Categories
ข่าว ทั้งหมด

12 สมาคมเปลี่ยนผ่านก้าวสู่ “สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย”

12 สมาคม เปลี่ยนผ่านก้าวสู่ “สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย”

12 องค์กรภาคีสมาชิก สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประกาศเจตนารมณ์เปลี่ยนผ่านก้าวสู่ “สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย” ยึดม่ันส่งเสริมสิทธิเสรีภาพการทำหน้าที่วิชาชีพสื่อสารมวลชน ตระหนักรู้รับผิดชอบต่อจริยธรรมวิชาชีพ พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพทันยุคดิจิทัล และส่งเสริมความร่วมมือกับสื่อมวลชนนานาชาติ

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2566 เวลา 13.30 น. สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งปรเทศไทย ได้จัดงานครบรอบ   43 ปี และการเปลี่ยนผ่านองค์กรก้าวสู่ “สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย” โดยมี 12 ภาคีสมาชิกเข้าร่วมงาน ได้แก่ สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย, สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชนแห่งประทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ, สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย. สมาคมผู้ลิตข่าวออนไลน์ และสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย

นายมงคล บางประภา ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้กล่าวรายงานการดำเนินกิจกรรมของสมาพันธ์ฯ ที่ผ่านมา มีการส่งเสริมการทำงานขององค์กรสมาชิก และสื่อมวลชน ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนในภูมิภาคอาเซียนและจีน จากนั้น นายมานิจ สุขสมจิตร อดีตประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน และอดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานว่า มีควา่มยินดีและชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการสมาพันธ์ฯและองค์กรภาคีสมาชิก ที่มีวิสัยทัศน์ในการทำงานและปรับตัวเข้ากับยุคสมัย รวมทั้งการจัดเสวนาหัวข้อ “ไทยในสถานการณ์ SDGs : บทบาทสื่อมวลชนควรเป็นอย่างไร” นับว่าทันสมัยเข้ากับช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปร่วมประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน พร้อมกันนี้ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณต่างๆ

จากนั้นนายภากร ยังแจ่ม เลขาธิการสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เชิญนายกสมาคมและผู้แทน 12 ภาคีสมาชิก ขึ้นเวทีเพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ เปลี่ยนผ่านองค์กรก้าวสู่ “สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย” โดยนายมงคล บางประภา ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็นผู้ประกาศเจตนารมรณ์การก้าวสู่ยุคใหม่  คือ 1.การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการทำงานเกี่ยวข้องกับวิชาขีพสื่อสารมวลชน
2.ตระหนักรู้และรับผิดชอบต่อหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ 3.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพที่ทันต่อความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล และ 4.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรสื่อมวลชนนานาขาติ
หลังจากนั้น ผู้แทนทั้ง 12 องค์กรภาคีสมาชิก ได้ยืนจับมือประกาศเจตนารมณ์ ท่ามกลางเสียงปรบมือของสื่อมวลชนอาวุโส รุ่นเกลางและรุ่นใหม่ที่มาร่วมงานด้วยความชื่นชมยินดี

ต่อจากนั้น นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานในงานได้เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณแก่องค์กรที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน ได้แก่ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์, นางชาลอต โทณวณิก ที่ปรึกษาด้านสื่อสารองค์กร บริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรช่ัน จำกัด, น.ส.ศิรนุช โรจนเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส จัดถ่ายทอดไลฟ์สด และสามย่านมิตรทาน์ ฮอลล์ สถานที่จัดงาน
 
ช่วงที่สองของงาน ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล ที่ปรึกษาสมาพันธ์ฯ ได้เป็นผู้ดำเนินการเสวนาพิเศษ หัวข้อเรื่อง “ไทยในสถานการณ์ SDGs : บทบาทสื่อมวลชนควรเป็นอย่างไร”  โดยมีผู้ร่วมเสวนาได้แก่ นายวันฉัตร สุวรรณกิต รองเลขาธิการ สภาพัฒนการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ นายธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย(GCNT)  ส่วนผู้ร่วมเสวนาอีกคนได้แก่ ผศ.ชล บุนนาค  ผู้อำนวยการโครงการ SDG Move คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ส่งคลิปจากการไปร่วมประชุมว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน ( SDG Summit) ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78  จากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ มาร่วมวงเสวนา ได้รับความสนใจจากผู้ฟังเป็นอันมาก

ต่อจากช่ววงเสวนาพิเศษ นายเทพชัย หย่อง อดีตประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน ในฐานะ ประธานจัดการประกวด “ภาพข่าวอาเซียน ปี 2024” (CAJ Photo Contest 2024)ได้ขึ้นเวทีประกาศการจัดประกวด  “ภาพข่าวอาเซียน 2024” ภายใต้หัวข้อ “เปิดรับการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืนผ่านเลนห์ของคุณ”
(Embrecing Sustainable Tourism Through Your Lens) ซึ่ง สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการปรกวดในปี 2567 โดยคัดเลือกจากภาพที่นำเสนอในหนังสือพิมพ์และสื่ออนไลน์ และจะมีการประกวดคัดเลือกภาพในประเทศไทยด้วย

ช่วงสุดท้ายของงาน ได้มีพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณแก่ “บุคคลผู้มีคุณูปการต่อสมาพันธหนังสือพิมพ์แหงประเทศไทย” ซึ่งคณะกรรมการสมาพันธ์ฯ ได้มีมติมอบรางวัลให้แก่ นายบัณฑิต รัชวัฒนะธานินทร์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ อดีตประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน และอดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่มีคุณูปการต่อวงการสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนอาเซียน

พร้อมกันนี้ได้มีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณบุคคล และองค์กรที่ให้การสนับสนุน  องค์กรภาคีสมาชิก สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบให้ นายระวิ โหลทอง อดีตนายกสมาคมฯ, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มอบให้สภาทนายความ, สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย มอบให้นายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิต, สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย มอบให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย มอบให้กรมประชาสัมพันธ์, สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย มอบให้นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชนแห่งประทศไทย มอบให้ ดร.ปราจิณ เอี่ยมลำเนา ประธานมูลนิธิช่างภาพสื่อมวลชน, สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ มอบให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศ มอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ มอบให้นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมฯ และสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย มอบให้ มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์.

Categories
สังคม

รับมอบป้ายเครื่องหมายสัญลักษณ์

ข่าวสังคม

อุดม สดใส กรรมการผู้จัดการบริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด พร้อมทีมงาน รับมอบป้ายเครื่องหมายสัญลักษณ์ “สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมาตรการองค์กร” จาก พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่นำทีมคณะทำงานของโครงการมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน ในนิคมอุตสาหกรรมและสถานประกอบการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ประจำปี 2566 บริษัท ไลน์ ทรานสปอร์ต จำกัด กลุ่มธุรกิจขนส่งทางบกของ SVL Group ได้เป็น 1 ใน 34 ภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนการทำงาน โดยคณะทำงานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด ภาคกลาง (สอจร.ภาคกลาง) ภายใต้การสนับสนุนของ สสส.

พร้อมกันนี้ได้พาคณะเข้าเยี่ยมชมการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นอีกมาตรการที่เน้นย้ำสนับสนุน ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทฯ ที่อาคารท่าเรือประจวบฯ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ฝ่ายปกครองบุกจับแอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมือง หลังผู้ปกครองนักเรียนเข้าร้องเรียน

ฝ่ายปกครองบุกจับแอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมือง หลังผู้ปกครองนักเรียนเข้าร้องเรียน

วันที่ 22 กันยายน 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน สนธิกำลังบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอ ศูนย์ยาเสพติดจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯ เข้าจับกุมนายอภิวิชญ์ อายุ 24 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ที่เปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ที่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟ ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับด้านหลังโรงเรียนมัธยมชื่อดัง และเทคนิคอาชีวะชื่อดังกลางใจเมืองประจวบฯ โดยแอบขายให้กับเยาวชนนักเรียนเป็นจำนวนมาก

จากการตรวจสอบ พบว่าร้านค้าดังกล่าวด้านหน้าเป็นกระจกทึบ ระบุว่าเปิดบริการทุกวัน 09.00 – 21.00 น. โดยร้านมีการโฆษณาผ่านทางของเพจร้าน ในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและกำลังสอบสวนเจ้าของร้าน มีเด็กเยาวชน ประชาชนทั่วไปและ นักเรียนอาชีวะ เข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดและอายัดของกลางจำนวนมากหลายรายการ อาทิ เงินสด ของกลาง ภาพถ่ายเพจร้าน และ QR Code บัญชีรับเงิน และบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 170 รายการ นำไปบันทึกจับกุมที่ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองหรือรับไว้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งจำหน่ายหรือจัดหาด้วยประการใดๆ เสนอหรือชักชวนให้มีการขาย ให้บริการจัดหาด้วยประการใด ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ของวันที่ 28 มกราคม 2558 ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามและผิดกฎหมาย และที่สำคัญยังทำลายสุขภาพอย่างรุนแรง ยิ่งกว่าบุหรี่แบบเดิมซะอีก สามารถทำให้ปอดทะลุได้ จึงฝากไปถึงผู้ที่เสพบุหรี่ไฟฟ้าและน้องๆ เยาวชนนักเรียน นักศึกษา ว่าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยา ผู้ที่เสพผู้ที่ครอบครองเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ค้าจะมีโทษที่รุนแรง ซึ่งขณะนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนโยบายกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงนโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากการที่มีผู้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มมีการระบาดหนัก จึงได้บูรณาการร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และ กอ.รมน.จังหวัด จับกุมปราบปรามอย่างจริงจัง จึงอยากฝากไปถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชน ขอให้ความมือช่วยกันเมื่อพบเห็นผู้กระทำผิด ให้แจ้งกับฝ่ายปกครอง ถ้าไม่มีผู้บริโภค ไม่มีผู้เสพ ร้านค้าก็ไม่รู้ว่าจะขายใคร และหากมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากกระทำผิด จะมีโทษทั้งอาญาและวินัยด้วย

ทั้งนี้ในพื้นที่เมืองประจวบฯ และอำเภอใกล้เคียง พบว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้างธุรกิจร้านค้าดังๆ หลายแห่ง นักเรียน นักศึกษา เด็กอาชีวะ รวมไปถึงข้าราชการหน่วยงานหลายสังกัด อีกทั้งเริ่มมีการระบาดเข้าไปสู่โรงเรียนระดับประถม จนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายรายสุดทน เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ช่วยปราบปรามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากบุตรหลานส่วนหนึ่งนำเงินที่ให้มาเป็นค่าขนมโรงเรียน นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเสพ และบางส่วนขโมยเงินผู้ปกครองมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีราคาสูงกว่า 600 บาทขึ้นไป

สามารถแจ้งเบาะแส หรือร้องเรียนได้ที่ เลขที่ 1/42 – 1/43 หมู่บ้านเตชินี 5 ถนนมหาราช ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77000 โทรศัพท์ 032 – 908288, 061 – 4365554 Line OA : TCC032 Facebook : หน่วยประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอบางสะพานน้อย นำชาวบ้านตักบาตรช่วยผู้ป่วยติดเตียงยากไร้

นายอำเภอบางสะพานน้อย นำชาวบ้านตักบาตรช่วยผู้ป่วยติดเตียงยากไร้

วันที่ 22 กันยายน 2566 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย นายบัณฑิตย์ ชูบัวทอง นายก อบต.ไชยราช นายจารินทร์ จุ้ยแจ้ง กำนันตำบลไชยราช พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและชาวบ้านกว่า 150 คน ร่วมทำตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ที่วัดบางเจริญ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพระภิกษุสงฆ์ 5 รูป มารับบิณฑบาตร ภายใต้โครงการปันน้ำใจ ให้ความสุข บางสะพานน้อยเมืองน่าอยู่

นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวว่า โครงการกิจกรรม “ปันน้ำใจ ให้ความสุข บางสะพานน้อยเมืองน่าอยู่” เป็นการร่วมกันของคณะสงฆ์ โดยพระครูอาทรวรธรรม เจ้าคณะอำเภอบางสะพานน้อย มาขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกับ ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนในตำบลหมู่บ้าน สำหรับครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่วัดดอนมะกอก แล้วหมุนเวียนไปตามตำบล หมู่บ้านต่างๆ อย่างน้อยเดือนละครั้ง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้คือผู้ป่วยติดเตียง 15 ราย ปัจจุบันมอบถุงยังชีพให้ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ต่อเนื่องทุกเดือน กว่า 74 รายแล้ว โดยผ่านผู้ใหญ่บ้าน พระสงฆ์และอาสาสมัครร่วมกันนำไปมอบ นอกจากนำสิ่งของไปมอบแล้ว ยังเป็นการไปให้กำลังใจผู้ป่วยและร่วมพัฒนาทำความสะอาดที่พักให้บางราย ปัจจุบันความร่วมมือขยายไปยังภาคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกเหล่ากาชาด อ.บางสะพานน้อย และบริษัท พีพีพี คอมเพล็กซ์ จำกัด (มอบน้ำมันพืช) มาให้อำเภอบางสะพานน้อยได้นำหลักปฏิบัติ มีความพอเพียง การพึ่งตนเอง ยึดหลัก บวร วัด ประชารัฐ สร้างความสุข เพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายร่วมกัน คือ “การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน.

มานพ ฟูเฟื่อง….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ป.ป.ช.ประจวบฯ แถลงผลงานการป้องกันและปราบปรามทุจริต รอบปี 2566

ป.ป.ช.ประจวบฯ แถลงผลงานการป้องกันและปราบปรามทุจริต รอบปี 2566

วันที่ 21 กันยายน 2566 น.ส.จุทารัตน์ เหลืองเพิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดแถลงข่าวผลการดำเนินงานในแต่ละด้านของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบฯ ประจำปี 2566 มี น.ส.ธัญลักษณ์ จีนแก้วเปี่ยม เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ นายยุทธนา แก้วประสงค์ พนักงานไต่สวนระดับสูง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัด ร่วมแถลงข่าว มีนายปราโมศย์ ตั้งซุยยัง ประธานชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัด นางนวลใย นิลบรรพ์ ประธานโค้ช STRONG จังหวัด สื่อมวลชนในจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัด ถ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบฯ

น.ส.จุทารัตน์ เหลืองเพิ่มสกุล ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจวบฯ กล่าวสรุปถึงผลการดำเนินงานทั้งสามด้าน ได้แก่ ด้านปราบปรามทุจริต ด้านการป้องกันการทุจริต และด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนี้

ด้านปราบปรามการทุจริต ผลการดำเนินงานในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น ในปีงบประมาณ 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนที่อยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้นทั้งหมด 148 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 38 เรื่อง คงเหลือ 110 เรื่อง ส่วนผลการดำเนินงานในชั้นไต่สวนเบื้องต้น มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนที่อยู่ระหว่างไต่สวนเบื้องต้นทั้งหมด 29 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 เรื่อง คงเหลือ 23 เรื่อง

สำหรับเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล มีจำนวน 5 เรื่อง โดยผู้ถูกกล่าวหา มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 เรื่อง มีทั้งนายก อบต. นายกเทศมนตรีตำบล และปลัด อบต. หัวหน้าส่วนงานใน อปท. ทั้งนี้พฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหา ได้แก่ 1. เลขคดีแดง 515-1-50/2565 นายก อบต.แห่งหนึ่ง ดำเนินโครงการจัดซื้อเสื้อยืดในงานวันเด็ก ประจำปีงบประมาณ 2552 – 2557 และปีงบประมาณ 2559 โดยมิชอบ 2. เลขคดีแดง 517-1-30/2565 นายกเทศมนตรีตำบลแห่งหนึ่ง นำรถยนต์ส่วนกลางของเทศบาลไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน 3.เลขคดีแดง 0516-1-50/2565 นายกเทศมนตรีตำบล กับพวกรวม 6 ราย ทุจริตโครงการฝึกอบรมผู้บริหาร พนักงานเทศบาล ลูกจ้างและสมาชิกสภาเทศบาล ประจำปีงบประมาณ 2557 4.เลขคดีแดง 0053-1-50/2566 นายก อบต. และปลัด อบต. ออกคำสั่งลดขั้นเงินเดือน ตัดเงินเดือน และไม่เลื่อนขั้นเงินให้แก่พนักงานขององค์การบริหารส่วนตำบล โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 5.เลขคดีแดง 0103-1-50/2566 หัวหน้าส่วนโยธาองค์การบริหารส่วนตำบล กับพวกรวม 7 ราย ก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบลไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญา เนื่องจาก 1. ช่างควบคุมงานไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดของงานตามรูปแบบรายการก่อสร้าง จึงไม่ทราบว่าการก่อสร้างไม่ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา 2. คณะกรรมการตรวจงานจ้าง ทำหน้าที่ตรวจสอบแค่เพียงความเรียบร้อยทั่วไปของงาน แต่มิได้ตรวจสอบงานดังกล่าวกับรูปแบบรายการและข้อกำหนดในสัญญา ทั้งมิได้ตรวจวัดและตรวจรับพัสดุงานที่ส่งมอบ แต่กลับลงลายมือชื่อในใบตรวจรับงานจ้าง รับรองว่างานถูกต้องตามสัญญาและรูปแบบรายการในภายหลัง

ซึ่งทั้ง 5 เรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล มีมติมาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565, 22 กุมภาพันธ์ 2566 และ 29 มีนาคม 2566 โดยสถานะการดำเนินงานในทางอาญา มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี สำหรับทางวินัย มีการส่งเอกสารหลักฐานถึงผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อให้พิจารณาโทษทางวินัยกับผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้หากผู้ถูกกล่าวหาได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จะได้ส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อทราบและให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป

ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ฯ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนผลการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในจังหวัด ได้แก่
(1) โครงการ STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ดังนี้ 1. กิจกรรมสำรวจการรุกล้ำบนทางสาธารณะ (ทางเท้า) ในเขตเทศบาลเมืองและเทศบาลตำบล 2. กิจกรรมการเฝ้าระวังโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน 3. กิจกรรมการเฝ้าระวังโครงการอาหารกลางวันโรงเรียน 4. กิจกรรมการสำรวจป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ (ถนนเพชรเกษม) 5. กิจกรรม “โครงการที่ส่วนราชการสร้างแล้วไม่มีการใช้ประโยชน์ (คิด ทำ ทิ้ง)”

(2) โครงการแก้ไขปัญหาการทุจริตในพื้นที่ ดำเนินการเฝ้าระวังการทุจริตและติดตามการดำเนินโครงการของหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 12 หน่วยงาน 24 โครงการ พื้นที่ 7 อำเภอ มูลค่าโครงการรวม 56,167,510 บาท

(3) โครงการต้านและลดทุจริต ด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวทางต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ กรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (ประเด็นปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในจังหวัดประจวบฯ)

(4 ) โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้ดำเนินการประมวลและประกาศผลคะแนน ITA แล้วเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงานที่จะผ่านการประเมิน ต้องได้คะแนน 85 คะแนนขึ้นไป มีหน่วยงานที่รับการประเมิน 62 หน่วยงาน คะแนนเฉลี่ยในภาพรวมจังหวัด 89.20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน 52 หน่วยงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 คิดเป็น 37.10 % แยกเป็นระดับได้ดังนี้ ระดับผ่านดี 7 หน่วยงาน ระดับผ่าน 45 หน่วยงาน ระดับต้องปรับปรุง 9 หน่วยงาน ระดับต้องปรับปรุงโดยด่วน 1 หน่วยงาน

ส่วนผลการดำเนินงานด้านที่ 3 ด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ในประจำปีงบประมาณ2566 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ประกอบด้วยการตรวจสอบปกติ และการตรวจสอบยืนยัน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติกรณีตรวจสอบปกติแล้ว 182 บัญชี และตรวจสอบยืนยัน 1 บัญชี รวมทั้งสิ้น จำนวน 183 บัญชี.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โค้งสุดท้าย ! สั่งจองสินค้า “Limited Education” 5 ผลิตภัณฑ์เก๋ไก๋ร่วมลดเหลื่อมล้ำการศึกษาไทย

โค้งสุดท้าย ! สั่งจองสินค้า “Limited Education” 5 ผลิตภัณฑ์เก๋ไก๋ร่วมลดเหลื่อมล้ำการศึกษาไทย

โค้งสุดท้ายภายใน 30 กันยายน ศกนี้  ! สำหรับผู้สนใจร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาผ่าน แคมเปญ Limited Education ด้วยการสั่งจองของที่ระลึกสร้างสรรค์โดยนักออกแบบไทยรุ่นใหม่สุดปังซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการร้อยพลังการศึกษา และ โครงการ Designers’ Room & Talent Thai Promotion 2023  รวมทั้งหมด 5 ผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องมือระดมทุนช่วยเหลือเยาวชนโครงการร้อยพลังการศึกษา

 นางสาวกนกวรรณ โชว์ศรี ผู้อำนวยการโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากเปิดให้มีการสั่งจองของที่ระลึกของแคมเปญ Limited Education มาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน กระแสตอบรับอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม ดังที่ทราบกันว่าปัญหาการศึกษานั้นมีขนาดใหญ่มาก โครงการจึงยังคงต้องการการสนับสนุนจากประชาชนเพิ่ม โดยเด็กนักเรียนในโครงการมีทั้งหมดกว่า 45,000 คน จาก 112 โรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งนี้ ทางโครงการจะนำรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเพื่อสนับสนุนเยาวชนกลุ่มนี้ผ่านเครื่องมือต่างๆ ทั้งทุนการศึกษา ห้องเรียนดิจิทัลวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ การสนับสนุนบุคลากรครูผู้สอน การพัฒนาทักษะชีวิตและคุณธรรม รวมถึงการสนับสนุนให้เด็กๆ ได้รับโภชนาการอาหารที่ครบถ้วนอีกด้วย

เช่นเดียวกับทุกปี ผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญ Limited Education ยังคงมุ่งเน้นสื่อสารปัญหาการศึกษาไทยและปีนี้นับเป็นปีที่ 2 ที่ร้อยพลังการศึกษาได้ร่วมมือกับสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้สนับสนุนเครือข่ายนักออกแบบของโครงการมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยโจทย์การออกแบบของปีนี้จะเป็นวิชาสามัญ 5 วิชาที่เยาวชนควรจะมีโอกาสได้เรียนหากยังศึกษาอยู่ในระบบการศึกษา ประกอบด้วย วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศาสตร์ ซึ่งกลุ่มนักออกแบบได้ระดมไอเดียเพื่อออกแบบผลงานเป็น 5 ผลิตภัณฑ์ ต่อไปนี้

1. ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ “ลูกเก๋า” เก๋ทุกชิ้น เพิ่มยิ้มให้น้อง มี 3 ชิ้น คือ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และต่างหู โดยบนเครื่องประดับแต่ละชิ้นมีตัวเลขจากลายมือของน้องๆ และเพชร 1 เม็ดที่บนลูกเต๋าเปรียบเสมือน “เด็ก” ที่เป็น “อัญมณีที่มีค่า” ได้แรงบันดาลใจจาก วิชาคณิตศาสตร์ โดยตัวเลขที่หายไปจากลูกเต๋าคือ เลข 2 และเลข 4 สื่อถึงเด็กไทยจำนวนกว่า 4% ที่หายไประหว่างทางจากระบบการศึกษา

2.ผลิตภัณฑ์ “ผ้าห่ม ด.ดาว” มาร่วมกันหา ด.ดาว ที่หายไป ได้แรงบันดาลใจจากวิชาวิทยาศาสตร์ ในคอนเซ็ปต์ “ลอสสตาร์” พูดถึงดวงดาวที่หายไปเปรียบได้กับเด็กๆที่หายไปจากระบบการศึกษา กว่า 4% ของ ด.ดาว ดวงน้อยเหล่านั้น อาจยังไม่ได้หายไปไหน แต่แค่ไม่มีแสงสว่างส่องไปถึง จึงอยากเชิญชวนมาช่วยกันสะท้อนแสงแห่งโอกาส ตามหาดวงดาวที่มองไม่เห็นให้กลับมาส่องประกายอีกครั้ง

3.ผลิตภัณฑ์ชุดเสื้อผ้า “ด.เด็กสมบูรณ์” คอลเลคชั่นเสื้อผ้า ‘วัตถุฮาไว’ ชุดเสื้อผ้าฮาวายร่วมสมัย ผสมผสานกับการเล่าเรื่องผ่านลวดลายบนผืนผ้าที่หยิบเอาคำไทยในชีวิตประจำวันซึ่งทุกคนคุ้นเคยและรู้จักกันดีมาใช้ ได้แรงบันดาลใจจากวิชาภาษาไทย เมื่อ “ด.เด็ก” หายไป คำต่างๆ บนเสื่อผ้าจึงผิดเพี้ยนและไร้ความหมาย ประกอบกับภาพวาดลายเส้นขาวดำที่ชวนให้ทุกคนนึกย้อนกลับไปช่วงวัยเรียน

4.ผลิตภัณฑ์กระเป๋า “Good for Good” กระเป๋า ฮาว อา ยู ทูเด๊? ได้แรงบันดาลใจจากวิชาภาษาอังกฤษ เป็นกระเป๋าที่มาพร้อมกับเข็มกลัด ชุดพู่กัน และสี สำหรับการต่อจุดและลากเส้นตามแบบฝึกหัดสมัยเรียน เป็นคำว่า “How Are You Today?” ทำให้ผู้ใช้และผู้พบเห็นได้หวนนึกถึงช่วงเวลาวัยเด็กในคาบวิชาภาษาอังกฤษ พร้อมการใช้สี Photochromic เพื่อเน้นย้ำให้เห็นว่า ทุกคนสามารถเป็นแสงสว่างที่เต็มไปด้วยความหวังให้กับเด็กๆ ทุกคนได้

5.ผลิตภัณฑ์กระเป๋าเพื่อสังคม “Tote Bag for Society” ได้แรงบันดาลใจจากวิชาสังคม ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับผู้คน และสะท้อนส่วนที่หายไปหรือไม่สมบูรณ์ผ่านลายกราฟิกคำว่า “Soci ty” ที่ไม่มีตัว e ที่แทนคำว่า education และลวดลายกราฟิกรูปคนหลากหลายสีสันสดใสแสดงความเป็นเด็กที่แตกต่างหลากหลายในสังคม เพื่อสร้างความตระหนักให้ผู้คนได้เห็นถึงปัญหา และเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยให้เด็กๆ ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา

การร่วมสนับสนุนสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้จะเป็นรูปแบบพรีออร์เดอร์ ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยได้เพียงร่วมบริจาคและเลือกรับของที่ระลึกจากนักออกแบบ โดยสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ https://www.tcfe.or.th/ttdrxlimitededucation2023/  ผ่านช่องทางเวบไซต์ร้อยพลังการศึกษา(www.tcfe.or.th)  ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน ศกนี้

#TTDRKeepAnEyeOn2023 #DITP

#LimitedEducation #ร้อยพลังการศึกษา

#ร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

#พลังความร่วมมือนักออกแบบไทย #ร่วมให้โอกาสทางการศึกษา

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วน ทำแผนพัฒนาที่ดินและแหล่งน้ำ

นายอำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วน ทำแผนพัฒนาที่ดินและแหล่งน้ำ

วันที่ 19 กันยายน 2566 นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย นายธีรวัฒน์ สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก นาย นันทปรีชา คำทอง ประธานคณะทำงานด้านที่ดินสภาเกษตรจังหวัดประจวบฯ ประธานสภาองค์กรชุมชน ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ นายวีระชัย อินทราพงษ์ นายชาคริต อ่อนพับ สมาชิกสภาเกษตรกร อ.บางสะพาน นายอำนาจ ชาคำ สมาชิกสภาเกษตรกร อ.บางสะพานน้อย ร่วมกับคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จากส่วนกลางและภาคตะวันตก จัดทำแผนพัฒนาที่ดิน ที่อยู่อาศัยและพัฒนาอาชีพ แหล่งน้ำ เป็นการบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการที่เกี่ยวข้อง ท้องถิ่น ภาคเอกชน พี่น้องเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ จัดทำเป็นแผนแม่บทของชุมชน มีผู้แทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจากทุกหมู่บ้าน มาร่วมกันจัดทำฐานข้อมูล ในการนี้ได้เสนอแผนบ้านมั่นคงชนบท จำนวน 104 หลังคาเรือน สำหรับผู้ที่เดือดร้อนในการซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยในเบื้องต้น ตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่ชุมชนร่วมกันกำหนดขึ้นมา และให้เป็นไปตามระเบียบของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บ่าวสาวฟันน้ำนม เข้าพิธีวิวาห์มงคลสมรส แก้เคล็ดตามความเชื่อของโบราณ

บ่าวสาวฟันน้ำนม เข้าพิธีวิวาห์มงคลสมรส แก้เคล็ดตามความเชื่อของโบราณ

วันที่ 19 กันยายน 2566 ที่บ้านเลขที่ 155/1 หมู่ 11 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายแก้ว เอี่ยมสกุณี (ปู่) และนางบังอร สีเมฆ (ย่า) มีการจัดพิธีมงคลสมรสของหลานชายและหลานสาว คือ ด.ช.ปัณณวิชญ์ (น้องบิ๊ก) เอี่ยมสกุณี กับ ด.ญ.กัญญาภัค (น้องโบร์ท) เอี่ยมสกุณี สองพี่น้องฝาแฝดที่คลานตามกันมา ซึ่งขณะนี้มีอายุ 4 ขวบ 11 เดือน

โดยช่วงเช้ามีพิธีสงฆ์ พ่อแม่คือนายศิริชัย เอี่ยมสกุณี และ น.ส.สายพิน มีโพธิ์ ได้นิมนต์พระ 9 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหาร ก่อนมีพิธีรับไหว้ ท่ามกลางเพื่อนฝูงญาติพี่น้องของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย พร้อมร่วมรับประทานอาหาร ท่ามกลางความน่ารักของทั้งคู่ โดยสินสอดครั้งนี้ เป็นเงิน 1 แสน และทองหนัก 10 บาท

ทั้งนี้การจัดงานแต่งคู่แฝดชายหญิงนั้น โบราณบอกว่าทั้งคู่เป็นเนื้อคู่กันเมื่อชาติที่แล้ว ต้องให้ทั้งคู่แต่งงานกันเพื่อเป็นสิริมงคล จะได้อยู่คู่กันตลอดไปเพื่อเป็นการแก้เคล็ดนั่นเอง.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คณะกรรมการประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่สามร้อยยอด

คณะกรรมการประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่สามร้อยยอด

วันที่ 18 กันยายน 2566 พระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม รองประธานคณะกรรมการ พระธรรมวชิรานุวัตร ประธานคณะกรรมการบริหารกลาง พระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 พระเทพปวรเมธี รองเจ้าคณะภาค 15 ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำหนกลาง พร้อมคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับหนกลาง เดินทางมาตรวจเยี่ยม ติดตามประเมินผลการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 จังหวัดประจวบฯ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประจำปี 2566 ที่วัดตาลเจ็ดยอด หมู่ 4 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอสามร้อยยอด นางพิชชาวริน ชนะคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมให้การต้อนรับ

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนโครงการ “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่หมู่บ้านศีลธรรม” ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนโดยยึดหลักทางศาสนา และนำมาปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต มีเป้าหมายเพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้สังคมเกิดความสงบร่มเย็นและมีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ปฏิบัติทั้ง 8 อำเภอ 48 ตำบล 435 หมู่บ้าน มีหมู่บ้านเป้าหมายที่เป็นหมู่บ้านยั่งยืน 48 หมู่บ้าน ดำเนินการตามเกณฑ์พื้นฐาน 8 ข้อ ในลักษณะ Quick Win ครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อนร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย และทำกิจกรรมพัฒนาที่ส่งผลต่อการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนค่านิยมที่เสียสละ มีจิตอาสาและน้อมนำการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการและขยายผลในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ ได้กำหนดเป้าหมายอำเภอละ 1 โครงการ รวม 8 โครงการ ซึ่งได้ดำเนินการครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์แล้วเช่นกัน

หลังจากนั้นคณะสงฆ์และผู้ร่วมกิจกรรม ได้เยี่ยมชมแปลงปลูกผัก ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านตาลเจ็ดยอด บูธกิจกรรมสินค้าโอทอปและผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ มอบรถเข็นและแพมเพิร์สสำหรับผู้ใหญ่ให้กับโรงพยาบาลผู้สูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด จากนั้นร่วมกันปล่อยปลาและปลูกต้นไม้ที่บริเวณหน้าอาคารโรงพยาบาลผู้สูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
สังคม

บริจาครถวีลแชร์ ให้แก่โรงพยาบาลหัวหิน

ข่าวสังคม

ชมรมตระกูลโง้ว โดย นายจิระ พงษ์ไพบูลย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองหัวหินและคณะ ร่วมบริจาครถวีลแชร์ จำนวน 10 คัน ให้แก่โรงพยาบาลหัวหิน โดยมี นพ.จิตตรัตน์ เตชะวุฒิพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหินเป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566.