Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดแข่งขันทักษะวิชาการด้านหุ่นยนต์ ชิงถ้วยพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ

ประจวบฯ จัดแข่งขันทักษะวิชาการด้านหุ่นยนต์ ชิงถ้วยพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดการแข่งขันทักษะวิชาการด้านหุ่นยนต์ โครงการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ และอากาศยานไร้คนขับ (Rakwittaya Robotics Game 2023 : Theme Ocean Protection) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีนายทรงศักดิ์ โต๊ะทอง ศึกษาธิการจังหวัดประจวบฯ น.ส.ณภัชชา สุวรรณศรี รองผู้อำนวยการโรงเรียนรักษ์วิทยา นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน คณะกรรมการ คณะครูนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ประมาณ 500 คนร่วมแข่งขันที่ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

โรงเรียนรักษ์วิทยา อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ร่วมกับชมรมครูหุ่นยนต์ไทย ชมรมวิทยาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย และบริษัท เอ็มรีพับบลิค อีเว้นท์ จำกัด (ในนามผู้แทนลิขสิทธิ์ส่วนงานประเทศไทยการแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับนานาชาติ) จัดการแข่งขันทักษะวิชาการด้านหุ่นยนต์ โครงการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์และอากาศยานไร้คนขับ ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนและเยาวชนในระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ด้านหุ่นยนต์ โครงการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์และอากาศยานไร้คนขับ พร้อมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 4 ถ้วยรางวัล ระหว่างวันที่ 25 – 27 สิงหาคมนี้ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 260 คน 188 ทีม มาจากโรงเรียนทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย

โดยแบ่งการเข่งขันออกเป็น 12 รายการ ชิงถ้วยพระราชทาน 4 รายการ ได้แก่ 1.หุ่นยนต์บังคับมือรักษ์ชายหาด แบบขาเดินควบคุมด้วยรีโมทแบบสาย (ระดับประถมศึกษา) 2.หุ่นยนต์บังคับมือรักษ์ชายหาด เคลื่อนที่ด้วยล้อควบคุมรีโมทแบบสาย (ระดับมัธยมศึกษา) 3.หุ่นยนต์อัตโนมัติรักษ์ชายหาด Robot Gathering (ระดับมัธยมศึกษา) 4.โครงงานหุ่นยนต์ รักษ์ – ดิน น้ำ ลม ไฟ (ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา) / แข่งขันชิงถ้วยเกียรติยศ 8 รายการ ได้แก่ 1.หุ่นยนต์ม้าวิ่งเร็วปั่นพลังงานไฟฟ้าด้วยมือ (ระดับปฐมวัย – ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2) 2.หุ่นยนต์บังคับมือเตะจุดโทษ รีโมทแบบสาย (ระดับชั้นประถมศึกษา – ระดับชั้นมัธยมศึกษา) 3.หุ่นยนต์บังคับมือสู้แบบขา 2 ตัว ควบคุมด้วยรีโมทแบบสาย (ระดับมัธยมศึกษา) 4.หุ่นยนต์ Sumo 500 g. Remote Control (ระดับชั้นประถมศึกษา) 5.หุ่นยนต์ Sumo 1,000 g. Remote Control (ระดับชั้นมัธยมศึกษา) 6.หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ Line following Robot (ระดับชั้นประถมศึกษา – ระดับชั้นมัธยมศึกษา) 7.หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติทำภารกิจ Mission Challenge (ระดับชั้นมัธยมศึกษา) และ 8.อากาศยานไร้คนขับ FPV Racing Simulator (ระดับชั้นมัธยมศึกษา) นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัด Work Shop อบรมเชิงปฏิบัติการสร้างหุ่นยนต์หกขาบังคับมือ ให้กับนักเรียนและเยาวชนที่มีความสนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยโรงเรียนรักษ์วิทยา ชมรมครูหุ่นยนต์ไทย ชมรมวิทยาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย และบริษัท เอ็มรีพับบลิค อีเว้นท์ จำกัด จัดทีมงานและวิทยากรในการอบรมในครั้งนี้

สำหรับผลการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ชนะเลิศประเภทหุ่นยนต์บังคับมือรักษ์ชายหาด แบบขาเดินควบคุมด้วยรีโมทแบบสาย (ระดับประถมศึกษา) ได้แก่ ทีมแปดริ้วโรโบช็อป จากชมรมแปดริ้วโรโบช็อป / ชนะเลิศประเภทหุ่นยนต์บังคับมือรักษ์ชายหาดเคลื่อนที่ด้วยล้อควบคุมรีโมทแบบสาย (ระดับมัธยมศึกษา) ได้แก่ ทีม WMS5 จากโรงเรียนเวียงมอกวิทยา จ.ลำปาง / ชนะเลิศประภทหุ่นยนต์อัตโนมัติรักษ์ชายหาด Robot Gathering (ระดับมัธยมศึกษา) ได้แก่ ทีม CKB จากโรงเรียนทิวไผ่งาม กรุงเทพฯ / ชนะเลิศโครงงานหุ่นยนต์ รักษ์ – ดิน น้ำ ลม ไฟ (ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา) ได้แก่ ทีม PDS ROBOT – 2 จากโรงเรียนสาธิตพหลโยธินรามินทรภักดี จ.ราชบุรี โดยผู้ชนะเลิศทั้งหมดเข้ารับรางวัลถ้วยรางวัลพระราชทาน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองอธิบดี เปิดโครงการภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแฟชั่นอย่างยั่งยืน

รองอธิบดี เปิดโครงการภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแฟชั่นอย่างยั่งยืน

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแฟชั่นอย่างยั่งยืน ที่ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน จ.ประจวบฯ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ, นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัด, นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน, นายทวีสิน พัฒนาภิรัส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ, นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับเข้าร่วมงาน พร้อมชมนิทรรศการผ้าไทยและการเดินแบบผ้าไทยผ้าพื้นถิ่น จากนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ จำนวน 30 คน ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ กล่าวว่า จังหวัดประจวบฯ จัดทำโครงการภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแฟชั่นอย่างยั่งยืน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย ผ้าพื้นถิ่น รณรงค์ส่งเสริมอัตลักษณ์ความเป็นไทย และการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย พระองค์ท่านทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการอนุรักษ์พื้นฟูผ้าทอชนิดต่างๆ ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีรายได้อย่างยั่งยืน และเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมการใช้และสวมใส่ผ้าไทย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Model ของรัฐบาล และกระแสแฟชั่นที่ยั่งยืน สนับสนุนให้ประชาชนใช้แฟชั่นที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง โดยทำเสื้อผ้าที่มีความทนทานและอายุการใช้งานนานขึ้น หรือกระบวนการผลิตใช้สารเคมีในการย้อมน้อยลง เน้นการใช้สีจากธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น เพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น หนึ่งในนั้น คือการซ่อมแซมและการนำเสื้อผ้ากลับมาใช้ใหม่ เป็นสิ่งที่เรียกว่าเศรษฐกิจหมุนเวียน

จังหวัดประจวบฯ มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการใช้สีจากธรรมชาติแก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านผ้า โดยบูรณาการร่วมกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (อพ.สธ.) ในการใช้พืชประจำจังหวัดและพืชประจำถิ่นที่สามารถให้สีได้ แต่จังหวัดมีข้อจำกัดในการผลิตผ้า คือมีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านผ้าน้อย กลุ่มที่มีศักยภาพในการทอผ้า มีเพียงแค่กลุ่มเดียว คือกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่า ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 “มาตรการ ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย” จังหวัดได้ร่วมกันวางแผนทบทวนว่าหากจะรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่ผ้าจังหวัด ต้องมีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการงานผ้าที่มีสินค้าพร้อมจำหน่าย จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ไปจัดฝึกอบรมโครงการเพิ่มทักษะการทำผ้ามัดย้อมและการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อม และโครงการพัฒนาศักยภาพการแปรรูปผ้า เพื่อพัฒนาสู่ ผ้าไทยใส่ได้ทุกวัย ใส่ได้ทุกวัน ซึ่งทั้งสองโครงการที่จัดฝึกอบรมนั้นได้ประสบผลสำเร็จที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นชุดที่แสดงแบบในโซนนิทรรศการที่เป็นผลงานจากโครงการพัฒนาศักยภาพการแปรรูปผ้าเพื่อพัฒนาสู่ “ผ้าไทยใส่ได้ทุกวัย ใส่ได้ทุกวัน” กลุ่มผ้ามัดย้อมที่ย้อมสีธรรมชาติจากต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นเกด การย้อมสีจากเปลือกต้นโกงกาง ต้นสนทะเล สีจากเปลือกมะพร้าว หรือแม้แต่สีจากดินในท้องถิ่น เช่น ดินจากผาฝั่งแดง อ.บางสะพานน้อย หรือดินสีทองจากดินคลองร่อนทอง อ.บางสะพาน เป็นต้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พุทธศาสนิกชนนับพันคนทำบุญครบรอบ 19 ปี การประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล

พุทธศาสนิกชนนับพันคนทำบุญครบรอบ 19 ปี การประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์จำนวน 500 รูป มีพระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยะบรรพต นำคณะสงฆ์จากวัดต่างๆ ในเขตเพชรบุรี – ประจวบฯ และพระสงฆ์จากประเทศศรีลังกาออกรับบิณฑบาตที่บริวณลานหน้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปี การประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ สก โดยมีนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน และพุทธศาสนิกชนนับพันคนร่วมในพิธี พร้อมกันนี้ในช่วงบ่ายมีพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อนำรายได้ไปบูรณะศาสนสถานภายในวัดห้วยมงคลต่อไป

สำหรับวัดห้วยมงคล แต่เดิมใช้ชื่อว่าวัดห้วยคต ต่อมาในปี 2495 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาตั้งโครงการพระราชดำริแห่งแรกขึ้น และทรงได้พระราชทานนามใหม่จาก “ห้วยคต” เป็น “ห้วยมงคล” ต่อมา พล.อ.วิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์มีดำริที่จะสร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ สก ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันวัดห้วยมงคลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ในแต่ละวันจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมากราบสักการะหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่กันเป็นจำนวนมาก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รถเก๋งเสียหลักเสยท้ายหกล้อพังยับ แต่คนขับรอดปาฏิหาริย์

รถเก๋งเสียหลักเสยท้ายหกล้อพังยับ แต่คนขับรอดปาฏิหาริย์

เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ร.ต.อ.หญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 311 + 900 ใกล้แยกไฟแดง ถนนเกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองประจวบฯ เจ้าหน้าที่สายตรวจ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ พร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง และลุงนึกประจวบรถยก รุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน ซันนี่ สีเทา ทะเบียน ภอ – 8699 กรุงเทพฯ ชนอัดติดอยู่กับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ คลุมผ้าใบ ยี่ห้อฮีโน่ 500 สีน้ำเงิน ทะเบียน 83 – 0820 เพชรบูรณ์ สภาพท้ายรถหกล้อด้านขวาพังเสียหาย บังโคลนล้อหัก ส่วนรถเก๋งพังยับเสียหายเกือบทั้งคัน ฝากระโปรงรถด้านหน้าและหลังคาเก๋งฉีกขาด มีชิ้นส่วนรถและกระจกแตกกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ผู้ขับขี่ติดคาอยู่ภายในรถไม่สามารถออกมาได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง งัดประตูรถ นำผู้ขับขี่อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณขาและใบหน้าเล็กน้อย ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

เบื้องต้นจากการสอบถามนายพัฒนวัฒน์ อายุ 37 ปี ผู้ขับขี่รถบรรทุกหกล้อ เล่าว่าได้ขับรถบรรทุกเฟอร์นิเจอร์มาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าไปส่งที่อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่จอดรถติดไฟแดงอยู่ จู่ๆ ก็มีรถเก๋งพุ่งเข้ามาชนท้ายรถของตนเสียงดังสนั่น จึงได้จอดรถลงมาถามคนขับว่าเป็นอะไรหรือไม่ คนขับรถเก๋งตอบมาว่าวูบหลับไป ตนจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจะสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้งต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทรูอารีน่า จับมือมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน ยกระดับบุคลากรสู่มาตรฐานสากล

ทรูอารีน่า จับมือมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน ยกระดับบุคลากรสู่มาตรฐานสากล

วันที่ 26 สิงหาคม 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ผู้แทนภาครัฐ, ดร.พรชณิตย์ แก้วเนตร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน, รศ.พัชรี สวนแก้ว รองอธิการฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน และ มร.พอล ชาร์ คิงส์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ทรูอารีน่า หัวหินสปอร์ตคลับ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาหลักสูตรอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการสาขาธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเมืองหัวหินสู่ความเป็น World Class Wellness Destination The Initiative Campaign SDU Fit to Fly โดยในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการผลิตบัณฑิตสาขาธุรกิจการบิน หลักสูตรอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ได้มาตรฐานด้านการบริการ มีบุคลิกภาพที่ดี ทั้งภายนอกและภายในความสมบูรณ์ทางด้านร่างกายและจิตใจ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมเป็นสักขีพยาน ที่ ยิมเนเชียม 100 พลัส ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ตคลับ จ.ประจวบฯ

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน ได้เล็งเห็นว่า ทรูอารีน่า หัวหินสปอร์ตคลับ ซึ่งเป็นสปอร์ตคลับชั้นนำ มีความพร้อมด้านการออกกำลังกายแบบครบวงจร ประกอบด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านฟิตเนสที่ทันสมัย มีคลาสการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม มี 100 พลัสฮอลล์ อาคารยิมเนเซียมขนาด 36 x 22 เมตร สามารถปรับเป็นได้ทั้งสนามบาสเกตบอล วอลเลย์บอล แบดมินตันและฟุตซอล สามารถประยุกต์ใช้เป็นสถานที่จัดงานอีเว้นท์รองรับกีฬาในร่มหลากหลายประเภท มีสนามเทนนิส 11 คอร์ทมาตรฐาน สนามเทนนิสขนาด 40, 20 เมตร จุผู้ชมได้ถึง 5,088 คน เหมาะสำหรับจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับโลก เช่น WTA และ ATP เป็นสนามเทนนิสแบบลดระดับ (Sunken court design) เพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสนาม Australian Open’s Rod Laver Arena เก้าอี้กรรมการตัดสินถูกออกแบบในรูปแบบเดียวกัน พร้อมป้ายสกอร์บอร์ดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนและที่นั่งผู้ชมที่ใกล้ชิดกับสนาม เพื่อให้สามารถชมการแข่งขันได้อย่างเต็มอรรถรส ระบบไฟสนามที่ให้ความสว่างถึง 1,800 ลักซ์ รับประกันได้ว่าผู้ชมจะสามารถชมการแข่งขันอย่างชัดเจนได้ในทุกช่วงเวลา ภายในสนามยังมีศูนย์ถ่ายทอดสดระบบความละเอียดสูงและศูนย์สื่อมวลชน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สนามฟุตบอลในระดับเอเชียรองรับกีฬากลางแจ้ง ซึ่งจะทำให้การพัฒนาบุคลิกภาพของบัณฑิต อาจารย์ และนักศึกษามีการพัฒนาที่สูงขึ้น

การร่วมมือบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนาหลักสูตรอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และบริการสาขาธุรกิจการบินของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตด้วยแล้ว ยังเป็นการยกระดับเมืองท่องเที่ยวเมืองหัวหิน ซึ่งนับว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวในระดับต้นๆของประเทศไทย การผลิตบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ยกระดับเมืองหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมาตรฐานการบริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน รับรางวัลเชิดชูเกียรติท้องถิ่นเมืองสุขภาพดีระดับทอง จากกรมอนามัย

เทศบาลหัวหิน รับรางวัลเชิดชูเกียรติท้องถิ่นเมืองสุขภาพดีระดับทอง จากกรมอนามัย

วันที่ 26 สิงหาคม 2566 นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่ารับมอบหมายจากนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เข้ารับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการประเมินรับรองเมืองสุขภาพดี (ระดับทอง) ที่โรงแรมทีเคพาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ภายใต้การจัดประชุมการยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สู่เมืองสุขภาพดี ประจำปี 2566 มี นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดการประชุมและมอบรางวัล และมี Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย บรรยายพิเศษในหัวข้อ “เมืองสุขภาพดี Healthy City” จัดโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสู่เมืองสุขภาพดี ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหินได้เข้ารับการประเมินเมืองสุขภาพดี ประกอบด้วย 3 ด้าน มี 23 ตัวชี้วัด คือ 1.ด้านสิ่งแวดล้อมเอื้อต่อสุขภาพ Healthy Environments 2.ด้านสถานที่ ที่เอื้อต่อสุขภาพ Healthy Settings และ 3.ด้านประชาชนรอบรู้และสุขภาพดี Healthy People

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ กล่าวว่ากรมอนามัยได้ขับเคลื่อนภารกิจการส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัย สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการเมืองสุขภาพดี โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเป้าหมายในการขับเคลื่อนดำเนินงาน เพื่อยกระดับสู่การเป็นเมืองสุขภาพดี ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลคุ้มครองสุขภาพของประชาชนในระดับพื้นที่ มีความใกล้ชิดและเข้าใจถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นอย่างดี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพ และได้รับการส่งเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มวัย ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) Healthy Environments: สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อสุขภาพ 2) Healthy Settings: สถานที่ ที่เอื้อต่อสุขภาพ และ 3) Healthy People: ประชาชนรอบรู้และสุขภาพดี ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปี 2566 กรมอนามัยได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ขับเคลื่อนดำเนินงาน ยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสู่การเป็นเมืองสุขภาพดี จำนวนทั้งสิ้น 108 แห่ง โดยผ่านการประเมินรับรองเมืองสุขภาพดีระดับทอง จำนวน 14 แห่ง (ร้อยละ 12.96) ผ่านการประเมินรับรองเมืองสุขภาพดีระดับเงิน จำนวน 39 แห่ง (ร้อยละ 36.11) และผ่านการประเมินรับรองเมืองสุขภาพดีระดับทองแดง จำนวน 55 แห่ง (ร้อยละ 50.93) จากการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว กรมอนามัยได้กำหนดเป้าหมายภายในปี 2570 ประเทศไทยจะมีเมืองสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สตรีประจวบฯ รำเทิดพระเกียรติฯ สมเด็จพระพันปีหลวง เนื่องในวันสตรีไทย

สตรีประจวบฯ รำเทิดพระเกียรติฯ สมเด็จพระพันปีหลวง เนื่องในวันสตรีไทย

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการ 919 ร้อยดวงใจ ถวายพระพันปีหลวง วันสตรีไทย 2566 ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเมืองประจวบฯ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ ทั้ง 8 อำเภอ เกือบพันคนเข้าร่วมพิธี มีนางณัฐชาลัคนา สุขภาคกุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และมอบประกาศเกียรติคุณตามโครงการรวมพลังเครือข่ายคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ตั้งปณิธานความดี ลด ปลดหนี้ค้างชำระกองทุน 12 สิงหาคม 2566 จากนั้น ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ขึ้นกล่าวเปิดงานและรับชมการรำเทิดพระเกียรติฯ “919 ร้อยดวงใจ ถวายพระพันปีหลวง” จากกลุ่มสตรีทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดประจวบฯ รวม 919 คน

วันสตรีไทย ตรงกับวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) พระราชทานไว้ตั้งแต่ปี 2546 จัดตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันมหามงคล 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ และได้พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคมเป็น ”วันสตรีไทย” ของทุกปี เพื่อให้ผู้หญิงไทยมีโอกาสแสดงถึงความรู้สามารถในการพัฒนาประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันสังคม และให้สามารถเทียบเท่าสตรีสากลของหลายประเทศที่เจริญแล้ว สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบฯ ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกำหนดดำเนินโครงการ 919 ร้อยดวงใจ ถวายพระพันปีหลวง วันสตรีไทย 2566 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

นายอำเภอหัวหินออกหน่วย “อำเภอยิ้ม” ช่วยเหลือชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร

นายอำเภอหัวหินออกหน่วย “อำเภอยิ้ม” ช่วยเหลือชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการอำเภอยิ้ม…เคลื่อนที่ ประจำปี 2566 “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ที่โรงเรียนบ้านละเมาะ หมู่ 4 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม มีส่วนราชการต่างๆ ออกให้บริการประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและจำหน่ายสินค้าจากชุมชน พร้อมกันนี้ นายอำเภอหัวหินได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนได้ตรงกับความต้องการ โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองพลับและพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมารับบริการเป็นจำนวนมาก ต่างมีความพึงพอใจในการให้บริการที่ดี สะดวก และรวดเร็ว

โอกาสนี้ นายอำเภอหัวหินพร้อมด้วยนายกกิ่งกาชาดหัวหิน ได้มอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้/ผู้ด้อยโอกาส/คนชรา/ผู้พิการ จำนวน 70 ชุด รวม 10 หมู่บ้าน พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนยากจนและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ตำบลหนองพลับ และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนให้ด้วย.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินสืบสานงานประเพณี “ส่งเคราะห์ทางทะเล” ทำบุญใหญ่ให้บรรพบุรุษ

หัวหินสืบสานงานประเพณี “ส่งเคราะห์ทางทะเล” ทำบุญใหญ่ให้บรรพบุรุษ

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 นายไพโรจน์ มากหมู่ ประธานชุมชนชาวประมงหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ชุมชนชาวประมงหัวหิน กำหนดจัดงานประเพณีส่งเคราะห์ทางทะเล และทำบุญศาลเจ้าแม่ทับทิม หัวหิน ประจำปี 2566 ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายนนี้ ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวหัวหินที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม (ข้างโรงแรมฮิลตัน หัวหิน) ที่ประชาชนทั่วไปให้ความเคารพบูชา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วและนำเถ้าอังคารมาลอยที่บริเวณชายทะเลหัวหิน แต่ไม่เคยได้กลับมาดูแลกราบไหว้ พร้อมทั้งทำบุญสะเดาะเคราะห์ ปล่อยตุ๊กตาส่งเคราะห์ทางทะเลเพื่อลดเคราะห์กรรม สิ่งอัปมงคลให้เบาบางลง เสริมบารมีบุญญาธิการชีวิตความเป็นอยู่จะได้ดีขึ้น

โดยช่วงเช้าวันที่ 24 กันยายนนี้ จะมีพิธีบวงสรวงเจ้าทะเลมหาสมุทรและทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะนำเรือเล็กของชาวประมงที่ใช้ออกหาปลา มาตบแต่งให้สวยงาม พร้อมทั้งนำตุ๊กตาปูนปั้นหุ่นหญิงชาย น้องจุก น้องแกละ ประมาณ 4,000 ตัว ที่ทาสีสดใสเตรียมไว้ให้ประชาชนแล้วแต่จิตศรัทธาบริจาคทำบุญเขียนชื่อตนเองหรือญาติมิตรลงกระดาษติดกับตัวตุ๊กตา อธิษฐานขอให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆ พ้นไป นำไปวางไว้ในเรือสงเคราะห์ทางทะเล พร้อมใจกันลากเรือทั้งลำออกสู่ทะเลบริเวณหินปู่โคร่ง ที่เป็นแหล่งปลาชุกชุม เจาะรูให้เรือรั่วและจมลงทั้งลำสู่ก้นทะเล กลายเป็นแหล่งปะการังหากินของสัตว์ทะเลต่อไป พร้อมกันนี้จึงขอเชิญผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวร่วมชมงานและร่วมทำบุญเปลี่ยนตุ๊กตาก่อนวันงานได้ที่บริเวณจุดด้านหน้าวิหารหลวงพ่อนาค วัดหัวหิน ได้ตั้งแต่บัดนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ความคืบหน้าที่ดินเขตนิคมสหกรณ์ 160,000 ไร่

ความคืบหน้าที่ดินเขตนิคมสหกรณ์ 160,000 ไร่

วันที่ 24 สิงหาคม 2566 นายประมวล พงษ์ถาวราเดช สส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าได้ร่วมติดตามความคืบหน้าที่ดินสหกรณ์นิคมอำเภอบางสะพาน ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มีนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุม มีนายศักดา มณีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ นายคมสัน คำปู หัวหน้าส่วนจัดการส่งเสริมสหกรณ์ที่ดิน พร้อมด้วยคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ประชุมหาแนวทางเรื่องที่ดินของสหกรณ์อำเภอบางสะพาน มีนายนันทปรีชา คำทอง สมาชิกสภาเกษตร กรจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผู้ประสานงานเรื่องที่ดินสหกรณ์นิคมอำเภอบางสะพาน นายจำลอง ดีทองอ่อน ประธานสหกรณ์นิคมบางสะพาน ร่วมกับนายธีรวัฒน์ สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพลาธิป วงษ์ผุดผ่อง กำนันตำบลชัยเกษมและผู้นำชุมชนกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งสองอำเภอ คณะกรรมการสหกรณ์นิคมบางสะพาน รวมประมาณ 20 คน เข้าติดตามความคืบหน้าเรื่องที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์ที่เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในวันนี้

นายนันทปรีชากล่าวว่า ได้มาติดตามความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน มาระยะหนึ่งแล้ว การจัดทำข้อมูลรายแปลงของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพานจำกัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดไปแล้ว และกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวกับกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลเป็นผู้อนุญาต ได้มีความเห็นพ้องตรงกันว่าจะส่งเรื่องที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์ เนื้อที่โดยประมาณ 160,000ไร่ เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่มีกรมที่ดินเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งร่วมพิจารณา ซึ่งการประชุมเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ข้อมูลที่ขาดอยู่บางส่วนจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เบื้องต้น และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมชุดใหญ่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อพิจารณาอนุญาตและได้ดำเนินการต่อไปในกรอบระยะเวลา 150 วันให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะช่วยให้ราษฎรและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นระยะเวลายาวนาน ลำดับต่อไปคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินของสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีอนุกรรมการชุดเล็ก ประกอบด้วยหลายภาคส่วนในพื้นที่ จะเป็นคณะติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ตามกรอบเวลาที่ได้กำหนดร่วมกัน เพื่อให้ราษฎรได้รับเอกสารสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว สามารถนำไปใช้ขอรับสิทธิต่างๆ หรือการดูแลจากภาครัฐได้ และหน่วยงานต่างๆ สามารถดำเนินงานให้บริการสาธารณะในพื้นที่ได้

ด้านนายจำลอง ดีทองอ่อน กล่าวว่าวันนี้ได้ไปติดตามความคืบหน้า เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพานกับคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้เห็นถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องที่ดินให้กับสมาชิกในเขตนิคมสหกรณ์ได้อย่างชัดเจน เกี่ยวกับจำนวนการถือครองที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน ซึ่งรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้พูดชัดเจนเรื่องแรกว่าสมาชิกที่อยู่ในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน ให้สิทธิ์ถือครองได้คนละไม่เกิน 50 ไร่ เรื่องที่ 2 ผู้อำนวยการจากกรมป่าไม้ ยืนยันชัดเจนว่ากรมป่าไม้อนุญาตให้กรมส่งเสริมได้ใช้ที่ดินเพื่อจัดในรูปแบบของ คทช. อย่างแน่นอน ความชัดเจนที่ 3 คือ ผู้อำนวยการกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แจ้งระเบียบข้อบังคับของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมในโครงการ คทช.นั้น จะต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์นิคมเท่านั้น ความชัดเจนที่ 4 เรื่องกรอบเวลา ในการดำเนินการ โดยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ จะดำเนินการเห็นชอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำที่ดินไปจัดในรูปแบบ คทช. ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจากความชัดเจนดังกล่าว ทำให้มองเห็นถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องที่ดินให้กับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในเขตนิคมสหกรณ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการสหกรณ์นิคมบางสะพานจำกัด ว่าจะดำเนินการ จัดทำข้อมูลให้เสร็จสมบูรณ์ได้เร็วภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้หรือไม่.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน