Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กองบิน 5 จัดงานรำลึก 83 ปี สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 วันที่ 6 – 10 ธ.ค.นี้

กองบิน 5 จัดงานรำลึก 83 ปี สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 วันที่ 6 – 10 ธ.ค.นี้

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 พร้อมด้วย นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2584 ประจำปี 2567 ที่ห้องดุสิตา อาคารอากาศคำรณ กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบฯ มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และสื่อมวลชนร่วมการแถลงข่าว

กองทัพอากาศ โดยกองบิน 5 จัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสดุดีความกล้าหาญของทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวชน ตำรวจ และวีรชนชาวจังหวัดประจวบฯ ทุกท่าน ที่ยอมเสียสละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ให้พี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีส่วนรับทราบเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกัน ระหว่างทหารอากาศแห่งกองบิน 5 และพี่น้องประชาชนจังหวัดประจวบฯ ที่ร่วมกันต่อสู้กับกองกำลังแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่ได้นำกำลังพลขึ้นบก ณ อ่าวประจวบ อ่าวมะนาว และมีการสู้รบกันเป็นเวลา 33 ชั่วโมง จึงสงบ โดยในวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เป็นปีที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นปีครบรอบ 83 ปี สดุดีวีรชน สงครามมหาเอเชียบูรพา

น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวว่า กองทัพอากาศ โดยกองบิน 5 ได้กำหนดจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธันวาคม รวม 5 วัน ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 และบริเวณลานเอนกประสงค์ สโมสรทหารอากาศ กองบิน 5 ในส่วนของงานพิธีการ จะเริ่มในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีการจัดกิจกรรมเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชน ตั้งแต่บริเวณศาลหลักเมืองประจวบฯ ถึงอนุสาวรีย์วีรชนฯ กองบิน 5 หลังจากนั้น จะเป็นงานเลี้ยงรับรอง ที่บริเวณลานเอนกประสงค์สโมสรทหารอากาศ กองบิน 5 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม มีพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน ของส่วนราชการจังหวัดประจวบฯ และเวลา 10.00 น. ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะมาวางพวงมาลาและร่วมงานบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน

นอกจากนี้ กองบิน 5 ได้กำหนดจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับงานพิธีการหลัก โดยกำหนดจัดงานบริเวณลานเอนกประสงค์สโมสรทหารอากาศ กองบิน 5 มีการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม เวทีการแสดง รวมถึงการจัดนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การแนะแนวสถานศึกษาในกองทัพอากาศ และการจัดแสดงผลงานการประกวดประเภทต่างๆ ของนักเรียนที่ศึกษาในสถานศึกษาจังหวัดประจวบฯ เยาวชน และประชาชนทั่วไป รวมถึงกิจกิจกรรมการแข่งขันกีฬา และกิจกรรมพิชิตยอดล้อมหมวก

สำหรับกิจกรรมที่มุ่งให้เกิดการมีส่วนร่วมในกลุ่มเยาวชนและประชาชนทั่วไป คือ การประกวด ชิงเงินรางวัลและโล่เกียรติยศผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แก่ การประกวดแต่งโคลงสี่สุภาพ ในหัวข้อ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การประกวดกลอนสุภาพ ในหัวข้อ “เชิดชูเกียรติ สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” การประกวดเรียงความ การประกวดวาดภาพระบายสี และการประกวด Infographic ในหัวข้อ “สืบสาน รักษา และต่อยอด การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล” อีกทั้งยังมีการประกวดภาพถ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “สละชีพ สู้ศึก พิทักษ์ชาติ ก้องเกียรติ ถนนแห่งประวัติศาสตร์” และการประกวดคลิปวิดีโอสั้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “มาเที่ยวบ้านฉัน มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว”.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯ จัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อความปลอดภัย

สภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯ จัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อความปลอดภัย

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 น.ส.ธนาพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหารือแนวทาง เพื่อแก้ไขปัญหาสายสื่อสารที่รกรุงรังและสายสื่อสารที่ม้วนขดห้อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน ให้มีความระเบียบเรียบร้อยเป็นระบบที่ชัดเจน ตรวจสอบได้อย่างยั่งยืนเพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมให้มีความปลอดภัยสาธารณะตามนโยบายรัฐบาล เพื่อร่วมพัฒนาการตามนโยบายสาธารณะระดับจังหวัด โดยมีนายสมนึก นิ่มน้อย หัวหน้าการไฟฟ้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพลพิรุณ เพียรมาก สำนักงาน กสทช. เขต 45 จังหวัดชุมพร นายสมิทธ์ รัตนชัยชฏ สวท.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร.ต.อนุรักษ์ ทองจรัส ผู้เชียวชาญด้านการสื่อสาร นายพิสิษฐ์ รื่นเกษม ประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมประชุม

น.ส.ธนพร บางบัวงาม กล่าวว่าได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับสายสัญญาณสื่อสารที่ห้อยเกะกะ ปิดทางเข้าออก บางจุด ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เช่น ริมถนนคอนกรีตทางเข้าหมู่บ้านและย่านชุมชนต่างๆ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นสายสื่อสารสีดำ มีทุกขนาด ห้อยโยงเป็นท้องช้างเกะกะตลอดแนวฝั่งถนนเป็นระยะทางไกล ขณะที่บางจุดสายสัญญาณสื่อสารห้อยเป็นท้องช้าง ลงมาปิดปากทางเข้าออกถนนซอยหมู่บ้าน บางจุดชาวบ้านต้องใช้ลำไม้ไผ่ มาทำเป็นเสา ยกสายสัญญาสื่อสารให้สูงขึ้น เพื่อให้รถยนต์ รถบรรทุกส่งเข้าออกได้ ขณะที่บางจุดมีการนำสายสัญญาณไปผูกติดไว้กับต้นไม้ของชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีคนร้องเรียนไปยังบริษัทเจ้าของสายสัญญาณและหน่วยงานเกี่ยวข้องแล้ว ก็เพิกเฉย ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด วันนี้ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยจะร่วมกับภาคีเครือข่าย 13 องค์กรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ถ่ายรูปส่งรายงานเข้ามาตามจุดต่างๆ ที่ประชาชนมีความเดือดร้อนหรือทางสายด่วนผู้บริโภค 152 ยินดีให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาได้เร่งด่วน และจะนำเข้าที่ประชุมหน่วยงานบริษัทสายสื่อสารทั้งหมด รวมทั้งการไฟฟ้า เข้ามาร่วมหารือจุดเสี่ยง จุดอันตรายที่สำคัญ เพื่อบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแก้ไขต่อไป.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลเมืองประจวบฯ อบรมประชาชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร และป้องกันอุบัติเหตุ

เทศบาลเมืองประจวบฯ อบรมประชาชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร และป้องกันอุบัติเหตุ

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ ในฐานะผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น เทศบาลเมืองประจวบฯ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมประชาชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจรและการป้องกันอุบัติเหตุ ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลเมืองประจวบฯ มีนางรัชนีวรรณ พรมเล็ก ปลัดเทศบาลเมืองประจวบฯ กล่าวรายงาน ร.ต.อ.สันติ ทองฉิม รอง สว.จร.สภ.เมืองประจวบฯ น.ส.อรุณรัตน์ ฟองมณี เจ้าหน้าที่อาวุโส บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาประจวบฯ นายมานะ สาลี หัวหน้าช่างบริษัทชาญธุรกิจ 1990 จำกัด มาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาล เจ้าหน้าที่และผู้เข้ารับการอบรมให้การต้อนรับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร ได้มีความรู้ความเข้าใจปัจจัยการกระทำความผิดกฎหมายจราจรของผู้ขับขี่รถยนต์ – รถจักรยานยนต์ และเล็งเห็นความสำคัญของพระราชบัญญัติรถยนต์ (พ.ร.บ.) สิทธิหลังเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงให้ความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์ โดยมีตัวแทนจาก 15 ชุมชนในเขตเทศบาลฯ จำนวน 90 คน เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

แขวงประจวบฯ ชี้แจงปัญหาไฟจราจรและกล้องตรวจจับความเร็วในเขตหัวหิน หลังโดนใบสั่งนับร้อยคัน

แขวงประจวบฯ ชี้แจงปัญหาไฟจราจรและกล้องตรวจจับความเร็วในเขตหัวหิน หลังโดนใบสั่งนับร้อยคัน

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายเศรษฐ์ จันทอาด รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบฯ (ฝ่ายปฏิบัติการ) เป็นประธานประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนเพชรเกษม ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ที่ห้องประชุมแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จ.ประจวบฯ มี พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สะอาดนัก สว.จร.สภ.หัวหิน ตำรวจทางหลวงประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน กลุ่มพลังท้องถิ่นหัวหิน เข้าร่วมรับฟัง

นายเศรษฐ์ จันทอาด กล่าวว่า แขวงทางหลวงฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและกลุ่มพลังท้องถิ่นหัวหิน ในเรื่องไฟสัญญาณจราจร ป้ายจราจร บนถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ที่มีการกำหนดและบังคับใช้แตกต่างกัน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการใช้ทาง จึงได้มีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องหลักๆ จะเป็นเรื่องสัญญาณไฟจราจรที่ประชาชนรู้สึกว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เช่น บริเวณแยกพุทธไชโย ทางเลี้ยวซ้ายที่รอสัญญาณไฟ ควรจะเปลี่ยนให้เป็นเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เพื่อให้การจราจรคล่องตัว แต่การเลี้ยวซ้ายก็ต้องมองรถขวาด้วยเพื่อความปลอดภัย ในส่วนของสี่แยกเทศบาลเมืองหัวหิน ไฟจราจรที่ไม่ชัดเจน เช่น ไฟเลี้ยวซ้ายที่ยังเป็นสีเหลืองอยู่ ทางแขวงจะให้บริษัทที่ติดตั้งมาปรับปรุงแก้ไข ส่วนกล้องตรวจจับความเร็วและป้ายจำกัดความเร็วที่กระชั้นชิด ที่เป็นปัญหาอย่างมากกับผู้ขับขี่พาหนะอยู่ในตอนนี้ ทางตำรวจทางหลวงจะไปขยับป้ายที่เป็นระยะที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนก่อนที่จะถึงจุดตรวจจับความเร็ว ซึ่งได้มีมติในที่ประชุมแล้ว ได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว

“ปัญหาเรื่องฟุตบาททางเท้าริมถนนเพชรเกษม ที่ในขณะนี้แขวงการทางฯ กำลังดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอยู่ เนื่องจากเราเพิ่งได้งบประมาณในช่วงไฮซีซั่นพอดี หลังจากตั้งงบแล้วได้ผู้รับจ้างพอดี ฝากถึงประชาชนนักท่องเที่ยวระหว่างนี้อาจได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรไปมา รวมถึงการเข้าออกบ้านและร้านค้า แต่เมื่อเแล้วเสร็จจะได้เข้าออกอย่างสะดวกและปลอดภัย หน้าบ้านสวยงามเป็นอัตลักษณ์ของหัวหิน ซึ่งตามสัญญาจะเสร็จประมาณเดือนธันวาคมนี้ อยากฝากถึงประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนด้วยว่า ทางหลวงเราเป็นถนนสายหลัก เมืองหัวหินค่อนข้างเป็นเมืองชุมชน มีทั้งเขตพระราชฐาน มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก อยากให้ใช้รถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งผู้ที่อยู่ในเมืองหัวหินและผู้ที่เดินทางผ่านไปมาด้วย

นายศุภวิท กำเนิดแสง ประธานกลุ่มพลังท้องถิ่นหัวหิน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแขวงการทาง งานจราจร สภ.หัวหิน ตำรวจทางหลวงประจวบฯ และเทศบาลเมืองหัวหินที่มาร่วมกันในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ รู้สึกพอใจที่ปัญหาหลายข้อได้รับการตอบรับในแก้ปัญหาให้กับประชาชน ปัญหาที่เราโฟกัสเป็นพิเศษในวันนี้ คือเรื่องของการจราจรที่เป็นประเด็นแรก ส่วนเรื่องปัญหาไฟสัญญาณจราจรที่ประชาชนไม่เข้าใจ หรือเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ทำการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องกล้องตรวจจับความเร็วในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ที่มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวร้องเรียนเข้ามาว่าโดนใบสั่งกันมาก ซึ่งในที่ประชุม ตำรวจทางหลวงกได้รับทราบและจะทำการแก้ไขต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ ตรวจรักษาพระภิกษุ แม่ชี ถวายเป็นพระราชกุศลฯ

ประจวบฯ จัดรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ ตรวจรักษาพระภิกษุ แม่ชี ถวายเป็นพระราชกุศลฯ

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง อ.เมืองประจวบฯ มีนายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด บุคลากรทางการแพทย์ พระภิกษุ แม่ชี ผู้นำ นักบวชทุกศาสนาที่มีปัญหาทางสายตาร่วมโครงการ มีนางณัฐชาลัคนา สุขภาคกุล รักษาการรองนายกเหล่ากาชาดประจวบฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ ซึ่งสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ จัดรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ออกตรวจรักษาและผ่าตัดตาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้พระภิกษุ แม่ชี ผู้นำ นักบวชทุกศาสนา ได้รับการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธี ทั่วถึง และสามารถมองเห็นช่วยเหลือตัวเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นหนึ่งในโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ทั้งนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ได้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำรวจและคัดกรองผู้ที่มีความผิดปกติทางสายตาเบื้องต้นให้กับพระภิกษุ แม่ชี ผู้นำ นักบวชทุกศาสนา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ 380 ราย และกำหนดแผนปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2567 และได้รับเมตตาจากพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง และหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนการจัดโครงการ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

สบอ.3 เพชรบุรี จับมือเทศบาลหัวหิน ทำหมันลิง 203 ตัว ย้ายลิงเกเรไปที่ใหม่

สบอ.3 เพชรบุรี จับมือเทศบาลหัวหิน ทำหมันลิง 203 ตัว ย้ายลิงเกเรไปที่ใหม่

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี กล่าวว่าตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับเทศบาลเมืองหัวหิน โดยมีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ในการดำเนินโครงการควบคุมประชากรลิงแสมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2567 ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อควบคุมประชากรลิงแสมด้วยวิธีการทำหมันในพื้นที่บริเวณเขาหินเหล็กไฟและเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายลิงไปไว้ยังกรงพักพิงลิง ภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 11 – 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดย สบอ.3 เพชรบุรี ได้เคลื่อนย้ายลิงแสมในพื้นที่เขาตะเกียบและเขาหินเหล็กไฟแล้ว จำนวน 203 ตัว เพศผู้ 109 ตัว เพศเมีย 94 ตัว ซึ่งทุกตัวได้ทำหมันแล้วทั้งหมด ก่อนย้ายลิงแสมที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ไปยังกรงพักพิงลิงแสม ภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าฯ ที่เตรียมไว้ 10 กรง สามารถพักพิงลิงแสมได้กรงละ 20 ตัว พร้อมอาหารสำหรับลิงแสมไว้ 2 มื้อต่อวัน ประกอบไปด้วยใบไม้ต่างๆ ที่ลิงกินและผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งการดำเนินงานเคลื่อนย้ายลิงแสมในครั้งนี้เป็นไปตามหลักวิชาการ

น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับ เทศบาลเมืองหัวหิน จัดโครงการ “ย้ายลิงสู่ที่พักพิงใหม่” โดยการจับลิงแสมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่เขาตะเกียบและเขาหินเหล็กไฟ ทำหมันแล้วย้ายไปที่พักพิงใหม่ จากการลงพื้นที่ติดตามความเป็นอยู่ของลิงที่ย้ายมาไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าฯ พบว่าลิงค่อนข้างที่จะแข็งแรง อยู่เป็นที่เป็นทาง เป็นสัดส่วนในกรงของอุทยานที่เตรียมไว้เพื่อสุ่มตรวจโรค ซึ่งจะกักตัวไว้ประมาณ 3 อาทิตย์ ก่อนที่จะนำไปปล่อยในสถานที่ ที่จัดเตรียมไว้ต่อไป ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาลิงรบกวนชุมชนในระดับหนึ่งของเทศบาล ส่วนแนวทางต่อไป จะไปปรับปรุงกรงนกที่บนเขาหินเหล็กไฟ เพื่อสร้างเป็นแหล่งที่อยู่ใหม่ของลิงแสม ที่ได้ทำหมันโดยร่วมกับกรมอุทยานฯ ตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบัน เทศบาลฯ ได้ทำหมันลิงไปแล้วกว่า 3,000 ตัว

“หากประชาชนท่านใดที่มีอาหารที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ แตงกวา กล้วย เศษขนมปัง หรือแม้กระทั่งอาหารเม็ดสุนัข ก็สามารถนำมาบริจาคให้กับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าฯ ได้ หรือจะไปบริจาคกับเทศบาลฯ ก็ได้ เราจะนำเอามาให้อีกเหมือนกัน ต้องขอขอบคุณ รัฐมนตรีเฉลิมชัยฯ ที่สั่งการแล้วให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาลิงแสมอย่างถูกวิธีเป็นระบบแบบยั่งยืน” น.ส.บุษบา กล่าวในตอนท้าย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.เพชรบุรี ชวนเที่ยวงานเทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ครั้งที่ 19

ททท.เพชรบุรี ชวนเที่ยวงานเทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ครั้งที่ 19

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี เปิดเผยว่าจังหวัดเพชรบุรี นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีครบทั้งหาดทราย ชายทะเล และธรรมชาติป่าเขาแห่งเทือกเขาตะนาวศรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกแห่งที่ 3 ของประเทศไทย โดยยูเนสโก (UNESCO) แล้ว ยังมีศักยภาพในเรื่องของอาหารอร่อย โดยเฉพาะที่อำเภอแก่งกระจาน ที่มีเมนูปลารสเด็ดที่นำมาคัดสรรเป็นอาหารให้น่ามาลิ้มลองอีกมากมาย อำเภอแก่งกระจานจึงร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนชาวแก่งกระจาน กำหนดจัดงาน “เทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ครั้งที่ 19” ขึ้น ซึ่งเป็นงานเทศกาลส่งท้ายปี สีสัน ดนตรี ความสุข เพลิดเพลินกับมนต์เสน่ห์และความหลากหลายของวัฒนธรรม ลิ้มรสชาติอาหารพื้นถิ่น ชมพลุสุดอลังการทุกคืน ระหว่างวันที่ 5 – 14 ธันวาคมนี้ ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน อีกทั้งเป็นการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวพร้อมรับลมหนาวของอำเภอแก่งกระจานด้วย และได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธาน

ไฮไลท์ภายในงานปีนี้ เน้นตกแต่งประดับงานด้วยไม่ไผ่ ไม้รวกเป็นซุ้มทางเดิน พร้อมจัดแสดงโซนประดับไฟสวยงาม และจัดลานกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ลานของกิน ชิมอาหารสารพัดเมนูอาหารปลาเพื่อสุขภาพ จากแหล่งปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ของเขื่อนแก่งกระจานที่มีรสชาติอร่อย หวาน มัน นุ่ม ที่รับรองว่ารับประทานปลาที่ไหนไม่อร่อยเท่าที่แก่งกระจาน / ลานวัฒนธรรม 6 ตำบล และลานวัฒนธรรมชนเผ่า ไม่ว่าจะเป็นกะเหรี่ยง – กะหร่าง ไทยทรงดำ ชนบนพื้นที่สูง ไทยเชื้อสายเขมร ที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวแก่งกระจาน / ลานส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมกิจกรรมเส้นทางสัมผัสธรรมชาติมรดกโลกแก่งกระจาน เช่น นำชมทะเลหมอกพะเนินทุ่ง พายเรือคายัคในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ลานแสดงโคกหนองนาโมเดล และ MINI ZOO เป็นต้น

ททท.สำนักงานเพชรบุรี ถือว่าการจัดงาน “เทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ครั้งที่ 19” ในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นฤดูการท่องเที่ยวแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีต่อเนื่องมา เริ่มตั้งแต่การเปิดป่าขึ้นจุดชมวิวชมทะเลหมอกเขาพะเนินทุ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา โดย ททท.สำนักงานเพชรบุรี จัดกิจกรรมพิเศษพานักท่องเที่ยวที่เข้าพักโรงแรม รีสอร์ท ในพื้นที่แก่งกระจานและมาร่วมงานเทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ระหว่างวันที่ 5 – 14 ธันวาคม 2567 ลงทะเบียน ณ บูธโซนท่องเที่ยว เพื่อขึ้นชมทะเลหมอกพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จำกัดสิทธิเพียงวันละ 10 คน/วัน

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เช่น แคมป์ปิ้ง ดูดาว ดูนก ดูผีเสื้อ และชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนสันเขื่อนแก่งกระจาน นั่งเรือรับลมชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็นในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน นั่งเรือยางล่องลำน้ำเพชร ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำเพชรได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นของโรงแรม ที่พัก/รีสอร์ท ลดราคาสุดพิเศษในช่วงเทศกาลจัดงานดังกล่าว จึงขอเชิญชวนผู้สนใจและนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน “เทศกาลกินปลา พาเที่ยวแก่งกระจาน ครั้งที่ 19” และท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 5 – 14 ธันวาคมนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน โทรศัพท์ 032 – 459118 หรือที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 032 – 471005 – 6 หรือ 1672 เบอร์เดียวทั่วไทย.

ข่าวแนะนำ
Categories
ข่าว ทั้งหมด สังคม

บูรณาการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า

ข่าวสังคม

พงษ์พันธ์ เผ่าประทาน นายกเทศมนตรีตำบลทับสะแก ร่วมกับภูศเดช ภักดีพันธ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอทับสะแก, เกษม สังฆารักษ์ หัวหน้าฝ่ายบริการลูกค้า, ธันวา มูลมาก หัวหน้าแผนกก่อสร้างปฏิบัติการและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอทับสะแก และผู้ประกอบการด้านสายสื่อสารโทรคมนาคม ทั้งภาครัฐและเอกชน บูรณาการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า บริเวณสี่แยกทับสะแก ถึงหน้าสถานีรถไฟทับสะแก ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและรองรับการท่องเที่ยวตลาดเก่าทับสะแก จ.ประจวบฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ อำลาตำแหน่งไปนั่งเก้าอี้พ่อเมืองปทุมธานี ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ อำลาตำแหน่งไปนั่งเก้าอี้พ่อเมืองปทุมธานี ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก นายกเหล่ากาชาดจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดประจวบฯ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด และกล่าวอำลาส่วนราชการ พร้อมขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เนื่องในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยมีนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกภาคส่วนในจังหวัดประจวบฯ ร่วมกันมอบดอกกุหลาบแทนใจ ร่วมส่งนายสมคิด จันทมฤก ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ก่อนผู้ว่าฯ พร้อมภริยาขึ้นรถออกเดินทางเพื่อไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีต่อไป

ประวัตินายสมคิด จันทมฤก เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2508 ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นสิงห์ดำ รุ่น 37 จบปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจบรัฐศาสตร์จุฬาฯ สมัครเข้าทำงานกับภาคเอกชน 5 ปี ก่อนที่จะสอบเข้าเป็นนักเรียนปลัดอำเภอ เมื่อปี 2535 เริ่มต้นเส้นทางชีวิตราชการ เป็นปลัดอำเภอชาติตระการ จ.พิษณุโลก, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน กองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง, ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม, หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมการปกครอง, หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง, นายอำเภอสระโบสถ์ จ.ลพบุรี, ผู้อำนวยการส่วนการข่าว สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง, ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง, ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง, ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี เมื่อ 1 ตุลาคม 2560 ก่อนที่หนึ่งปีต่อมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นพ่อเมืองอยู่แค่ปีเดียว 1 ตุลาคม 2562 ย้ายเข้ากระทรวงในตำแหน่งรองปลัดฯ 1 ตุลาคม2564 ตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 1 ตุลาคม 2565 เป็นรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 21 มีนาคม 2567 ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ คนที่ 55 ทั้งนี้ นายสมคิด จันทมฤก ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่อุทยานเสด็จในกรมฯ จับผู้บุกรุกป่ากว่า 4 ไร่

เจ้าหน้าที่อุทยานเสด็จในกรมฯ จับผู้บุกรุกป่ากว่า 4 ไร่

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จ.ประจวบฯ ว่าได้จับกุมผู้ต้องหาบุกรุกพื้นที่ป่า 1 ราย ชื่อนายสุชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาว อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ได้ที่บริเวณป่าแพรกกลาง ท้องที่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ 7 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน พิกัดที่ 47 P 0534901 E 1239144 N พื้นที่บุกรุก จำนวน 4 – 1 – 72 ไร่

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ภายในพื้นที่รับผิดชอบ ตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าแพรกกลางท้องที่ดังกล่าว พบพื้นที่บุกรุกแผ้วถางใหม่ จึงได้ตรวจสอบบริเวณแปลงบุกรุก พบขนำ จำนวน 1 หลัง อยู่ติดกับแปลงบุกรุก และพบชายคนดังกล่าวอยู่ที่ขนำ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมสอบถามชายคนดังกล่าวให้การว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้เป็นของตน เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ชายคนดังกล่าวนำชี้พื้นที่ ที่อ้างว่าตนเป็นเจ้าของ

จากการตรวจสอบพื้นที่นั้นครอบคลุมพื้นที่บุกรุกแผ้วถาง มีการปลูกต้นกาแฟ อายุประมาณ 4 เดือน จำนวน 100 ต้น ปลูกต้นทุเรียน โต 4 เดือน จำนวน 25 ต้น และปลูกต้นมะพร้าว โต 4 เดือน อีก 9 ต้น หลังจากตรวจสอบพื้นที่แล้วจึงนำตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา 1. ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ฐานร่วมกัน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง ฐานร่วมกันยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 53 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 55 (2) ฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิมโดยไม่ได้รับอนุญาต 5. ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 55 (5) ฐานร่วมกันทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือเสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 55 (6) ฐานร่วมกันปลูกต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.