจึงได้ขับรถเลี้ยวยูเทิร์น โดยที่ไม่คาดคิดว่าจะไปตัดหน้ารถเก๋งที่กำลังวิ่งทางตรงเพื่อมุ่งหน้าขึ้นกรุงเทพฯ จึงเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับความเสียหายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ช้างป่าแก่งกระจาน ปีนข้ามรั้วบุกหากินในหมู่บ้าน วอนรัฐบาลชุดใหม่ช่วยอย่างจริงจัง

ช้างป่าแก่งกระจาน ปีนข้ามรั้วบุกหากินในหมู่บ้าน วอนรัฐบาลชุดใหม่ช่วยอย่างจริงจัง

วันที่ 28 สิงหาคม 2566 นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านกว่า 20 คน ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยช้างกับคน ในถนนสายพุไทร – ไทรเอน เส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ และภายในหมู่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีโขลงช้างป่า ปีนข้ามแนวรั้วป้องกันช้างป่าที่เสียหาย เพื่อออกมาหากินริมถนนและภายในหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนความเสียหายแก่ชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ผู้ใหญ่บ้านตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยถึงการสร้างรั้วป้องกันช้างป่า เริ่มต้นจากชาวบ้านร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่า นำเงินมาทดลองสร้างรั้วป้องกันช้างป่าก็ได้ผล จึงส่งเรื่องไปทางจังหวัด ก็จัดสรรงบประมาณมาให้ แต่ผ่านมาหลายปี พบรั้วชำรุดเสียหายหลายจุด บางจุดรั้วมีความสูงเพียง 2 เมตรไม่สามารถป้องกันช้างป่าโตเต็มวัยได้ และเรื่องอยู่ในระหว่างของบประมาณมาซ่อมแซมเพิ่ม ปัจจุบันช้างฉลาด สามารถปีนข้ามแนวรั้วที่ชำรุดเข้ามาในหมู่บ้าน กัดกินพืชสวนของชาวสวนเสียหาย ชาวบ้านอยากได้งบประมาณมาทำถนนเลียบแนวรั้วช้าง เพื่อให้ชุดเฝ้าระวังช้างได้ออกตรวจและผลักดันช้างกลับเข้าป่า ขอสายไฟแรงต่ำ และติดตั้งสัญญาณเสียงเตือนช้างที่กำลังเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อจะได้รวมตัวกันออกไปผลักดันช้างกลับเข้าป่า ของบประกันพืชสวนที่เสียหายจากกรณีช้างป่าบุกทำลายพืชสวน ให้ประเมินชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวบ้านบ้าง ปัจจุบันมีแต่ อบต.ป่าเด็ง คอยจ่ายงบช่วยเหลือ แต่ก็ได้น้อยมาก จึงอยากให้จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบฯ หรือรัฐบาลชุดใหม่ได้จัดสรรงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน

นายสมเจตน์ จันทนา กล่าวว่าแนวรั้วป้องกันช้างป่าของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นจุดเรียนรู้ในการป้องกันช้างป่า ในระดับประเทศที่มีความเข้มแข็งของชุมชน ที่ไม่ปล่อยหรือนิ่งเฉยต่อปัญหา พยายามรวบรวมงบประมาณส่วนตัว ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือในรูปแบบการทอดผ้าป่าสร้างแนวรั้วป้องกันช้างไม่ให้เข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการลองผิดลองถูกมาตั้งแต่เริ่มต้น ปัจจุบันมีการสำรวจพบว่าแนวรั้วชำรุดหลายจุด ทำให้ช้างเล็ดลอดหรือปีนออกมาได้ หากมีงบประมาณเข้ามาสนับสนุนอย่างจริงจัง จะเสริมสร้างความแข็งแรงของรั้วป้องกันช้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันได้จัดชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า โดยมีอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทหารทัพพญาเสือ และชุดหมู่บ้านเฝ้าระวังช้างป่า รวม 10 หมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน และพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นต้องหาทางแก้ไข ไม่ได้นิ่งเฉย ภาพที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ช้างปีนรั้วออกไปในหมู่บ้าน ช้างยืนดักรถยนต์กินพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน เดินหากินบนถนนเส้นทางท่องเที่ยว ทางเราก็พยายามจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวัง กวดขัน เพื่อป้องกันช้างป่าเข้มข้นมากยิ่งขึ้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านยกเศียรพระเก่าใต้ต้นโพธิ์หน้าศาลากลาง ไปไว้ในวิหารหลวงพ่อเปี่ยมวัดเกาะหลัก

ชาวบ้านยกเศียรพระเก่าใต้ต้นโพธิ์หน้าศาลากลาง ไปไว้ในวิหารหลวงพ่อเปี่ยมวัดเกาะหลัก

กรณีที่มีชาวประมงพื้นบ้าน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอนหวา หลังลากอวนติดเศียรพระเก่ากลางอ่าวประจวบฯ จากนั้นได้นำเศียรพระไปวางไว้ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ใกล้เขาช่องกระจก หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ตรวจสอบเบื้องต้น เป็นเศียรพระที่หล่อด้วยปูนขัดมัน พบเฉพาะส่วนที่เป็นศีรษะ สภาพเศียรด้านบนมีรอยบิ่นแตก ส่วนบริเวณใบหน้าและศีรษะโดยรอบยังมีสภาพสมบูรณ์ มีหอยเพรียงขนาดเล็กเกาะอยู่บริเวณโดยรอบ คาดว่ามีอายุมากกว่า 60 ปี

ต่อมาวันที่ 28 สิงหาคม นางขอ ศรีชัย อายุ 60 ปี หรือยายจ๋า แม่ค้าขายอาหารลิงบริเวณเขาช่องกระจก กล่าวว่าเศียรพระดังกล่าว มีชาวประมงพื้นบ้านที่พบนำมาวางไว้ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ หลังจากลากอวนหาปลาที่กลางอ่าวประจวบฯ ใกล้เขาช่องกระจก โดยอวนได้ลากติดเศียรของพระพุทธรูป มีน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม จากนั้นได้นำไปไว้บริเวณสันเขื่อนกันคลื่น และกลับบ้าน ทำให้ชาวประมงคนดังกล่าวนอนไม่หลับ ฝันผวาทุกคืน จึงแนะนำให้นำเศียรพระที่พบไปไว้บริเวณโคนต้นโพธิ์และทำการกราบไหว้ขอขมา

นางขอ กล่าวว่า หลังจากมีการนำเศียรไปวางไว้ แต่ยังไม่มีหน่วยงานไปตรวจสอบ ตนขายอาหารลิงบริเวณใกล้เคียง เกรงว่าเศียรพระจะสูญหาย ส่วนตัวต้องการให้มีผู้สนใจ นำเศียรพระซึ่งเป็นของมีคุณค่าจากโคนต้นไม้ ไปเก็บไว้สถานที่เหมาะสม เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของลิงแสม และช่วงกลางคืนมักมีกลุ่มวัยรุ่น มาใช้พื้นที่หน้าถ้ำเขาช่องกระจกเป็นที่มั่วสุมอีกด้วย

นายสมรรถภณ เจริญศิลป์ หรือท็อป พระเครื่อง ประธานกลุ่มประจวบต้องดี กล่าวว่าได้ร่วมกับจ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นประจวบฯ นำเศียรพระจากโคนต้นโพธิ์หน้าเขาช่องกระจก ไปไว้ที่โคนต้นโพธิ์ หน้าวิหารหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง จากนั้นพระในวัดแนะนำให้นำไปไว้ที่สำนักงานวัดเกาะหลัก ล่าสุดพระครูวิสุทธิรรมโสภิต หรืออาจารย์ไก่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก ได้แจ้งให้พระนำเศียรพระพุทธไปตั้งเก็บไว้ที่โต๊ะหมู่หน้าพระประธานในวิหารหลวงพ่อเปี่ยม เกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองประจวบฯ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ ก่อนที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทางศาสนาต่อไป

นายสมรรถภณ กล่าวอีกว่า เมื่อทราบว่ายังไม่มีหน่วยงานใดสนใจ ทั้งที่ห่างจากศาลากลางจังหวัดไม่ถึง 100 เมตร และอยู่ในสวนเฉลิมพระเกียรติฯ จึงไปตรวจสอบเป็นเศียรพระเก่า ในฐานะตนเป็นชาวพุทธ เห็นว่าไม่ควรให้เศียรพระวางไว้ใต้ต้นไม้ที่มีเศษขยะจากการให้อาหารลิง ในช่วงกลางคืนอาจมีกลุ่มบุคคลที่เข้าไปในสถานที่ดังกล่าวไปยืนปัสสาวะรดเศียรพระโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งจุดที่วางเศียรใกล้กับถ้ำในเขาช่องกระจก มีรูปปั้นของพระนอนภายในถ้ำ ในอดีตมีพระจำวัด ส่วนประชาชนสามารถเข้าไปกราบสักการะได้ จากการดูแลของวัดธรรมิการามวรวิหาร แต่ปัจจุบันปล่อยถ้ำร้างไม่มีการพัฒนาให้มีความเหมาะสมเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เปิดถนนวัฒนธรรม 100 ปี ชุมชนหอนาฬิกาบางสะพานใหญ่ พร้อมชมมวยตับจาก

เปิดถนนวัฒนธรรม 100 ปี ชุมชนหอนาฬิกาบางสะพานใหญ่ พร้อมชมมวยตับจาก

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานถนนสายวัฒนธรรมชุมชน 100 ปี หอนาฬิกา อ.บางสะพานใหญ่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัด พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ ร่วมเปิด เป็นการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ที่ชุมชนหอนาฬิกา มีนายเลิศยศ แย้มพราย นายอำเภอบางสะพาน นายวิเชียร (กำนันโต้ง) เกตุงาม ประธานวัฒนธรรมอำเภอ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ พร้อมด้วยนางสุรางค์ แซ่ตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลกำเนิดนพคุณ กำนันสมหมาย ปานทอง อุปนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน คณะกรรมการวัฒนธรรมอำเภอบางสะพานร่วมพิธีเปิด

ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวถนนสายวัฒนธรรมชุมชน 100 ปี ชุมชนหอนาฬิกา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของอำเภอบางสะพาน ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์สามารถนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวิเชียร เกตุงาม ประธานสภาวัฒนธรรมบางสะพาน กล่าวว่า การพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ชุมชนหอนาฬิกา จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทุกวันเสาร์ที่ 2 และวันเสาร์ที่ 4 ของทุกเดือน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของอำเภอบางสะพาน ส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนจากการท่องเที่ยว ส่งเสริม และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชาวบางสะพาน บนถนนทองกำเนิด ชุมชนหอนาฬิกา ถนนคนเดิน ซึ่งมีสินค้าอาหารพื้นถิ่น ร้านค้าของกิน ผลิตผลพืชผัก ผลไม้ทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ ของใช้ เสื้อผ้า หลากหลาย มีการแสดงจากชุมชนและ นักเรียน โดยเฉพาะชุดรำวงมหาดไทย ที่ประกวดระดับประเทศได้ที่ 1 และชุดระบำร่อนทอง มีการออกบูทโชว์ศิลปะวัฒนธรรมโบราณ หาดูได้ยากจากชุมชน โดยเฉพาะไฮไลท์ของงานคือมวยตับจาก ที่ปิดตาชก นำโดยชมรมอนุรักษ์มวยไทยบางสะพาน โดยอาจารย์โยธิน อิสรภาพ นักมวยชื่อดังในอดีตเป็นผู้จัดชกมวยตับจากครั้งนี้.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวประมงพบเศียรพระกลางทะเลประจวบฯ หลังลากอวนได้แต่ไม่กล้าเอาขึ้นจากน้ำ นอนผวาหลายคืน

ชาวประมงพบเศียรพระกลางทะเลประจวบฯ หลังลากอวนได้แต่ไม่กล้าเอาขึ้นจากน้ำ นอนผวาหลายคืน

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งว่ามีชาวประมงพื้นบ้านนำเศียรพระเก่าแก่มาวางไว้บริเวณโคนต้น และทำพิธีขอขมา เมื่อไปถึงชาวประมงคนดังกล่าวไม่สะดวกที่จะออกสื่อ และเดินทางกลับไปแล้ว

จากการตรวจสอบพบเศียรพระที่หล่อสร้างขึ้นด้วยปูนขัดมัน มีเฉพาะส่วนที่เป็นศีรษะเท่านั้น โดยสภาพของเศียรพระที่พบด้านบนบริเวณศีรษะมีรอยบิ่นแตก ส่วนบริเวณใบหน้าและศีรษะโดยรอบบริเวณจุดอื่นๆ ยังมีสภาพสมบูรณ์ มีหอยเพรียงขนาดเล็กเกาะอยู่บริเวณโดยรอบ คาดว่ามีอายุมากกว่า 60 – 100 ปี ซึ่งถูกชาวประมงพื้นบ้านที่พบ นำมาวางไว้ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชาวบ้านส่วนหนึ่งมาถ่ายภาพกราบไหว้ขอโชคลาภ และจดป้ายทะเบียนรถซาเล้งของชาวประมงนำไปเสี่ยงโชค

ยายจ๋า แม่ค้าขายอาหารลิงบริเวณเขาช่องกระจก เล่าว่า คนที่นำเศียรพระมาวางไว้ที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ เป็นหนุ่มชาวประมง อาศัยอยู่ที่คลองวาฬ ได้มาปรึกษากับตนว่าเมื่อ 2 – 3 วันที่ผ่านมา ได้ลากอวนหาปลาที่บริเวณกลางอ่าวประจวบฯ ช่วงโค้งเขาช่องกระจก และอวนได้ลากติดเศียรของพระพุทธรูป ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัมติดขึ้นมา และได้นำมาวางไว้บริเวณขอบเขื่อนกันคลื่นในทะเล แต่ไม่กล้าเอาขึ้นมาบนบก่อนกลับบ้าน แต่หลังจากนั้นชาวประมงคนดังกล่าวนอนไม่หลับ ฝันผวาทุกคืน จึงได้มาปรึกษากับตน จึงได้แนะนำไปว่าให้เอาเศียรของพระท่านที่พบขึ้นมาจากน้ำไว้บนบก บริเวณโคนต้นโพธิ์และขอขมา ขอพร ขอโชคลาภ จะเป็นสิริมงคลกว่าเอาท่านไว้ในทะเล และหลังจากชาวประมงคนดังกล่าวได้เอาเศียรพระ มาไว้บริเวณโคนต้นโพธิ์แล้ว จึงรีบกลับบ้านไปด้วยความกลัวจะถูกกล่าวหาว่าไปขโมยเศียรพระมา

นายนพดล คูหาทอง อายุ 57 ปี พ่อค้าขายขนมหวานแยกสถานีตำรวจเมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่เมืองประจวบฯ แห่งนี้ตั้งแต่เกิดและในสมัยเด็กๆ เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน บริเวณอ่าวประจวบฯ และบริเวณโค้งเขาช่องกระจก ยังไม่มีเขื่อนกันคลื่น เป็นเพียงหาดทรายและบริเวณที่พื้นด้านล่างของเขาช่องกระจกฝั่งทะเล จะมีถ้ำ มีรูปปั้นของพระ และพระนอนอยู่ภายในถ้ำ สามารถเข้าไปกราบสักการะได้ ในสมัยก่อนนั้นยังมีพระจำพรรษาอยู่ภายในถ้ำ และต่อมาถูกน้ำทะเลซัดทรายเข้ามาทับถมภายในถ้ำจนตื้นเขินเกือบปิดสนิท ปัจจุบันไม่สามารถเข้าไปในถ้ำได้ ส่วนสาเหตุเศียรพระไปอยู่ในทะเลได้อย่างไร ตนก็ไม่ทราบ และสันนิษฐานว่าเศียรพระที่พบอาจเป็นเศียรพระที่เคยอยู่บริเวณเขาช่องกระจกแห่งนี้ก็เป็นได้.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลประจวบฯ จัดโครงการวิ่งชมแสงแรก ทะเลสวยที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์

เทศบาลประจวบฯ จัดโครงการวิ่งชมแสงแรก ทะเลสวยที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์

เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 27 สิงหาคม 2566 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการวิ่งชมแสงแรก ทะเลสวยที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกองส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองประจวบฯ ได้ร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคสปอร์ต อีเว้นท์แอนด์คอมมูนิเคชั่น จัดขึ้นที่บริเวณสวนสาธารณะ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ริมชายหาดทะเลอ่าวประจวบฯ มีประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมวิ่งชมแสงแรกครั้งนี้จำนวนมาก ทั้งในระยะทาง 5 กิโลเมตร และระยะทาง 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางกีฬา และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสวยงามของอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสมกับการวิ่งออกกำลังกาย รวมทั้งประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของฝากสินค้าชุมชน เป็นต้น

กิจกรรมดังกล่าวนี้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งแล้ว จะมอบให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์เพื่อสนับสนุนการจัดหาม้านั่งให้กับนักท่องเที่ยว ณ บริเวณจุดพักชมวิวอ่าวประจวบฯ และกิจกรรมอื่นๆ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และอีกส่วนหนึ่งได้มอบเงินสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันให้กับนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองบัว เป็นต้น

นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กิจกรรมวิ่งชมแสงแรก ทะเลสวยที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ในวันนี้ เป็นนโยบายที่ผมให้ความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และประชาสัมพันธ์อ่าวประจวบฯ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของเมืองประจวบฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการต่างๆ ในเขตเทศบาล รวมทั้งส่งเสริมและรณรงค์การออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงในยามเช้า.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ลิเดีย – แมทธิว ส่งท้ายแคมเปญ “Elegance of Thai Women” อิ่มอร่อยกับมื้ออาหารสุดพิเศษที่ห้างบลูพอร์ต หัวหิน

ลิเดีย – แมทธิว ส่งท้ายแคมเปญ “Elegance of Thai Women” อิ่มอร่อยกับมื้ออาหารสุดพิเศษที่ห้างบลูพอร์ต หัวหิน

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน พร้อมเป็นสถานที่แห่งการเฉลิมฉลองความสุขของผู้คนในทุกเทศกาลมอบประสบการณ์ความสุขและความประทับใจในทุกช่วงเวลา ผ่านพื้นที่ภายในบลูพอร์ตหัวหิน โดยเดือนสิงหาคมนี้ บลูพอร์ตหัวหิน ได้จัดแคมเปญภายใต้ชื่อ “Elegance of Thai Women” เพื่อดึงความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงไทยให้ประจักษ์สู่สายตาคนทั่วโลก ผ่านนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งเดือน สำหรับกิจกรรมส่งท้ายปิดแคมเปญ “Eleagance of Thai Women” เป็นกิจกรรมจาก You Hunt We Cook โดยเชฟมากฝีมือจากกูรเม่ต์ ที่ได้มารังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้คู่แม่ – ลูก ทั้ง 5 คู่ มีช่วงเวลาอันแสนพิเศษ ร่วมกับครอบครัวคนดัง คุณลิเดียและคุณแมทธิว

น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ Elegance of Thai Women” ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลวันแม่และเดือนของผู้หญิง ทุกๆ กิจกรรมที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกท่านเป็นอย่างมาก และในกิจกรรมส่งท้ายแคมเปญนี้ ตั้งใจที่จะจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า Top Spender ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด 5 ท่านแรก ให้มาร่วมรับประทานอาหารกับเมนูสุดพิเศษ โดยเชฟจาก You Hunt We Cook และยังเป็นการสนับสนุนให้ครอบครัว คู่แม่ลูก ได้ทำกิจกรรม และมีช่วงเวลาอันแสนพิเศษร่วมกัน ส่งท้ายแคมเปญด้วยความประทับใจในเทศกาลวันแม่ปีนี้อีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายชนิดที่ทางเชฟได้เตรียมมาให้แล้ว ยังเต็มอิ่มกับกิจกรรมที่ช่วยสร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกับครอบครัว ส่งท้ายเทศกาลวันแม่และเดือนของผู้หญิงในปีนี้อีกด้วย.