Categories
ข่าว ทั้งหมด

สมาคมรถโบราณฯ จับมือ ดุสิตธานีหัวหิน จัดหัวหินวินเทจ คาร์พาเหรด ครั้งที่ 22 กระตุ้นท่องเที่ยว

สมาคมรถโบราณฯ จับมือ ดุสิตธานีหัวหิน จัดหัวหินวินเทจ คาร์พาเหรด ครั้งที่ 22 กระตุ้นท่องเที่ยว

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “หัวหินวินเทจ คาร์พาเหรด ครั้งที่ 22 – Timeless Friendship มิตรภาพไร้กาลเวลา” ระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2567 ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นายพันธุ์ธัช หิรัญจิรวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบุรี นางดวงใจ คุ้มสะอาด ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นางไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “งานหัวหิน วินเทจ คาร์พาเหรด จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 โดยปีนี้สมาคมร่วมกับ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เป็นปีที่ 3 และได้รับการสนับสนุนอย่างดีเช่นเคยจากพันธมิตรเดิม ทั้ง หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยสมาคมฯ หวังสร้างมิตรภาพตลอดการเดินทาง กระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยขบวนรถโบราณ และรถคลาสสิค บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – หัวหิน ตามแนวคิด “มิตรภาพไร้กาลเวลา – Timeless Friendship” เพื่อให้เจ้าของรถได้รำลึกถึงความทรงจำที่คุ้นเคย แม้จะพบกันเพียงครั้ง จะยังจดจำมิรู้ลืม

นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กล่าวว่า “โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ขอบคุณสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ที่ไว้ใจให้โรงแรมฯ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดงานเป็นปีที่ 3 โดยเรายินดีสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ขบวนพาเหรดรถโบราณถือเป็นอีกหนึ่งงานไฮไลท์ที่ชาวเมืองเพชรบุรีและหัวหิน รวมถึงนักท่องเที่ยวและแฟนคลับตั้งตารอคอย เพื่อชมความงามอันทรงคุณค่าที่นับวันจะหาดูได้ยาก โรงแรมของเรามีพื้นที่กว้างขวาง และมีศูนย์การประชุมซึ่งสามารถรองรับคาราวานรถโบราณและการจัดงานต่างๆ ได้ทุกรูปแบบ”

สำหรับพิธีปล่อยขบวนรถโบราณ “หัวหินวินเทจ คาร์พาเหรด ครั้งที่ 22” จะเริ่มต้นที่พิพิธภัณฑ์คนรักรถ AUTO RENDEZVOUS MUSEUM-BANGKOK ถนนประชาอุทิศ สู่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 โดยประชาชนทั่วไปสามารถชมรถคลาสสิคและรถโบราณอันทรงคุณค่าได้อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ งานกาลาดินเนอร์ ในคืนวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม ซึ่งจะมีเวทีลีลาศ กับวงดนตรี Sensation ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/VintageCarClub.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กรมอุทยานฯ สร้างกรงพักเพิ่ม 2 กรงใหญ่ แก้ปัญหาลิงล้นเมืองเพชรฯ และประจวบฯ

กรมอุทยานฯ สร้างกรงพักเพิ่ม 2 กรงใหญ่ แก้ปัญหาลิงล้นเมืองเพชรฯ และประจวบฯ

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเพชรบุรี นายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี นายแมนชาติ บัวทอง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำที่ 3 เพชรบุรี สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 เดินทางลงพื้นที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานการก่อสร้างกรงพักพิงลิง หลังที่ 2 และ 3 ที่สามารถรองรับลิงในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบฯ ได้ ในวงเงินงบประมาณ 5,700,000 บาท ที่มีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน ร่มรื่น โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างถังกักเก็บน้ำ ขนาด 1 ล้านลิตร ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมืองเพชรบุรี

ดร.ยุทธพล กล่าวว่า วันนี้มาดูพื้นที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย เพื่อติดตามโครงการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมืองเพชรบุรี ซึ่งจากการมาดูโครงการในวันนี้ ต้องขอขอบคุณ รมต.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่เห็นความสำคัญการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมือง พร้อมได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการวางท่อส่งน้ำและจัดสร้างถังกักเก็บน้ำ ขนาด 1 ล้านลิตร เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของสัตว์ป่า รวมไปถึงลิงแสมที่เคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดเพชรบุรี และการดำเนินการก่อสร้างกรงพักพิงลิงเพิ่มเติมของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมติดตามความเป็นอยู่ของลิงที่ย้ายมาจากเขาวัง ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจและสอบถามมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งลิงทุกตัวมีสุขภาพดี แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องและประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สาธารณสุขประจวบฯ ร่วมกับ รพ.ประจวบฯ จัดอบรมหลักสูตรปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐานและขั้นสูง (EMT-B)

สาธารณสุขประจวบฯ ร่วมกับ รพ.ประจวบฯ จัดอบรมหลักสูตรปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐานและขั้นสูง (EMT-B)

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นพ.ธนกร ศรัณยภิญโญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐานและช่วยปฏิบัติการแพทย์ขั้นสูง (EMT-B) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปีงบประมาณ 2568 ณ ห้องประชุมคีรีขันธ์ ชั้น 5 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นพ.อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางนันทพร พลีบัตร รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล และคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับการรับรองให้เป็นองค์กรฝึกอบรมหลักสูตรปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐานและช่วยปฏิบัติการแพทย์ขั้นสูง โดยจัดอบรมให้อาสาสมัครที่ต้องการเป็นผู้ปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินที่ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้ทางการแพทย์ฉุกเฉินและสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินได้ตามขอบเขตความรับผิดชอบและข้อจำกัดของพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ (พฉพ.) ได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 รวม 17 วัน มีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 60 คน และมีวิทยากร ครู ก. ที่มีความรู้ ประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การอบรมประกอบด้วยการบรรยาย 59 ชั่วโมง และแบ่งกลุ่มปฏิบัติ 71 ชั่วโมง รวมตลอดหลักสูตร เป็นจำนวน 130 ชั่วโมง และเมื่อผ่านการอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้ว ต้องกลับไปฝึกประสบการณ์ ณ จุดเกิดเหตุกับโรงพยาบาลแม่ข่าย อย่างน้อย 10 ครั้ง ภายใน 90 วัน จึงจะมีสิทธิ์ขอรับประกาศนียบัตรพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ พฉพ. จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สส.ประจวบฯ ร่วมสำรวจความเสียหายโรงเรียนจากพายุกระหน่ำ พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือ

สส.ประจวบฯ ร่วมสำรวจความเสียหายโรงเรียนจากพายุกระหน่ำ พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือ

จากสภาวะฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลไร่เก่า และตำบลไร่ใหม่ อ.สามร้อยยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะที่โรงเรียนสามร้อยยอดวิทยาคม ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลมพายุได้พัดหอบเอาหลังคาอาคารเรียน ปลิวหายไป รวมทั้งยังทำให้อาคารเกิดรอยร้าวอีกด้วย

ต่อมาวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายสังคม แดงโชติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดประจวบฯ ดร.อาทิตย์ ธำรงชัยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ (ผอ.สพม.ประจวบคีรีขันธ์) น.ส.อภิญญา อุปวงค์ษา (รอง ผอ.สพม.ประจวบคีรีขันธ์) ประธานกรรมการและคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์พายุฝนลมกระโชกแรงดังกล่าว ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร อาคารเรียน หอประชุม บ้านพักครูและสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน ได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าหลังคาปลิวหายเกือบทั้งหลัง ฝ้าเพดานแตก และยังเกิดรอยร้าวในหลายๆ จุด ทำให้ไม่สามารถใช้อาคารเรียนได้ ทำให้เด็กนักเรียนต้องใช้วิธีเดินเรียน

ด้านนายสุชาติ หูทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสามร้อยยอดวิทยาคม กล่าวว่า จากการสำรวจความเสียหายทั้งหมด พบว่ามีหลังคาที่ปลิวหายไปเป็นจำนวนมาก ฝ้าเพดานตกแตกกระจายหลายจุด ทั้งชั้นล่างและชั้น 2 และยังพบรอยร้าวที่เกิดขึ้นตามผนังอาคารอีกด้วย ซึ่งวันนี้ได้เปิดเรียนตามปกติ แต่ต้องให้นักเรียนใช้วิธีเดินเรียนไปก่อน นอกจากนี้ยังได้ประชุมเบื้องต้น และที่ประชุมมีมติเห็นว่าควรว่าจะรื้ออาคารทิ้ง แล้วสร้างใหม่ โดยโรงเรียนขอเชิญชวนศิษย์เก่า ผู้ปกครอง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ โดยการร่วมจองโต๊ะในงาน“50 ปี ที่รอรวมช่อราชพฤกษ์”ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 หรือสนับสนุนเสื้อที่ระลึก เพื่อระดมทุนช่วยเหลือลูกหลานของเรา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 065 – 3295966 ครูสุมีนา, 086 – 5570272 ครูภา, 086 – 0304163 ครูวรรณ ในวันและเวลาราชการ.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เชิญชวนร่วมถวายผ้าพระกฐินประทาน สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดเขาไกรลาศ หัวหิน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เชิญชวนร่วมถวายผ้าพระกฐินประทาน สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดเขาไกรลาศ หัวหิน

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมเตรียมพร้อมในพิธีถวายผ้าพระกฐินประทานสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประจำปี พ.ศ.2567 แด่พระสงฆ์วัดเขาไกรลาศ ที่วัดเขาไกรลาศ หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีพระครูพิลาศบรรณวัตร เจ้าอาวาสวัดเขาไกรลาศ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน สภ.หัวหิน เข้าร่วมประชุม

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่าจังหวัดประจวบฯ ได้รับแจ้งจากวัดเขาไกรลาศ ว่าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระเมตตาโปรดประทานผ้าพระกฐินให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสผู้สนองงาน อัญเชิญมาทอดถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษา ถ้วนไตรมาส ณ วัดเขาไกรลาศ ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ณ อาคารพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป (ด้านล่าง) วัดเขาไกรลาศ และร่วมถวายการต้อนรับเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ จึงได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมในการรับกฐินประทานฯ โดยภาพรวม เช่น การประดับตกแต่งสถานที่ มีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด เข้ามาดูแล จุดจอดรถและการจราจรจะเป็นหน่วยงานหลักในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัด สภ.หัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน และอำเภอหัวหินด้วย ที่จะช่วยกันอำนวยความสะดวกของผู้ที่มาร่วมงาน ส่วนวัดจะดูแลเรื่องอาหาร ซึ่งทางราชการจะมาสนับสนุนตรงนี้ ขณะนี้มีความพร้อมแล้วและขอเชิญพุทธศาสนิกทุกท่านร่วมในพิธีถวายผ้าพระกฐินประทาน สมเด็จพระสังฆราช ในครั้งนี้ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยในเขตเทศบาลหัวหิน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำทีมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยในเขตเทศบาลหัวหิน

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนายอภิวัฒน์ เลาหวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบฯ นายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณคลองตะเกียบ (คลองพระราชดำริ) ข้างวัดเขาไกรลาศ อ.หัวหิน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่

นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ และเพชรบุรี ในช่วงวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะที่หัวหิน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม เคยประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมขังเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถ้าสถานการณ์เป็นไปตามที่พยากรณ์ไว้ ปริมาณน้ำอาจจะมีมากขึ้น โอกาสที่น้ำจะท่วมขังในบริเวณพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหินนานขึ้น จึงได้ประสานกับนายกเทศบาลเมืองหัวหิน นายอำเภอหัวหิน รวมทั้งบรูณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ปภ.จังหวัด ปภ.เขต 4 และชลประทาน วางแผนเตรียมความพร้อม โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เทศบาลหัวหินได้ติดตั้งไว้แล้ว

“โดยคลองตะเกียบที่เป็นจุดรับน้ำ มีโอกาสที่น้ำจะเอ่อท่วมในบริเวณชุมชน เลยมาติดตั้งเครื่องมือผลักดันน้ำ โดยประสานให้ชลประทานมาติดตั้งเครื่อง จุดนี้เป็นจุดที่จะมาเสริมเครื่องมือของ ปภ.4 เป็นเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังแรงสูงสุด 28,000 ลิตรต่อนาที เชื่อว่าการบูรณาการร่วมกัน จะช่วยไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง หรือถ้ามีท่วมขังก็จะท่วมขังน้อยที่สุด ใช้เวลาน้อยสุดในการระบายน้ำลงทะเล และอีกจุดที่บริเวณสวนหลวงราชินี 19 ไร่ด้วยเข่นกัน

นอกจากนี้ ที่อำเภอบางสะพาน และอำเภอทับสะแก ก็มีโอกาสน้ำท่วมขังในชุมชน เพราะว่าดูตามแนวทางที่กรมอุตุฯ พยากรณ์ไว้ว่าจะมีฝนตกหนัก น่าจะเป็นน้ำที่ลงมาจากภูเขา อาจจะเรื่องดินสไลด์ ทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นเดียวกัน ก็มีการเตรียมพร้อมรับมือแล้ว” นายสมคิดกล่าว.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ภาพหาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีขณะผสมพันธุ์ท่ามกลางธรรมชาติ

ภาพหาชมยาก ช้างป่ากุยบุรีขณะผสมพันธุ์ท่ามกลางธรรมชาติ

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการบันทึกภาพช้างป่าวัยเจริญพันธุ์ ขณะกำลังเกี้ยวพาราสีและผสมพันธุ์กันภายในผืนป่ากุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งถือเป็นภาพที่หาชมได้ยาก และสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในพื้นที่ จากการศึกษา พบว่าการผสมพันธุ์ของช้างป่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูหนาว โดยช้างเพศเมียจะเริ่มพร้อมผสมพันธุ์ เมื่ออายุประมาณ 18 – 20 ปี และจะสิ้นสุดวัยเจริญพันธุ์ เมื่ออายุประมาณ 40 – 50 ปี ทั้งนี้ช้างเพศเมียจะตั้งท้องนานประมาณ 19 – 21 เดือน และมักให้กำเนิดลูกครั้งละ 1 ตัว โดยจะมีระยะห่างระหว่างการตั้งท้องแต่ละครั้งประมาณ 3 ปี

ดังนั้น ตลอดช่วงชีวิตของช้างเพศเมีย 1 ตัว จะสามารถให้กำเนิดลูกได้เฉลี่ย 3 – 4 ตัว ซึ่งภาพความประทับใจครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการขยายประชากรตามธรรมชาติของช้างป่าในผืนป่ากุยบุรี และสะท้อนถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าที่เป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าและสัตว์ป่านานาชนิด

ผืนป่ากุยบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการอนุรักษ์ช้างป่าในประเทศไทย ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าจำนวนมาก การพบเห็นพฤติกรรมการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติเช่นนี้ จึงเป็นความหวังของการดำรงอยู่และการสืบทอดเผ่าพันธุ์ของช้างป่าไทยต่อไปในอนาคต.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เร่งช่วยชีวิตช้างป่าตกบ่อโคลนจนปลอดภัย

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เร่งช่วยชีวิตช้างป่าตกบ่อโคลนจนปลอดภัย

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากชาวไร่ ว่าพบช้างป่าตกอยู่ในบ่อน้ำ ภายในไร่ของชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านหนองเป่าปี่ ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ ไม่สามารถขึ้นจากบ่อได้ จึงพร้อมด้วยนายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และนายสนธยา หอมทั่ว หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ กร.4 บ้านหุบมะซาง นำกำลังเจ้าหน้าที่รีบไปช่วยเหลือจุดที่ช้างป่าตกบ่อ ซึ่งอยู่นอกเขตอุทยานฯ บริเวณพิกัด E0577131 N1356072 เป็นช้างป่าตัวผู้ กำลังรุ่นมีงา อายุประมาณ 5 – 10 ปี ยืนนิ่งจมอยู่ในบ่อน้ำลักษณะโคลนสูงประมาณ 1 เมตร จนเกือบมิดตัว ต้องใช้งวงชูหายใจ คาดว่าเหนื่อยจากดิ้นทุรนทุรายพยายามขึ้นจากบ่อ

จากการตรวจโดยรอบ พบร่องรอยการลื่นไถลของช้างป่าบริเวณขอบบ่อที่มีความชันเกือบ 90 องศา จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถไถ พร้อมเจ้าหน้าที่ช่วยกันขุดขอบบ่อ เพื่อเปิดทางน้ำออกและปรับความชันของขอบบ่อให้มีความชันน้อยลง ใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง จนในที่สุดช้างป่าตัวดังกล่าวสามารถขึ้นจากบ่อได้อย่างปลอดภัย สร้างความดีใจให้กับเจ้าหน้าที่ ก่อนผลักดันช้างกลับเข้าสู่ป่าเป็นที่เรียบร้อย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

แสตมฟอร์ด หัวหิน – ชะอำ จับมือ SOS Thailand รับบริจาคอาหารแบ่งปันชุมชนที่ขาดแคลน

แสตมฟอร์ด หัวหิน – ชะอำ จับมือ SOS Thailand รับบริจาคอาหารแบ่งปันชุมชนที่ขาดแคลน

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการ “STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ เพื่อแบ่งปันสังคมให้ดีขึ้น” ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตหัวหิน – ชะอำ จ.เพชรบุุรี ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างมูลนิธิ SOS Thailand (Scholars of Sustenance Thailand) หรือมูลนิธิรักษ์อาหาร กับ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มี ดร.สมชาย กระแจะเจิม คณะอนุกรรมาธิการด้านความปลอดภัย การท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา ดร.หยุ่นหลิน หยาง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตหัวหิน – ชะอำ นายชวพล จึงสมาน Food Rescue Supervisor SOS Thailand นายธีรยุทธ สุขลาภ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน คณะนักศึกษามหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนต่างๆ เข้าร่วมโครงการ

โครงการ “STAMFORD INTERNATIONAL UNIVERSITY X S.O.S THAILAND SHARING IS CARING ใส่ใจทุกมื้อ เพื่อแบ่งปันสังคมให้ดีขึ้น” เป็นโครงการเพื่อแบ่งปันสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการเชิญชวนและขอความร่วมมือจากทุกท่านร่วมบริจาคอาหารให้แก่ผู้ที่ต้องการอาหารในสังคม โดยมีเป้าหมายในการลดปัญหาความอดอยากและการสูญเสียอาหารในประเทศไทย เป็นการรวบรวมอาหารจากร้านค้า ร้านอาหาร และผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำไปจัดส่งให้กับชุมชมชนที่ต้องการ โดยจะมีการประสานงานกับองค์กรการกุศลและหน่วยงานที่ดูแลผู้ขาดแคลน สามารถบริจาคได้ที่ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตหัวหิน – ชะอำ หรือติดต่อสอบถามที่โทร. 092 – 7968621, 062 – 3809887

มูลนิธิ SOS Thailand ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือด้านอาหารในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันมีศูนย์บริการ 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, หัวหิน และเชียงใหม่ ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินการของโครงการจนถึงปัจจุบัน S.O.S Thailand ได้ช่วยเสิร์ฟอาหารให้กับชุมชนไปแล้วกว่า 46.6 ล้านเสิร์ฟ และปริมาณอาหารที่ได้รับความอนุเคราะห์ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสาทุกท่านเป็นจำนวนกว่า 11.1 ล้านกิโลกรัม รวมไปถึงให้การสนับสนุนแก่ชุมชนไปแล้วกว่า 4,200 ชุมชนอีกด้วย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กลับมาบูม “ตลาดน้ำสามพันนาม” แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของหัวหิน

กลับมาบูม “ตลาดน้ำสามพันนาม” แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของหัวหิน

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นายเชาวรัตน์ เกิดทอง นายก อบต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ยุคปรับปรุงใหม่ มีนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จ.ประจวบฯ นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของตลาดน้ำหัวหินสามพันนามและตลาดน้ำอโยธยา น.ส.อัณญดา อารีย์วงศ์สกุล ผู้บริหารตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ททท.สำนักงานประจวบฯ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับร่วมแสดงความยินดี ท่ามกลางนักท่องเที่ยวเข้าชมและนั่งรถไฟ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหัวหินกันอย่างคึกคัก

น.ส.อัณญดา อารีย์วงศ์สกุล กล่าวว่า ตลาดน้ำหัวหินพันนาม ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใน ต.ทับใต้ ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนหน้านั้นได้ปิดปรับปรุง เพื่อพัฒนาภูมิทัศน์ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของหัวหิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาที่หัวหินบ้านเรามากขึ้น เพราะที่นี่เรามีเอกลักษณ์ความเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองพื้นบ้านเยอะมาก จึงอยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาลองสัมผัสเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ มีแหล่งพักผ่อนและช่วยส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต

สิ่งที่คาดหวังอยากให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ซึ่งเป็นยุคดั้งเดิมของเราอยู่แล้วและยังคงวัฒนธรรมตรงนี้ไว้ ภายในตลาดน้ำของเรา มีร้านค้ากว่า 150 ร้าน แบ่งเป็น 3 โซนหลัก โซนแรกจะเป็นส่วนของฝาก ขนมต่างๆ มากมาย แล้วมีโซนเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น ผ้าไทยสไตล์หัวหิน แล้วโซนที่ 3 จะเป็นโซนของเด็ดของหัวหิน ทั้งอาหาร ของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ นักท่องเที่ยวน่าจะชอบตรงนี้ ส่วนบรรยากาศด้านหลังทั้งหมดจะตกแต่งสไตล์บาหลีด้วยไม้ไผ่ ผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปด้วย รวมถึงตกแต่งมุมต่างๆ ภายในตลาดน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพและเช็คอิน โดยไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม โฉมใหม่ มาดูกิจกรรมพื้นบ้าน พื้นเมืองของหัวหิน มาลองชิมของอร่อยหัวหิน หรือติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม Huahin Samphannam Floatingmarket.