Categories
ข่าว ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบซากช้างป่า ตายใกล้ไร่สับปะรด สาเหตุถูกช้างป่าเต็มวัยใช้งาแทงตาย

เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบซากช้างป่า ตายใกล้ไร่สับปะรด สาเหตุถูกช้างป่าเต็มวัยใช้งาแทงตาย

วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำโดยนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พนักงานสอบสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านยางชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 1452 (บ้านย่านซื่อ) ทหารชุดประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มณฑลทหารบกที่ 15 เจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์สัตว์ป่ากลุ่มป่าแก่งกระจาน WWF ประเทศไทย และราษฎรในพื้นที่ ได้ร่วมกันตรวจสอบช้างป่าเพศผู้ อายุ 10 ปี ที่นอนตายอยู่ชายป่า ติดกับแปลงสับปะรดของชาวบ้านรวมไทย หมู่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน นอนตายลักษณะตะแคงด้านซ้าย งาทั้งสองข้าง งวงและหางยังอยู่ครบ แต่งวงมีสภาพเน่า จนเห็นแต่หนังหุ้มกล้ามเนื้อนิดหน่อย ตามลำตัวด้านซ้าย ขาและฝ่าเท้า ทั้ง 4 ข้าง ไม่พบบาดแผลใดๆ คาดว่าตายมาแล้ว 5 – 7 วัน

จากนั้นได้ทำการเปิดช่องท้องเพื่อตรวจสอบอวัยวะภายใน พบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่าสลาย จนไม่สามารถเก็บตัวอย่างได้ แต่เมื่อได้พลิกตัวช้างเอาด้านขวาขึ้น พบรอยบาดแผลบริเวณสะโพกขวา ขนาด 10 x 10 ซม. จึงล้วงไปตามบาดแผล ลึกถึงกระดูกสะโพก พบว่ากระดูกสะโพกทะลุและแตกเป็น 2 ส่วน มีเศษอาหารทะลักออกมาในรู บาดแผลอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 150 เซนติเมตร บริเวณขอบแผลมีลักษณะไม่เรียบ คล้ายรอยฉีก จึงคาดว่าเกิดจากช้างมีงาขนาดใหญ่ทำร้าย จึงทำให้ช้างตัวนี้ได้รับบาดเจ็บและตายลงในที่สุด ในส่วนของการสแกนโลหะที่ลำตัวช้างทั้งสองข้าง ไม่พบว่ามีโลหะหรือกระสุนอยู่ในตัวช้างแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ถอดงาทั้งสองข้าง เอาไปเก็บรักษาไว้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และทำการฝังกลบซากช้างต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คณะทำงาน สว. เยี่ยมโรงงานสกัดน้ำมันพืชและผลิตไบโอดีเซลครบวงจร มูลนิธิชัยพัฒนา

คณะทำงาน สว. เยี่ยมโรงงานสกัดน้ำมันพืชและผลิตไบโอดีเซลครบวงจร มูลนิธิชัยพัฒนา

วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 คณะทำงานของสมาชิกวุฒิสภา น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค นำโดยนายนันทปรีชา คำทอง ประธานคณะทำงาน พร้อมคณะทำงานประกอบด้วย นายธมน โพธิ์งาม, นายบุญมี สำมณี, นายชัยวัฒน์ ทับทอง และนายไชยา สินสอน เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการโรงงานสกัดน้ำมันพืชและผลิตน้ำมันไบโอดีเซลครบวงจร ของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ตำบลไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

นายนันทปรีชา ประธานคณะทำงาน เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับและบรรยายสรุปจาก ดร.จีระพงศ์ รักประสูตร ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการผลิต การบริหารจัดการทรัพยากรและแนวทางการต่อยอดเทคโนโลยี เพื่อขยายผลสู่เกษตรกรและชุมชนในระดับภูมิภาค โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตทางการเกษตร เช่น เมล็ดพืชน้ำมัน สมุนไพรและพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ผ่านการสกัดน้ำมันและผลิตไบโอดีเซล เพื่อเป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานแล้ว ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรภายในประเทศอย่างยั่งยืนอีกด้วย ทางคณะทำงานความตั้งใจในการผลักดันองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเยี่ยมชมครั้งนี้ไปสู่การใช้งานจริงในระดับชุมชน โดยมีเป้าหมายในการขยายผลโครงการในพื้นที่อื่นๆ ที่มีศักยภาพด้านพืชพลังงาน พืชสมุนไพรและพืชอาหาร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร สร้างรายได้และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และการเยี่ยมชมในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงานทางเลือกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สาวขับเก๋งเจอรถบรรทุกปาดหน้า เสียหลักพุ่งชนราวสะพาน รถหมุนข้ามเลนหวิดดับ

สาวขับเก๋งเจอรถบรรทุกปาดหน้า เสียหลักพุ่งชนราวสะพาน รถหมุนข้ามเลนหวิดดับ

วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งชนกับราวสะพาน บริเวณสี่แยกบ่อนอก ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบฯ เจ้าของรถเก๋งยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบหลังเกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 6 ขค 3252 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลักษณะหันหัวกลับทิศ บริเวณฝั่งขาล่องใต้ ด้านหน้าฝั่งซ้ายของตัวรถพังเสียหายยับเยิน แรงกระแทกส่งผลให้ตัวถังด้านหน้าฝั่งซ้ายยุบถึงห้องเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ส่วนราวสะพานและไหล่ทางที่เป็นทรัพย์สินของหลวงได้รับความเสียหายเช่นกัน

จากการสอบถามหญิงสาว อายุ 23 ปี ทราบชื่อเล่น“น้องฟ้า”เล่าว่า ตนขับรถมาจากอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดราชบุรี เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกบ่อนอก ซึ่งเป็นทางแยกเข้าพื้นที่หมู่บ้าน รถของตนซึ่งวิ่งอยู่เลนขวาตามปกติ จู่ๆ มีรถบรรทุกขับมาจากเลนซ้ายื แล้วเปลี่ยนเลนอย่างกระชั้นชิด มาตัดหน้ารถของตน โดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวด้วยความตกใจ จึงหักพวงมาลัยหลบกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนกับราวสะพานอย่างแรง แล้วรถเกิดการหมุนตัวข้ามเลน ก่อนจะหยุดอยู่ในฝั่งขาล่องใต้ โชคดีที่ในขณะนั้นไม่มีรถสวนมาจากทิศทางตรงข้าม จึงไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถตำรวจปิดการจราจรบริเวณเลนขวา ฝั่งล่องใต้ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ ขณะเดียวกันได้ประสานร้อยเวรเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึงสอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อติดตามตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหายต่อไป.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คุมประพฤติประจวบฯ มอบทุนสงเคราะห์การศึกษาผู้ถูกคุม พร้อมยกระดับความรู้จนสำเร็จการศึกษา

คุมประพฤติประจวบฯ มอบทุนสงเคราะห์การศึกษาผู้ถูกคุม พร้อมยกระดับความรู้จนสำเร็จการศึกษา

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานประพฤติจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยนางวิภาภรณ์ ภัทรภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ระดับอำเภอเมืองประจวบฯ นายปิยชาติ ไฮ้คง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์การคุมประพฤติ คณะครู กศน. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติฯ ร่วมมอบทุนสงเคราะห์ด้านการส่งเสริมการศึกษา เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและชุดนักศึกษา รวมเป็นจำนวนเงิน 1,200 บาท ให้แก่ผู้กระทำผิดในคดีในคดีขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งได้สมัครเรียนในระดับชั้น ม.ต้น ในปีการศึกษา2568 ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ผ่านการอบรมการส่งเสริมการศึกษา ที่สำนักงานคุมประพฤติประจวบฯ ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองประจวบฯ ได้สนับสนุนวิทยากรมาให้ความรู้ดังกล่าวแก่ผู้กระทำผิดด้วย ทำให้ผู้กระทำผิดมีความสนใจที่จะสมัครศึกษาต่อในระดับ ม.ต้น ตามที่กรมคุมประพฤติมีนโยบายในการส่งเสริมและยกระดับการศึกษาแก่ผู้กระทำผิด ในระบบบงานคุมประพฤติ

นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติฯ กล่าวว่า ตามที่กรมคุมประพฤติ มีนโยบายส่งเสริมและยกระดับการศึกษาแก่ผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ โดยจัดทำบันทึกตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 เพื่อยกระดับการศึกษาให้แก่ผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ โดยได้ส่งเสริมการศึกษาให้กับผู้กระทำผิดที่เข้ารับการศึกษา ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ซึ่งวันนี้มีผู้กระทำผิดในคดีในคดีขับรถประมาท หวาดเสียว ได้สมัครเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในปีการศึกษา 2568 ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ผ่านการอบรมการส่งเสริมการศึกษาที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้จัดอบรมให้ความรู้ให้แก่ผู้กระทำผิดในวันที่ 10 เมษายน 2568 ณ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ โดยประสานงานกับสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) อำเภอเมืองประจวบฯ สนับสนุนวิทยากรมาให้ความรู้ดังกล่าวแก่ผู้กระทำผิด ทำให้ผู้กระทำผิดมีความสนใจที่จะสมัครศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานและให้คำแนะนำ พร้อมให้กำลังใจกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ ได้สงเคราะห์ทุนในการส่งเสริมการศึกษา อุปกรณ์การศึกษาและชุดนักศึกษาให้กับบุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมด้านการศึกษา และให้กำลังใจแก่ผู้กระทำผิดดังกล่าวอีกด้วย.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

บลูพอร์ต เปิดฉากเริ่มเดือน Pride อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง กับแนวคิด “Pride Active & Wellness”

บลูพอร์ต เปิดฉากเริ่มเดือน Pride อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง กับแนวคิด “Pride Active & Wellness”

ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน และกลุ่มบริษัทพราว ร่วมกับ iwelty club เริ่มต้นเดือนแห่งความภาคภูมิใจ ด้วยการเชิญชวนทุกหัวใจร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียม ในงาน “Come as you are, leave with a healed heart” “มาด้วยหัวใจแบบไหน…กลับไปด้วยหัวใจที่เบาขึ้น” ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2568 ภายใต้แนวคิด “Pride Active & Wellness” เป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับแนวคิดใหม่ ที่ผสานพลังของสุขภาพกายและใจ เข้ากับการเฉลิมฉลองความหลากหลายและความรักอย่างเท่าเทียม ผ่านกิจกรรมที่เต็มไปด้วยพลังบวก สีสันและการเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่สนับสนุนด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต เสรีภาพ แต่เป็นการส่งเสริมการอิสรภาพที่แท้จริงจากภายใน พบกับไฮไลท์พิเศษ “Hua Hin Pride Walk & Run” ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ กิจกรรมเดิน – วิ่ง ที่จะพาทุกคนสนุกไปกับสีสันแห่งเสรีภาพท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นริมหาดหัวหิน พร้อมด้วยเหล่าคนดัง อาทิ ปิงปอง – ธงชัย, ติ๊นา ศุภนาฏ, ป้อปปี้ – ชัชชญา, ไบรอัน ตัน และอีกมากมาย ที่จะมาร่วมแสดงพลังแห่งความรัก ความเท่าเทียม พร้อมสร้างพลังบวกให้กับร่างกายและจิตใจไปด้วยกัน

หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดงาน Pride Month ครั้งแรกในหัวหิน พร้อมขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ ที่สร้างความประทับใจในปี 2567 และยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจแห่งความเท่าเทียมและการสนับสนุนความหลากหลายอย่างต่อเนื่องกับการจัดงาน Hua Hin Grand Inter Pride 2025 เพื่อร่วมฉลองการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมจัดพิธีจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รัก LGBTQIAN+ จำนวน 23 คู่ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และครั้งนี้ บลูพอร์ตหัวหิน พร้อมสานต่อความภาคภูมิใจด้วยกิจกรรม Bluport Hua Hin : Start of Pride ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองและร่วมกันขับเคลื่อนสังคมให้เปิดกว้าง ยอมรับในทุกความแตกต่างอย่างแท้จริง

กิจกรรมไฮไลท์ตลอดสองวันเต็ม : Hua Hin Pride Run & Walk by iwelty club (1 มิถุนายน) กิจกรรมเดิน – วิ่ง ระยะทาง 3 กิโลเมตร ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าแสนสดชื่นของชายหาดหัวหิน ชวนทุกคนมา Run – Dance – Chill ออกกำลังกายแบบสนุกสุดเหวี่ยงไปพร้อมกับสีสันและเสียงเพลง งานนี้ Pet Friendly พาน้องหมา น้องแมว มาร่วมเดิน – วิ่ง แชร์ความสุขไปด้วยกันได้อย่างเต็มที่ ! Wellness Experience by iwelty club (31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน) คอมมูนิตี้ของคนรักสุขภาพ ที่ชวนคุณมาดูแลทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ผ่านกิจกรรมหลากหลายเพื่อความสมดุลและผ่อนคลาย อาทิ Yoga & Pilates เสริมสร้างความยืดหยุ่นและสมาธิ Sound Healing ปลดปล่อยความเครียดด้วยเสียงดนตรีบำบัด Pride Talk & Therapy Group Talk เสวนาฮีลใจ จากแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่จะมาร่วมเปิดประสบการณ์แห่งการเยียวยาจิตใจ และเติมเต็มแรงบันดาลใจให้กับทุกคน Exclusive Bar & DJ (31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน) Full of Heart Exhibition (31 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน) ฮีลใจให้ใจฟูกับนิทรรศการและกิจกรรมแบบฟีลกู๊ดตลอดทั้งวัน ปิดท้ายความประทับใจกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน Sarah Salola และโชว์สุดพิเศษที่จะมาสร้างความสนุกสนานให้กับค่ำคืนแห่ง Pride (1 มิถุนายนา) Bluport Hua Hin: Start of Pride ไม่ใช่แค่งานอีเว้นต์…แต่คือพื้นที่ปลอดภัยที่เปิดรับทุกความเป็นไปได้ ทุกตัวตนและทุกความรัก เพราะเราเชื่อว่า ความเท่าเทียมไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องลงมือทำ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บลูพอร์ตหัวหิน โทร. 032-905111 หรือผ่านช่องทาง เฟซบุ๊ก : Bluport Hua Hin Official และ Line : @Bluport แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์สีรุ้งแห่งปีไปด้วยกัน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ Next Move 100 ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ เพิ่มรายได้ในพื้นที่

ประจวบฯ Next Move 100 ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ เพิ่มรายได้ในพื้นที่

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Wellness Economy ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ เพื่อสรุปผลการดำเนินกิจกรรมทดสอบโปรแกรมท่องเที่ยว กลุ่มชุมชน A : Next Move มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัด น.ส.กุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ทั้งนี้ ตามที่คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Wellness Economy จ.ประจวบฯ ได้พิจารณาจัดระดับชุมชนท่องเที่ยวตามเกณฑ์การประเมิน โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1) กลุ่มชุมชน A : NEXT MOVE (ปรับ เปลี่ยน ไปต่อ) จำนวน 20 ชุมชน 2) กลุ่มชุมชน B : PROMOTE (ส่งเสริม) จำนวน 9 ชุมชน 3) กลุ่มชุมชน C : CONNECT (การเชื่อมโยง) จำนวน 14 ชุมชน 4) กลุ่มชุมชน D : NETWORKS (เครือข่าย) จำนวน 59 ชุมชน คณะทำงานฯ ได้เห็นชอบให้เริ่มดำเนินโครงการโดยการนำกลุ่มชุมชน A : NEXT MOVE (ปรับ เปลี่ยน ไปต่อ) จำนวน 20 ชุมชน มาพัฒนาผ่านการฝึกอบรมกิจกรรมในโครงการฯ เพื่อเป็นชุมขนต้นแบบ ก่อนขยายผลไปสู่กลุ่มชุมชน B , C และ D ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพทั้ง 20 ชุมชน ผ่าน 2 กิจกรรมหลัก คือ การจัดประชุมเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมแอทที บูทีค คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ เพื่อให้ตัวแทน 20 ชุมชน ได้นำเสนอข้อมูลจุดเด่นการท่องเที่ยวของแต่ละชุมชน โดยจำกัดเวลาการนำเสนอชุมชนละ 5 นาที เพื่อฝึกทักษะการบริหารจัดการเวลา ทักษะการนำเสนอข้อมูลที่สร้างแรงกระตุ้นต่อผู้บริโภค และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการตอบคำถามจากผู้ทรงคุณวุฒิ และอีกกิจกรรมคือการทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชน โดยมีการจัดคณะทำงานระดับจังหวัดจำนวน 10 คณะ ลงพื้นที่ทั้ง 20 ชุมชน เมื่อวันที่ 3 – 4 เมษายน 2568 เพื่อสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยว และสินค้าอัตลักษณ์ชุมชน พร้อมการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ชุมชน

ที่ประชุมในวันนี้ได้มีการนำเสนอผลการลงพื้นที่ของคณะทำงานระดับจังหวัดแต่ละคณะ ที่เดินทางไปร่วมทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวใน 20 ชุมชนนำร่อง ใน 8 อำเภอ เพื่อรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้มีจุดเด่น จุดดึงดูด มีความน่าสนใจ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน นำไปสู่การสร้างรายได้สู่ชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดประจวบฯ ต่อไป พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทั้ง 8 อำเภอ จัดทำวิดีทัศน์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 100 ชุมชน ลงเพจชุมชนท่องเที่ยว Next Move Prachuap โดยนำเสนอเป็นรายเดือนๆ ละไม่น้อยกว่า 3 ชุมชน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นการท่องเที่ยว และการเข้าร่วมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในงานมหกรรมเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทอ.ฝึกซ้อมยิงจรวดต่อสู้อากาศยานพื้นที่กองบิน 5 ประจวบฯ พร้อมรับมือภัยคุกคามทางอากาศ

ทอ.ฝึกซ้อมยิงจรวดต่อสู้อากาศยานพื้นที่กองบิน 5 ประจวบฯ พร้อมรับมือภัยคุกคามทางอากาศ

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 กองทัพอากาศจัดการฝึกซ้อมวิธีการป้องกันภัยทางอากาศ (การฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน) ประจำปี 2568 ที่สนามฝึกยุทธวิธีปืนต่อสู้อากาศยาน ชายฝั่งทะเลกองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พล.อ.ท.ขจรฤทธิ์ แก้วอำไพ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เป็นประธานในการตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมชมการฝึก พร้อมด้วยคณะนายทหารจากหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เข้าร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

การฝึกในครั้งนี้ เป็นการซักซ้อมการใช้อาวุธด้วยการยิงจรวดต่อต้านอากาศยานแบบ RBS-70 รุ่น MK-2 โดยใช้เครื่องบินเป้าบินพิสัยกลางเป็นเป้าหมาย เพื่อจำลองสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงมากที่สุด เพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติงานร่วมกับยุทโธปกรณ์จริง เสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ ตลอดจนหน่วยที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังเป็นการทดสอบและประเมินความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ ทั้งในด้านกำลังพล อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานร่วมกันภายใต้สถานการณ์จำลอง เพื่อให้สามารถตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการฝึกเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเจ้าหน้าที่สามารถยิงจรวด RBS-70 รุ่น MK-2 ทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ สะท้อนให้เห็นถึงความชำนาญและความพร้อมในการปฏิบัติงานจริงของกำลังพล

ภายหลังเสร็จสิ้นการฝึก พล.อ.ท.ขจรฤทธิ์ แก้วอำไพ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ยิงจรวดต่อสู้อากาศยานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมอบใบประกาศเกียรติคุณเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งให้โอวาทเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความพร้อมทางยุทธวิธี และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องน่านฟ้าของประเทศอย่างมั่นคง

การฝึกในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของกองทัพอากาศ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพในการรับมือภัยคุกคามทางอากาศ และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคตอย่างแท้จริง

ด้าน พล.อ.ท.ขจรฤทธิ์ เปิดเผยว่า การฝึกในวันนี้ เป็นการดำเนินการตามวงรอบการฝึกประจำปีของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ดำเนินการโดยกรมทหารต่อสู้อากาศยาน หน่วยที่มีหน้าที่หลักในการป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพอากาศ การฝึกในลักษณะนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อทดสอบสมรรถภาพของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ให้สามารถตอบสนองต่อภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ ผลการฝึกในวันนี้ก็เป็นไปตามแผนทุกอย่าง ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกนายสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างแม่นยำและมีความพร้อมเต็มที่ ผมขอยืนยันว่ากองทัพอากาศให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการฝึกซ้อมและการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากร ยุทโธปกรณ์ หรือการวางแผนยุทธศาสตร์ เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที สิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ผมขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า กองทัพอากาศของเรามีความพร้อม 100% ในการปกป้องน่านฟ้าของชาติ เราใช้ทรัพยากรทุกอย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

กรมการท่องเที่ยว ติวเข้มผู้ประกอบการ หวังผลักดันประจวบฯ สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก

กรมการท่องเที่ยว ติวเข้มผู้ประกอบการ หวังผลักดันประจวบฯ สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “Relaxation Wrapped in Thai Warmth” ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness สู่ระดับโลก ประตูสู่หัวหิน เมืองแห่งสุขภาวะ ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ศก 126 โรงแรมวรบุระหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา จ.ประจวบฯ โดยมี น.ส.วรธีรา สุวรรณศร ผู้อำนวยการกองพัฒนาบริการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ และผู้ประกอบการจากโรงแรมต่างๆ กว่า 40 คน ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ กรมการท่องเที่ยวได้เชิญนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครหัวหิน นายกรด โรจนเสถียร ประธานคณะอนุกรรมการธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ หอการค้าไทย / ที่ปรึกษาประธานบริหารชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์รีสอร์ท มาเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ Hua Hin : A Leading Wellness Destination เจาะลึกจุดแข็งของหัวหิน ในฐานะเมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอเฟคลิ้งค์ คอนซัลติ้งกรุ๊ป จำกัด บรรยายหัวข้อ Wellness Framework & Visioning วางรากฐานแนวคิด Wellness สำหรับธุรกิจยุคใหม่, ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอเฟคลิ้งค์ คอนซัลติ้งกรุ๊ป จำกัด และทีมวิทยากร บรรยายหัวข้อ Hua Hin’s Unique DNA ค้นหาอัตลักษณ์ความโดดเด่นแห่งเมืองหัวหิน, น.ส.ปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต บริษัท บารามีซี่ แล็บ จำกัด ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอเฟคลิ้งค์ คอนซัลติ้งกรุ๊ป จำกัด และทีมวิทยากร บรรยายหัวข้อ Brand Positioning Workshop สร้างจุดยืนให้แบรนด์ เติบโตด้วยคุณค่า, น.ส.ปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต บริษัท บารามีซี่ แล็บ จำกัด ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพอเฟคลิ้งค์ คอนซัลติ้งกรุ๊ป จำกัด และทีมวิทยากร บรรยายหัวข้อ Bringing the Brand to Life ลงมือออกแบบ“ประสบการณ์”ที่ลูกค้าจะไม่มีวันลืม

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เพื่อรองรับกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวเป้าหมายที่มีคุณภาพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) รายงานว่าช่วง 9 เดือนแรกของปี การท่องเที่ยวระหว่างประเทศมีการเติบโต 15 % แต่การเพิ่มขึ้น ก็มาพร้อมกับสถานการณ์แข่งขันของอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น โดยสิ่งที่แหล่งท่องเที่ยวในทุกประเทศต้องการ คือนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศของตนเอง

“แม้ว่านักท่องเที่ยวคุณภาพสูง จะเป็นกลุ่มที่มีจำนวนน้อย แต่มีแนวโน้มใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยวสูง เลือกซื้อสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ คำนึงถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและไม่สร้างผลกระทบทางลบให้กับแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ จึงเป็นกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป จังหวัดประจวบฯ มีจุดแข็งเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธิ์ อาหารทะเลที่สด สะอาด คุณภาพดี รวมถึงมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอำเภอหัวหินที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวมาเยือนตลอดปี การอบรมในวันนี้ เป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกภาคส่วนจะได้แสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่ และนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพให้จังหวัดประจวบฯ เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพต่อไปในอนาคต” นายสิทธิชัย กล่าวตอนท้าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

“กมล แก้วเทศ”ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองประจวบนำทีมขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ไม่หวั่นหากนับใหม่

“กมล แก้วเทศ”ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองประจวบนำทีมขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ไม่หวั่นหากนับใหม่

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายกมล แก้วเทศ ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์สมัยที่ 2 นำทีมสมาชิกทีมประจวบพัฒนาขึ้นรถ 6 ล้อ แห่ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคะแนนเสียงไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ที่มอบคะแนนเสียงให้เป็นนายกฯ และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ในทีมของตนให้ได้กลับเข้าสู่สภาอีกครั้งเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงรวม 3,488 คะแนน ซึ่งมากกว่านางปัทมา ไกรทอง ผู้สมัครนายกฯ จากทีมพลังบ้านเกิด เพียง 2 คะแนน อีกทั้งทีมประจวบพัฒนาของนายกมล แก้วเทศ มีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลที่ผ่านการเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภาเทศบาลเมืองประจวบฯ ได้ถึง 13 ที่นั่ง

ด้านนายกมล แก้วเทศ ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเลือกทีมของตนเข้ามาบริหารเทศบาลอีกครั้ง โดยได้ทีมสมาชิกเข้าสภาถึง 13 คน ซึ่งในสมัยที่แล้วได้ทีมสมาชิกเพียง 6 คน ในส่วนที่ตนได้คะแนนมากกว่าทีมคู่แข่งเพียง 2 คะแนนนั้น ตนเองไม่ได้มองว่าคะแนนนิยมของตนเองลดลงแต่อย่างใด เพราะว่าถ้าหากคะแนนนิยมลดลง คงไม่ได้ทีมสมาชิกหน้าใหม่เพิ่มเข้าสู่สภาถึง 13 คน ถ้าหากทีมคู่แข่งมีการไปร้องต่อ กกต.จังหวัด เพื่อขอให้พิจารณานับคะแนนใหม่นั้น ตนไม่ได้วิตกกังวลและหวั่นใจอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งตนยอมรับการตัดสินใจ การทำงานของ กกต. เพราะระเบียบทุกอย่างเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด และหลังจากนี้ถ้าหากตนกลับเข้าไปทำงานในสภา ก็จะไปสานต่อโครงการที่ค้างไว้หลายๆ โครงการให้แล้วเสร็จ และมีโครงการใหม่ที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาอีกหลายโครงการเช่นกัน

นางรัชนีวรรณ พรมเล็ก ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า จากประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่ต่างกันเพียง 1 คะแนน ต่อมาภายหลังต่างกัน 2 คะแนนนั้น ขอยืนยันว่าในช่วงแรกคะแนนที่มีการแชร์ส่งต่อในโลกออนไลน์ ไม่ได้ออกไปจากเทศบาลแต่อย่างใด แต่น่าจะเกิดจากผู้สังเกตการณ์ของทีมผู้ลงแข่งขันได้มีการถ่ายภาพคะแนนจากป้ายของแต่ละหน่วย ส่งต่อเพื่อรวบรวมผล แต่บางหน่วยมีปัญหาและมีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งคาดว่าผลอัพเดทล่าสุดที่มีการปรับแก้นับคะแนนใหม่แล้วอาจจะไม่ได้ส่งเข้าไปในกลุ่มของนักการเมืองแต่ละทีม ผลที่ออกมาจึงต่างกัน 1 คะแนน และเมื่อหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยทั้ง 3 เขตได้นำหีบเลือกตั้งและผลของการนับคะแนนมาส่งให้กับทางเทศบาลแล้ว และเทศบาลได้นับรวมสรุปยอดคะแนน ปรากฏว่าต่างกัน 2 คะแนน ไม่ใช่ 1 คะแนน ตามที่ผู้สังเกตการณ์ของทีมพรรคการเมืองสรุป ซึ่งในส่วนของทีมนักการเมืองที่ได้คะแนนน้อยกว่า หากมีข้อโต้แย้งสงสัยและเป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่ทาง กกต.กำหนด สามารถใช้สิทธิ์คัดค้าน หรือร้องขอให้มีการนับคะแนนใหม่ได้ โดยต้องไปยื่นคำร้องกับ กกต.จังหวัดพร้อมกับเหตุผล หลังจากนั้น กกต.จังหวัดจะส่งเรื่องให้ กกต.กลางเป็นผู้พิจารณา หาก กกต.กลางเห็นชอบให้มีการนับคะแนนใหม่ ทาง กกต.ของเทศบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามที่ กกต.กลาง และ กกต.จังหวัดกำหนด.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำนักวิ่ง‘RUN KHAN DO #2’สนามแรกนับพันคน

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำนักวิ่ง‘RUN KHAN DO #2’สนามแรกนับพันคน

ช่วงเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมวิ่งประจวบคีรีขันธ์‘วิ่งกันดุ๊ RUN KHAN DO #2’สนามที่ 1 อำเภอปราณบุรี มีนายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายประทีป บริบูรณ์รัตน์, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ.วีระชัย ศิระสากร รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยนายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอปราณบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยนักวิ่งและนักท่องเที่ยวกว่า 2,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมที่ลาน 24 ไร่ หมู่ 2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ

ตามที่จังหวัดประจวบฯ กำหนดกิจกรรมวิ่ง Run Khan Do II “วิ่งกันดุ๊ สอง” ในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ และระดับจังหวัด รวม 9 ครั้ง โดยกำหนดให้อำเภอปราณบุรีจัดกิจกรรม Run Khan Do II “วิ่งกันดุ๊ 2” ในวันนี้เป็นสนามที่ 1 เพื่อขับเคลื่อนโยบายจังหวัดประจวบฯ รักษ์สุขภาพ ให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายแข็งแรง และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ (Wellness Economy) ในระดับอำเภอ ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด “Next Move Prachuap ประจวบต้องไปต่อ” รวมทั้งจังหวัดรักษ์สุขภาพ ที่จะนำไปสู่การสร้าง ”สุขภาพที่ดี วิถีคนประจวบ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสร้างสุขภาพโดยการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพในระดับชุมชน อำเภอและจังหวัด ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ในระดับอำเภอ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่ง ระยะทาง 6.2 กิโลเมตร มีการออกร้าน 23 ร้าน และมีรางวัล 6 รางวัล

ทั้งนี้กิจกรรมวิ่งประจวบคีรีขันธ์ Run Khan Do II“วิ่ง กัน ดุ๊ 2”จะจัดขึ้นทุกวันพุธของสัปดาห์ ทั้งหมด 9 ครั้ง แบ่งออกเป็นระดับอำเภอ 8 ครั้ง และวิ่งระดับจังหวัด 1 ครั้ง สนามแรกที่ปราณบุรี วันที่ 14 พฤษภาคม สนาม 2 ทับสะแก วันที่ 21 พฤษภาคม สนาม 3 หัวหิน วันที่ 28 พฤษภาตม สนาม 4 เมืองประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 4 มิถุนายน สนาม 5 สามร้อยยอด วันที่ 11 มิถุนายน สนาม 6 บางสะพาน วันที่ 18 มิถุนายน สนาม 7 กุยบุรี วันที่ 25 มิถุนายน สนาม 8 บางสะพานน้อย วันที่ 2 กรกฎาคม และสนามระดับจังหวัด อ.เมืองประจวบฯ วันที่ 9 กรกฎาคม.