Category: ทั้งหมด

มีการบรรยายหัวข้อ “พลังแห่งการมีส่วนร่วมที่เป็นแปลงชุมชนอย่างยั่งยืน” โดยนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน, “นโยบายเทศบาลนครหัวหินกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน” โดยนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลนครหัวหิน, การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) หัวข้อพลเมืองตื่นรู้ : บทบาทและการมีส่วนร่วม โดย น.ส.เบญจวรรณ ฉายแสง ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา นันทนาการ และการพัฒนาทีม และทีมวิทยากร

จากนั้นนายปราโมทย์ ธัญญกุลสัจจา นายกสโมสรไลออนส์หัวหิน และสมาชิกสโมสรไลออนส์ ร่วมกันเปิดตัวอนิเมชั่น” Lion Journey “เพื่อร่วมสร้างอนาคตใหม่ของการท่องเที่ยว มีนายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายภาณุมาศ อจลบุญ อัยการจังหวัดหัวหิน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน น.ส.จิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมชม

นายนำลาภ อิ่มทั่ว กล่าวว่า เทศกาลกินหมึกแดดเดียวและอาหารทะเล จัดต่อเนื่องกันมาหลายปี ด้วยความร่วมมือระหว่าง อบต.ปากน้ำปราณ อบจ.ประจวบฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ในพื้นที่ให้การสนับสนุน โดยไม่ทิ้งเสน่ห์ของงานคือหมึกแดดเดียวที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าหมึกในพื้นที่ปากน้ำปราณ มีรสชาติหวานจากธรรมชาติ นุ่มและไม่เหนียวเหมือนหมึกทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ถือเป็นฤดูกาลของปลาหมึก เพราะได้รับอิทธิพลของน้ำจืดจากแม่น้ำปราณบุรีที่ไหลลงสู่ทะเล จะนำแพลงตอนที่เป็นอาหารหมึกมาสะสมอยู่ในทะเล ทำให้หมึกมีรสชาติดี หมึกที่นี่จึงกลายเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของอำเภอปราณบุรี ในอดีตชาวประมงตำบลปากน้ำปราณได้คิดค้นวิธีการจับหมึกมาตั้งแต่แต่ปี 2520 เริ่มจากใช้ตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงสว่าง ในการล่อหมึกให้มารวมตัว จนพัฒนามาเป็นเรือปั่นไฟไดหมึกและหรี่ไฟลง เพื่อให้หมึกมารวมตัวกัน จากนั้นใช้แหครอบ ซึ่งแต่ละปีหมึกมีการเจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ“หมึกแดดเดียวปากน้ำปราณ”จึงกลายเป็นทั้งอัตลักษณ์ของท้องถิ่นและเมนูเรียกแขกกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ จนได้ขึ้นชื่อว่าหมึกแดดเดียวอร่อยที่สุดต้องหมึกแดดเดียวปากน้ำปราณ พร้อมบรรยากาศสุดฟินริมหาด ชมบอลลูนหลากสีสันสดใส ลอยลมเหนือท้องทะเล เคล้าเสียงคลื่น เสียงดนตรีและกลิ่นหอมของอาหารทะเลสดใหม่ ที่จะทำให้คุณหลงรักปากน้ำปราณยิ่งกว่าเดิม

สำหรับรังที่ 5 นี้ แม่เต่ากระได้ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 และใช้เวลาฟักตัวนาน 60 วันพอดี ก่อนที่จะฟักออกมาเป็นลูกเต่าตัวน้อยๆ ในวันนี้ โดยมีไข่ทั้งหมด 158 ฟอง ฟักออกมาเป็นตัว 126 ตัว มีไข่ที่ไม่ได้รับการผสม 31 ฟอง และมีลูกเต่าเสียชีวิตก้นหลุม 1 ตัว ซึ่งถือเป็นอัตราการรอดชีวิตที่สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยลูกเต่ากระชุดใหม่นี้จะได้รับการอนุบาลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะถึงเวลาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในทะเลอ่าวสยามต่อไป ทั้งนี้ นายเอกฤทธิ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชีวิตน้อยๆ เหล่านี้จะปลอดภัยและเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูประชากรเต่าทะเลของไทย.

นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม กล่าวว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ เตรียมพร้อมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน – ชะอำ อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะในช่วงกรีนซีซั่น ได้หารือกับสมาชิกเพื่อวางแผนกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตลอดช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้ ที่คาดว่าจะเป็นเดือนแห่งเทศกาลและความคึกคักจากกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านวัฒนธรรม กีฬา ดนตรี และอาหาร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม โดยสมาคมจะร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมภาพลักษณ์และดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น กิจกรรมเพื่อการกุศล หรือโครงการที่เชื่อมโยงกับชุมชน อาทิ เทศกาลหัวหิน – ชะอำ กอลฟ์เฟสติวัล 2025, งานประกวดวงดนตรีเยาวชนระดับประเทศ ‘Hua Hin Music Contest 2025’ ซึ่งจะกลับมาสร้างสีสันให้กับหัวหินอีกครั้ง, เทศกาลอาหารหัวหิน 2025 โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครหัวหิน เตรียมพบกับความหลากหลายของอาหารเลิศรสจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและโรงแรมชื่อดังบนชายหาด ที่จะมาสร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่น่าประทับใจช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้

โดยในวันนี้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้จำเป็นต่างๆ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงพลังน้ำใจของคนไทยที่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมบริจาคสิ่งของอุปโภค – บริโภค ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ได้ที่หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ หรือหากไม่สะดวก สามารถบริจาคได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป และจะเริ่มนำส่งให้ชายแดนในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ จ่าจังหวัด โทร.085 – 6619972 ป้องกันจังหวัด โทร.092 – 2795407.

ตามที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการประกอบด้วย บริษัท แมคโครคอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอส ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ฟลัดเวย์ จำกัด ดำเนินโครงการฟื้นฟูบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์เขื่อนป้องกันตลิ่ง พื้นที่ชายฝั่งทะเลอาคารที่พักสวัสดิการทหารอากาศ (บ่อฝ้าย) และพื้นที่ชายฝั่งทะเลกองบิน 5 อ.หัวหิน ภายใต้โครงการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 6 นั้น วันนี้ผู้แทนกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการ มีการนำเสนอความเป็นมา วัตถุประสงค์ และขอบเขตการศึกษา ผลการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 รูปแบบโครงสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่เหมาะสม ผลการศึกษาผลกระทบ และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม โดย นายไมตรี ประทีป ณ ถลาง (ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม) นายอรินทร์ โสมบ้านกวย (ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม) นายปฐมพร ประเสริฐสังข์ วิศวกรสิ่งแวดล้อมโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ
สำหรับ ความเป็นมาของโครงการ เนื่องจากอาคารที่พักสวัสดิการทหารอากาศ (บ่อฝ้าย) และกองบิน 5 ซึ่งมีแนวพื้นที่ชายฝั่งทะเลติดกันและมีโครงสร้างกำแพงป้องกันชายฝั่งตลอดแนว ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันประสบปัญหาเรื่องเขื่อนป้องกันคลื่นริมชายฝั่งทะเลเดิมพังชำรุดเสียหาย ผนังกำแพงเริ่มแตกร้าว โครงสร้างฐานรากได้รับความเสียหายจากแรงคลื่นกัดเซาะตลอดแนว ส่งผลให้ทรายด้านหลังเขื่อนไหลลงสู่พื้นที่ชายหาดพื้นดินด้านบนชายฝั่งเกิดการทรุดตัว ทางอนุกรรมการอาคารที่พักสวัสดิการกองทัพอากาศจึงได้มีหนังสือเลขที่ 116/2567 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 เรื่องขอความอนุเคราะห์แนวทางการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเขื่อนกันคลื่นชำรุดและพังทลายตามแนวชายหาดถึงสมการโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงกองบิน 5 มีหนังสือเลขที่ กห 0619.2/1260 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2567เรื่องขอความอนุเคราะห์ปรับปรุงเขื่อนกันคลื่นชำรุดและพังทลายตามแนวชายหาดถึงสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เช่นเดียวกัน

งาน OTOP ของดีคีรีขันธ์ “Farm to Table” จัดโดยศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ และบริษัทประชารัฐสามัคคีประจวบฯ ระหว่างวันที่ 28 – 30 กรกฎาคม 2568 เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาดของกลุ่มผู้ผลิต ประกอบการสินค้าเกษตรปลอดภัย และเพื่อเป็นการทดสอบตลาดถึงความต้องการและความสนใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับอาหารปลอดภัย เพื่อกำหนดทิศทางในการจัดทำแผนการขับเคลื่อนกิจการอาหารปลอดภัยต่อไป ภายในงานมีการออกบูธสินค้าเกษตรปลอดภัย อาหารสด อาหารแปรรูป ผัก ผลไม้สด เครื่องดื่มออแกนิค ผลิตภัณฑ์งานแฮนด์เมด ของใช้ ของตกแต่ง จากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรในพื้นที่ กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน กว่า 35 ร้านค้า มาวางจำหน่าย

ส่วนที่บริเวณสวนหลวงราชินี 19 ไร่ เขตเทศบาลนครหัวหิน นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ วางพานพุ่มเงิน พานพุ่มทอง เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 มีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตำรวจ ทหาร องค์กรส่วนท้องถิ่น สมาคม สโมสร และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี จากนั้นประธานพร้อมผู้เข้าร่วมในพิธีได้พร้อมใจกันจุดเทียน กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล และเปล่งเสียงคำว่า “ทรงพระเจริญ” จำนวน 3 ครั้ง โดยพร้อมเพรียงกัน.