Categories
ข่าว ทั้งหมด

ราชภัฎเพชรบุรี จับมือเพชรบุรี – ประจวบฯ ประสานความร่วมมือวิจัยนวัตกรรม

ราชภัฎเพชรบุรี จับมือเพชรบุรี – ประจวบฯ ประสานความร่วมมือวิจัยนวัตกรรม

วันที่ 17 มีนาคม 2568 พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือทางวิชาการและปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ที่ห้องประชุมพะนอมแก้วกำเนิด อาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กับจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบฯ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการจากทั้งสองจังหวัดเข้าร่วมพิธี

ผศ.พจนารถ บัวเขียว รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน กล่าวถึงเป้าหมายในการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ว่าเพื่อสร้างความร่วมมือในการสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชน ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กับจังหวัดเพชรบุรีและประจวบฯ พัฒนาศักยภาพบุคลากร ระบบและกลไกของชุมชนให้มีทักษะ ความรู้และความสามารถในด้านต่างๆ เพื่อประสานความร่วมมือทางด้านวิชาการในการจัดทำแผนพัฒนาชุมชน การจัดระบบข้อมูลองค์ความรู้ งานวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมและการสื่อสารงานพัฒนาของชุมชนในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและศิลปะวัฒนธรรม ตลอดจนร่วมกันสรุปบทเรียนและประเมินผลการทำงาน เพื่อจัดทำชุดองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ ตลอดจนข้อเสนอในการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

ด้าน ผศ.ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มีความยินดีที่ได้ทำงานร่วมกันกับทั้งสองจังหวัด ในการขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการต่างๆ ส่งผลให้มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับ SCD University Rankings 2024 (มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน) ลำดับที่ 1 เป็นเวลา 4 ปีซ้อนติดต่อกัน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ด้วยการนำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชุมชนของทั้งสองจังหวัดมาพัฒนาให้มีศักยภาพและสามารถนำมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้

โอกาสนี้ พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ได้มอบแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สอดคล้องกับการดำเนินงานที่น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สู่การขับเคลื่อนพันธกิจให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของประเทศ จนทำให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดมหกรรมการศึกษาหัวหิน พัฒนาศักยภาพของเยาวชนอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดมหกรรมการศึกษาหัวหิน พัฒนาศักยภาพของเยาวชนอย่างยั่งยืน

วันที่ 16 มีนาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการศึกษาหัวหิน 2568 HuaHin Education fair 2025 “Learn to Earn : Thailand soft power” ระหว่างวันที่ 16 – 17 มีนาคม 2568 ที่ด้านหน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้อำนวยการบริหาร รร.อนันตรักษ์การบริบาล (ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยประจวบคีรีขันธ์) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน มีนายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอหัวหิน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า การจัดงานวันนี้ เป็นสิ่งที่ดี ส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงออกด้านความรู้ ความสามารถ การศึกษาสร้างคนให้มีคุณค่า เป็นคนเก่ง เป็นคนดีและสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข และมีคุณค่าต่อส่วนรวม สามารถช่วยเหลือหมู่บ้าน ชุมชนในการพัฒนาอาชีพ ความเป็นอยู่ สังคม เศรษฐกิจ การเมืองได้ดียิ่งขึ้น นักปราชญ์กล่าวว่าการศึกษาไม่มีวันสิ้นสุด และไม่มีใครแก่เกินเรียน การจัดงานในครั้งนี้คณะผู้จัดได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการจัดการศึกษา อีกทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพและเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนในทุกๆ ด้าน

ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ กล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้มีความต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพและทักษะทักษะสูง การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการทำงานเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเยาวชนและสังคม การให้ข้อมูลทางการศึกษาที่ครบถ้วนและทันสมัย จะช่วยให้เยาวชนและผู้ปกครองสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางการศึกษาได้อย่างเหมาะสม โครงการมหกรรมการศึกษา หัวหิน 2568 นี้จัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลทางการศึกษา มีการแสดงบนเวที รวมถึงบูธกิจกรรมกว่า 20 บูธ สร้างโอกาสให้สถาบันการศึกษาได้แนะนำหลักสูตร และเปิดเวทีให้เยาวชนได้แสดงความสามารถอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

แห่ชื่นชมปาฎิหาริย์องค์พ่อปู่สามร้อยยอด สร้างจากเนื้อหยก รักษาผู้ป่วยเป็นโรคที่ไม่หายมาหลายปี

แห่ชื่นชมปาฎิหาริย์องค์พ่อปู่สามร้อยยอด สร้างจากเนื้อหยก รักษาผู้ป่วยเป็นโรคที่ไม่หายมาหลายปี

วันที่ 16 มีนาคม 2568 ที่บริเวณหน้าแผงมะม่วงตำบลศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีชาวสามร้อยยอดมาร่วมชื่นชมองค์พ่อปู่สามร้อยยอด ที่สร้างขึ้นด้วยเนื้อหยกแท้จากจังหวัดเชียงราย โดยครอบครัวโชคเฉลิมวงศ์ เดินทางไปอัญเชิญองค์พ่อปู่ ซึ่งได้ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วถึงจังหวัดเชียงราย และกลับมาถึงอำเภอสามร้อยยอดในช่วงเช้านี้ มีชาวบ้านและผู้ที่ศรัทธาต่างมาชื่นชมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญไม่ลืมถ่ายเลขทะเบียนรถที่บรรทุกองค์พ่อปู่ไว้ด้วย เลขทะเบียน 70 – 9665 เชียงราย

นายน้อย สวัสดี อดีตผู้ใหญ่ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด เล่าว่าตนนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ตลอด เพราะตนไม่สบาย ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร ผอมลงและผิวดำคล้ำกว่าปกติ ไปหาหมอเขาก็บอกว่าติดเชื้อ คนอื่นๆ ก็หาว่าตนเป็นเอดส์ กินอะไรก็ไม่ได้ ขนาดหมอยังบอกว่าไม่รอด แต่พอเริ่มสร้างองค์พ่อปู่ก็หายเลย แล้วมีคนแนะนำมาให้จุดธูปกลางแจ้ง บอกพ่อปู่ แล้วเฮียเจ้าของโรงงานไทยยอดทิพย์แกรู้ก็มาเยี่ยม มีวันหนึ่งหลับไปแล้ว พ่อปู่มาเข้าฝันว่าให้สร้างพ่อปู่เนื้อหยก แกชอบหยกเพราะเย็นดี ในฝันบอกไปว่าผมไม่มีเงิน ไม่มีปัจจัย ไม่มีกำลังทรัพย์อะไร แกบอกว่าเดี๋ยวพ่อปู่หาให้เอง และตอนเป็นผู้ใหญ่บ้าน เคยไปอบรมที่เชียงราย ทำให้มีพรรคพวกอยู่บ้าง เขาแจ้งมาว่ามีหยกจากพม่า ตนให้เขาช่วยติดต่อให้ จึงเริ่มสร้างตั้งแต่ต้นปี 2567 มาเสร็จในปี 2568 ราคารวมทั้งหมดประมาณ 800,000 บาท ซึ่งราคานี้ช่างที่แกะสลักเขาคิดราคาพิเศษ เพราะเขาบอกว่าตั้งแต่เขาแกะพ่อปู่ ก็มีโชค มีลาภมาตลอด ส่วนตัวไม่เคยขอรับบริจาคหรือขอใครเลย จนคุณธีทนัย โชคเฉลิมวงศ์ เจ้าของโรงงานนิธิวัฒน์ฟู๊ด กับเฮียลิ้ม ร้านพรลิ้มทองการยาง รู้ข่าวก็ติดต่อมาช่วยเรื่องของปัจจัย เป็นอย่างในฝันจริงๆ วันนี้องค์พ่อปู่มาถึงที่สามร้อยยอด จึงตั้งขบวนแห่เพื่อให้ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปได้ร่วมชื่นชม และกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย หลังจากนี้จะนำองค์พ่อปู่เนื้อหยก ประดิษฐานไว้ด้านซ้ายขององค์พ่อปู่หลัก ภายในศาลพ่อปู่สามร้อยยอด เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถมากราบไหว้บูชาและขอพรกันได้.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

นักวิ่งชุดบิกีนี่เซ็กซี่แน่นหาดชะอำ งาน‘CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025’

นักวิ่งชุดบิกีนี่เซ็กซี่แน่นหาดชะอำ งาน‘CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025’

วันที่ 16 มีนาคม 2568 บรรยากาศงานวิ่งแข่งขันมินิมาราธอน CHA-AM BIKINI BEACH RUN 2025“ชะอำ บิกินี่ บีช รัน ครั้งที่ 16”ประจำปี 2568 บริเวณชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักวิ่งหญิงและชายทั้งชาวไทยและต่างชาติในชุดบิกินี่ ชุดเซ็กซี่เข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย หาดทรายชายทะเลยามเช้าที่งดงาม โดยมีนายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานและปล่อยตัวจุดเริ่มต้นและเส้นชัยบริเวณหน้าชายหาดโรงแรมลองบีช ชะอำ พร้อมด้วยนางทนาดา วิจักขณะ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก และแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมงาน

นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ให้จัดรายการแข่งขันมหกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวทุกประเภทกีฬา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี เพื่อกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเมืองรอง ทั้งนี้ หาดชะอำ เมืองท่องเที่ยวทางทะเลสำคัญของไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย การเดินทางสะดวก เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จากความสำเร็จในการจัดการแข่งขันวิ่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรายการ“หาดชะอำ 14K”ต่อเนื่องมาหลายปี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อรายการเป็น“หาดชะอำ บิกินีบีชรัน”โดยมีการวิ่งในประเภทบิกินีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเภทของการแข่งขัน และจัดต่อเนื่อง 14 ปีผ่านมา โดยความร่วมมือของจังหวัดเพชรบุรี, เทศบาลเมืองชะอำ, สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี, โดย JOG & JOY ฝ่ายจัดการแข่งขันได้พัฒนาปรับปรุงรายการแข่งขันนี้อย่างต่อเนื่อง ต่อมาได้เพิ่มประเภทระยะทางวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21.1 กิโลเมตรขึ้นมา เพื่อสร้างให้สนามนี้เป็นสนามวิ่งระยะไกลนานาชาติมากกว่าเดิม โดยในแต่ละปีมีผู้สนับสนุนภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว สลับสับเปลี่ยนไปจนกลายเป็นงานวิ่งที่นักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใหม่ เพื่อสร้างรายได้ และลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใหม่ เพื่อสร้างรายได้ และลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

วันที่ 14 มีนาคม 2568 นายไพโรจน์ มีประมูล นายก อบต.ไร่ใหม่ นายสิน ไม้เทศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านวังไทร คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบต. พนักงานและชาวบ้าน ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและพันธุ์ปลา ตามโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารทรัพยากรประมงน้ำจืด ที่อ่างเก็บน้ำนาวัลเปรียง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านวังไทร ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเพิ่มผลผลิตในชุมชน

ทั้งนี้ โครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชนเพื่อสร้างรายได้ใน 11 แหล่งน้ำของจังหวัดประจวบฯ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเพชรบุรี จัดขึ้นร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดประจวบฯ และ อบต.ไร่ใหม่ ได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจ 7 ชนิด คือ 1.กุ้งก้ามกราม 2. ปลาเกล็ดเงิน 3. ปลายี่สกเทศ 4. ปลาตะเพียนขาว 5. ปลานิล 6. ปลาบึก และ 7.ปลา รวมทั้งหมด 77,600 ตัว เป็นการเพิ่มสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน สร้างรายได้และลดค่าครองชีพให้กับชาวบ้านอีกด้วย.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ประจวบฯ ปั้น 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy กระจายเม็ดเงินสู่ทุกอำเภอ

ประจวบฯ ปั้น 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy กระจายเม็ดเงินสู่ทุกอำเภอ

วันที่ 14 มีนาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy ที่โรงแรมแอทที บูทีค คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ มีนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัด น.ส.กุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัด นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy และตัวแทนจาก 20 ชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม จัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ประจวบฯ เพื่อเตรียมความพร้อมชุมชนในโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy โดยเชิญหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการขับเคลื่อนงานท่องเที่ยวชุมชน มาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสปาทรายที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมให้ข้อเสนอแนะกับทั้ง 20 ชุมชน เพื่อยกระดับการพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพวิภีใหม่ หรือ Wellness Economy … Wellness Tourism ตามนโยบายการพัฒนาของจังหวัดประจวบฯ “Next Move ประจวบ …ประจวบต้องไปต่อ” นำไปสู่การสร้างอาชีพสร้างรายได้ พร้อมการเปิดโอกาสให้ผู้นำชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ได้นำเสนอจุดเด่นการท่องเที่ยวภายในชุมชนของตนเอง ซึ่งหลังจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังมีอีก 2 กิจกรรมที่จะดำเนินการ คือกิจกรรมทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยว และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยว โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนดำเนินงาน

ปัจจุบัน จังหวัดประจวบฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy มีการจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ กลุ่มชุมชน A : Next Move 20 ชุมชน กลุ่มชุมชน B : Promote 8 ชุมชน กลุ่มชุมชน C : Connect 18 ชุมชน / กลุ่มชุมชน D : Networks 60 ชุมชน พร้อมจัดทำแผนการลงพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน และพิจารณาคัดเลือก 5 ชุมชน ที่เหมาะสมเข้าร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 43

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า 20 ชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง จะเป็นพี่ใหญ่ที่จะไปทำความเข้าใจให้กับชุมชนอื่น ในการพัฒนาการท่องเที่ยว Wellness Economy หรือ Wellness Tourism ให้ครบ 100 ชุมชนตามเป้าหมายนโยบาย Next Move ประจวบ ซึ่งมี 10 เรื่องสำคัญ ซึ่ง Wellness Economy เป็น 1 ใน 10 เรื่อง และแตกประเด็นย่อยออกเป็นอีก 8 ด้าน ได้แก่ งานเทศกาล สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงธรรมชาติ, อาหารพื้นถิ่น ผลไม้ เครื่องดื่ม, กีฬา, การแพทย์ทางเลือก นวด สปา, การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา, การแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้า, การฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ, การพัฒนาที่พักในชุมชน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาสู่ชุมชนต้นแบบการท่องเที่ยวเฉพาะด้าน
“ทั้งนี้ จังหวัดประจวบฯ มีความพร้อมในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ อาหารทะเลที่สดสะอาด มีคุณภาพ มีแหล่งท่องเที่ยวสปาทราย สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องเปิดตัวให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้รู้จัก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอของจังหวัด เพื่อสร้างเม็ดเงินให้กระจายในพื้นที่ โดยอุตสาหกรรม Wellness Economy ทั่วโลกสร้างเม็ดเงินในปัจจุบันถึง 6.33 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะขยายตัวถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้าตามแนวโน้มการดูแลสุขภาพทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งทางจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณ ส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมาย” นายสิทธิชัย กล่าว.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายหน่วยงานร่วมโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร

หลายหน่วยงานร่วมโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร

วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก เป็นประธานเปิดโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ณ ศาลาประชาคมบ้านไร่ใน ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมร่วมกันลงนามข้อตกลงการดำเนินโครงการฯ (MOU) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยยาง ว่าที่ พ.ต.ท.กฤษดา เหนี่ยวพึ่ง สวป.สภ.ห้วยยาง ชป.ตำบลยั่งยืน สภ.ห้วยยาง พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายและผู้นำชุมชน อาทิ พระมหาสัญญา สิทฺธิญาโณ เจ้าคณะตำบลห้วยยาง นายฉัตรชัย ค้างาม ปลัดอำเภอทับสะแกฝ่ายความมั่นคง นางณุกานดา จันทรภรณ์ สาธารณสุขอำเภอทับสะแก นายภัทรดนัย สมศรี กำนันตำบลแสงอรุณ นายสุรศิลป์ ยนปลัดยศ นายก อบต.แสงอรุณ นางวิภาภรณ์ ภัทรภิญโญ ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอทับสะแก นางรัตนากร ศรวัฒนา พัฒนาการอำเภอทับสะแก นายชาตรี วณิชวรสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ห้วยยาง ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านหินเทิน ผู้ใหญ่บ้านไร่ใน หมู่ 1 และผู้ใหญ่บ้านแสงทอง หมู่ 2 ต.แสงอรุณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, อสม., ชรบ., อส., ทหารชุดเฉพาะกิจ ฉก.จงอางศึก พร้อมด้วยชาวบ้านไร่ในและบ้านแสงทอง ร่วมพิธี เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนร่วมกัน.

ข่าว ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านตำบลอ่างทอง

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านตำบลอ่างทอง

วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ร่วมกันเปิดหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน หรือโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ศาลาประชุมหมู่บ้านสีดางาม หมู่ 3 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายสินาทร โอ่เอี่ยม นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัด น.ส.จีรประภา สาระประจวบ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายสิทธิพร คงหอม นายอำเภอทับสะแก นายบังเอิญ พึ่งโพธิ์ทอง นายก อบต.อ่างทอง นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นายชลิต เพชรดี กำนันตำบลอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอทับสะแก ข้าราชการ ผู้นำชุมชนและประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี ในการนี้ ได้รับเมตตาจากพระครูผาสุกวิหารการ เจ้าคณะอำเภอทับสะแก วัดอ่างสุวรรณ กล่าวสัมโมทนียกถา ให้ศีลให้พรแก่ประชาชน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวเปิดโครงการ และชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ตำบลอ่างทอง ช่วงถนนอ่างทอง – หนองมะค่า หมู่ 1, หมู่ 5 และถนนสายหนองหอย – มรสวบ หมู่ 5, หมู่ 8 เชื่อมตำบลชัยเกษม พร้อมทั้งระบุว่า จากที่ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพื้นที่ตำบลอ่างทอง ได้ประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน เร่งดำเนินการแก้ปัญหาการบริหารจัดการขยะ ขุดลอกคูคลอง นอกจากนี้ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ได้ประชาสัมพันธ์เรื่องการขอรับบริจาคเลือดแก่กาชาด เพื่อนำไปช่วยผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศวาระ “Next Move Prachuap ประจวบต้องไปต่อ” 10 หัวข้อ รวมถึงกลยุทธการสร้าง Wellness Economy 8 หัวข้อ ที่จะเป็นการเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับคณะผู้บริหารจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ปลูกต้นไม้มงคล บริเวณศาลาหมู่บ้าน และเดินเยี่ยมชมบูธจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐมาร่วมออกให้บริการประชาชน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อราชการ ณ สถานที่ตั้ง รวมทั้งมอบพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับผู้นำท้องที่ และมอบเเตนเบียนบราคอน ให้แก่ผู้แทนเกษตรและผู้นำชุมชนเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน และร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ที่ได้รับจากพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี 100 ชุด จากสถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ 100 ชุด และจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด 100 ชุด รวมจำนวน 300 ชุด มอบให้แก่ประชาชน

ซึ่งก่อนหน้านั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะผู้บริหาร คณะครู บุคลากร และนักเรียนโรงเรียนบ้านสีดางาม เพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียน พร้อมกับแนะนำแนวทางด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียน โดยชี้ให้เห็นความสำคัญด้านวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี และความรู้ด้าน AI ซึ่งเป็นเรื่องที่มีบทบาทมากในปัจจุบัน เด็กๆ ได้แสดงความเห็นในเรื่องอาชีพที่ใฝ่ฝันในอนาคต เช่น อยากเป็นผู้พิพากษา และจากนั้นไปเยี่ยมครัวเรือนผู้พิการ และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนที่บ้านใน ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จำนวน 2 หลังอีกด้วย.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ฝรั่งแต่งชุดไทยร่วมพิธีรำบวงสรวงถวาย ในงานประจำปีปิดทองรูปหล่อหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก

ฝรั่งแต่งชุดไทยร่วมพิธีรำบวงสรวงถวาย ในงานประจำปีปิดทองรูปหล่อหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก

วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ในพิธีเปิดงานประจำปีปิดทองรูปหล่อหลวงพ่อเปี่ยม หลวงพ่อเกตุ และบูรพาจารย์ วัดเกาะหลักพระอารามหลวง โดยมี พระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ (ฝ่ายธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระเมธีคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน มีนายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการหน่วยงาน ผู้บริหารเทศบาล และพุทธศาสนิกชนชาวประจวบฯ เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง

งานประจำปีปิดทองรูปหล่อหลวงพ่อเปี่ยม หลวงพ่อเกตุ และบูรพาจารย์ของวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 17 มีนาคม รวม 6 วัน มีมหรสพมากมาย เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี ลิเก หนังตะลุง และการแข่งขันกีฬา เป็นต้น มีพิธีทำบุญอุทิศให้บูรพาจารย์ และผู้มีคุณูปการต่อวัด มีกิจกรรมรำบวงสรวงถวายหลวงพ่อเปี่ยม หลวงพ่อเกตุ จากนางรำจำนวนกว่า 100 คน มีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งให้ความสนใจ ชื่นชอบในประเพณีวัฒนธรรมของไทยแต่งกายสวมใส่ด้วยชุดไทยเข้าร่วมการรำถวายด้วย

ทั้งนี้ วัดเกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2300 มีฐานะแรกเป็นสำนักสงฆ์ ตั้งแต่สมัยอยุธยา พัฒนาเป็นวัดเกาะหลัก และยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ.2515 เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ด้วยความเคารพนับถือหลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต หรือนามสมณศักดิ์ว่า“พระครูสุเมธีวรคุณ”พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ และอดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก มีความแม่นยำในการพยากรณ์ดวงชะตา และมีความเชี่ยวชาญในการบรรจุดวงชะตาทางโหราศาสตร์ อีกทั้งยังชำนาญการรักษาโรคด้วยสมุนไพร

ท่านเกิดในสกุลถาวรนันท์ ที่บ้านนาห้วย ต.เมืองเก่า อ.ปราณบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2426 ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบทที่วัดลาด อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อ พ.ศ.2446 โดยมีพระครูสุวรรณมุนี วัดพระทรง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดบุญ วัดชีว์ประเสริฐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่าจันทโชโต พ.ศ.2473 เป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พ.ศ.2474 ได้รับตำแหน่งเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2467 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูสุเมธีวรคุณ พ.ศ.2484 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีวรคุณ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ.2484 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระเมธีวรคุณ หลวงพ่อเปี่ยมละสังขารเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2492 สิริอายุ 69 ปี พรรษา 48 และทุกปีในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 จะมีการจัดงานปิดทองรูปหล่อของท่านและอดีตเจ้าอาวาสทุกรูป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำโป่งเทียมเพิ่มแหล่งน้ำในวันช้างไทย

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำโป่งเทียมเพิ่มแหล่งน้ำในวันช้างไทย

วันที่ 13 มีนาคม 2568 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ โดยนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยาน ร่วมกับ อบต.หาดขาม พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมวันช้างไทย โดยมีนายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอกุยบุรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ นายพิศิษฐ์ เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 300 คน ณ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กร.5 ห้วยลึก โดยในช่วงเช้ามีพิธีบวงสรวง ไหว้ศาลช้างบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กร.1 ป่ายาง จากนั้นได้ร่วมกันเป็นกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กำจัดวัชพืช เสริมโป่งเทียม และทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป อุทิศส่วนกุศลให้ช้างป่า ต่อด้วยการเสวนาในหัวข้อ “ทางออกของชุมชน คน ช้างป่ากุยบุรี”โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ดร.มัทนา ศรีกระจ่าง ผู้เชี่ยวชาญช้างป่าในพื้นที่ นายพิชิต มีศักดิ์ รองนายก อบต.หาดขาม น.ส.อารีย์ คงมั่น ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนบ้านรวมไทย นายสุรวัชร เปลี่ยนปราณ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ และนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบรี ร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และยังมีกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสีของเด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลหาดขาม ที่ อบต.หาดขาม สนับสนุนเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 18,300 บาท ปิดท้ายด้วยการมอบเงินสนับสนุนเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าจำนวน 10 เครือข่ายๆ ละ 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 500,000 บาท

วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็นวันช้างไทย รัฐบาลมีนโยบายโดยต่อเนื่องในการให้ความสำคัญกับการดูแลช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมาแต่โบราณ ทั้งในส่วนการอนุรักษ์ช้างป่าและการยกระดับมาตรฐานดูแลช้างเลี้ยง ให้เป็นที่ยอมรับของสากล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับหน่วยงาน ทั้งรัฐและเอกชนดำเนินการโครงการอนุรักษ์ช้าง ทำให้แนวโน้มประชากรช้างมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันช้างป่ามีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ประมาณ 4,013 – 4,422 ตัวในพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน จำนวน 91 แห่ง (ข้อมูลวันที่ 9 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นข้อมูลที่อยู่ระหว่างการสำรวจและการประเมินประชากรช้างป่าทั่วประเทศ ปี 2566) และภายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบางแห่ง ในแต่ละพื้นที่การกระจายสามารถพบช้างป่าได้ ตั้งแต่น้อยกว่า 10 ตัว ไปจนถึง 200 – 300 ตัว โดยกลุ่มป่าที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ประชากรช้างป่า ได้แก่ กลุ่มป่าตะวันตก กลุ่มป่าตะวันออก กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ กลุ่มป่าภูเขียว – น้ำหนาว และกลุ่มป่าแก่งกระจาน อย่างไรก็ตาม การสำรวจติดตามและศึกษาประชากรช้างป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายแห่งในประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาช้างขาดแหล่งอาหารและน้ำ เนื่องจากป่าซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของช้างถูกบุกรุก เพื่อเป็นที่ทำกิน ตลอดจนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้มีปัญหาช้างออกมาทำลายพืชผลเกษตรในชุมชน ซึ่งรัฐบาลได้กำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางแนวทางทั้งการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า ตลอดจนการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม ให้สามารถเป็นแหล่งอาหารของช้าง ลดความขัดแย้งระหว่างช้างกับชุมชน.