Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 และวันพ่อแห่งชาติ

ประจวบฯ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 และวันพ่อแห่งชาติ

วันที่ 5 ธันวาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ที่มณฑลพิธีลานเอนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประกอบพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นได้ประกอบพิธีสงฆ์ โดยได้รับพระเมตตาจากพระเมธีคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ สวดเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณรจำนวน 89 รูป ถวายพระราชกุศล

ส่วนที่อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนหัวหิน นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “วันชาติ” และ “วันพ่อแห่งชาติ” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ ร่วมสวดพระพุทธมนต์ วางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 99 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล

สำหรับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของพสกนิกรไทย ที่จะได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ตลอดระยะเวลาการครองราชย์กว่า 70 ปี ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและปวงชนชาวไทย ช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของราษฎร ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์ ทรงเป็นพระมิ่งขวัญและหลักยึดเหนี่ยวของพสกนิกรไทย แม้เสด็จสวรรคตล่วงมาจนปัจจุบัน พสกนิกรไทยยังคงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณไม่เสื่อมคลาย

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงริเริ่มโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ครอบคลุมด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ เกษตร สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชน อีกทั้งยังพระราชทานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักนำทางที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จนทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา การประกาศยกย่องของยูเนสโกครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงการถวายสดุดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หากยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับจากประชาคมโลกต่อพระราชปณิธานด้านความเสมอภาค การศึกษา และสันติภาพ อันเป็นมรดกที่ชาวไทยทุกคนภาคภูมิใจ และคือแรงบันดาลใจให้เราสืบสานงานของพระองค์เพื่อความผาสุกของสรรพชีวิต.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินร่วมใจเก็บขยะชายหาด เพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม ในวันสิ่งแวดล้อมไทย

หัวหินร่วมใจเก็บขยะชายหาด เพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม ในวันสิ่งแวดล้อมไทย

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชายหาด เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ชายหาดหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ จัดโดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครหัวหิน มีนายสรรภพ อึ้งรัศมี รองนายกเทศมนตรี นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน รองปลัดเทศบาล สท. สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จังหวัดเพชรบุรี อาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และจิตอาสา เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อระลึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม อันส่งผลต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของประชาชน และเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ หรือวัน ทสม. แห่งชาติอีกด้วย ภายในงานนี้ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือในการร่วมงานแล้ว ยังมีกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกันเก็บขยะทำความสะอาดชายหาดตลอดแนว พร้อมกันนี้กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครหัวหิน ยังได้เปิดตัวรถฟาร์มแทรกเตอร์ทำความสะอาดบนพื้นชายหาดด้วย

นายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่าหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียง ทำให้หัวหินกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองหัวหินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา โดยเฉพาะขยะที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น หากการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ขยะรั่วไหลลงสู่ทะเล ส่งผลให้เกิดมลพิษทางทะเล จึงต้องมีการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกดูแลรักษาความสะอาด เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เด็ก 17 ปี ถูกแก็งคอลเซนเตอร์หลอกเงินเกือบ 2 แสนอ้างเอี่ยวคดีฟอกเงิน โชคดี ตร.ปราณบุรี ช่วยทัน

เด็ก 17 ปี ถูกแก็งคอลเซนเตอร์หลอกเงินเกือบ 2 แสนอ้างเอี่ยวคดีฟอกเงิน โชคดี ตร.ปราณบุรี ช่วยทัน

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ปกครองอาชีพค้าขายรายหนึ่งในอำเภอปราณบุรี มาแจ้งว่าบุตรชายของตนอายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง หายออกจากบ้านพัก ที่หมู่ 4 บ้านหนองหอย อ.ปราณบุรี และไม่สามารถติดต่อเด็กได้ กลัวว่าจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง จากการตรวจสอบภาพกล้องวรจรปิดภายในบ้านพัก พบความผิดปกติเด็กได้วิดีโอคอลอยู่ตลอดเวลา ก่อนลุกลี้ลุกลน เรียกคาร์แกร็บมารับตัวออกไป หลังทราบข้อมูลจึงตรวจสอบไปทางคาร์แกร็บ ทราบว่าได้ไปส่งเด็กที่หน้าตู้เอทีเอ็ม บริเวณหน้าโรงงานสับปะรดเพื่อกดเงินแต่ไม่สำเร็จ ก่อนเด็กเรียกคาร์แกร็บอีกคัน ให้ไปส่งที่ห้างมาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จึงสอบถามทางผู้ปกครอง ทราบว่าได้เปิดบัญชีชื่อเด็กไว้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 190,000 บาท จึงรีบติดตามไปพร้อมผู้ปกครอง ก่อนพบตัวเด็กกำลังเบิกเงินสดจนเกลี้ยงบัญชี และเข้าระงับการโอนได้ทัน

จากการสอบถามเด็ก เล่าว่าก่อนหน้านั้นมีคนโทรมาที่เบอร์ตน อ้างว่าเป็นตำรวจ บอกว่าตนมีคดีเกี่ยวพันการฟอกเงินร่วมกับรายอื่น โดยสามารถบอกข้อมูลบัตรประชาชนตนได้ถูกต้อง ตนหลงเชื่อ ก่อนแก๊งคอลเซนเตอร์ให้ตนทำตามขั้นตอน มีการโหลดแอปฯ เข้าควบคุมโทรศัพท์ของตนไว้ และสั่งห้ามตนแพร่งพรายเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แม้ขนาดคนใกล้ชิดก็ตาม จากนั้นให้ตนไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินจากสมุดบัญชีเพื่อดำเนินการต่อ โชคดีที่ตำรวจมาช่วยระงับได้ทัน ยังไม่สูญเสียเงินแสนให้กับแก๊งมิจฉาชีพ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีมเดินแบบชุดไทยพระราชนิยม บนเวที “สืบสาน ภูษาศิลป์ น้อมถวายพระพันปีหลวง”

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีมเดินแบบชุดไทยพระราชนิยม บนเวที “สืบสาน ภูษาศิลป์ น้อมถวายพระพันปีหลวง”

ช่วงค่ำวันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “สืบสาน ภูษาศิลป์ น้อมถวายพระพันปีหลวง” และร่วมเดินแบบชุดไทยพระราชนิยม ที่เวทีกลาง งาน “ดินของพ่อ สานต่อของดีคีรีขันธ์” บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ โดยมี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นางอภิญญา เอี่ยมอําภา พันจ่าเอกสาคร สิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 120 คน ร่วมแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมและชุดผ้าไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำกล่าวแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์งานหัตถศิลป์ผ้าไทยและชุดไทยพระราชนิยม จากนั้นจึงเป็นการเดินแบบชุดไทยพระราชนิยมโดยนายแบบ นางแบบกิตติมศักดิ์ และเปิดให้กองเชียร์มอบดอกไม้แก่ผู้เดินแบบที่ชื่นชอบ โดยผู้ที่ได้รับดอกไม้มากที่สุดในครั้งนี้ ได้แก่ นายวราวุฒิ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสวยงาม แสดงความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานการอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่สืบไป

ทั้งนี้ “ชุดไทยพระราชนิยม” ถือเป็นเครื่องแต่งกายแบบไทยของสตรีที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มเมื่อปี พ.ศ.2503 ให้มีการศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายสตรีไทยสมัยต่างๆ และออกแบบเพื่อทรงใช้เป็นฉลองพระองค์ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ ทั้งในทวีปอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำผลงานจากช่างฝีมือของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไปจัดแสดงด้วยเสมอ นับเป็นการส่งเสริมผ้าทอ และงานศิลปหัตถกรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

สำหรับ “ชุดไทยพระราชนิยม” มีทั้งหมด 8 แบบ โดยแต่ละแบบจะมีความประณีตและความเหมาะสมในโอกาสต่างๆ และแต่ละแบบจะตั้งชื่อตามพระที่นั่งสำคัญของไทย ประกอบด้วย 1.”ชุดไทยเรือนต้น” รูปแบบที่เรียบ มีความสุภาพ และสะดวกในการเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับสวมใส่ในงานกึ่งทางการ หรืองานที่ไม่เป็นพิธีรีตองนัก เช่น งานเลี้ยงแบบไม่เป็นทางการ 2. “ชุดไทยจิตรลดา” เป็นชุดไทยที่เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยความสง่างาม มักถูกเลือกสวมใส่ในโอกาสที่เป็นทางการ อาทิ การต้อนรับแขกเมือง งานพระราชพิธี หรือพิธีสวนสนาม 3. “ชุดไทยอมรินทร์” ตัวเสื้อเป็นคอกลมแขนยาว มักปักดิ้นทองหรือดิ้นเงินเพื่อเพิ่มความงดงาม ชุดนี้เหมาะใส่ในงานพิธีการตอนค่ำ 4. “ชุดไทยบรมพิมาน” ตัวเสื้อเป็นแขนยาว คอตั้ง คล้ายชุดจิตรลดา แต่มีผ้าสไบหรือผ้าพาดไหล่ เหมาะกับการสวมใส่ในงานพิธีที่ต้องการความสุภาพและความสง่า เหมาะสำหรับงานพิธีการระดับสูง 5. “ชุดไทยดุสิต” เสื้อเป็นแขนกุด คอกลมหรือคอเหลี่ยม มักประดับด้วยลูกไม้หรือดิ้นเงิน หรือเลื่อมอย่างประณีต มักใช้สวมใส่ในงานพิธีตอนกลางคืน แทนชุดราตรีแบบตะวันตก 6. “ชุดไทยจักรี” ตัวเสื้อเป็นแขนหนึ่งเดียว อีกข้างพันผ้าสไบเฉียงดูหรูหรา ใช้ผ้ายกดิ้นทองหรือเงิน นิยมสวมใส่ในงานแต่งงาน หรืองานกลางคืน 7. “ชุดไทยศิวาลัย” ตัวเสื้อแขนยาว คอตั้ง ใช้ผ้ายกหรือผ้าไหม นิยมสวมใส่ในงานพระราชพิธี หรือพิธีทางศาสนา พิธีการที่มีหมายกำหนดการอย่างเคร่งครัด 8. “ชุดไทยจักรพรรดิ” เป็นชุดที่หรูหราที่สุดในบรรดาชุดไทยพระราชนิยม ใช้ผ้ายกดิ้นทอง หรือผ้ายกไหมที่มีลวดลายงดงาม ตัดเย็บอย่างประณีต นิยมสวมใส่ในงานพระราชพิธีสำคัญหรือโอกาสพิเศษที่ต้องการความโอ่อ่า

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้แจ้งยืนยันว่า รายการ “ชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ” (Chud Thai : The Knowledge, Craftsmanship and Practices of the Thai National Costume) จะถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) สมัยที่ 21 ในปี 2569 ซึ่งจะทำให้มรดกภูมิปัญหาของไทยได้รับการยกย่อง สะท้อนภาพลักษณ์ความวิจิตรแห่งภูมิปัญญาไทย และยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานร่วมสมัย ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาและเผยแพร่อัตลักษณ์ไทย ให้คงอยู่คู่สังคมโลกได้อย่างภาคภูมิ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

จิตอาสาจัดกิจกรรมรอบเขตวังไกลกังวล ถวายพระราชกุศลในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ

จิตอาสาจัดกิจกรรมรอบเขตวังไกลกังวล ถวายพระราชกุศลในหลวง รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 พันจ่าเอก สาคร สิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสารอบเขตพระราชฐานวังไกลกังวล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 ที่โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ฝ่ายประถมศึกษา) อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีคุณหญิงผกาพันธ์ เทหะมาศ ผู้ดูแลวังไกลกังวล พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนครหัวหิน และประชาชนจิตอาสาพระราชทานจากทุกภาคส่วนร่วมพิธี

โดยมีการประกอบพิธีรับมอบถุงพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ในพื้นที่ต่างๆ พร้อมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลฯจากหน่วยงานต่างๆ อาทิเช่น การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานโดยโรงพยาบาลหัวหิน ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการทันตกรรม ตรวจวัดสายตา รับบริจาคโลหิต กิจกรรมหมอสะอาด การจัดโรงครัวพระราชทานแจกจ่ายอาหารให้แก่ประชาชน บริการซ่อมบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้า เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ บริการตัดผมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน พร้อมการแสดงดนตรีและนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีประชาชนจำนวนมากมารับบริการในครั้งนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“ฮาร์เบอร์แลนด์” บุกตลาดหัวหิน ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน เนรมิตสนามเด็กเล่นในพื้นที่กว่า 3,500 ตร.ม. บนห้างบลูพอร์ต

“ฮาร์เบอร์แลนด์” บุกตลาดหัวหิน ทุ่มงบกว่า 100 ล้าน เนรมิตสนามเด็กเล่นในพื้นที่กว่า 3,500 ตร.ม. บนห้างบลูพอร์ต

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 “ฮาร์เบอร์แลนด์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำสนามเด็กเล่นในร่มของไทย ด้วยการเปิดสาขาใหม่ล่าสุด แห่งที่ 29 ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ ภายใต้ธีม “Fantasy Village” หมู่บ้านแสนสนุก ที่มาพร้อมเครื่องเล่นและกิจกรรมที่ออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะของเด็กทุกช่วงวัย ภายใต้สโลแกน “Your Family Happy Moments” ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสู่ระดับสูงสุดของโลกในการออกแบบ ดูแลและควบคุมคุณภาพเครื่องเล่นเพื่อให้ครอบครัวมั่นใจได้ทั้งความสนุกและความปลอดภัยในทุกโซน มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วยคุณปราการ นกหงส์ กรรมการผู้จัดการ ฮาร์เบอร์แลนด์กรุ๊ป, คุณเลิศนารี สมพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฮาร์เบอร์แลนด์กรุ๊ป, นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน, น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน, นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ, นางวาสนา ศรีกาญจนา ที่ปรึกษาสมาคมฯ, น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมแสดงความยินดี

คุณปราการ นกหงส์ กล่าวว่า ฮาร์เบอร์แลนด์ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากครอบครัวทั่วประเทศ ทำให้ขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างรวดเร็ว และครั้งนี้บนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ในศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ใช้งบดำเนินการกว่า 100 ล้านบาท และเชื่อว่าฮาร์เบอร์แลนด์จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ช่วยตอกย้ำความเป็น A Must Check In Destination และ Family Attraction ของบลูพอร์ต หัวหิน ในการเป็นจุดหมายปลายทางความสุขของทุกคนในครอบครัว ในทำเลหัวหินที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ที่ใส่ใจคุณภาพชีวิตและความสุขของเด็กๆ ได้อย่างลงตัว

ฮาร์เบอร์แลนด์ สาขาบลูพอร์ต ประกอบไปด้วย 5 โซน เพื่อให้เด็กๆ และผู้ปกครองได้ร่วมสนุกสนาน ประกอบด้วย โซน Little Ville, Toys Land, Harbor Town, Kids Island และ Junior Jungle นอกจากนี้ยังมีโซน Little JumpZ สนามแทรมโพลีนสุดมันส์ และ mini Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่นำเข้าจากอังกฤษให้เล่นสนุกกับแบบเต็มที่ Let’s Sail Slope Slide ตื่นเต้นกับสไลด์ทิ้งดิ่ง 60 องศา สูง 30 องศา สนุก 2 จังหวะในสไลด์เดียว “Glow In The Dark” Zip Line สนุกกับการห้อยโหน Zip Line เรืองแสงกลางเวหา “Glow In The Dark” Sport Arena สนามกีฬา Interactive เรืองแสง “Glow In The Dark” Super Soccer เกมฟุตบอล Interactive เตะบอลเข้าเป้าทำคะแนนในสนามเรืองแสง Tumbler วงล้อหมุนแฮมสเตอร์ มหาสนุก Dragon Slide ตะลุยสไลด์ในท้องมังกรยักษ์เป่าลม Harbor Town เมืองจำลองบทบาทสมมติ เสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆ จัดเต็มกว่า 15 อาชีพ พบกับอาชีพใหม่ล่าสุด Fire Station, Operation Room, Construction Site โปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดสาขาบลูพอร์ต หัวหิน “Fun Smile 4+3” ซื้อ E-Voucher เด็ก 4 Codes + ผู้ใหญ่ 3 Codes ในราคา 1,850 บาท ใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2569 โดย E-Voucher สามารถใช้ได้ถึง 31 ธันวาคมนี้ เฉพาะสาขาบลูพอร์ตหัวหินเท่านั้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รมช.เกษตรฯ ปล่อยทีมฝนหลวงหัวหินลุยสู้ฝุ่น PM 2.5 ช่วยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

รมช.เกษตรฯ ปล่อยทีมฝนหลวงหัวหินลุยสู้ฝุ่น PM 2.5 ช่วยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน Kick off ภารกิจบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปีงบประมาณ 2569 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ณ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีนายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานในพื้นที่ร่วมต้อนรับ

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ กล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคมของทุกปี ประเทศไทยมักประสบกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากสาเหตุการเผาป่า การก่อสร้าง การคมนาคม การทำอุตสาหกรรม จึงทำให้ส่งผลผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภายใต้นโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คำนึงผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ จึงได้มีมาตรการป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเน้นย้ำว่าการปฏิบัติการเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 มุ่งดูแลสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงได้สั่งการให้ตั้งหน่วยดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ และพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก PM 2.5 โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฝนหลวงฯ ในฐานะหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจด้านการดัดแปรสภาพอากาศ ซึ่งนอกเหนือจากการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนแล้ว ภารกิจการบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหาเป็นประจำทุกปีด้วย ในปีงบประมาณ 2569 กรมฝนหลวงฯ ขานรับนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการของ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดทำแผนการดัดแปรสภาพอากาศ ประจำปี 2569 เพื่อปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมีแผนการตั้งหน่วยดัดแปรสภาพอากาศ ประกอบด้วยตั้งหน่วยฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ และหน่วยฯ จ.ระยอง วางแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ใช้เครื่องบินรวม 5 ลำ ตั้งหน่วยฯ จ.ขอนแก่น วางแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เครื่องบินรวม 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ตั้งหน่วยฯ จ.ตาก และหน่วยฯ จ.พิษณุโลก วางแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ ใช้เครื่องบินรวม 2 ลำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 โดยการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศจะมีการวางแผนการทำงานร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่การบิน ระดับความสูงและช่วงเวลาการบินตามกฎการบินสากล

“สำหรับการดัดแปรสภาพอากาศ จะดำเนินการโดยใช้ 3 เทคนิค ได้แก่ 1. การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการก่อกวน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 1 (โซเดียมคลอไรด์) ปฏิบัติการบริเวณต้นลมและโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อก่อเมฆและเพิ่มปริมาณเมฆในพื้นที่เป้าหมาย 2. การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการเลี้ยงให้อ้วน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 8 แคลเซียมออกไซด์ หรือสูตร 6 แคลเซียมคลอไรด์ ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมากที่สุด เพื่อเลี้ยงเมฆให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแรงดูดซับฝุ่นละออง และ 3. การปฏิบัติการเทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน โดยการโปรยน้ำแข็งแห้ง เพื่อระบายฝุ่นละอองบริเวณระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) หรือสูงกว่าระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) เพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบน ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ากรมฝนหลวงฯ พร้อมปฏิบัติภารกิจทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองตามนโยบายจากรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ประชาชนมีคุณภาพอากาศที่ดี ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข” นายราเชน กล่าวตอนท้าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ฝายพังจนชิน ชาวบ้านร้องสื่อหลังซ่อมมา 6 ครั้งแต่ยังใช้ไม่ได้ เกษตรกรวิกฤติ

ฝายพังจนชิน ชาวบ้านร้องสื่อหลังซ่อมมา 6 ครั้งแต่ยังใช้ไม่ได้ เกษตรกรวิกฤติ

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ชาวบ้านหมู่ 6 คลองพันลำ ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ได้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าว ให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างฝายดิน วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท หลังสร้างเสร็จไม่นาน กลับชำรุดและได้ซ่อมหลายครั้งแล้วยังใช้การไม่ได้ ขณะที่สัญญาประกันงานกำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 23 ธันวาคมนี้

ต่อมา นายเกิดพงศ์ ทวีศักดิ์สมบูรณ์ ประธานชมรมสตรองอำเภอบางสะพาน พร้อมนายวชรภูมิ ง้าวบุ่งคล้า เลขาชมรมฯ และคณะกรรมการชมรมสตรองจังหวัดประจวบฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณฝายดิน หมู่ 6 หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน จากการตรวจสอบพบว่า โครงการดังกล่าวเริ่มตั้งงบประมาณเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 มกราคม 2568 ดำเนินการโดยบริษัท ธนพลทีพี 2000 จำกัด โดยมีระยะเวลารับประกันงานถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน จะหมดประกันแล้ว

นางวรรณา ฉิมพาลี อายุ 66 ปี ซึ่งมีที่ดินติดกับโครงการ เปิดเผยว่า ฝายดินจุดนี้ชำรุดซ้ำตลอด แม้จะมีการซ่อม 5 – 6 ครั้งแล้วก็ตาม แต่ใช้งานได้แค่วันเดียวหรือสองวันก็พังอีก ทำให้ไม่กักเก็บน้ำได้ตามวัตถุประสงค์“คลองพันลำเป็นแหล่งเก็บน้ำสำคัญ ใช้ทำประปาหมู่บ้าน ใช้ทำสวนมะพร้าว ปาล์ม และพืชผักต่างๆ หากฝายดินทำไม่ดี เสียทั้งงบประมาณและชาวบ้านก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย อยากให้หน่วยงานเร่งดูแลก่อนหมดประกัน” นางวรรณากล่าว

นายวชรภูมิ เลขาฯ ชมรมสตรองฯ ระบุว่า ขณะนี้โครงการยังอยู่ในช่วงรับประกันของผู้รับเหมา จึงขอให้ อบต.กำเนิดนพคุณ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเร่งประสานให้บริษัทเข้ามาซ่อมแซมให้ได้มาตรฐานก่อนหมดสัญญา“ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าซ่อมหลายครั้งแล้วยังพัง เพราะพื้นฐานเป็นฝายดิน ไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อ 40 ปีก่อนที่เคยมีประตูน้ำคอนกรีต จึงอยากให้พิจารณาทำเสาเข็ม เทคอนกรีตเพื่อเสริมความแข็งแรง เพราะคลองนี้เกี่ยวข้องกับหลายหมู่บ้าน ทั้งหมู่ 6 หมู่ 5 หมู่ 4 และพื้นที่เกษตรในหลายตำบล” นายวชรภูมิกล่าว ซึ่งชมรมสตรองเตรียมประสานชมรมระดับจังหวัด และ ปปช.จังหวัดประจวบฯ เพื่อเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนหมดสัญญาประกันงาน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ทั้งหมด สังคม

ข่าวสังคม

ข่าวสังคม

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ…ลำเลียงสิ่งของบริจาคนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นำคณะศูนย์รวมน้ำใจจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ลงพื้นที่นำสิ่งของเครื่องอุปโภค – บริโภคที่ประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ ร่วมบริจาคเพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยก่อนหน้านั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ มอบหมายให้นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของบริจาคเครื่องอุปโภค – บริโภค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่บริเวณหน้า อบต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย โดยครั้งนี้ได้นำสิ่งของบริจาคจำนวนมากขึ้นรถบรรทุก จำนวน 17 คัน มีถุงยังชีพ 4,416 ถุง น้ำดื่มจำนวนกว่า 3,000 แพ็ค และสิ่งของจำเป็น เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน กระดาษทิชชู่ และยารักษาโรค เป็นต้น เพื่อนำไปส่งต่อให้พี่น้องชาวภาคใต้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน.

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ…รับมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.สงขลา

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นางอภิญญา เอี่ยมอําภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ร่วมรับมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ จากศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หลังเก่า) อ.เมือง จ.ประจวบฯ มี น.ส.ภลดา อิศราภรณ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ ผู้พิพากษา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัด ร่วมกันนำสิ่งของ ประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อาหารสัตว์ และสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต มามอบให้เพื่อลำเลียงไปรวมกับสิ่งของบริจาคของทางจังหวัด เพื่อนำไปส่งมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.สงขลา ต่อไป.

“ท่าเรือประจวบ”…จัดกิจกรรม PPC ร่วมใจ สู้ภัยน้ำท่วมภาคใต้

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายพิทูล กองเลข หัวหน้าแผนกความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และหลายจังหวัดในภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ทางผู้บริหารบริษัท จึงได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภค และบริโภคขึ้นที่ห้องประชุมธราดล อ.บางสะพาน เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งกลุ่มประมง นำสิ่งของต่างๆ มาร่วมบริจาค พร้อมรวบรวมและแพ็คเป็นถุงยังชีพ และเป็นตัวแทนผู้บริหารนำพนักงานเดินทางลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ นำรถสิบล้อที่บรรทุกสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับการบริจาคจากทุกภาคส่วนในครั้งนี้ไปมอบให้กับจุดรับมอบ เพื่อส่งต่อไปช่วยเหลือยังผู้ประสบภัยต่างๆ ในพื้นที่แล้ว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประชาชนนับพัน ร่วมกิจกรรม “ธ สถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์” ถวายอาลัยแด่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ประชาชนนับพัน ร่วมกิจกรรม “ธ สถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์” ถวายอาลัยแด่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ช่วงค่ำวันที่ 1 ธันวาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ธ สถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์”ที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ถวายอาลัย น้อมดวงใจภักดีพระพันปีหลวง เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยน้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี พล.ต.นิพนธ์ บุญศิริ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฎ คุณหญิงผกาพันธ์ เทหะมาศ ผู้อำนวยการวังไกลกังวล นายฑปกรณ์ สุววัชรานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารเทศบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนหลายพันคนร่วมในพิธี

ตามที่ สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีประกาศ เรื่องสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 โดยให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อแสดงความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในส่วนของอำเภอหัวหิน ได้กำหนดจัดกิจกรรมแสดงความไว้อาลัยขึ้นในวันนี้ ประกอบด้วยการแสดงโขน ตอนพิเศษ “รามราชจักรี ปราบไพรี น้อมถวายพระพันปีหลวง” กิจกรรมแปรรูปอักษรถวายอาลัยจากนักเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบก จำนวน 1,500 นาย กิจกรรมจุดเทียนถวายความอาลัยเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่พระองค์ท่าน กิจกรรมทำโบว์ริบบิ้นสีดำเครื่องหมายแสดงความอาลัยจำนวน 9,300 ชิ้น เพื่อมอบให้แก่ประชาชน พร้อมกันนี้มีการจัดตั้งโรงทานจิตอาสาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีหน่วยงานต่างๆ นำอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่มและของว่างไว้สำหรับบริการประชาชนที่มาร่วมงานด้วย.