Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินจัดเทศกาลดิวาลี ครั้งแรกส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

หัวหินจัดเทศกาลดิวาลี ครั้งแรกส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นายพีรกร บุญญโชติจินดา ประธานชมรมธรรมด้วยใจ เปิดเผยว่า ชมรมธรรมด้วยใจ ร่วมกับ สมาคมไทย – เนปาลี ททท.สำนักงานประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และชมรมหัวหินวูเมนส์คลับ กำหนดจัดกิจกรรมเทศกาล‘Deepavali Festival Hua Hin 2024’ในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ ซึ่งเทศกาลดังกล่าวที่คนไทยเรียกว่า “ดิวาลี” หรือ “ดีปาวลี” เป็นเทศกาลแห่งแสงที่คนฮินดูถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมานาน ใช้แสงสว่างเป็นสัญลักษณ์สำคัญร่วมบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งโชคตามความเชื่อ และสะท้อนความหมายของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นประเพณีแห่งศรัทธาชาวพุทธฮินดูในพื้นที่ต่างๆ สืบต่อมายาวนาน นับเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่แสดงถึงความหมายแห่งแสงสว่าง การชนะความมืดมน ในมหานครทั่วทุกมุมโลกได้มีการจัดงานเทศกาลดิวาลีอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

สำหรับอำเภอหัวหิน ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก เป็นการสร้างโอกาสกระชับความสัมพันธ์อันดีงามของคนที่มีความเชื่อและศรัทธาในองค์พระแม่ลักษมี ทั้งคนไทย เนปาล อินเดีย โดยมีสมาคมไทย – เนปาลี หลายสาขาทั่วประเทศมาร่วมทำพิธีอารตี (Aarti) บูชาองค์เทพด้วยไฟร่วมกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่หัวหิน ในการมีส่วนร่วมกิจกรรมอันดีงามของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น กิจกรรมในงานประกอบด้วยพิธีบูชาไฟเพื่อบูชาพระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง โดยพราหมณ์ฮินดูจากประเทศเนปาลเป็นผู้นำพิธี การประกวดธิดาพระแม่ลักษมี รวมรางวัลมูลค่า 2 ล้านบาท การแสดงบนเวทีจากนักเรียนในพื้นที่ การแสดงจากชาวเนปาลที่ได้รางวัลชนะเลิศการประกวดที่ประเทศเนปาล เป็นต้น จึงขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวที่มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี รวบหนุ่มพกปืน – ยาบ้า ริมเขตป่า เซ่นยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง”

อุทยานกุยบุรี รวบหนุ่มพกปืน – ยาบ้า ริมเขตป่า เซ่นยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง”

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดการลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจึงได้จัดยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” ขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤศจิกายนนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในวันแรกของการปฏิบัติการ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามชุดที่ 2 ร่วมกันลาดตระเวนและดักซุ่มบริเวณขอบป่า ในท้องที่หมู่ 11 บ้านเขาตกน้ำ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ เวลาประมาณ 19.00 น. พบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์พร้อมสะพายอาวุธปืนยาว บริเวณไร่ขนุนติดเขตอุทยานฯ จึงวางแผนเข้าจับกุม ทราบชื่อภายหลังว่านายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วย อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนคารังเพลิง 1 นัด กระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 29 นัด และยาบ้า 2 เม็ด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นของตนเอง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.ยางชุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายอรรถพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการเชิงรุก เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของสัตว์ป่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ลักลอบล่าสัตว์ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีอาณาเขตติดต่อกับชุมชนทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ทำให้มีเส้นทางเข้าออกพื้นที่ป่าหลายช่องทาง ซึ่งเอื้อต่อการลักลอบล่าสัตว์ป่า ประกอบกับพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีประชากรสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงพบการลักลอบวางกับดักสัตว์ป่าจำนวนมากตามแนวขอบป่า ซึ่งทางอุทยานฯ จะกวดขันการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างเข้มข้นต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานกุยบุรี ซ้อมแผนเผชิญเหตุช้างป่าทำร้าย พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล

อุทยานกุยบุรี ซ้อมแผนเผชิญเหตุช้างป่าทำร้าย พร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมพร้อมแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาวนี้ ซึ่งเหมาะแก่การเดินป่าและกิจกรรมอาบป่า (Forest Bathing) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและปลอดภัย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงจัดอบรมและซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีช้างป่าทำร้ายรถนำเที่ยวให้กับคนขับรถและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินในช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยมีนายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่า กลุ่มป่าแก่งกระจาน WWF ประเทศไทย ร่วมจัดโครงการอบรมและซ้อมแผนเผชิญเหตุให้กับชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี

การฝึกอบรมครั้งนี้เนื้อหาครอบคลุมทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การแจ้งเหตุฉุกเฉิน และขั้นตอนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยมีการจำลองสถานการณ์จริงให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติ ทั้งการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของช้างป่าและวิธีรับมือที่ถูกต้องเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาชมสัตว์ป่าในพื้นที่ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สพฐ.ประจวบฯ ร่วมกับสโมสรไลออนส์หัวหิน จัดแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทย ครั้งที่ 28

สพฐ.ประจวบฯ ร่วมกับสโมสรไลออนส์หัวหิน จัดแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทย ครั้งที่ 28

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ ครั้งที่ 28 ระดับพื้นที่จังหวัด ที่ห้องประชุมโรงเรียนหัวหิน มีจ่าเอกลิขิต หนูนิน รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นายพสิน สินธุพาชี ผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310D นายปราโมทย์ ธัญญกุลสัจจา นายกสโมสรไลออนส์หัวหิน ดร.มนัสพันธน์ จัตุพันธ์ นายกสโมสรไลออนส์เมืองประจวบคีรีขันธ์ นายธนกฤต พราหมณีนิล ประธานจัดการแข่งขันตอบสารานุกรมไทย พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่พันตรี กิตติธัช แสนภูวา ผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน แขกผู้มีเกียรติ คณะครู และนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ จำนวน 150 คน เข้าร่วม ซึ่งผู้ได้รางวัลชนะเลิศระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนบ้านทุ่งตะโกน ได้ 51 คะแนน และรางวัลชนะเลิศระดับชั้นมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนประจวบวิทยาลัย ได้ 76 คะแนน

นายปราโมทย์ ธัญญกุลสัจจา นายกสโมสรไลออนส์หัวหิน กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการร่วมมือกัน ระหว่างมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสโมสรไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย การที่สโมสรไลออนส์หัวหินจัดสอบแข่งขันสารานุกรมไทย ครั้งที่ 28 เพราะเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ท่านได้มอบเอาไว้ให้พวกเราทำ เด็กๆ จำนวน 150 คน ที่มาก็ตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มางานนี้ ตั้งตารอที่จะมาสอบสำคัญครั้งนี้ โดยการสอบในวันนี้เป็นการสอบแบบปรนัย แบบมีตัวเลือก ข้อสอบจะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป จากการที่ได้เห็นแววตาเด็กๆ เขามีความสุขที่ได้มาสอบ มีความสุขที่ได้มีความรู้ สโมสรไลออนส์ก็มีความสุข ที่ได้สนับสนุนให้เด็กใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ แล้วใฝ่หาความรู้ซึ่งเป็นประโยชน์กับเขาต่อไปตลอดทั้งชีวิต.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด

ฉก.จงอางศึก บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังโรคติดต่อจากประเทศเมียนมา

ฉก.จงอางศึก บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังโรคติดต่อจากประเทศเมียนมา

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 พ.อ.เพรียว เลี้ยงชีพชอบ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก จัดประชุมหารือร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับแนวชายแดนไทย – เมียนมา เพื่อวางมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน หากมีชาวเมียนมา หนีภัยสงครามจากความไม่สงบเข้ามาตามแนวชายแดน ซึ่งอาจนำโรคติดต่อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยมีนายปรีดา สุขใจ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในการประชุม

ทั้งนี้มีนายประสูติ หอมบันเทิง นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่มีพื้นที่เขตรับผิดชอบติดกับชายแดนไทย – เมียนมา เข้าร่วมหารือ อาทิ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กองร้อย ตชด.146 กองร้อย ตชด.147 กอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนนายอำเภอบางสะพาน ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองวาฬ ป้องกันจังหวัดประจวบฯ ด่านควบคุมโรคติดต่อ ผู้แทน อบต.ห้วยทราย อบต.คลองวาฬ อบต.เกาะหลัก และ อบต.อ่าวน้อย ร่วมประชุม

โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการเตรียมความพร้อม หากเกิดสถานการณ์ขึ้นในอนาคต หน่วยงานในพื้นที่แต่ละหน่วยงานจะได้รับทราบแผนการปฏิบัติและรู้บทบาทหน้าที่ของตนเองแต่ละหน่วยงาน ว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบที่กำหนดอย่างไร ทั้งการคัดกรองบุคคล และโรคติดต่อที่อาจติดมากับผู้หนีภัยความไม่สงบ โดยจะมีการซักซ้อมการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 3 ธันวาคมที่จะถึงนี้ บริเวณชายแดนด่านสิงขร ฝั่งไทย หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ทั้งหมด

มอบกุหลาบแทนใจ ส่งรองผู้ว่าประจวบฯ ไปรับตำแหน่งใหม่ที่ราชบุรี

มอบกุหลาบแทนใจ ส่งรองผู้ว่าประจวบฯ ไปรับตำแหน่งใหม่ที่ราชบุรี

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนางวนิดา เจริญพัฒนสมบัติ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดประจวบฯ และกล่าวอำลาส่วนราชการ พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ (หลังเก่า) ในโอกาสที่ได้รับคำสั่งไปปฏิบัติหน้าที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย โดยกำหนดเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่ในจังหวัดประจวบฯ ร่วมกันมอบดอกกุหลาบแทนใจ ร่วมส่งนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมส่งด้วยบรรยากาศอบอุ่น ก่อนขึ้นรถออกเดินทางเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่และดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหิน ออกหน่วยช่วยชาวบ้านหนองพลับ

นายอำเภอหัวหิน ออกหน่วยช่วยชาวบ้านหนองพลับ

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการ “อำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่” ประจำปี 2567 “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ที่โรงเรียนบ้านคอกช้างพัฒนา หมู่ 9 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน คณะกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตชด. หน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก มีส่วนราชการต่างๆ ออกให้บริการประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและจำหน่ายสินค้าจากชุมชน พร้อมกันนี้ นายอำเภอหัวหินได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนได้ตรงกับความต้องการ โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองพลับและพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมารับบริการเป็นจำนวนมาก ต่างมีความพึงพอใจในการให้บริการที่ดี สะดวก และรวดเร็ว

โอกาสนี้ นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยนายกกิ่งกาชาดหัวหิน ได้มอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสคนชรา ผู้พิการ จำนวน 100 ชุด รวม 16 หมู่บ้าน พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนยากจนและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นทีตำบลหนองพลับ และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนให้ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โครงการส่งน้ำปราณฯ ปิดปรับปรุงส่งน้ำเส้นทางหัวหิน 2 – 9 ธ.ค.นี้ ให้เตรียมสำรองน้ำไว้

โครงการส่งน้ำปราณฯ ปิดปรับปรุงส่งน้ำเส้นทางหัวหิน 2 – 9 ธ.ค.นี้ ให้เตรียมสำรองน้ำไว้

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ตามที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี จ.ประจวบฯ โดยนายกานต์ โพธิดอกไม้ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เรื่องขอแจ้งปิดการส่งน้ำเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่ กม.1 – กม.6+900 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2567 – 6 มกราคม 2568 เพื่อปรับปรุงอาคารบังคับน้ำกลางคลองส่งน้ำสายใหญ่และปรับปรุงอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิมให้แล้วเสร็จ จึงไม่สามารถส่งน้ำเข้าท่อส่งน้ำสายปราณบุรี – ค่ายธนะรัชต์ และท่อส่งน้ำสายปราณบุรี – หัวหิน (สายเก่า) ที่รับน้ำจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมากที่ใช้น้ำจากโครงการส่งน้ำปราณบุรีสำหรับอุปโภคและบริโภค เนื่องจากระยะเวลาปรับปรุงอาคารนานเดือนเศษ

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี จึงมีหนังสือขอยกเลิกและเปลี่ยนแผนการปิดส่งน้ำเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่ ช่วง กม.0 – กม.6+900 ในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 07.00 – 18.00 น. เป็นเวลา 1 วัน เพื่อดำเนินงานปรับปรุงอาคารระบายน้ำลงลำน้ำน้ำเดิมให้แล้วเสร็จ ซึ่งการปิดน้ำดังกล่าวจะส่งผลทำให้ไม่สามารถส่งน้ำเข้าท่อส่งน้ำสายปราณบุรี – ค่ายธนะรัชต์ และท่อส่งน้ำสายปราณบุรี – หัวหิน (สายเก่า) ที่รับน้ำจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ช่วงดังกล่าวได้ และในวันที่ 2 – 9 ธันวาคม 2567 เป็นเวลา 8 วัน ซึ่งท่อ HDPE และท่อเหล็กเหนียว ช่วง กม.0+240 ของการประปาเทศบาลเมืองหัวหินจะได้รับน้ำ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ส่วนท่อ AC ของการประปาเทศบาลเมืองหัวหัวหิน ช่วง กม.6+900 จะได้รับน้ำเวลา 18.00 น. ของวันที่ 9 ธันวาคม 2567 พร้อมกับท่อส่งน้ำสายปราณบุรี-ค่ายธนะรัชต์ จึงขอความร่วมมือประชาชนได้สำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงที่มีการหยุดการส่งน้ำดังกล่าว หากดำเนินการแล้วเสร็จก่อนกำหนด โครงการฯจะดำเนินการเปิดน้ำเข้าสู่ระบบต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” ปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์ป่า

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดยุทธการ “ล้าง บาง บ่วง” ปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์ป่า

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้เปิดปฏิบัติการพิเศษ “ล้าง บาง บ่วง” ระหว่างวันที่ 24 – 27 พฤศจิกายนนี้ เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีที่มีอาณาเขตติดต่อกับชุมชนทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ส่งผลให้มีเส้นทางเข้าออกพื้นที่ป่าหลายช่องทาง ซึ่งเอื้อต่อการลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า ประกอบกับพื้นที่อุทยานฯ มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรสัตว์ป่าและมีประชากรสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น จึงพบการลักลอบวางกับดักสัตว์ป่าจำนวนมากตามแนวขอบป่า ซึ่งนับว่าเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่าในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ โดยอุทยานฯ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเป็น 6 ชุดๆ ละ 7 นาย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปราม ชุดที่ 1, 2 และ 3 จะรวมพล ณ ที่ทำการอุทยานฯ เวลา 09.00 น. ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จะรวมพล ณ หน่วยที่ประจำการ ก่อนกระจายกำลังลงพื้นที่ตามเส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดไว้ 6 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางโป่งกะสัง – หุบตาวีป – หุบแจง, โกรกกือ – หุบผู้ใหญ่ตุ้ย – หุบพลู, หุบจันทร์, หุบตาวัน – ชุมชนมะละกอ, น้ำโจน – จุดสกัดท่ากระทุ่น และจุดสกัดหุบตะเคียน – หุบพลู- หุบนกกาฮัง

การวางแผนปฏิบัติการครั้งนี้อ้างอิงจากข้อมูลการลาดตระเวนที่ผ่านมาและสถิติภัยคุกคามจากฐานข้อมูล SMART Patrol ของอุทยานฯ โดยกำหนดกลยุทธให้ชุดลาดตระเวนที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ ให้นำตัวออกจากพื้นที่ทันทีตามเส้นทางที่ใกล้ที่สุด ขณะที่ชุดอื่นๆ ยังคงปฏิบัติภารกิจต่อตามแผน ซึ่งครอบคลุมทั้งการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่เสี่ยง เก็บกู้อุปกรณ์กับดักสัตว์ป่า สืบค้นร่องรอยการกระทำผิด และจับกุมขบวนการลักลอบล่าสัตว์ ปฏิบัติการ “ล้าง บาง บ่วง” นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอุทยานแห่งชาติกุยบุรีในการปกป้องทรัพยากรสัตว์ป่าและระบบนิเวศในพื้นที่ โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์และการวางแผนอย่างเป็นระบบในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รวบทิดขโมยพระบูชา พระเครื่องในวัดดังมูลค่าหลายแสนบาท

รวบทิดขโมยพระบูชา พระเครื่องในวัดดังมูลค่าหลายแสนบาท

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามร้อยยอด พ.ต.ท.ภพธร สีทะหา รองผู้กำกับฯ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.สามร้อยยอด นำโดยพ.ต.ต.ศรชัย ดวงดาว สารวัตรสืบสวน สภ.สามร้อยยอด ร.ต.อ.กมล อินทร ร.ต.ท.ศักดา เด็กหลี ด.ต.อเนกพงศ์ ศิลปี ด.ต.ธีระพร กาญจนกันติ จ.ส.ต.นพนันท์ บริรักษ์ ส.ต.ต.ธีรวัต บุษบา และ ส.ต.ท.รังสิมันตุ์ บุญประเสริฐ ร่วมกันจับกุมนายธนทัศน์ อายุ 28 ปี ชาวสามร้อยยอด และนายขจรศักดิ์ ชาวปราณบุรี พร้อมของกลางพระพุทธรูป ฃและพระเครื่องเกือบครึ่งร้อย

จากภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพ หนุ่มคนร้ายสวมหมวกผ้าปิดบังใบหน้า เข้ามาขโมยพระในวัดสองวันติดต่อกัน ในวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2567 ช่วงเวลา 03.00 น. ซึ่งเป็นชายคนเดียวกัน อายุประมาณ 25 – 30 ปี ขึ้นมาบนวัดหนองข้าวเหนียว สอดส่องตามแท่นพระที่วางพระพุทธรูป และพระบูชา และเดินตามกุฏิพระ ขโมยพระบูชา พระเครื่องและภาพถ่ายหลวงพ่อเมี้ยนเงิน มูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถบันทึกได้ชัดเจน ว่าหัวขโมยเป็นคนที่เคยบวชอยู่ที่วัด และบ้านอยู่ไม่ห่างจากวัดเท่าไรจึงได้เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอดติดตามจับกุมตัว

หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือนายธนทัศน์ (อั๋น) อยู่ในหมู่ 3 บ้านหนองข้าวเหนียว ต.สามร้อยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ จึงได้นำกำลังเข้าไปจับกุมได้ที่บ้านพัก ขณะยืนอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมให้ต้องหาดูภาพวงจรปิดว่าเป็นตนเองหรือไม่ ซึ่งนายธนทัศน์ ยอมรับว่าคนในกล้องจรปิดเป็นตนจริง และเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน ไม่พบของกลางที่ได้ขโมยมา จึงสอบสวนจนนายธนทัศน์ยอมรับว่าเอาไปขายให้นายขจรศักดิ์ ทางแอปพลิเคชันไลน์ จึงได้นำกำลังไปตรวจไปค้นที่บ้านพักนายขจรศักดิ์ ที่หมู่ 4 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรูปหล่อหลวงพ่อเมี้ยนรมดำ หน้าตัก 6 นิ้ว จำนวน 9 องค์ รูปหล่อหลวงพ่อเมี้ยนสีทอง หน้าตัก 6 นิ้ว 2 องค์ พระพุทธรูปทองเหลือง รูปสามสมัย (อู่ทอง สุโขทัย เชียงแสน) หน้าตัก 5 นิ้ว จำนวน 15 องค์ และอื่นอีกจำนวนมาก โดยนายขจรศักดิ์ยอมรับว่าได้รับซื้อพระจากนายธนทัศน์จริง จึงได้นำตัว ทั้งสองคนมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าพระที่ขโมยมา นำไปขายได้เงิน 4,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายธนทัศน์ว่าลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน ส่วนนายขจรศักดิ์ ตั้งข้อหา รับซื้อของโจรและคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน