Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

เริ่มแล้ว งานฤดูหนาวพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในวาระ 100 ปี

เริ่มแล้ว งานฤดูหนาวพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในวาระ 100 ปี

วันที่ 8 ธันวาคม 2567 พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (ค่ายพระรามหก) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กำหนดจัดงานฤดูหนาว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในวาระ 100 ปี ณ สโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนธันวาคม 2567 โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการแสดงกีต้าร์โดยศิลปิน ฮัคกี้ ไอเคิ้ลมานน์ (Hucky Eichelmann) มาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และท่วงทำนองของไทยอื่นๆ พร้อมกับการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา จากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบดนตรี (Madanabadha Suite) โดยมีศิลปินรับเชิญ ภัทราวดี มีชูธน (ศิลปินแห่งชาติ) อานันท์ นาคคง (ศิลปินศิลปาธร) อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มีนางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี น.ส.วรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางเบญจมาส อ่วมสอาด ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาและองค์กรสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด และแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก เข้าร่วมชมงานในครั้งนี้ โดยมี น.ส.เกล้ามาศ ยิบอินซอย ผู้อำนวยการสำนักงาน มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ให้การต้อนรับ

สำหรับกิจกรรมครั้งต่อไปในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม เชิญชมการแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ราชนาวี 25 ชิ้น กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ โดยการสนับสนุนของกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ร่วมด้วยกรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เวลา 13.30 น. เปิดหน้าม่านโดยการแสดงลำตัดคณะลำตัดวงรากไทย โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี เวลา 15.00 น.- 17.00 น. วงดุริยางค์ราชนาวี

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม และวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม ชมการแสดงของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา บทเพลงจากคีตนิพนธ์ร่วมสมัย รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง การขับเสภาและการอ่านทำนองเสนาะบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกวินภพ ทองนาค (นิสิตปริญญามหาบัณฑิต จุฬาฯ) บทเสภาสามัคคีเสวก โคลงอารัมภกถาพระนลคำหลวง มงคลสูตรคำฉันท์ สยามานุสสติ สลับกับการอธิบายที่มาและความหมายของแต่ละบทโดย รศ.ดร.อาทิตย์ ชีรวณิชย์กุล (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ)

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม ชมการแสดงของมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเปิดโรง วงดนตรีผู้หญิงล้วนแห่งเมืองเพชรบุรี ทั้งนี้การเข้าพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน บริจาคค่าเข้าชมตามอัตราปกติ ร่วมชมการแสดงไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนกิจกรรมโดยบริจาคสมทบทุนเพื่อการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี (ด้านดนตรีและการแสดง) มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามจิตศรัทธา ติดต่อจองที่นั่งในท้องพระโรงในกล่องข้อความเพจ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน Mrigadayavan Palace จึงขอเชิญผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวมาร่วมฟังดนตรีทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 2567 แล้วมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากร้านค้าของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รายได้เพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ให้คงอยู่สืบไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ปิดทองฝังลูกนิมิตพระอุโบสถ ฉลองครบ 101 ปี พระอารามหลวงวัดธรรมิการาม

ปิดทองฝังลูกนิมิตพระอุโบสถ ฉลองครบ 101 ปี พระอารามหลวงวัดธรรมิการาม

ช่วงบ่ายวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเปิดงานปิดทองฝังลูกนิมิต พระอุโบสถ(หลังใหม่) ของวัดธรรมิการามวรวิหาร พระอารามหลวง และสมโภชน์ครบรอบ 101 ปี เป็นพระอารามหลวง ที่บริเวณวิหารพระพุทธชยันตี วัดธรรมิการามวรวิหาร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ฝ่ายธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายประสูติ หอมบรรเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายชาญวิทย์ อุณหยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารเทศบาลเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพุทธศาสนิกชนชาวประจวบ เข้าร่วมพิธี

พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี พระเมธีคุณาภรณ์เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง พร้อมด้วยพระเถรานุเถระจำนวน 10 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นประธานในพิธีได้ตัดริบบิ้นและลั่นฆ้องชัย 3 ครั้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดงาน พร้อมร่วมปิดทองฝังลูกนิมิต รอบพระอุโบสถ 9 ลูก กราบสักการะพระประธาน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนางรำกว่า 50 ชีวิต ร่วมรำถวายเปิดงานบริเวณหน้าปะรำพิธี

ทั้งนี้งานปิดทอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 – 15 ธันวาคม รวม 9 วัน 9 คืน ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การปิดทองลูกนิมิต 9 ลูก กราบสักการะขอพรพระประธาน และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง กิจกรรมพิชิตยอดเขาช่องกระจก นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดงคาราวานสินค้า มหรสพ และความบันเทิงต่างๆ ครบครันอีกด้วย

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานในพิธีกล่าวว่า วัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นพระอารามที่สำคัญอีกพระอารามหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ที่ผ่านมาพระอารามได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมของทางราชการด้วยดีตลอดมา นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาให้กับบุตรหลานของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาเป็นเวลาหลายปี มีส่วนสำคัญในการรักษาพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญมั่นคง ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม การจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตในครั้งนี้ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ของวัดธรรมิการามวรวิหาร ซึ่งการที่พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิต มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่าจะได้กุศลมากมายมหาศาล การทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตจึงเท่ากับเป็นการสร้างโบสถ์ และอำนวยความสะดวกทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพระภิกษุสงฆ์ในการทำสังฆกรรม เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ ซึ่งผู้ทำบุญจะได้บุญกับการทำพระนิพพานของคณะภิกษุสงฆ์ไปด้วย.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กองบิน 5 ชวนเที่ยวงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว รำลึก 83 ปี สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484

กองบิน 5 ชวนเที่ยวงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว รำลึก 83 ปี สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484

ช่วงค่ำวันที่ 7 ธันวาคม 2567 พลอากาศโท เสกสัณน์ ไชยมาตย์ รองเสนาธิการทหารอากาศ (สายงานยุทธการ) ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2567 ที่บริเวณอนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 กองบิน 5 จ.ประจวบฯ โดยมีนาวาอากาศเอก พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 พร้อมด้วยรองผู้บังคับการกองบิน 5 นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ กำลังพลทหารกองบิน 5 สื่อมวลชน ประชาชนทั่วไปและนักเรียนเข้าร่วมในพิธี ซึ่งก่อนเริ่มพิธีเปิด มีการเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชน และลากแผ่นผ้าทางอากาศ ที่แสดงถึงการเทิดทูนพระมหากษัตริย์ไทยและสดุดีวีรชนเหล่าผู้กล้า โดยริ้วขบวนเริ่มตั้งแต่ถนนศาลหลักเมืองประจวบฯ ไปตามถนนสละชีพ จนถึงอนุสาวรีย์วีรชนฯ

กองทัพอากาศ โดยกองบิน 5 จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสดุดีความกล้าหาญของทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวชน ตำรวจ และวีรชนชาวจังหวัดประจวบฯ ทุกท่านที่ยอมเสียสละชีวิต เลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 83 ปี และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธันวาคม รวม 5 วัน ที่บริเวณลานอเนกประสงค์สโมสรทหารอากาศ กองบิน 5 มีการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม เวทีการแสดง รวมถึงการจัดนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การแนะแนวสถานศึกษาในกองทัพอากาศ การจัดแสดงผลงานการประกวดประเภทต่างๆ ของนักเรียนที่ศึกษาในสถานศึกษาจังหวัดประจวบฯ เยาวชน และประชาชนทั่วไป รวมถึงกิจกิจกรรมการแข่งขันกีฬาและการพิชิตยอดเขาล้อมหมวก

กองบิน 5 และจังหวัดประจวบฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธันวาคม เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญ และความสามัคคี ของวีรชนผู้กล้า สงครามมหาเอเชียบูรพา 8 ธันวาคม 2484 ให้สืบเนื่องต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.เพชรบุรี ชู “แกงหัวตาล” ของดีเมืองเพชรบุรีที่ต้องมาลอง

ททท.เพชรบุรี ชู “แกงหัวตาล” ของดีเมืองเพชรบุรีที่ต้องมาลอง

วันที่ 7 ธันวาคม 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับชมรมถ่ายภาพเพชรบุรี จัดทำ Content แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่ “ต้มยำกุ้ง” เมนูอาหารไทย รสชาติจัดจ้าน ได้รับการประกาศจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย พร้อมชูเมนูไทยชาวเพชร รสชาติที่คุ้นเคย “แกงหัวตาล” หนึ่งใน Must Eat @ เพชรบุรี

นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี กล่าวว่าจังหวัดเพชรบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะหาดทราย ชายทะเล พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้านท่องเที่ยวไว้คอยบริการอย่างครบครัน เป็นที่รู้จักและนิยมแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และด้านความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกิน ซึ่งนอกจากขนมหม้อแกงขนมไทยๆทั้งหลายแล้ว “เมืองเพชร” จัดว่าเป็นแหล่งกินที่ไม่ควรพลาด ที่หากได้มาสัมผัส มาลองชิม รับรองว่าต้องเอ่ยปาก อยากจะกลับมาทานอีกและต้องไปบอกต่อให้คนสนิทที่จะมาเมืองเพชรมาหาทาน อาหารรสชาติเพชรแท้ที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นขนมโบราณ หรือข้าวแช่ และที่เป็น Must Eat แน่ๆ คือ “แกงหัวตาล” ที่ผสมผสานวัตถุดิบจากพื้นถิ่นล้วนๆ

ทั้งนี้ “ต้มยำกุ้ง” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย อาหารไทยภาคกลางประเภทต้มยำ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานไปทุกภาคในประเทศไทย มีรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลัก ผสมเค็มและหวานเล็กน้อย มีทั้งแบบต้มยำน้ำใส และน้ำข้น โดยยูเนสโก ประกาศรับรองให้ต้มยำกุ้ง ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

สำหรับ “แกงหัวตาล” เป็นเมนูอาหารพื้นถิ่นที่แสดงถึงภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านอาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของคนเมืองเพชร เป็นการนำผลลูกตาลอ่อน จากต้นตาลที่มีอยู่จำนวนมากและหาได้ง่ายในท้องถิ่น ฝานเอาเฉพาะเนื้อบนสุดของผลตาลอ่อน นำไปแกงกะทิกับเครื่องพริกแกงเผ็ดที่มีส่วนผสมกับกระชาย เนื้อปลาย่าง แกงกับเนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อวัวย่าง หรือเนื้อหมูย่าง (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนด เกลือ น้ำปลา แกงหัวตาลจะมีรสชาติเผ็ดอ่อนๆ หอมกลิ่นกระชาย เป็นเมนูอาหารที่หารับประทานได้ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี นับเป็นความโดดเด่นทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านอาหารของคนเมืองเพชรบุรี และในโอกาสนี้ จังหวัดเพชรบุรี โดย ททท.สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับชมรมถ่ายภาพเพชรบุรี จึงไม่พลาดที่จะขอแสดงความยินดีกับ “ต้มยำกุ้ง” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ มรดกภูมิปัญญาของประเทศไทย พร้อมชูความโดดเด่น “แกงหัวตาล” เพชรบุรี เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ Phetchaburi City of Gastronomy.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดพิธีทำบุญถวายพระพรชัยมงคลในวันคล้ายวันประสูติ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

ประจวบฯ จัดพิธีทำบุญถวายพระพรชัยมงคลในวันคล้ายวันประสูติ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

วันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคลและพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา 7 ธันวาคม 2567 ที่ลานพิธีอเนกประสงค์ หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ (หลังเก่า) โดยมีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ศาล ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และประชาชนชาวจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมพิธี ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

โอกาสนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานในพิธีนำทุกภาคส่วน กล่าวถวายพระพรเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายพระราชกุศล โดยได้รับเมตตาจากพระเทพวชิรสุธี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ธรรมยุต) ประธานสงฆ์ นำพระภิกษุสงฆ์และสามเณร จำนวน 47 รูป เดินรับบิณฑบาต เป็นอันเสร็จพิธี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะ อุตสาหะเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมถึงผู้ต้องขัง โดยได้น้อมนำพระบรมราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ด้วยการประสานความร่วมมือระหว่างกระทระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไปตามหลักมนุษยธรรม อีกทั้งทรงรับเป็นประธานกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ภัยพิบัติที่รุนแรงให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตอย่างปกติสุข สนับสนุนให้ผู้ทุกข์ยากน้อยกว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากมากกว่า ผู้ที่แข็งแรงช่วยผู้อ่อนแอภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน”.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เริ่มแล้วเทศกาลดิปาวลี ชาวพุทธฮินดูที่หัวหิน แห่บูชาพระแม่ลักษมีแน่น

เริ่มแล้วเทศกาลดิปาวลี ชาวพุทธฮินดูที่หัวหิน แห่บูชาพระแม่ลักษมีแน่น

วันที่ 6 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าฯ รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดเทศกาล‘Deepavali Festival Hua Hin 2024’ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ  มี น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ นายพีรกร บุญญโชติจินดา ประธานชมรมธรรมด้วยใจ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ชมรมหัวหินวูเมนส์คลับ สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ชาวไทย เนปาล อินเดีย กว่า 300 คน ร่วมในพิธีและขอพรพระแม่ลักษมีอย่างต่อเนื่อง

นายพีรกร บุญญโชติจินดา กล่าวว่า ชมรมธรรมด้วยใจ ร่วมกับสมาคมไทย – เนปาลี ททท.สำนักงานประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และชมรมหัวหินวูเมนส์คลับ จัดกิจกรรมในเทศกาล ‘Deepavali Festival Hua Hin 2024’ซึ่งเทศกาลดังกล่าวที่คนไทยเรียกว่า “ดิวาลี” หรือ “ดีปาวลี” เป็นเทศกาลแห่งแสงที่คนฮินดูถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมานาน ใช้แสงสว่างเป็นสัญลักษณ์สำคัญร่วมบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งโชคตามความเชื่อ และสะท้อนความหมายของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นประเพณีแห่งศรัทธาชาวพุทธฮินดูในพื้นที่ต่างๆ สืบต่อมายาวนาน นับเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่แสดงถึงความหมายแห่งแสงสว่าง การชนะความมืดมน ในมหานครทั่วทุกมุมโลกจะมีการจัดงานเทศกาลดิวาลีอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

สำหรับที่อำเภอหัวหิน ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก เป็นโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์อันดีงามของคนที่มีความเชื่อและศรัทธาในองค์พระแม่ลักษมี ทั้งคนไทย เนปาล อินเดีย โดยมีสมาคมไทย – เนปาลี หลายสาขาทั่วประเทศ มาร่วมทำพิธีอารตี (Aarti) บูชาองค์เทพด้วยไฟร่วมกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่หัวหินและมีส่วนร่วมกิจกรรมอันดีงามของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น กิจกรรมในงานประกอบด้วย พิธีบูชาไฟเพื่อบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง โดยพราหมณ์ฮินดูจากประเทศเนปาลเป็นผู้นำพิธี การประกวดธิดาพระแม่ลักษมี รวมรางวัลนับล้านบาท การแสดงบนเวทีจากนักเรียนในพื้นที่ การแสดงจากชาวเนปาลที่ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดที่ประเทศเนปาล เป็นต้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นางรำนับร้อยชีวิตรำถวายและจุดเทียนน้อมรำลึกรัชกาลที่ 9 ที่อุทยานราชภักดิ์ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

นางรำนับร้อยชีวิตรำถวายและจุดเทียนน้อมรำลึกรัชกาลที่ 9 ที่อุทยานราชภักดิ์ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

ช่วงค่ำวันที่ 5 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายความภักดีสัตตะพระบารมีบูรพมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นางทิพวรรณ สุทัศน์ ประธานศูนย์การเรียนรู้ดนตรี – นาฏศิลป์ท้องถิ่น เทศบาลเมืองหัวหิน ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก หน่วยงานต่างๆ และประชาชนสวมเสื้อเหลืองนับพันคนร่วมในพิธี

มีการแสดงนาฏลีลาและโบกธงเทิดพระเกียรติ ประกอบเพลงธงชาติไทยจากนักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล และนักเรียนนายสิบ โรงเรียนนายสิบทหารบก ต่อจากนั้นบรรดานางรำจิตอาสาจากชมรมนาฏศิลป์เมืองหัวหิน – ปราณบุรี และอำเภอใกล้เคียงกว่า 100 คน ในชุดไทยศิวลัย 4 สี ซึ่งแต่ละสีมีความหมาย คือ สีเหลืองหมายถึงสีประจำพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 และสีธงชาติไทย สีแดงหมายถึงชาติ สีขาวหมายถึงศาสนา และสีน้ำเงินหมายถึงพระมหากษัตริย์ ร่วมรำถวายสักการะบูรพมหากษัตริย์ต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ โดยมีวงมหาดุริยางค์ไทยจากนักเรียน ร่วมบรรเลงเพลงนจคีตาคาราว สตราชานุสรณีย์ ประกอบรำอย่างอ่อนช้อย ก่อนนางรำทั้งหมดแปรแถวเป็นรูปธงชาติไทยอย่างสวยงาม

จากนั้นมีการแสดงโขนเทิดพระเกียรติเรื่องรามเกียรติ์ ตอนยกรบ จากชมรมโขนพิทักษ์หัวหิน การแสดงรำพัทธวิสัย จากโรงเรียนผู้สูงอายุยานนาวา กรุงเทพฯ การแสดงไหว้ครูมวยไทยเทิดพระเกียรติจากนักเรียนโรงเรียนนายสิบทหารบก หลังจบการแสดงแล้ว ผู้เข้าร่วมพิธีทั้งหมดได้พร้อมใจกันจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติไทย ก่อนร่วมกันขับร้องเพลงต้นไม้ของพ่อ รักพ่อไม่มีวันพอเพียง เป็นอันเสร็จพิธี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กตป.โทรทัศน์ เปิดเวทีรับฟังความเห็นเตรียมยื่นข้อสรุปต่อรัฐสภา เร่งพัฒนา กสทช. เพื่อประโยชน์ประชาชน

กตป.โทรทัศน์ เปิดเวทีรับฟังความเห็นเตรียมยื่นข้อสรุปต่อรัฐสภา เร่งพัฒนา กสทช. เพื่อประโยชน์ประชาชน

วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ดร.จินตนันท์ ชญาต์รศุภมิตร กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา โดย รศ.ดร.สุดาวรรณ สมใจ หัวหน้าโครงการ จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ติดตามและประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ขึ้น ที่โรงแรมเบสท์เวสเทร์น พลัสคาราเพซ หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานราชการ สื่อมวลชน บุคลากรจากสถาบันการศึกษา เจ้าหน้าที่และบุคลากรด้านสาธารณสุข ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้นำชุมชน รวมทั้งเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น

โดยการประชุมแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกจะเป็นการนำเสนอผลจัดประชุมกลุ่ม และช่วงที่ 2 เป็นการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยจัดรูปแบบกลุ่มย่อย และระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม ด้านกระบวนการดำเนินงาน ผลลัพธ์ ผลกระทบเชิงบวก/เชิงลบจากการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการทำงานของ กสทช.ต่อไป โดยขั้นตอนสุดท้าย กตป.จะนำผลสรุปไปวิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาต่อไปตามหน้าที่และอำนาจในพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 71 – 73

การจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะจัดขึ้นในพื้นที่ 6 ภูมิภาค ประกอบด้วยภาคกลาง จังหวัดนครปฐม ภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง และภาคตะวันตก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อการรวบรวมวิเคราะห์สรุปผลและการจัดทำรายงานการติดตามและประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ประจำปี 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน การดำเนินการเพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. จะดำเนินการติดตามตรวจสอบ และประเมินผลเป็นรายด้านตามความเชี่ยวชาญของกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน

ดร.จินตนันท์ กล่าวว่าการเปิดรับฟังความคิดเห็นทั้งใน 6 ภูมิภาคนั้น มาจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกิจการโทรทัศน์ ทั้งกลุ่มองค์กรวิชาชีพ สภาวิชาชีพ สมาคมวิชาชีพ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหา การกำกับดูแล และรายการที่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการโทรทัศน์ ซึ่งมีผลต่อประชาชนนอกจากยังรวมถึงมิติทางด้านจริยธรรมของสื่อ ว่าควรส่งเสริมอย่างไรให้ผู้ประกอบการผลิตรายการที่มีคุณภาพ ให้มีข้อมูลที่แท้จริงและถูกต้อง

ดร.จินตนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลของ กตป.นั้น เพื่อสะท้อนการดำเนินงานของ กสทช. ทั้งการมุ่งดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างทั่วถึงเป็นธรรม รวมถึงท้องถิ่นทุรกันดารของประเทศไทย มีสิทธิในการรับบริการด้านการสื่อสารขั้นพื้นฐานและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ทำมาหากิน ทำธุรกิจและพัฒนาเศรษฐกิจของชาติในภาพรวม
 
ดังนั้นในฐานะที่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) เป็นคณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งจากวุฒิสภาเพื่อทำหน้าที่แทนประชาชนในการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การทำงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. การรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ จึงมีส่วนสำคัญในการเสนอแนะให้ กสทช. มีการปรับบทบาทให้ทันต่อยุคสมัย ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การพัฒนาเครื่องมือ กฎหมายให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณที่มุ่งเน้นต่อเอื้อประโยชน์แก่ประชาชนเป็นสำคัญเพื่อให้เกิดการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เปิดกิจกรรมจิตอาสารอบวังไกลกังวล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ“รัชกาลที่ 9”

ประจวบฯ เปิดกิจกรรมจิตอาสารอบวังไกลกังวล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ“รัชกาลที่ 9”

วันที่ 4 ธันวาคม 2567 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสารอบเขตพระราชฐานวังไกลกังวล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2567 ที่โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฝั่งประถมศึกษา อ.หัวหิน มีคุณหญิงผกาพันธ์ เทหะมาศ ผู้ดูแลวังไกลกังวล นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน 16 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน และประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมในพิธี โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น มีการประกอบพิธีรับมอบถุงพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้แก่ผู้นำชุมชนทั้ง 16 ชุมชน นำไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ในพื้นที่รอบเขตพระราชฐานวังไกลกังวล

ส่วนพื้นที่ภายในโรงเรียนวังไกลกังวล มีหน่วยงานต่างๆ ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลฯ ได้แก่ การปรุงประกอบอาหารจากโรงครัวพระราชทาน บริการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ บริการตัดผม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ขณะที่โรงพยาบาลหัวหินจัดหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการทันตกรรม ตรวจวัดสายตา การรับบริจาคโลหิต และการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารับบริการ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน อบรมดนตรีนาฎศิลป์ เตรียมรำถวายสักการะบูรพมหากษัตริย์ไทย 5 ธันวาคมนี้

เทศบาลหัวหิน อบรมดนตรีนาฎศิลป์ เตรียมรำถวายสักการะบูรพมหากษัตริย์ไทย 5 ธันวาคมนี้

วันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการดนตรี – นาฏศิลป์ท้องถิ่น “เทิดไท้สมเด็จบูรพกษัตริย์ไทย ครั้งที่ 8” ที่บ้านเพชรสำราญ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มี Mr.Brian Anderson นายกสโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน นางทิพวรรณ สุทัศน์ ประธานศูนย์การเรียนรู้ดนตรี – นาฏศิลป์ท้องถิ่น เทศบาลเมืองหัวหิน นางประเสริฐศรี จอกกระจาย ประธานชมรมนาฏศิลป์เมืองปราณบุรี คณะผู้บริหารเทศบาลคณะกรรมการและสมาชิกศูนย์การเรียนรู้ฯ วิทยากร คณะครู และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธี พร้อมชมการรำถวายสักการะบูรพกษัตริย์ประกอบบรรเลงดนตรีไทยจากนักเรียนที่เข้ารับการอบรม

การอบรมเชิงปฏิบัติการดนตรี – นาฏศิลป์ท้องถิ่นครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 5 ธันวาคม 2567 เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อบูรพากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี การอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม ดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย พร้อมปลูกฝัง ส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนในท้องถิ่นสำนึกรักบ้านเกิด มองเห็นคุณค่าทางวัฒนธรรมของชาติที่สวยงาม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะใช้ศักยภาพของตนเองทดแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยมีโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมกิจกรรม 7 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน, โรงเรียนเทศบาลเขาพิทักษ์, โรงเรียนเทศบาลวัดหนองแก, โรงเรียนบ้านห้วยมงคล, โรงเรียนหนองพลับวิทยา, โรงเรียนบ้านสามร้อยยอดบุญรักษ์อุทิศ และโรงเรียนบ้านเนินกรวด และวิทยากรผู้ให้ความรู้แยกตามความถนัดจากโรงเรียนต่างๆ รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 85 คน

โดยในวันที่ 4 ธันวาคม จะเป็นการฝึกซ้อมใหญ่การบรรเลงดนตรีไทย และในวันที่ 5 ธันวาคม จะเป็นการบรรเลงดนตรีไทยท้องถิ่นในจังหวัดประจวบฯ ประกอบการรำถวายสักการะบูรพกษัตริย์ ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน และในปีนี้มีการประพันธ์บทเพลงชื่อเพลง นจคีตาคาราว สตมราชานุสรณีย์ ประพันธ์คำร้องโดยนายพันธกานต์ ใบเทศ ทำนองโดย นายนิพนธ์ กล่อมบรรจง และนายสามารถ เกิดมงคล เพื่อประกอบการรำถวายสักการะบูรพกษัตริย์ โดยมีนางรำจิตอาสาในชุดไทยสวยงามจากศูนย์การเรียนรู้ดนตรี – นาฏศิลป์ท้องถิ่น เทศบาลเมืองหัวหิน และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมรำถวาย พร้อมทั้งมีการแสดงจินตลีลาประกอบเพลงธงชาติจากนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน.