Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เชิญร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติ ร.10

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เชิญร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติ ร.10

วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายคมกิจ เจริญพัฒนสมบัติ นายองครักษ์ ทองนิรมล นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด น.ส.จีรประภา สาระประจวบ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมถ่ายภาพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และร่วมถ่ายภาพเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 67 และเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย เพื่อมีสุขภาพที่ดีป้องกันโรคต่างๆ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ

นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 67 โดยมีวัตถุประสงค์ต้องการให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้ออกกำลังกาย เพื่อมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะป้องกันโรคหลอดเลือด ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 ที่จะถึงนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ใช้เส้นทางผ่านสถานที่สำคัญของอำเภอเมืองประจวบฯ ตั้งเป้าเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนและกลุ่มผู้รักสุขภาพ มาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5,000 คน ถึงแม้จังหวัดจะเตรียมเสื้อวิ่งไว้ให้ไม่เพียงพอ แต่ทุกคนสามารถสวมใส่เสื้อเหลืองมาเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพของตนเอง และเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ล่าปลาหมอคางดำ นำมาประกอบอาหารหลายเมนู

ประจวบฯ ล่าปลาหมอคางดำ นำมาประกอบอาหารหลายเมนู

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ มอบหมายให้นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัด พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี สมนึก พรหมศร ประมงจังหวัด และคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายของกรมประมงจังหวัดประจวบฯ จัดกิจกรรม “Kick off” ปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำที่เป็นปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่คลองบางนางรม อำเภอเมืองประจวบฯ เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำและเพื่อป้องกันระบบนิเวศและปลาพื้นถิ่นในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ทั้งนี้ได้นำปลาหมอคางดำที่จับได้ส่วนหนึ่ง มาประกอบเป็นอาหารเมนูต่างๆ อาทิ ฉู่ฉี่ปลาหมอคางดำ ข้าวปั้นหน้าปลาหมอคางดำ ปลาหมอคางดำทอดน้ำปลา และอาจส่งเสริมให้นำไปต่อยอดเป็นปุ๋ยหมักหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ มากยิ่งขึ้น

ว่าที่ ร.ต.สมนึก พรหมศร กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าขณะนี้มีการระบาดของปลาหมอคางดำในหลายๆ แห่ง ที่จังหวัดประจวบฯ บ้านเราก็มี แต่ปริมาณความชุกชุมไม่มากเท่าที่ปรากฎตามข่าว มีพบในโซนหัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี และอำเภอเมือง บางพื้นที่มีเบาบาง แต่เราต้องเอาขึ้นมาทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ให้เกิดการแพร่ขยายต่อ ซึ่งประมงจังหวัดได้ประสานประมงแต่ละอำเภอ และชาวประมงช่วยกันจับอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความถี่การจับปลาหมอคางดำให้มากขึ้นในลักษณะของกิจกรรมลงแขก ลงคลอง ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างเรื่องของเครื่องมือประมงที่ยังคงไม่เพียงพอ กรมประมงยืนยันว่าสามารถกินปลาหมอคางดำได้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ปัจจุบันยังคงรอคำสั่งจากกรมประมง เกี่ยวกับแนวทางการรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 15 บาท เบื้องต้นได้ประสานผู้รับซื้อสัตว์น้ำไว้แล้ว จะสามารถดำเนินการได้ทันทีที่ได้รับทราบแนวทางที่ชัดเจน โดยจะกระจายจุดรับซื้อให้เพียงพอ และเมื่อประชากรปลาหมอคางดำลดลงแล้ว ก็จะปล่อยปลากะพงขาวเพื่อให้เป็นปลาผู้ล่าปลาหมอคางดำในระยะต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหิน ออกหน่วยช่วยเหลือประชาชนในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ หัวหิน

นายอำเภอหัวหิน ออกหน่วยช่วยเหลือประชาชนในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ หัวหิน

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการอำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่ ประจำปี 2567 “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู หมู่ 3 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน คณะกิ่งกาชาดหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม มีส่วนราชการต่างๆ เช่น รพ.หัวหิน สำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล ออกให้บริการประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีการจำหน่ายสินค้าจากชุมชน พร้อมกันนี้ นายอำเภอหัวหินได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนได้ตรงกับความต้องการ มีประชาชนในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมารับบริการเป็นจำนวนมาก ต่างมีความพึงพอใจในการให้บริการที่ดี สะดวกและรวดเร็ว

โอกาสนี้ นายอำเภอหัวหิน และนายกกิ่งกาชาดหัวหิน พร้อมคณะได้มอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้/ผู้ด้อยโอกาส/คนชรา/ผู้พิการ จำนวน 100 ชุด (11 หมู่บ้าน) และลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนยากจนและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ตำบลหินเหล็กไฟ และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนให้ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) จับมือพันธมิตร ร่วมพัฒนาบุคลากรในระดับอุดมศึกษา สร้างผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมสื่อออนไลน์อย่างมืออาชีพ

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) จับมือพันธมิตร ร่วมพัฒนาบุคลากรในระดับอุดมศึกษา สร้างผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมสื่อออนไลน์อย่างมืออาชีพ

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. หรือ NSTDA), บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และ มูลนิธิเอสซีจี  จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์ หรือ Young Digital News Providers รุ่นที่ 8 ประจำปี 2567 ขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำหรับนิสิต นักศึกษา ในวันที่ 16-18 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี บริหารจัดการหลักสูตรโดย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อถ่ายทอดความรู้ในทุกมิติของการผลิตข่าวบนโลกดิจิทัล อาทิ ทิศทางในการนำเสนอข่าวสารและพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล, การใช้เครื่องมือบนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ, แนวทางการสร้างตัวตนบนสื่อออนไลน์, เรียนรู้จริยธรรมการนำเสนอข่าวที่ถูกต้องและเหมาะสม, การวางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ข่าว และสื่อสังคมออนไลน์ ลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติจริงภายใต้โจทย์ “Climate Crisis กู้วิกฤติโลกเดือด” ในงาน Sustain Asia Week 2024 พร้อมต่อยอดส่งผลงานเข้าประกวดในเวที ประกวดรางวัลข่าวดิจิทัล ประจำปี 2567 ในหมวดหมู่ “ผู้ผลิตข่าวรุ่นเยาว์” ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้

นายนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของโครงการฯ ดังกล่าว ในระหว่างการประชุมประจำเดือนกรกฎาคม 2567 ว่า ในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากวิทยากรแถวหน้าระดับประเทศ ประกอบด้วย คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ผู้ผลิตรายการสารคดีและผู้ก่อตั้ง เถื่อนChannel , คุณอรรถพล ไข่ทอง หรือ เบลล์ ขอบสนาม ผู้ก่อตั้งเพจขอบสนาม , คุณชุตินธรา วัฒนกุล บรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และคุณอัยยา ตันติเสรีรัตน์ Head of Partnership & Co-Managing Director บริษัท เทลสกอร์ จำกัด, Influencer สายข่าว คุณธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้ประกาศข่าว PPTV

ในปีนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจากสถาบันระดับอุดมศึกษา จำนวน 13 สถาบัน รวม 25 ทีม ทางคณะกรรมการได้คัดเลือกผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร          

  1. นายนนทภูมิ จิตต์สถาน
  2. นางสาวพรหมพร ศุภสร
  3. นายพศวัต อินต๊ะเสาร์
  4. นางสาวสุกฤตา วิเศษฤทธิ์

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์         

  1. นางสาวธีมาพร มาลาล้ำ
  2. นายนันทิพัฒน์นพ โสภณ
  3. นางสาวอารยา กฤตาคม
  4. นางสาวปุญญิศา อำนวย

มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต            

  1. นางสาวจุฬารัตน์ สุขเสน
  2. นางสาวเสาวลักษณ์ หนูเมือง
  3. นายปุญญพัฒน์ สาธุ
  4. นายสมประสงค์ เรือนทอง

มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี       

  1. นางสาวฐาปนี เสนารักษ์
  2. นางสาวสุธิดา แจ่มเจริญ
  3. นางสาวสไลลา เจริญวัย
  4. นายธีระ บุญเสริม

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา            

  1. นายศิววุฒิ แซ่ลิ้ม
  2. นายเกียรติชัย ศรีสุข
  3. นายรักษ์สิทธิ์ จินดาเจริญโต
  4. นายธนวรชัย ยิ่งวิทูร

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร       

  1. นางสาวอารียา ถวิลกิต
  2. นางสาวพนิตธิดา วงค์นคร
  3. นายกีรติ เรืองเดช
  4. นางสาวสุวนันท์ นพกาล

มหาวิทยาลัยบูรพา         

  1. นายสิรวิชญ์ สุนันท์วิริยาภรณ์
  2. นางสาวนพวรรณ วรรณสกุล
  3. นางสาวตุลยดา โพธิ์มณี
  4. นางสาวพรชนิตา พงษ์พันธ์

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย          

  1. นางสาวธารหงส์ เหมือนประสาท
  2. นางสาวปีย์วรา ศรีมุล
  3. นางสาวโยธกา พันธุ์เธียร
  4. นางสาววิมลรัศมิ์ ฮวบนรินทร์

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์  

  1. นางสาวมณีรัตน์ คุ้มวงศ์
  2. นางสาวจุฑามาศ ติธรรมม
  3. นายจักรพันธ์ ปานหลิม
  4. นายธีรวัฒน์ แก่นจันทร์

มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เขตรังสิต       

  1. นางสาวสุภาวดี บุญทนาวงค์
  2. นางสาวธัญยพร ช่างสอน
  3. นางสาวแพรวา หมื่นขันธ์
  4. นางสาวอารดา วงศ์แสนใส

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม      

  1. นายวรากร บัวงาม
  2. นายนนทพัทธ์ สาฤทธิชัย
  3. นายสุทิวัส ขยันการ
  4. นายยุทธการ รัตนะ

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี    

  1. นางสาวพัทริกา พรมชะนะ
  2. นางสาวโชติกา คชรินทร์
  3. นางสาวจิรพร กรปรีชา
  4. นางสาวอลิสา คชายุทธ

มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

  1. นายณัฏฐากร ขวัญสังข์
  2. นายปรเมษฐ์ จอมหนองแปน
  3. นายกิตกนก สวัสดี
  4. นายพูศักดิ์ แดงสี

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ จะแจ้งรายละเอียดให้กับผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมอบรม ตามประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 081 700 2601 คุณธัญฉัต

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“สุวัจน์” ร่วมบวงสรวงขอโชคลาภ “พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ”

 “สุวัจน์” ร่วมบวงสรวงขอโชคลาภ “พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ”

วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระคลังในพระคลังมหาสมบัติ บริเวณลานเดอะสแควร์ หน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นางไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหารบริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการบลูพอร์ต หัวหิน พร้อมด้วยบรรดาเหล่าสายมูที่เดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง มีการรำบวงสรวงถวายจากกลุ่มนักเรียนและศิษย์เก่าโรงเรียนวังไกลกังวล จากนั้นได้เริ่มพิธีบวงสรวงโดย นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรหลวง ทำหน้าที่พราหมณ์ประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้

สำหรับประวัติความเป็นมาของพระคลังในพระคลังมหาสมบัตินั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) เพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้าผู้รักษาคลังสมบัติของแผ่นดิน ปกปักรักษาพระราชทรัพย์มีค่าของแผ่นดินให้ดำรงคงอยู่ ตลอดจนเป็นที่เคารพนับถือยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในพระคลังมหาสมบัติปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในคุณธรรมและความถูกต้อง โดยเทวรูปพระคลังในพระคลังมหาสมบัติ มีลักษณะเป็นประติมากรรมลอยตัวหล่อด้วยสำริดปิดทอง ขนาดความสูง 12 นิ้ว ในลักษณะท่ายืน ทรงเครื่องแบบจักรพรรดิราช โดยมีความเชื่อต่อๆ กันมาว่า พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ คือเทพผู้ประทานความสำเร็จทางด้านเงินทอง ถ้าผู้ใดได้มากราบไหว้ขอพรจะพบความสำเร็จ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ทรัพย์สินพอกพูน ร่ำรวย มั่งคั่งตลอดไป รวมถึงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงานด้วย

ส่วนพระคลังในพระคลังมหาสมบัติองค์จำลอง เป็นองค์เทวรูปเนื้อโลหะผสม ลงรักปิดทอง ขนาดความสูงประมาณ 90 เซนติเมตร จัดสร้างโดยกรมธนารักษ์ โดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย ธมฺมธโช) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ เป็นผู้ทำพิธีอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่หน้าศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้กราบสักการะขอพร ขอโชคลาภ เมื่อมาเยือนหัวหิน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พ่อค้าขับกระบะวูบหลับชนต้นไม้ดับก่อนถึงตลาด

พ่อค้าขับกระบะวูบหลับชนต้นไม้ดับก่อนถึงตลาด

เมื่อเวลา 04.30 น. ของวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 พ.ต.ต.ประสงค์ จาตุรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะตกร่องกลางชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิต บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 279+500 บ้านจวนบน หมู่ 1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจทางหลวงกุยบุรีและกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะอีซูซุตอนเดียว สีเขียว ทะเบียน บน 2984 ประจวบคีรีขันธ์ ด้านหน้าชนอัดติดกับต้นไม้ในร่องกลางจนพังยับ ภายในรถพบร่างชายคนหนึ่งเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาว่านายสมจิตต์ คุณล้าน อายุ 67 ปี ชาวบ้าน อ.เมือง จ.ประจวบฯ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่าง มางัดซากรถ เนื่องจากบริเวณขาท่อนล่างของผู้ตายถูกตัวรถอัดติดอยู่ ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง จึงสามารถนำออกมาได้ และนำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี เพื่อชันสูตรอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตที่ตามมาดูในที่เกิดเหตุ ทราบว่านายสมจิตต์ เปิดร้านขายของชำอยู่ที่บ้านบ่อนอก จะขับรถมาจ่ายตลาดทุกเช้าที่ตลาดกุยบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ถึง 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายสมจิตต์อาจจะวูบหลับจนรถเสียหลักตกลงไปในร่องกลางชนกับต้นไม้จนเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากบริเวณโดยรอบรถไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด ซึ่งพนักงานสอบสวน จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศูนย์พัฒนาภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้า จ.ประจวบฯ จัดเวทีสานเสวนา สร้างความเป็นพลเมือง

ศูนย์พัฒนาภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้า จ.ประจวบฯ จัดเวทีสานเสวนา สร้างความเป็นพลเมือง

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดเวทีเสวนา โดยมี น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายยูซบ โต๊ะวัง ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.เอกราช หุ่นงาม ผู้ช่วย สว. นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนันทปรีชา คำทอง ประธานเครือข่ายวิถีเกษตรธรรมชาติ อ.บางสะพานน้อย นายภัทรดนัย สมศรี กำนันตำบลแสงอรุณ นายทวีศักดิ์ จุลเนียม ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอทับสะแก นายประวิทย์ รัตนพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านมาร้อง นายพลณวัฒน์ สุดดี เลขานุการนายก อบต.พงศ์ประศาสน์ นายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง พร้อมกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ผู้บริหารสถานศึกษา องค์กรภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายองค์กรชุมชนในจังหวัดประจวบศีรขันธ์ เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีเป้าหมายให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันในการกำหนดใช้หลักประชาธิปไดย ในการมีส่วนร่วมรับฟัง รับความคิดเห็น และเสนอแนะจากทุกระดับ และขับเคลื่อนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ มีโอกาสได้เสนอประเด็นปัญหา และเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐ และนำเสนอข้อมูลทางกฎหมายสิทธิเสรีภาพของประชาชนสะท้อนสู่ระดับอำเภอ จังหวัดและรัฐบาล และมีการติดตามประเมินผลต่อเนื่อง

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน สว.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องของนักการเมืองอย่างเดียว อีกทั้งไม่ใช่เรื่องการแข่งขันเพื่อเลือก สส.หรือ สว. แต่การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือนักการเมืองเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเราทุกคน ตั้งแต่เกิดจนกว่าเราจะจากไป เนื่องจากที่เราอยู่ทุกวันนี้จะต้องมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นจึงมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากระดับชุมชน ควรจะเริ่มจากพวกเราทุกคน โดยชุมชนเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาตรงนั้นให้ได้

น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน ยังกล่าวอีกว่าในฐานะสมาชิกวุฒิสภา สามารถเชื่อมโยงปัญหา ไม่ว่าในเรื่องอะไรก็ตาม ถึงแม้ตนจะสมัครไปในกลุ่มอาชีพที่ 6 การทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง แต่ความเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านสิบกว่าปีที่ผ่านมา รับทุกเรื่องอยู่แล้วเหมือน 20 กระทรวง อยู่ในนี้อยู่แล้ว สำหรับตนยินดีจะรับฟังทุกปัญหา ซึ่งเรามีหลายเครือข่าย หลายภาคส่วน เชื่อว่าเวทีนี้จะเป็นประโยชน์มากๆ ในอนาคต ที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของพวกเราทุกคน และหวังว่าศูนย์พัฒนาการเมืองในวันนี้ ยังคงตั้งอยู่ มีความเจริญและขยายออกไปในทุกๆ อำเภอ.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภ.เมืองประจวบฯ สร้างวินัยจราจร ปลูกสำนึกเยาวชนขับขี่จักรยานยนต์ปลอดภัย

สภ.เมืองประจวบฯ สร้างวินัยจราจร ปลูกสำนึกเยาวชนขับขี่จักรยานยนต์ปลอดภัย

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เยาวชนขับขี่จักรยานยนต์ ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ ประจำปี 2567 ร่วมกับ พ.ต.ท.ภาวริศ ชาลือ รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.อรุณ แป้นแก้ว สว.จร.ฯ, ร.ต.อ.สันติ ทองฉิม รอง สว.จร.ฯ, ร.ต.ท.สุนทร วาสประสงค์ รอง สว(ป.)ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อลดความสูญเสียทรัพยากรบุคคลสำคัญและเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายแห่งรัฐ ว่าด้วยทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยการส่งเสริมให้มีโครงการเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ในกลุ่มเยาวชน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ขับขี่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ มีนายเธียรชัย แสงชาตรี ผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะครู รร.ประจวบวิทยาลัย นำนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 200 คน เข้าร่วม

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ เป็นวิทยากรให้ความรู้โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวทางพระราชดำริ การสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ห้องประชุม โรงเรียนประจวบวิทยาลัย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งได้มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน 3 ฝ่าย (MOU) โดยมีเจตจำนงส่งเสริมสนับสนุนการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และลดอัตราการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ เป้าหมายหลัก กรอบทิศทาง และตัวชี้วัดของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และการมุ่งเน้นวางรากฐาน และสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของรถจักรยานยนต์ในเชิงพื้นที่ ตามโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เยาวชนขับขี่จักรยานยนต์ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎจราจร และการใช้รถจักรยานยนต์ที่ถูกต้อง สามารถนำไปปฏิบัติขณะใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รวมทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี รณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน ให้ความสำคัญกับการทำใบขับขี่ตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบ้านร้องปกครอง ให้ตรวจสอบงบปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ ที่ อบต.ดำเนินการ

ชาวบ้านร้องปกครองให้ตรวจสอบงบปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ ที่ อบต.ดำเนินการ

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยนายมารุต ตั้งบูรพาจิตร์ กำนันตำบลกุยเหนือ นายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์เรียง พร้อมสมาชิก อบต.และชาวบ้านโพธิ์เรียงจำนวนหนึ่ง เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 3 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ของนายสุโข เขียวหวาน อายุ 71 ปี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนมาว่าบ้านของนายสุโข ได้รับการช่วยเหลือซ่อมแซมปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ ในโครงการ “บ้านสบายเพื่อยายตา” โดย อบต.กุยเหนือ เป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่องานเสร็จแล้วคุณภาพของงานไม่ตรงกับที่แจ้งไว้

ทั้งนี้บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มุงหลังคากระเบื้อง ฝาบ้านทำจากกระเบื้องแผ่นเรียบ ห้องน้ำก่อจากอิฐบล็อก จากการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีร่องรอยการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ทั้งหมด ฝาบ้านบางส่วนที่เปลี่ยนใส่กระเบื้องแผ่นเรียบให้ใหม่ ไม้เครื่องบนส่วนใหญ่ใช้ไม้เดิมของบ้าน มีเพียงด้านหน้าบ้านที่เป็นไม้ใหม่และมีการกั้นห้องเพิ่มเติมให้ โดยพื้นยังเป็นพื้นดินเหมือนเดิม มีการติดหน้าต่างเพิ่มให้ 4 บาน เพิ่มประตูหลังบ้าน 1 บาน

นายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จาก อบต.ได้นำเอกสารมาให้เซ็นรับรองบ้านหลังดังกล่าว โดยนายณรงค์เห็นยอดเงินที่จ่ายไป เป็นเงิน 8 หมื่นเศษ จึงไม่ได้เซ็น เนื่องจากมีชาวบ้านหลายคนเข้ามาร้องเรียน อีกทั้งเคยเข้าไปดูที่บ้านแล้ว พบว่าอุปกรณ์หลายอย่างที่มาปรับปรุงให้ ไม่น่าจะสอดคล้องกับยอดเงินที่มาให้ตนเซ็น จึงได้แจ้งไปยังอำเภอกุยบุรี เพื่อมาร่วมตรวจสอบผลงานที่ใช้งบประมาณไป 8 หมื่นบาท โดยเฉพาะฝาห้องของนายสุโขกับภรรยา และของลูกสาวก็ไม่ได้ทำให้ สายไฟในบ้านห้อยระโยงระยางจนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

นางอัมพร ไชยอาลา อายุ 63 ปี ภรรยาของนายสุโข เล่าว่าตนอาศัยอยู่กับสามีที่พิการทางการได้ยิน พร้อมด้วยลูกสาวและหลาน 2 คน ทำงานเหลาทางมะพร้าวขาย ส่วนลูกสาวทำงานโรงงาน หลานยังเรียนอยู่ ฐานะยากจน ญาติๆ ให้พื้นที่มาปลูกอาศัยอยู่ ตนรู้สึกดีใจที่ภาครัฐเข้ามาช่วยปรับปรุงบ้านให้กับตน แต่สงสัยว่าในระหว่างที่ อบต.พาเจ้าหน้าที่มาช่วยปรับปรุงบ้านนั้น ได้รื้อเอากระเบื้องหลังคาของเก่าของตนออกไปเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ เมื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงกระเบื้องเก่า ก็ทราบว่า ได้ขายให้กับคนข้างบ้านไปแล้วในราคา 1 พันบาท เพื่อมาเป็นค่าข้าวค่าน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ ที่มาช่วยทำงาน นอกจากนี้ วัสดุบางอย่างที่ใช้ไม่หมด อย่างเช่นเสาปูน นำมา 2 ต้น ก็ใช้เพียงต้นเดียว ที่เหลือเอากลับไป ทรายใส่กระสอบไว้เหลือ 3 – 4 กระสอบ ก็เอากลับ

ด้านนายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอกุยบุรี กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติได้จัดสรรเงินจากกำไรสุทธิประจำปี เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ ผ่านการประชาคมจากหน่วยงานท้องถิ่น เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านตามสภาพความเป็นจริง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลังจากนั้นมอบหมายผู้รับจ้าง หรือจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านของผู้สูงอายุจนแล้วเสร็จ และการเคหะแห่งชาติจะจัดพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุฯ “บ้านสบายเพื่อยายตา” อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ไม่ได้กำหนดยอดวงเงินมาแต่อย่างใด ซึ่งนายชัยวุฒิ ได้ประสานงานไปยัง อบต.กุยเหนือ เพื่อขอข้อมูล แต่ยังไม่สามารถติดต่อคนที่รับผิดชอบโครงการนี้ได้ เนื่องจากติดภารกิจในพื้นที่ จึงได้นัดกับชาวบ้านผู้ร้องและกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต.มาประชุมหาความจริงต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาวัฒนธรรมหัวหิน จัดบรรพชาสามเณร 126 รูป เฉลิมพระเกียรติ ร.10 เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

สภาวัฒนธรรมหัวหิน จัดบรรพชาสามเณร 126 รูป เฉลิมพระเกียรติ ร.10 เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก ประธานฝ่ายสงฆ์ ในโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ศาลาการเปรียญวัดสะพานขี้เหล็ก อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ดร.วิรัตน์ มณีพฤกษ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ประธานโครงการฯ นางยุวนิตย์ ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ คณะผู้บริหารเทศบาล คณะครู ผู้ปกครอง เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาสามเณรและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี โอกาสนี้เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ ได้ประกอบพิธีขอขมาบิดามารดา ผู้หลักผู้ใหญ่ พร้อมทั้งได้มอบผ้าไตรและประกอบพิธีบรรพชาสามเณร

สำนักงานอัยการจังหวัดหัวหิน ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน และวัดสะพานขี้เหล็ก จัดโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาและมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติบูชาเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มีผู้บรรพชาสามเณรตามโครงการฯ จาก 8 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 126 รูป ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2567 รวม 10 วัน

นางลิษา อึ้งเห่ง กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้ ทำให้เด็กและเยาวชน ผู้ปกครองและพุทธศาสนิกชน ได้มีส่วนร่วมบำเพ็ญกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้มีโอกาสปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และสามารถนำมาปรับใช้และปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดการประพฤติดี ส่งผลดีแก่สังคมโดยส่วนรวม รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น มีจิตสำนึกเคารพเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี รวมทั้งได้พัฒนาจิตใจ รักษาศีล ให้เกิดสติ สมาธิและปัญญา เกิดความรักความผูกพัน ความใกล้ชิดกับวัดและศาสนา และสามารถนำหลักธรรมตามพระพุทธศาสนามาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้.