Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

บลูพอร์ตจัดมหกรรมดนตรีแจ๊สจากศิลปินชื่อดังระดับโลก ชมฟรี

บลูพอร์ตจัดมหกรรมดนตรีแจ๊สจากศิลปินชื่อดังระดับโลก ชมฟรี

ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบฯ จัดงาน “Bluport Jazz Concert Mr. Igor Butman” ศิลปินระดับโลกพร้อมมามอบความสุขและรอยยิ้มให้ทุกท่าน โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองหัวหิน และสร้างความแน่นเฟ้นในโอกาสครบรอบ 125 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยและรัสเซีย โดยศิลปิน อิกอร์ บุตแมน (Mr. Igor Butman) เป็นศิลปินแห่งชาติรัสเซีย นักดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ควบคุมวง Moscow Jazz orchestra และได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติจากประธานาธิบดีรัสเซียในปี ค.ศ 2021 ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับวงดนตรี Igor Butman Quintet ซึ่งเป็นวงที่รวบรวมนักดนตรีแจ๊สรุ่นใหม่ มากความสามารถจากรัสเซียมาด้วย Igor Butman Quintet เคยได้รับเชิญไปแสดงคอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ในยุโรปและเอเชีย รวมทั้งร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และนักดนตรีแจ๊สมากความสามารถ Oleg Akkuratov นักเปียโนและนักร้องนำ ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ Sarah Vaughan International Jazz Vocal Competition 2018, Evgeny Pobozhiy มือกีตาร์ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก Herbie Hancock International Institute of Jazz Guitar Competition 2019, Nikolay Zatolochnyy มือดับเบิลเบส และ Eduard Zizak มือกลอง

น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บริษัท หัวหินแอสเสท จำกัด กล่าวว่า“หัวหินเป็นเมืองมีชื่อเสียงในเรื่องของดนตรีแจ๊สมาอย่างยาวนาน และเคยมีการจัดกิจกรรมที่มีนักดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเล่นมากมาย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองประเทศ รัสเซียและประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างสีสันให้กับเมืองหัวหิน กระตุ้นการท่องเที่ยว และปลุกความเป็นเมืองดนตรีของหัวหินขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้คนหัวหิน และนักท่องเที่ยวได้มาผ่อนคลายและร่วมฟังดนตรี เสพงานศิลปะ ไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า รัสเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องดนตรี มีนักดนตรีฝีมือระดับโลกมากมาย ถือเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่หัวหินจะได้รู้จักรัสเซียในมุมมองเรื่องดนตรีมากขึ้นผ่านดนตรีแจ๊ส”

ภายในงานยังมีไฮไลท์พิเศษกับโชว์วาดรูปศิลปะไทย – รัสเซีย โดยอาจารย์วรรณวิมล เกษางาม ผู้อำนวยการโรงเล่นศิลปะ หมู่บ้านศิลปิน หัวหิน ร่วมกับศิลปินชาวรัสเซีย มีการออกบูธจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มจากร้านดังมากมาย มาให้ชิม ช้อป และดื่มด่ำไปกับความกลมกล่อมของบรรยากาศดนตรีแจ๊สในยามค่ำคืน จึงขอเชิญชวนชาวหัวหิน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมเฉลิมฉลองและดื่มด่ำกับดนตรีในงาน “Bluport Jazz Concert Mr. Igor Butman” ศิลปินแจ๊สระดับโลกและศิลปินแห่งชาติชาวรัสเซีย ในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานเดอะสแควร์ บลูพอร์ตหัวหิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.032 – 905111 หรือเฟซบุ๊ก : BluportHuaHinOfficial, Line official : @bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศาลเยาวชนและครอบครัว จัดโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน

ศาลเยาวชนและครอบครัว จัดโครงการศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน

วันที่ 25 มกราคม 2567 นายประยุทธ แก้วภักดี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายชาญณรงค์ พานิชนันทนกุล ประธานผู้พิพากษาสมทบพร้อมคณะผู้พิพากษาสมทบ และข้าราชการศาลยุติธรรม เข้าร่วมโครงการ “ศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน” (ALL FOR ONE) ซึ่งในครั้งนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเจ้าภาพ โดยมีนายตุลยวัต พรหมพันธ์ใจ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 เป็นประธานเปิดโครงการ ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 จังหวัดราชบุรี

นายประยุทธ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศมีนโยบายมุ่งให้ความยุติธรรมแก่เด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ได้มีโอกาสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อจะกลับไปสู่ความอบอุ่นของครอบครัว เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ ศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 7 จึงได้หมุนเวียนกันจัดโครงการ “ศาลเยาวชนภาค 7 ร่วมใจ ห่วงใยเยาวชน ” (AIl For One) ขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551เป็นต้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางกระบวนทัศน์ใหม่ของศาลเยาวชนและครอบครัว อันจะก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีของเด็กและเยาวชนในการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ มุ่งเน้นการสงเคราะห์ แก้ไข บำบัดฟื้นฟู สร้างแรงจูงใจให้แก่เด็กและเยาวชนในการปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น รู้สำนึกในการกระทำความผิด กลับตนเป็นคนดีของบิดา มารดา ผู้ปกครอง สังคมและประเทศชาติ โดยประสานความร่วมมือกับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 จังหวัดราชบุรี ซึ่งผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนได้ร่วมกันแสดงออกซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ประสานสามัคคี รู้จักการทำงานเป็นทีม สนุกกับการทำกิจกรรมและได้ผ่อนคลายทางอารมณ์ มุ่งเน้นสร้างขวัญกำลังใจ ภายใต้แนวคิด “ความสุขกับชีวิตที่คิดบวก” ให้เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมให้เป็นผลสัมฤทธิ์ ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะ และการรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเพิ่มความพร้อมที่จะกลับไปสู่ความรักความอบอุ่นของครอบครัวต่อไป.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

รมว.กลาโหม เปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร ชู Soft Power ไทย

รมว.กลาโหม เปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร ชู Soft Power ไทย

ช่วงค่ำวันที่ 26 มกราคม 2567 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร ที่สนามเวทีมวยชั่วคราว กองบัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ มี น.ส.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.ต.นิรินธน์ ปุณโณทก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดประจวบฯ และประชาชนจำนวนมากร่วมกิจกรรม โดยมีการแสดงศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย การแสดงกระบี่กระบอง การฉายวิดีทัศน์ เทรนนิ่งคอร์ส โดยสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงแฟชั่นโชว์มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ และการแสดงรำไหว้ครูมวยไทย โดยร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดัง จากนั้นมีการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น รุ่นเด็ก 1 คู่ รุ่นเยาวชน 1 คู่ การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น 1 คู่ และการแข่งขันมวยไทยอาชีพ 10 คู่ ท่ามกลางบรรยากาศผู้ชมที่มาร่วมงานที่ตะโกนส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคักสนุกสนาน ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีการจัดอบรมมวยไทยให้แก่กำลังพล

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า มวยไทยเป็นพลังหลักของยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ ในบทบาทของ Soft Power ที่โดดเด่นที่สุดในขบวนการศิลปะวัฒนธรรม โครงการนี้จึงมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นแรงผลักดันในการดำเนินงานมาตรการของภาครัฐไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากนี้โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดไท้องค์ราชัน สืบสาน รักษาและต่อยอดตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพบก โดยศูนย์การกำลังสำรองกับสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรกำลังพลของกองทัพบกเข้าสู่กระบวนการผู้ฝึกสอนมวยไทย และสร้างนักกีฬามวยไทยเพื่อส่งกำลังพลที่ได้รับการรับรองความรู้ ความสามารถไปทำหน้าที่ฝึกสอนในต่างประเทศ รวมทั้งเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันมวยไทยเข้าสู่กีฬาทหาร ทั้งระดับภายในประเทศและระดับกีฬาทหารโลก หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่กำหนดให้ชนิดกีฬาที่จะได้รับการบรรจุแข่งขันเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ ต้องผ่านการแข่งขัน CISM มาก่อนจึงเท่ากับว่ากองทัพไทยมีส่วนร่วมในการผลักดันมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ลงพื้นที่บ้านหนองบัว พิจารณาคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ 2567

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ ลงพื้นที่บ้านหนองบัว พิจารณาคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ 2567

วันที่ 26 มกราคม 2567 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานกรรมการ ประเมินพิจารณารางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม (แหนบทองคำ) ระดับจังหวัด ประจำปี 2567 เพื่อประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ มีหัวหน้าส่วนราชการ นายก อบต.ปากน้ำปราณ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับ ที่ศาลาหมู่บ้านหนองบัว ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันนี้ได้พิจารณาผลการดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยระเบียบการพิจารณารางวัลกำนัน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2546 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจัดให้มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ที่มีผลการปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในรอบปีงบประมาณเป็นประจำทุกปี ในปีนี้จังหวัดประจวบฯ มีอำเภอที่เสนอชื่อผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเข้ารับรางวัล ประจำปี 2567 รวม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปราณบุรี เมืองประจวบฯ สามร้อยยอด และบางสะพาน

ในส่วนของอำเภอปราณบุรี ได้เสนอชื่อนายเลิศพันธ์ แก้วพิมพ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านหนองบัว อ.ปราณบุรี โดยคณะกรรมการประเมินฯ ซึ่งมาจากหลายหน่วยงานได้ซักถามแนวทางการดำเนินการของนายเลิศพันธ์ แก้วพิมพ์ ในหลายๆ ด้าน เช่น แนวทางการพัฒนาหมู่บ้าน การแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ การแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยนายเลิศพันธ์ ได้ตอบข้อซักถามพร้อมนำเสนอผลงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งในระดับหมู่บ้าน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัดแก่คณะกรรมการ ซึ่งทางจังหวัดโดยสำนักงานปกครองจังหวัดประจวบฯ จะแจ้งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการฯ ทราบต่อไป

สำหรับนายเลิศพันธ์ แก้วพิมพ์ อายุ 32 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ถือเป็นผู้ใหญ่บ้านที่อายุยังน้อย อายุงาน 1 ปี 2 เดือน แต่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ผลงานดีเด่น ชนะเลิศแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองระดับจังหวัด รองชนะเลิศอันดับ 1 แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองระดับเขต มีตำแหน่งทางสังคมหลายตำแหน่ง เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหนองบัว, ประธานโครงการ หมู่ 4 Trash Stop, คณะกรรมการศูนย์ประสานงานองค์กรชุมชนตำบลปากน้ำปราณ, ประธานกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านหนองบัว, คณะกรรมการทีมปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตำบลปากน้ำปราณ, กรรมการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เป็นต้น แนวคิดด้านการปกครอง การพัฒนา แบบสมัยใหม่ คิดเป็นระบบ พร้อมนำวิถีชาวบ้านและเกษตรกรแบบดั้งเดิมเข้ามาผสมผสานในการทำงานให้สอดคล้องกับยุคสมัย แต่มีคนรักและให้การยอมรับสูงมาก จึงเป็นตัวเต็งคนหนึ่งที่อาจได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจนี้.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อบต.อ่างทอง ขุดลอกคลองกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เตรียมรับมือฤดูแล้ง

อบต.อ่างทอง ขุดลอกคลองกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เตรียมรับมือฤดูแล้ง

วันที่ 24 มกราคม 2567 นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในคลองอ่างทอง ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก มีนายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัดอาวุโสอำเภอทับสะแก นายบังเอิญ พึ่งโพธิ์ทอง นายก อบต.อ่างทอง นายวิโรจน์ ทองเกิด ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับสะแก นายผดุงศักดิ์ อิ่มทั่ว กำนันตำบลเขาล้าน นายชลิต เพ็ชรดี กำนันตำบลอ่างทอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ทหารชุด ฉก.จงอางศึก ตชด 146 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.จิตอาสาอำเภอทับสะแก และข้าราชการ พนักงาน อบต.อ่างทอง อบต.นาหูกวาง เข้าร่วมกิจกรรม

สำหรับปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง รัฐบาลมีนโยบายให้ขุดลอกคลอง กำจัดผักตบชวาและวัชพืชและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ อบต.อ่างทอง ได้เข้าดำเนินการเพื่อขุดลอกคลองกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ซึ่งจะทำให้คลองดังกล่าวสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะมาถึง ช่วยเหลือเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าว ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ให้มีน้ำในการทำการเกษตรได้ตลอดฤดูกาลจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ดำเนินการขุดลอกคลองอ่างทองด้วยตัวเองเป็นระยะทางเกือบ 1,000 เมตร โดยได้รับการสนับสนุนรถแบ็คโฮและเรือท้องแบบดันผักตบชวา จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์) พร้อมร่วมทำความสะอาดริมทางสาธารณะ นอกจากนี้ยังได้มอบถุงยังชีพจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ของศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก ให้กับผู้ยากไร้ผู้สูงอายุอีกจำนวน 10 ชุดด้วย.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อำเภอกุยบุรีร่วมกับชลประทานเร่งปล่อยน้ำช่วยเหลือชาวบ้านเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง

อำเภอกุยบุรีร่วมกับชลประทานเร่งปล่อยน้ำช่วยเหลือชาวบ้านเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง

วันที่ 26 มกราคม 2567 จากกรณีของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์หลายอำเภอ ประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ เมื่อปี พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้สวนทุเรียน ขนุน สับปะรด และเกษตรกรที่ประกอบอาชีพปลูกพืชผักสวนครัวได้รับความเสียหายและขาดรายได้นั้น

ดังนั้น เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยนายชัยชาญ มูลมาก ปลัดอาวุโสอำเภอกุยบุรี นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง นายศักดิ์สิทธิ์ พวงเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน พร้อมชุดจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอกุยบุรี ร่วมกับชลประทานปราณบุรี และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอกุยบุรี นำรถแบคโฮและเครื่องจักรกล ขุดลอกคลองชลประทาน กำจัดวัชพืชและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางเดินน้ำให้สามารถไหลได้สะดวก พร้อมกับใช้เครื่องสูบน้ำ ดูดผันน้ำจากคลองชลประทานที่ส่งน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี เข้าสู่พื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน และดูดผันน้ำจากคลองกุยบุรีที่ไหลมาจากเขื่อนยางชุม เข้าสู่คลองส่งน้ำลงพื้นที่ทำการเกษตร เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่ใกล้จะมาถึงในปี พ.ศ.2567 นี้ โดยมีชาวบ้านหลายครัวเรือน ออกมาช่วยกันกำจัดเศษสวะและวัชพืชที่ปิดปกคลุมทางไหลของน้ำ รวมไปถึงประตูระบายน้ำคลองไส้ไก่ เพื่อให้ไหลเข้าสู่พื้นที่กักเก็บน้ำของชาวบ้านได้สะดวก พร้อมกับนำท่อนาคและรถไถนาติดเครื่องสูบน้ำ มาดูดน้ำจากคลองชลประทานเข้าไปเก็บกักตุนยังสระน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ของตนเอง เพื่อเป็นการสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งชาวบ้านต่างดีใจที่เห็นน้ำในคลองชลประทานสายนี้ไหลอีกครั้ง หลังจากที่คลองสายนี้ไม่เคยมีน้ำไหลมานาน

นายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์ภัยแล้งในอำเภอกุยบุรียังไม่ถึงกับขั้นวิกฤติ คลองกุยบุรีมีน้ำไหลอยู่ตลอด ไม่เคยแห้ง ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนยางชุมและเขื่อนวังเต็น มีปริมาณน้ำน้อย ประมาณ 40% ของความจุอ่าง เนื่องจากปีที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกลงมาน้อย ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกพืช เลี้ยงสัตว์และทำนา อาจได้รับน้ำไม่ทั่วถึง เนื่องจากระดับน้ำมีน้อยและมีวัชพืช เศษสวะปกคลุมกีดขวางทางไหลของน้ำ ทำให้น้ำที่ไหลไปตามคลองส่งน้ำ ไหลได้ช้าในพื้นที่ตำบลกุยเหนือ ตำบลดอนยายหนู และตำบลกุยบุรี รวม 3 ตำบล 17 หมู่บ้าน จึงร่วมกับชลประทานและผู้บริหารท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่ ที่มีแนวโน้มคาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่ใกล้จะมาถึงตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับพี่น้องเกษตรกร ให้งดการทำนาและการปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก แล้วหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเป็นการชั่วคราวแทน เมื่อมีน้ำอุดมสมบูรณ์แล้วค่อยกลับมาทำนาใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการบรรเทาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านสามารถผ่านช่วงฤดูแล้งนี้ไปได้

นางสมร สัตย์ซื่อ อายุ 67 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านกุยเหนือ – หนองเตาปูน เปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีอาชีพทำนา ปีนี้ต้องหยุดทำนา เพราะไม่มีน้ำเพียงพอ ต้องหันไปประกอบอาชีพรับจ้างแทน และถ้าหากผ่านพ้นฤดูแล้งไปแล้ว หากมีน้ำเพียงพอก็จะสามารถทำนาปรังได้ แต่ถ้ามีน้ำน้อย ก็จะทำนาได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาทำนาได้เพียงครั้งเดียว เมื่อชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านได้ใช้ จึงดีใจมาก และได้ช่วยกันสูบน้ำเข้าไปเก็บไว้ในสระน้ำของวัด เพราะวัดไม่มีน้ำประปาใช้ ลำบากมาก และในช่วงแล้งจัด ชาวบ้านก็ได้อาศัยใช้น้ำจากสระของวัด แต่เมื่อน้ำในสระของวัดเหลือน้อย น้ำจะมีกลิ่นเหม็นมาก ชาวบ้านกับวัดก็จะลำบากในช่วงฤดูแล้ง

นายสมพงษ์ ตุ้มทอง อายุ 47 ปี เล่าว่า ตนทำเกษตรกรรมปลูกพืชผสมผสาน วันนี้ได้ร่วมกับเพื่อนบ้านที่ปลูกผักขาย ช่วยกันสูบน้ำเข้าไปกักเก็บไว้ใช้ในไร่สวนของตน เนื่องจากที่ผ่านมาชลประทานไม่ได้ปล่อยน้ำมาให้ใช้หลายเดือนเกือบครึ่งปีแล้ว ชาวบ้านในหมู่บ้านละแวกนี้ ส่วนใหญ่จะอาศัยน้ำทำการเกษตรจากคลองชลประทาน พอชลประทานมีการปล่อยน้ำ ชาวบ้านจึงได้รีบมาเก็บกักตุนน้ำไว้ใช้ เพราะคาดว่าปีนี้จะแล้งจัด ขนาดต้นปียังแล้งขนาดนี้ และเมื่อฤดูแล้งมาถึงจะขนาดไหน ถ้าฤดูแล้งไม่มีน้ำใช้ พืชผลที่ลงทุนมาก็จะได้รับความเสียหาย และขาดทุน

นายอิ้น หนวดพราหมณ์ นายก อบต.กุยเหนือ กล่าวว่า วันนี้นำรถแบคโฮมาขุดลอกคลอง เพื่อเปิดทางระบายน้ำให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านได้สะดวก เพื่อเข้าไปเก็บในพื้นที่เก็บกักตุนน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากทางชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านในพื้นที่แห่งนี้ใช้ ที่ผ่านมาชลประทานไม่ได้ปล่อยน้ำมาให้ชาวบ้านแถวนี้ใช้ประมาณ 2 ปีแล้ว.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“พัชรวาท” ปลื้มนักท่องเที่ยวเข้าอุทยานเขาสามร้อยยอด ปี 66 นับแสนคน สร้างรายได้ 13.4 ล้านบาท

“พัชรวาท” ปลื้มนักท่องเที่ยวเข้าอุทยานเขาสามร้อยยอด ปี 66 นับแสนคน สร้างรายได้ 13.4 ล้านบาท

วันที่ 26 มกราคม 2567 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนางภาวินี ณ สายบุรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ มีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายเวสารัช โสภณดิเรกรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 7 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และร่วมประชุมเพื่อติดตามแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานฯ ที่ห้องประชุมอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว

หลังจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รับทราบรายงานความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ประกาศจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2509 มีเนื้อที่ประมาณ 98.08 ตารางกิโลเมตร หรือ 61,300 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอสามร้อยยอดและอำเภอกุยบุรี ภายในเขตอุทยานฯ มีจุดท่องเที่ยวจำนวน 11 จุด มีพื้นที่ชุ่มน้ำทุ่งสามร้อยยอด พื้นที่กว่า 43,260 ไร่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ เป็นลำดับที่ 2,238 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 ซึ่งการบริหารจัดการพื้นที่มีกฎระเบียบการเข้าใช้พื้นที่อย่างชัดเจน มีการบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาธรรมชาติที่สำคัญ โดยสถิตินักท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวรวม 129,730 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 75,167 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 54,563 คน สร้างรายได้เข้าอุทยานฯ 13,474,635 บาท

ทั้งนี้ ระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีความหลากหลาย ประกอบด้วยบึงน้ำจืด ป่าชายเลน หาดโคลน และหาดทราย ลักษณะภูมิประเทศรอบเทือกเขา เป็นทุ่งที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ ซึ่งบริเวณพื้นที่ราบมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบที่มีน้ำขังตลอดปี อยู่ทางด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติ เรียกว่า “ทุ่งสามร้อยยอด” มีเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางกิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นทะเลหรืออ่าว ต่อมาถูกปิดกั้นด้วยตะกอนและสันทราย ทะเลถอยร่นออกไป ได้รับอิทธิพลน้ำจืดจากแผ่นดิน โดยน้ำฝนเป็นแหล่งน้ำหลักที่เข้าสู่ทุ่ง และน้ำส่วนหนึ่งไหลมาจากเทือกเขาสามร้อยยอด มีการสะสมของตะกอนที่ราบลุ่ม ค่อยๆ กลายเป็นทุ่งน้ำกร่อยและทุ่งน้ำจืดตามลำดับ “ทุ่งสามร้อยยอด” ถือเป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นที่ราบลุ่มที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีน้ำขังหรือท่วมอยู่ถาวร ทั้งส่วนที่เป็นน้ำจืดและน้ำกร่อย มีระดับน้ำลึกเฉลี่ย 3 เมตร บริเวณบึงน้ำจืดเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีพืชลอยน้ำ หรือพืชใต้น้ำกระจายอยู่หนาแน่นเป็นที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ของสัตว์นานาชนิด

ส่วนบึงบัวทุ่งสามร้อยยอด เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีทั้งส่วนที่เป็นน้ำจืดและน้ำกร่อย มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ต่างๆ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกหลายชนิด ทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพตามฤดูกาล เช่น นกกระสาแดง เป็ดแดง นกอัญชันอกเทา นกอัญชันคิ้วขาว นกอีโก้ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนสะพานไม้ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มองเห็นความหลากหลายของพันธุ์ไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หญ้า มอสน้ำ จอก บัวหลวง แขม อ้อ ต้นธูปฤาษี สาหร่ายฉัตร สาหร่ายพุงชะโด หากเป็นช่วงฤดูออกดอกของบัว จะมีบัวแดงขึ้นเต็มพื้นน้ำ มีทั้งบัวหลวง บัวเผื่อน บัวผัน บัวสาย รวมทั้งสามารถใช้บริการนั่งเรือนำเที่ยวชมวิวบึงบัวทุ่งสามร้อยยอดได้เพื่อถ่ายภาพความสวยงามของธรรมชาติ.

Categories
กีฬา ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินจัดเดินวิ่ง รักษ์เล#2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวและทำบุญร่วมกันในวันมาฆบูชา

หัวหินจัดเดินวิ่ง รักษ์เล#2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวและทำบุญร่วมกันในวันมาฆบูชา

วันที่ 26 มกราคม 2567 นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม ประธานกลุ่มเราเพื่อนกัน หัวหิน เปิดเผยว่า กลุ่มเราเพื่อนกัน ร่วมกับ ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ เตรียมจัดกิจกรรมเดินวิ่ง “รักษ์เล#2 หัวหินถิ่นมีหอย” เป็นครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงวันหยุดยาวในวันมาฆบูชา ในรูปแบบครอบครัวได้มีโอกาสทำกิจกรรม ทำบุญร่วมกัน อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาสนใจต่อการออกกำลังกาย และส่งต่อโครงการนี้เพื่อสังคมในอนาคต สำหรับรายละเอียดการจัดงานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เริ่มเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จุดเริ่มและจุดเข้าเส้นชัย ที่หน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน นอกจากนี้ยังมีการถวายสังฆทานและรับพรจากเจ้าคณะอำเภอหัวหิน จุดปล่อยตัวจากศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ระยะที่ 1 สักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่ 1.4 กิโลเมตร ระยะที่ 2 ปล่อยหอย ที่ 3.3 กิโลเมตร ระยะที่ 3 ขี่ม้าหัวหิน (กลับตัว) ที่ 4.4 กิโลเมตร และจุดสิ้นสุดที่ห้างหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ที่ 5.9 กิโลมเมตร ค่าสมัครคนละ 499 บาท จะได้รับเสื้อที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของหัวหิน เป็นที่ระลึก 1 ตัว พร้อมรับกางเกงเมืองหัวหิน ลายหอย สื่อเรื่องราวของเมืองหัวหิน บนกางเกงคล้ายรูปแบบของกางเกงช้าง โดยมีต้นแบบมาจากกางเกงแมวของโคราช เพื่อให้เป็น Soft Power และสัญลักณษ์ของเมืองหัวหินอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ FB : https://www.facebook.com/Raklayrun2022 หรือที่เคาน์เตอร์ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมแถลงข่าวในเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 500 คน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พีพีพีให้งบ อบต.ช้างแรก ปรับรถตู้เป็นรถรับส่งผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน บริการคนไข้กลุ่มเปราะบาง

พีพีพีให้งบ อบต.ช้างแรก ปรับรถตู้เป็นรถรับส่งผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน บริการคนไข้กลุ่มเปราะบาง

วันที่ 25 มกราคม 2567 นายนิมิต วงษ์จินดา นายอำเภอบางสะพานน้อย นายธิรวัฒน์ สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก นายพนม ศรีซ้อน สจ.เขตบางสะพานน้อย พ.ต.อ.ธฤต เรืองเดชา ผกก.สภ.บางสะพานน้อย นายธนวัตน์ ชื่นชอบทรัพย์ กำนันตำบลช้างแรก นายชัยทัศน์ วันชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท พีพีพี กรีนคอมเพล็กซ์ จำกัด(มหาชน) พร้อมผู้เกี่ยวข้อง และชาวบ้าน ประมาณ 150 คน ร่วมรับมอบอุปกรณ์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพรถตู้เพื่อเป็นรถช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง กรณีไม่ฉุกเฉินของ อบต.ช้างแรก ที่ศาลาประชุมหมู่บ้าน หมู่ 3 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายธิรวัฒน์ สุดจันทร์ กล่าวว่าได้รับเงิน 250,000 บาท จากบริษัท พีพีพี กรีนคอมเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) ปรับปรุงรถตู้ 12 ที่นั่ง ที่ใช้บริการผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เป็นรถตู้พร้อมอุปกรณ์การแพทย์บางส่วน เพื่อรับส่งผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉิน หรือผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เนื่องจาก อบต.ช้างแรก ได้ตั้งศูนย์กู้ชีพ แต่มีรถฉุกเฉินจำนวน 1 คัน เพื่อรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ดังนั้น อบต.ช้างแรก จึงได้ปรับปรุงรถคันดังกล่าวเพื่อบริการผู้ป่วยประเภทติดเตียง ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเดินทางมาพบแพทย์

นายชัยทัศน์ วันชัย กล่าวว่าในฐานะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท พีพีพี กรีนคอมเพล็กซ์ จำกัด มองถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ และการเดินทางไปสถานพยาบาลตามแพทย์นัดนั้น มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพของประชาชน บริษัทฯ ได้ทราบถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ของ อบต.ช้างแรก ที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพตู้ส่วนกลางของ อบต.ช้างแรก และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ จึงได้สนับสนุนเงิน 250,000 บาท เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีไม่ฉุกเฉิน อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในตำบลช้างแรก ให้เข้าถึงการบริการให้ทันท่วงทีต่อไป.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ตหัวหิน ดึงแอนโทเนียเดินผ้าไทย ต้อนรับเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่น

บลูพอร์ตหัวหิน ดึงแอนโทเนียเดินผ้าไทย ต้อนรับเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่น

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน จ.ประจวบฯ จัดกิจกรรมต้อนรับนักเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บายอีเอ ด้วยการเดินแบบผ้าไทย เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งให้ชาวต่างชาติได้รู้จักวัฒนธรรมไทย สร้างความประทับใจ เผยแพร่วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านกิจกรรมการเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไทยให้กับนักกีฬาที่มาเยือน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และเป็นการผลักดันให้เมืองหัวหิน เป็นเมืองแห่งศิลปะวัฒนธรรม สร้างเสน่ห์ให้ไทยแลนด์โอเพ่น นักเทนนิสและผู้ติดตามได้ช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองหัวหิน ดึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทยให้ประจักษ์สู่สายตาคนทั่วโลก

ในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 นี้ จะมีกิจกรรมการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย ที่เดอะเลเจ้นท์อารีน่า ชั้น 3 บลูพอร์ตหัวหิน โดยวิว เยาวภา บุรพลชัยอดีตนักกีฬาเทควันโด ฮีโร่ เหรียญทองแดงโอลิมปิค และการแสดงนาฏศิลป์ โดย ทีมงานนาฏศิลป์ ลูกไม้, นิทรรศการแฟชั่นและผ้าไทยโบราณ โดยอาจารย์สงคราม งามยิ่ง ครูศิลปินจากสถาบันส่งเสริม ศิลปะหัตถกรรมไทย, การแสดงแฟชั่นโชว์ เดินแบบชุดผ้าไหมไทยจากพราวไทย โดยนักกีฬาเทนนิสระดับโลก จากการแข่งขันไทยแลนด์โอเพ่น 2024 และไฮไลท์สำคัญของงานนี้คือโชว์ศิลปะการพันผ้าไทย โดยอาจารย์โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง สุดยอดศิลปินนักพันผ้าแนวหน้าของเมืองไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกายและแฟชั่นประยุกต์ นำเทคนิคเครื่องนุ่งห่มของไทยสมัยก่อน มาเป็นหลักในการสร้างงานจากคุณแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับหนึ่งมิสยูนิเวอร์ส 2023 มาร่วมเดินแบบในครั้งนี้ด้วย

บลูพอร์ตหัวหิน จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมชมความสง่างามแบบไทยๆ พร้อมช้อปผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ที่บริเวณโอเชียนฮอลล์ ชั้น B บลูพอร์ตหัวหิน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ 2567 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่บลูพอร์ตหัวหิน โทร.032 – 905111, เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official หรือ Line: @Bluport.