Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนฉลองคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ กับศิลปินดังตลอดเดือนธันวาคม

บลูพอร์ตหัวหิน ชวนฉลองคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ กับศิลปินดังตลอดเดือนธันวาคม

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ร่วมกับบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี พร้อมร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 8 ปี บลูพอร์ต หัวหิน ผลักดันกระแสการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองหัวหินให้คึกคักด้วยแลนด์มาร์คแห่งความสุข ศูนย์รวมความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย สุดพิเศษของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ด้วยการกลับมาของต้นคริสต์มาสยักษ์ขนาด 18 เมตร ใหญ่ที่สุดในเมืองหัวหินเต็มพื้นที่ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าบลูพอร์ต พร้อมด้วยการตกแต่งที่มาในธีม Carnival สุดอลังการและคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง ที่พร้อมมาระเบิดความมันส์ตลอดทั้งเดือนธันวาคมนี้ พบกับโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่สุดเซอร์ไพรส์ รวมมูลค่าเกือบห้าล้านบาท กับแคมเปญ “TIPlife Winter & Music Carnival Celebration 2023-2024 presented by Singha” ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2566 – 3 มกราคม 2567

น.ส.วจี กลมเกลี้ยง กรรมการบริหาร บลูพอร์ตหัวหิน กล่าวว่า “บลูพอร์ต ถือเป็นแลนด์มาร์คของเมืองหัวหินที่เป็นเมืองตากอากาศที่คนไทยและชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเพื่อตอกย้ำในความเป็น “A Must check In Destination” ปีนี้เราจึงจัดกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองมอบความสุข ความสนุก และขอบคุณลูกค้าบลูพอร์ต สำหรับ 8 ปีที่อยู่เคียงข้างกันมา เป็นการคืนกำไรตอบแทนลูกค้าที่สนับสนุนเราอย่างดีมาโดยตลอด มั่นใจได้เลยว่าสินค้าของขวัญ โปรโมชั่นและกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย ที่เตรียมมามอบความสุขให้แก่ลูกค้าคนสำคัญของบลูพอร์ต จะสร้างความประทับใจให้ทุกท่านอย่างแน่นอน ประเดิมด้วยการเนรมิตโฉมตกแต่งบลูพอร์ต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “TIPlife Winter & Music Carnival Celebration 2023 – 2024 presented by Singha” ที่สร้างบรรยากาศให้คึกคักและอบอุ่น เตรียมพร้อมสู่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยไฮไลท์สุดยิ่งใหญ่ของปีนี้จะเป็นการใช้พลังงานจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ในการเปิดต้นคริสต์มาสยักษ์ เน้นการใช้พลังงานบริสุทธิ์ที่เป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ตามที่บลูพอร์ตได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด

กิจกรรมเริ่มวันที่ 4 ธันวาคม พบกับ “Christmas Is Calling” เปิดเทศกาลแห่งความสุข ด้วยกิจกรรมการร้องเพลงประสานเสียงเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ โดยคณะนักร้องประสานเสียงรุ่นจิ๋ว จากโรงเรียนนานาชาติหัวหิน วันที่ 13 ธันวาคม กิจกรรมเปิดไฟต้นคริสมาสต์สุดยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปิน วง No One Eles วันที่ 20 ธันวาคม พบกับมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ จากศิลปิน วง Indigo วันที่ 27 ธันวาคม พบกับมินิคอนเสิร์ตแบบเต็มวง จากศิลปินวง Zeal วันที่ 31 ธันวาคม พร้อมร่วมนับถอยหลังไปด้วยกันกับกิจกรรมอลังการสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และมินิคอนเสิร์ตจาก ทอม อิศรา นอกจากนี้บลูพอร์ต ยังได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษพร้อมด้วยโปรโมชั่นมามอบให้ขาช้อปอีกมากมาย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษที่บลูพอร์ตพร้อมนำมามอบให้กับทุกท่าน ชมสวนต้นคริสต์มาสยักษ์ พร้อมมหกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังที่จะมาสร้างความสนุกสุดมันส์ พร้อมให้เช็คอิน ถ่ายภาพกันอย่างจุใจกับธีม Carnival เต็มพื้นที่ลานเดอะสแควร์และพื้นที่ภายในศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.032 – 905111 หรือเฟซบุ๊ก : BluportHuaHinOfficial, Line official : @bluport.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กองบิน 5 เชิญเที่ยวอ่าวมะนาว ในงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ระหว่าง 7 – 12 ธันวาคม

กองบิน 5 เชิญเที่ยวอ่าวมะนาว ในงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ระหว่าง 7 – 12 ธันวาคม

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผู้บังคับการกองบิน 5 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ พ.จ.อ.พินิจ ผลพานิช รักษาการหัวหน้าสำนักปลัด อบจ. ผู้แทนนายก อบจ.ประจวบฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2566 ที่ห้องดุสิตา อาคารอากาศคำรณ กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 12 ธันวาคม ที่อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 มี น.ส.นลิน มาคเชนทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด น.ส.อรอนงค์ บัวแก้ว ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงฯ (สวท.) จ.ประจวบฯ น.อ.สามารถ ว่องทรงเจริญ, น.อ.พยุงศักดิ์ สยมพร รอง ผบ.กองบิน 5 น.อ.ณัฐวุฒิ จันทรจิต เสนาธิการกองบิน 5 นายพิสิษฐ์ รื่นเกษม ประธานชมรมสื่อมวลชนเพื่อนช่วยเพื่อนฯ ผู้แทนหน่วยงาน ชมรมแม่บ้านทหารอากาศกองบิน 5 ข้าราชการทหารอากาศ ตลอดจนสื่อมวลชนในพื้นที่เข้าร่วม

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนในการจัดงานสดุดีวีรชน ร่วมกับกองทัพอากาศและกองบิน 5 อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อสดุดีความกล้าหาญของทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวชน ตำรวจ และวีรชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทุกท่าน ที่ได้ยอมสละชีวิต เลือด เนื้อ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ให้พี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีส่วนทราบเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในห้วงปี พ.ศ.2484 ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ก่อตัวขึ้นมา ณ ผืนแผ่นดินไทย โดยกองทัพญี่ปุ่นได้นำกำลังพลขึ้นบริเวณชายฝั่งทะเลตอนใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี ส่วนทางบก ยกพลขึ้นสมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่าและมลายู

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกันระหว่างทหารอากาศแห่งกองบิน 5 และพี่น้องประชาชนจังหวัดประจวบฯ เพราะกองกำลังแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นได้นำกำลังพลขึ้นบกที่อ่าวประจวบฯ – อ่าวมะนาว และมีการสู้รบกันเป็นเวลา 33 ชั่วโมงจึงสงบ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งต้องนำมาเป็นข้อคิดให้กับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันไทยและญี่ปุ่นได้สานสัมพันธ์และมีสัมพันธไมตรีต่อกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความรัก ความเป็นมิตร

น.อ.พงศ์ชนินทร์ นุชประเสริฐ ผบ.กองบิน 5 กล่าวว่าในปี 2566 นี้ กองทัพอากาศ โดยกองบิน 5 กำหนดจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ระหว่างวันที่ 7 – 12 ธันวาคม รวม 6 วัน ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 และบริเวณลานเอนกประสงค์ สโมสรทหารอากาศกองบิน 5 เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เวลา 16.00 น. มีพิธีเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชนฯ ไปตามเส้นทางหลักในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ตั้งแต่ศาลหลักเมืองจนถึงอนุสาวรีย์วีรชนฯ ก่อนผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมเป็นประธานกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในพิธีเปิดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2566 หลังจากนั้นจะเป็นงานเลี้ยงรับรองญาติวีรชน และชมชุดการแสดงของวงดุริยางค์ทหารอากาศ ณ บริเวณเวทีกลางการจัดงาน อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5

ส่วนวันที่ 8 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 06.30 เป็นต้นไป จะเป็นการวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนฯ ของส่วนราชการจังหวัด และเวลา 08.00 น. ผู้บัญชาการทหารอากาศจะมาวางพวงมาลา และร่วมงานบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน วันที่ 9 และ 12 ธันวาคม ช่วงเช้าเป็นกิจกรรมปลูกฝังความรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กับเยาวชนโรงเรียนในเครือข่ายของกองบิน 5 และระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม ช่วงเช้าเป็นกิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก การประกวดไก่แจ้ขัน การแข่งขันฟุตบอลล้อมหมวกคัพ การแข่งขันเปตอง และการแข่งขันเซปักตะกร้อ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่มุ่งให้เกิดการมีส่วนร่วมในกลุ่มเยาวชนและประชาชนทั่วไป คือการประกวดชิงเงินรางวัลและโล่เกียรติยศผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แก่ 1. การประกวดแต่งโคลงสี่สุภาพ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 2. การประกวดเรียงความ, วาดภาพระบายสี, ภาพอินโฟกราฟิค หัวข้อเรื่อง “สืบสาน รักษาและต่อยอด การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” 3. การประกวดภาพถ่าย ในหัวข้อเรื่อง “สละชีพ สู้ศึก พิทักษ์ชาติ ก้องเกียรติ ถนนแห่งประวัติศาสตร์” 4. การประกวดแต่งกลอนสุภาพ ในหัวข้อเรื่อง “ดินแดนวีรชนผู้กล้า” 5. การประกวดภาพยนตร์สั้น ส่งเสริมการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “สละชีพ สู้ศึก พิทักษ์ชาติ ก้องเกียรติ ถนนแห่งประวัติศาสตร์” ในปีนี้ กองบินกำหนดจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาว สดุดีวีรชนฯ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับงานพิธีการหลัก โดยเทศกาลท่องเที่ยวอ่าวมะนาวสดุดีวีรชนฯ จัดบริเวณลานเอนกประสงค์สโมสรทหารอากาศ กองบิน 5 มีการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม เวทีการแสดง และกิจกรรมทางประวัติศาสตร์

ด้านนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.ประจวบฯ กล่าวว่า ททท.ร่วมสนับสนุนพร้อมช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนทุกสาขาได้ประชาสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย ในการเชิญชวนประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวชมในงานสดุดีวีรชนฯ สำหรับกิจกรรมของกองบิน 5 ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นกิจกรรมที่ดี ที่จะได้ทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในอดีต เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดในมิติของประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่นทะเล น้ำตก และภูเขา หรือจะศึกษาด้านประวัติศาสตร์ ก็สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบฯ ยินดีให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่าวมะนาว ในห้วงระหว่างวันที่ 8 – 12 ธันวาคม 2566 โดยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของชายหาดอ่าวมะนาว เขาล้อมหมวก และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์วีรกรรม 8 ธันวาคม 2484.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กลับมาอีกครั้งสนุกส่งท้ายปี “ล้อมวงมันส์ ปากน้ำปราณ” คอนเสริ์ตใหญ่ริมหาดจากศิลปินดัง 10 คืน

กลับมาอีกครั้งสนุกส่งท้ายปี “ล้อมวงมันส์ ปากน้ำปราณ” คอนเสริ์ตใหญ่ริมหาดจากศิลปินดัง 10 คืน

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 นายนำลาภ อิ่มทั่ว นายก อบต. ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า อบต.ปากน้ำปราณ ร่วมกับล้อมวงมันส์ นำโดยนายสุรสิทธิ์ (เลฟ) สมะพงษ์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจัดงานมหกรรมคอนเสิร์ตริมทะเลสุดยิ่งใหญ่ “ล้อมวงมันส์ ปากน้ำปราณบุรี” ระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2566 ทุกท่านจะได้พบกับศิลปินชั้นนำของประเทศอัดแน่นตลอดทั้ง 10 คืน บนเวทีแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ และเวทีเล็กด้านหน้าทะเลพบกับศิลปินต่างๆ เชิญชมชิมและสวนสนุกภายในงานมากมาย วันที่ 1 ธ.ค. จับคู่มาเซอร์ไพรส์ เมื่อ “Loso” ตัวพ่อขาร็อค เจอกับตัวแม่แซ่บสะบัด บั้มบัมมม “กระแต – กระต่าย อาร์สยาม” วันที่ 2 ธ.ค. พบกับหนุ่มร็อคเลือดอีสาน เจ้าของเพลงดัง 190 ล้านวิว “โจอี้ ภูวศิษฐ์” ที่จะมาร่ายมนต์ “นะหน้าทอง” พร้อมตำนานร้านเหล้า ‘เมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลง’ ศิลปินเสียงกินใจคนช้ำ “ดูโอเมย์” วันที่ 3 ธ.ค. เตรียมพบกับ เจ้าแม่เพลงอกหัก “KLEAR” มาฮีลใจไปด้วยกัน และนักร้องสาว หวานและเปรี้ยวสุดฮอต “หลิว อาจารียา” พร้อมเสิร์ฟความเซ็กซี่ สวยละมุน ทำใจละลาย วันที่ 4 ธ.ค. เตรียมพบกับศิลปินวงร็อคมาดเข้ม “Big Ass” ที่จะทำให้เวที “ล้อมวงมันส์” สั่นสะเทือน เตรียมตัวกันให้ดี เพราะ Big Ass พร้อมจัดเต็มเพื่อเอาใจชาวร็อคปากน้ำปราณ และวง “สกายพาส” เจ้าของเพลงฮิต “น้ำใต้ศอก” วันที่ 5 ธ.ค. นักร้องมาดทะเล้น ลีลาแพรวพราว เอนเตอร์เทนไม่เป็นรองใคร เจ้าของเพลงฮิต คนมีเจ้าของ “บังนัส วงฟิวเจอร์แบนด์” รับรองความแรงเกินต้าน จัดเต็มความสนุกเสียงดี ขี้เล่นทะเล้นประทับใจแน่นอน และ ” ทอม ดันดี” ที่จะมาระเบิดพลังเพลงฮิตแบบไม่ยั้ง ขนเพลงดังมาฝากชาวล้อมวงมันส์กันแบบจัดเต็ม แค่นี้ยังไม่พอจัดให้สนุกแบบสุดๆด้วย “Holiday” ห้ามพลาด วันที่ 6 ธ.ค. เตรียมกระหึ่มปากน้ำปราณ กับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอย มาร่วมในคอนเสิร์ตกลางแจ้งครั้งประวัติศาสตร์ 40 ปี คาราบาว เตรียมฟินแบบไม่ได้พัก วงร็อคระดับตำนาน สุดยอดฝีมือทางดนตรีที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร “Silly Fools” เตรียมตัวมาเดือดมาราธอน ร็อคแบบสุดขั้ว วันที่ 7 ธ.ค. Joker Family (บอล เชิญยิ้ม , ตั๊ก บริบูรณ์ , บ๊อบบี้ 3.50) – ปู่จ๋าน ลองไมค์ & เคนน้อย ร้อยลีลา วันที่ 8 ธ.ค. ร็อคเกอร์สาวเสียงทรงพลัง “ดา เอ็นโดรฟิน” – ปรางปรางทิพย์ วันที่ 9 ธ.ค. สาวน้อยเสียงดี แซ่บ ขยี้ใจ “มีนตรา อินทิรา” ที่จะมาฟาดความเผ็ดไฟลุกท่วมเวที – เอกชัย ศรีวิชัย ล้อมวงเต้นเมดเล่ย์ ริมทะเล ปากน้ำปราณ – อย่าลืมขอเบี้ยเมีย มาพบกันหน้าเวที “เสือ สองเล” ที่จะมาระเบิดพลังเพลงฮิตแบบไม่ยั้ง ขนเพลงดังมาฝากชาวล้อมวงมันส์กันแบบจัดเต็ม และวันที่ 10 ธ.ค. ปิดเวที “ล้อมวงมันส์ ปากน้ำปราณ 2566” กับร็อคเกอร์สาวขาร็อคที่ทุกคนรอคอย เตรียมควักใจไปกับ “ใหม่ เจริญปุระ” พร้อมเล่นใหญ่บนเวที

งานนี้จัดขึ้นบริเวณลานมหาราช ริมทะเลปากน้ำปราณ ถนนเลียบชายทะเล นอกจากนี้ภายในงานยังมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน ขบวนรถฟู้ดทรัคให้ทุกท่านได้อิ่ม อร่อย บริเวณลานด้านหน้าชายทะเล ติดตามข่าวสารได้ที่เฟซบุ้ค ล้อมวงมันส์ Fun Network ซื้อบัตรล่วงหน้าผ่านระบบ Line Official : @lomwongmans **สแกน QR Code เพื่อเพิ่มเพื่อน หรือกดลิงค์นี้เลย https://lin.ee/9b6aMey สะดวกแบบไหนจัดแบบนั้น ซื้อบัตร Online หรือ ซื้อบัตรหน้างาน แล้วอย่าลืมมาพบกัน “ล้อมวงมันส์ ปากน้ำปราณบุรี” วันที่ 1 – 10 ธันวาคมนี้ ที่ลานมหาราช ริมทะเลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คลื่นยักษ์ซัดถล่มประจวบฯ เจ้าหน้าที่ขึ้นธงแดง ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ

คลื่นยักษ์ซัดถล่มประจวบฯ เจ้าหน้าที่ขึ้นธงแดง ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ชายหาดตลอดแนว 200 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอหัวหินถึงอำเภอบางสะพานน้อย มีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร พัดเข้าชายฝั่งโดยเฉพาะอ่าวประจวบฯ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ มีคลื่นทะเลสูง 2 – 4 เมตร ซัดเข้าหาชายฝั่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รั้วกองบิน 5 ถึงวนอุทยานเขาตาม่องล่าย ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ถนนริมหาดบางช่วงมีน้ำทะเลไหลทะลักข้ามสันเขื่อนกันคลื่นเข้าท่วมผิวการจราจร ทำให้ร้านค้าร้านอาหารตลอดแนวชายหาดต้องปิดให้บริการชั่วคราว ขณะที่เรือประมงเรือเล็กชายฝั่งกว่า 100 ลำ จอดหลบคลื่นในคลอง บริเวณเขาตาม่องล่ายและบางส่วนไปจอดหลบคลื่นลมที่เชิงเขาล้อมหมวกในกองบิน 5 เจ้าหน้าที่ทหารได้ช่วยกันลากขึ้นฝั่งเพื่อป้องกันความเสียหาย และที่ชายหาดทุ่งประดู่ นายก อบต.ทับสะแก ได้ระดมเจ้าหน้าที่วางกระสอบทรายจำนวนมากป้องกันความเสียหายของชายฝั่งตลอดแนวยาวกว่า 50 เมตร ที่ถูกคลื่นทะเลซัดต่อเนื่องใกล้ถึงถนนสายหลัก จากตลาดทับสะแกไปบ้านทุ่งประดู่

ล่าสุด ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้แจ้งให้ฝ่ายปกครอง เทศบาล อบต. เตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลให้ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง และให้สำรวจบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างบริเวณชายหาด หากได้รับความเสียหายจากคลื่นพัดถล่ม

ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด นายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำธงแดงไปปักบริเวณชายหาดสามพระยา ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด ในช่วงมรสุม ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง นอกจากนี้ยังปิดให้บริการลานกางเต็นท์บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติย่อย (หาดสามพระยา) อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน จนกว่าสถานการณจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนที่ชายหาดหัวหิน นางปองทิพย์ วิวัฒนสิเนศวร ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน ได้มอบธงแดงให้นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นำไปปักเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยว โดยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ ได้มอบธงแดงให้กับผู้รับผิดชอบในแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลชายหาดหัวหิน จำนวน 8 ธง ชายหาดสวนสนประดิพัทธิ์ จำนวน 2 ธง ชายหาดเขากะโหลก จำนวน 2 ธง ชายหาดสามร้อยยอด จำนวน 2 ธง ชายหาดสามพระยา ชายหาดแหลมศาลา จำนวน 4 ธง โดยขณะนี้พบว่ามีคลื่นลมแรงในท้องทะเลอ่าวไทยจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังมีกำลังแรง จึงต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวห้ามการลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินส่งมอบตราสัญลักษณ์“2023 Green Destinations Top 100 Stories”ให้ ททท.ช่วยประชาสัมพันธ์

หัวหินส่งมอบตราสัญลักษณ์“2023 Green Destinations Top 100 Stories”ให้ ททท.ช่วยประชาสัมพันธ์

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบฯ เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ สมาคมธุกิจท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ได้จัดพิธีส่งมอบตราสัญลักษณ์และประกาศนียบัตร“หัวหินแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (2023 Green Destinations Top 100 Stories) ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้แทนผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบ มี ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ น.ส.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. หรือ TCEB นายชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมการเสวนาในหัวข้อต่างๆ พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองหัวหินใปยังเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวโลก รวมถึงการเผยแพร่ข่าวสารไปยังนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศให้เกิดการรับรู้อย่างกว้างขวางและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ ถึงหลักการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนในมิติด้านการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับเมืองหัวหินให้เป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับสากล (world Class Preferred Destination) และการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับรางวัลหัวหินแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (2023 Green Destinations Top 100 Stories) ของเทศบาลเมืองหัวหิน จะเป็นก้าวย่างสำคัญที่มีความหมายในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวหัวหินอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการสื่อสารภาพลักษณ์การเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างมีความสุข ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ และ ททท. ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานปกครองท้องถิ่นเทศบาลเมืองหัวหิน ภาคชุมชน และภาคีเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเมืองหัวหินไปสู่หมุดหมายแห่งความยั่งยืนจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่ง ททท.สำนักงานประจวบฯ จะใช้โอกาสสำคัญนี้เป็นอีกกลไกหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ในด้านการตลาดและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไป

สำหรับ รางวัล Green Destinations Top 100 Stories เป็นการจัดอันดับโดยหน่วยงานระดับโลก Green Destinations Foundation ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับคณะผู้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ITB (Internation Tourism Borse) กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่ให้การยอมรับในระดับนานาชาติว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับคัดเลือกนี้จะได้รับการประชาสัมพันธ์ไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงการเผยแพร่ข่าวสารไปยังนักท่องเที่ยว มีผลให้เกิดการรับรู้ทางการตลาดได้อย่างกว้างขวาง ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาสู่ประเทศไทย สำหรับเกณฑ์การตัดสินจะแบ่งออกเป็น 6 หมวดหมู่ด้วยกัน ได้แก่ Good Practice Story, Business & Marketing, Culture & Tradition, Environment & Climate, Government Reset & Recovery, Nature & Scenery และ Thriving Communities และในปี 2023 ประเทศไทยได้รับรางวัลถึง 4 แห่ง ที่สามารถติด TOP 100 ได้แก่ 1.เมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย 2.ในเวียง จังหวัดน่าน 3.คลองท่อม จังหวัดกระบี่ 4.หัวหิน จังหวัดประจวบฯ ซึ่งการประกาศผลครั้งนี้จะช่วยให้แหล่งท่องเที่ยวของอำเภอหัวหิน กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความยั่งยืนสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พบซากแพะหลายตัว ถูกทิ้งข้างถนน

พบซากแพะหลายตัว ถูกทิ้งข้างถนน

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากชาวบ้านที่เดินหาของเก่า ว่าพบซากแพะหลายตัว ถูกโยนทิ้งในร่องน้ำริมถนน สายบายพาส ปราณบุรี – ชะอำ หลักกิโลเมตรที่ 43 – 600 ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ บริเวณจุดกลับรถและเป็นที่จอดพักรถ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอปราณบุรี ให้มาตรวจสอบ

จากการตรวจสอบบริเวณร่องน้ำริมถนน ลึกลงไปประมาณ 3 เมตร พบซากแพะถูกโยนกองรวมกัน 5 ตัว อยู่ในพงหญ้าทั้งหมดเป็นตัวผู้ อายุ 2 – 3 ปี ตรวจสอบตามตัวไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด สภาพท้องเริ่มขึ้นอืด คาดว่าน่าจะตายมาประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ตรวจสอบรอบๆ พบร่องรอยหญ้าข้างทางเป็นร่องรอยลากลงไปและมีเศษฟางตกอยู่

น.ส.เขมิกา ฐาปนกุลพงษ์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอปราณบุรี กล่าวว่าหลังจากได้รับแจ้งได้เดินทางมาตรวจสอบ พบว่าแพะที่ตาย น่าจะเกิดจากการเคลื่อนย้ายและมีการตาย แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะว่าแพะไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ หรือเบอร์ที่หูสัตว์ คาดว่าน่าจะตายตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนสาเหตุที่ตาย น่าจะเกิดจากเบียดทับกันมา เพราะบรรทุกมาจำนวนมาก เกิดการตายในระหว่างการเคลื่อนย้าย และที่ไม่เอาซากแพะตายไปด้วย เพราะว่าเวลาผ่านด่านแล้วถูกตรวจพบว่ามีแพะตาย จะต้องชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ทำให้ไม่อยากเสียเวลา หลังจากนี้จะนำซากแพะทั้งหมดไปฝังกลบ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่อไป.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ชาวบางสะพานน้อย ยื่นหนังสือขอขบวนรถด่วนพิเศษ ให้จอดสถานี

ชาวบางสะพานน้อย ยื่นหนังสือขอขบวนรถด่วนพิเศษ ให้จอดสถานี

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 นายเสน่ห์ หินศรี ข้าราชการบำนาญและตัวแทนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สถานีรถไฟบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชาวบ้านประมาณ 150 คน เพื่อขอให้ขบวนรถด่วนพิเศษ ดีเซลราง สายกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุราษฎร์ธานี และสายสุราษฎร์ธานี – สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ จอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟบางสะพานน้อย มีนายประมวล พงษ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 เดินทางมารับหนังสือ โดยมีนายสุทิน ประเสิฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 15 นาย เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย

นายเสน่ห์ หินศรี กล่าวว่า ปัจจุบันอำเภอบางสะพานน้อยมีประชากรรวมทั้งสิ้น 41,771 คน ที่ผ่านมาประชากรส่วนใหญ่ใช้และผูกพันกับการเดินทางโดยสารรถไฟ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะมีความปลอดภัย ประหยัด และปัจจุบันภาพรวมมูลค่าทางเศรษฐกิจภาคเกษตรกรรม 2,500 ล้านบาทต่อปี และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 120,000 คนต่อปี เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย เช่นเกาะทะลุ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ อันเป็นพื้นที่ดูปะการังที่มีความสมบูรณ์สุด มีชายหาดที่สะอาดและสวยงามยาว 45 กิโลเมตร เทศกาลดูนกเหยี่ยว เป็นต้น

“เมื่อรัฐบาลมีนโยบายและดำเนินการโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งชาวอำเภอบางสะพานน้อยรู้สึกดีใจ ว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้ในการร่วมพัฒนาเมือง วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ ตลอดจนที่สำคัญคือการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ โดยเดินทางด้วยรถไฟ มาเป็นปัจจัยหลักของการพัฒนา” นายเสน่ห์กล่าว

นายอารวุฒิ ว่องไวรุด ชาวบ้านบางสะพานน้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมา การใช้บริการรถไฟโดยเฉพาะสองขบวนดังกล่าวนั้น คนบางสะพานน้อยที่ใช้บริการ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มครั้งละประมาณ 300 บาท เพราะต้องไปลงรถไฟที่สถานีบางสะพานใหญ่ จากนั้นต้องให้ญาติ หรือต้องจ้างรถยนต์ไปรับที่สถานีรถไฟบางสะพานใหญ่ หากการรถไฟให้ขบวนรถไฟที่เป็นรถด่วนพิเศษ จอดที่สถานีบางสะพานน้อย น่าจะสร้างความสะดวกและลดรายจ่ายให้กับชาวอำเภอบางสะพานน้อยได้

นายประมวล พงษ์ถาวราเดช กล่าวว่า หลังรับหนังสือจากชาวบ้านแล้ว จะนำหนังสือไปยื่นต่อผู้ว่าการรถไฟ เพื่อพิจารณาตามที่ชาวบ้านร้องขอ ซึ่งตนมีความกังวลใจว่าหากขบวนรถไฟทั้งสองขบวนนี้จอดแล้วไม่มีผู้ใช้บริการ ก็จะเสียโอกาส

นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวว่าขอเป็นกำลังใจให้ชาวบางสะพานน้อยที่มายื่นหนังสือดังกล่าว แต่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของคนบางสะพานน้อยด้วยเช่นกัน.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

สภาวัฒนธรรมหัวหิน ร่วมกับห้างมาร์เก็ตวิลเลจ จัดประกวดหนูน้อยวัฒนธรรมชิงเงินรางวัลมากมาย

สภาวัฒนธรรมหัวหิน ร่วมกับห้างมาร์เก็ตวิลเลจ จัดประกวดหนูน้อยวัฒนธรรมชิงเงินรางวัลมากมาย

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานแถลงข่าวงานประกวดหนูน้อยวัฒนธรรม ประจำปี 2566 ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมมีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน โดยนางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน กับศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ โดยนายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ มีนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน

การประกวดหนูน้อยวัฒนธรรมประจำปี 2566 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน โซนด้านหน้าเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ด้วยการแต่งกายชุดไทยสมัยสุโขทัย อยุธยาหรือรัตนโกสินทร์ หรือชุดที่แสดงถึงการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย รอบแรกเป็นการประกวดในชุดไทยสมัยต่างๆ หรือชุดที่แสดงถึงการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย รอบสอง การแสดงความสามารถพิเศษที่แสดงออกถึงศิลปะวัฒนธรรมไทยและความเป็นไทยของหนูน้อย ผู้ชนะเลิศหนูน้อยวัฒนธรรม จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล สายสะพาย และมงกุฎ, รองอันดับ 1 รับเงินรางวัล 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล สายสะพาย รองอันดับ 2 รับเงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล สายสะพาย, รางวัลชมเชย อีก 2 รางวัล รับเงินรางวัลละ 1,000 บาท, รางวัลการแสดงศิลปะวัฒนธรรมยอดเยี่ยม รับเงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย, รางวัลหนูน้อยวัฒนธรรมขวัญใจมวลชน รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย เปิดรับสมัครแล้วจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ที่บริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน หรือสอบถามที่โทร 032 – 618865 หรือ 063 – 9698959.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.เพชรบุรี เชิญชมการแสดง 100 ปี มัทนะพาธา ระดมทุนบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

ททท.เพชรบุรี เชิญชมการแสดง 100 ปี มัทนะพาธา ระดมทุนบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 น.ส.เอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี ขอเชิญชวนแต่งกายตามพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 6 เข้าชมการแสดงการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบ ประกอบการแสดงและดนตรี ในวันเสาร์ที่ 25 และวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. ณ สวนมัทนะพาธา พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยรายได้ทั้งหมดเพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รวมทั้งช่วยอุดหนุนอาหารและเครื่องดื่มจากชุมชน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวผู้สนใจมาร่วมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างมีความหมาย “เที่ยวด้วย…ช่วยได้” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนอนุรักษ์และบูรณะโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเพชรบุรี โดยมีพันธมิตรโรงแรมให้ส่วนลดห้องพักราคาพิเศษ อาทิ โรงแรมสปริงฟิลด์แอทซี รีสอร์ทแอนด์สปา โรงแรมเชอราตัน หัวหิน และโรงแรมเทวาศรม หัวหิน ช่วยจัดรถรับส่งไปชมการแสดงด้วย

น.ส.เกล้ามาศ ยิบอินซอย ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดีฯ แจ้งว่า การแสดงการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบประกอบการแสดงและดนตรี เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี บทพระราชนิพนธ์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน ศกนี้ เป็นการเลือกบทพระราชนิพนธ์เฉพาะบางตอนมาเรียบเรียง กำกับการแสดงโดยครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติ และกำกับดนตรีโดยอานันท์ นาคคง ศิลปินศิลปาธร นักแสดงนำได้แก่ สุกัญญา สมไพบูลย์ (มัทนา) และอัษฎาวุธ เหลืองสุนทร (สุเทษณ์ / ชัยเสน) ศันสนีย์ ศีตะปันย์ (จัณฑี) เปิดจำหน่ายบัตรที่นั่งชมการแสดงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รายละเอียดบัตรเข้าชม 1.บัตรที่นั่งสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 1,690 บาท (มีจำนวนจำกัด 100 ที่นั่งต่อวัน) 2.บัตรที่นั่งสำหรับสมาชิกบูรโณปถัมภ์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และบัตรที่นั่งสำหรับผู้ติดตาม 1 ท่านที่มาชมการแสดงพร้อมกับสมาชิก ราคา 690 บาท (มีจำนวนจำกัด 300 ที่นั่งต่อวัน และขอความกรุณาแจ้งสำรองที่นั่งล่วงหน้า ช่องทางซื้อบัตร : https://forms.gle/FCL37hmbwN6PhLmw9

น.ส.เกล้ามาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จะกลับมาเปิดเป็นปกติตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2567 แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการบูรณะ ทั้งในส่วนของระบบนิเวศตามธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จึงขอเชิญผู้สนใจร่วมรักษาและสืบทอดมรดกของชาติ ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกบูรโณปถัมภ์เพื่อร่วมระดมทุนในการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์ฯ อีกช่องทางหนี่ง โดยมีเป้าหมายการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาจำนวนกว่าแสนแผ่นซึ่งมีน้ำหนักเกินไปแผ่นละ 1 กิโลกรัม และส่งผลกระทบต่อฐานรากของตัวอาคารในปัจจุบัน ค่าสมัครสมาชิกตลอดชีพจำนวน 6,910 บาท สามารถบริจาคได้เต็มจำนวนหรือแบ่งจ่าย 10 เดือนได้ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-donation) และเปิดรับสมัครเพียง 109,600 รายเท่านั้น ช่องทางสมัครสมาชิกบูรโณปถัมภ์ : https://forms.gle/gQL9CwgBESvfRiBn9 สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวันได้ โดยบริจาคเงินผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-donation) ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก เพจพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และ ททท.สำนักงานเพชรบุรี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“ธรรมนัส”ลงด่านสิงขร สั่งคุมเข้มสินค้าเกษตรผิดกฎหมายห้ามเข้าไทย

“ธรรมนัส”ลงด่านสิงขร สั่งคุมเข้มสินค้าเกษตรผิดกฎหมายห้ามเข้าไทย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมติดตามการพัฒนาจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และรับฟังปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่ห้องประชุมอาคารพรมแดนด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้บริหารกรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด กลุ่มเกษตรกร ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นร่วมประชุม โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 3 โดยอาคารพรมแดนด่านสิงขรดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการส่งมอบให้กับหน่วยงานรับผิดชอบดูแล ส่วนสถานะของด่านสิงขรขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้าออกของบุคคล และยานพาหนะทุกประเภท แต่ผ่อนปรนให้เฉพาะการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนได้เท่านั้นที่บริเวณจุดโนแมนแลนด์

โดยข้อมูลในปีงบประมาณ 2566 พบว่ามีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขร กว่า 2,400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าประมงจากจังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้เข้มงวดตรวจสอบป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาในไทย โดยเฉพาะสินค้าปศุสัตว์และสินค้าประมง พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการการนำเข้าสินค้าประมงให้เหมาะสมตามฤดูกาล เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลผลิตของเกษตรกรไทย โดยฤดูกาลใดที่มีสินค้าประมงในประเทศมาก ต้องมีมาตรการควบคุมปริมาณสินค้านำเข้า

โอกาสนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เช่น ปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ปัญหาโรคเหี่ยวสับปะรด ความต้องการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมจังหวัด และอุตสาหกรรมจังหวัด เช่น การขอให้เร่งพัฒนาวิจัยสายพันธุ์มะพร้าวและสับปะรดเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น มีความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช การสำรวจพื้นที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งสถานีทดลองวิจัยพันธุ์พืช การพัฒนาลานขนถ่ายสินค้าประมงที่ด่านสิงขรให้มีมาตรฐาน มีระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสร้างตลาดประมงที่ด่านสิงขร การผลักดันด่านสิงขรให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับปัญหาความเดือดร้อนและข้อเสนอต่างๆ ไปดำเนินการและประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป.