Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการเกษตรโยธินอัจฉริยะ สนองแนวพระราชดำริ กรมสมเด็จพระเทพฯ สู่การปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดโครงการเกษตรโยธินอัจฉริยะ สนองแนวพระราชดำริ กรมสมเด็จพระเทพฯ สู่การปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร

วันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการเกษตรโยธินอัจฉริยะ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องนวลจันทร์ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุวัฒน์ สะมะตะ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ นายวราวุธ พยัคฆพงษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ นายอำนาจ ป่านแก้ว ผู้จัดการสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ โรงเรียนในจังหวัดประจวบฯ จำนวน 73 แห่ง เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” จังหวัดประจวบฯ จำนวน 8 แห่ง และจากภาคีเครือข่าย จำนวน 2 แห่ง รวม 83 แห่ง เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการ จัดขึ้นเพื่อสนองต่อแนวพระราชดำริตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามกิจกรรมทางนี้มีผลผู้คนรักกัน พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 10 เครื่อง จากการจัดแข่งกอล์ฟการกุศลที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน มูลค่า 209,000 บาท ให้กับศูนย์ปฏิบัติการ AI อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ก่อนนำคณะนั่งรถรางเยี่ยมชมโครงการเกษตรโยธินอัจฉริยะ ภายในบริเวณอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้าอีกด้วย

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า โครงการเกษตรโยธินอัจฉริยะ เป็นห้องเรียนเสริมการศึกษาเรื่องของการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยี ใช้โซลาร์เซลล์ ใช้โรงเรือน เข้ามาใช้ในการเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้ ที่เป็นประโยชน์และเพิ่มมูลค่า ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพการเกษตรของจังหวัด โดยการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและองค์ความรู้สมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ควบคู่กับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร และที่สำคัญคือการพัฒนาไปสู่การเกษตรอัจฉริยะที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายของจังหวัด ประจวบฯ ต้องไปต่อ (Next move ) และเป็นการสนองต่อแนวพระราชดำริตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการสนับสนุนโรงเรือนเกษตรโยธาอัจฉริยะแก่สถานศึกษาใน จังหวัดประจวบฯ และเครือข่ายศูนย์เรียนรู้พัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” จังหวัดประจวบฯ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและภาคประชาชน ในการขับเคลื่อนเกษตรกรของจังหวัดให้มีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ตอบสนองต่อความต้องการด้านอาหารปลอดภัยและมาตรฐานสากล.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”เนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2568 และเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยมี น.ส.ภลดา อิศราภรณ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล, นายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายประทีป บริบูรณ์รัตน์, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.ต.ท.สัญญา เย็นใส อัยการจังหวัด นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัด นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอเมืองฯ นายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงานทุกภาคส่วน เหล่ากาชาดจังหวัด ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิศาลหลักเมืองประจวบฯ เครือข่ายกลุ่มสตรีหญิงอาสา นักเรียนค่ายวิทยาศาสตร์ นักศึกษาและประชาชน เข้าร่วม ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ บ้านหว้ากอ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ

ภายหลังแต่ละหน่วยงานได้วางพานพุ่มทอง – พุ่มเงิน ถวายราชสักการะ ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานได้ขึ้นวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และกล่าวคำกล่าวถวายราชสดุดี ใจความว่า“ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายตุลาการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และพสกนิกรชาวจังหวัดประจวบศรีขันธ์ ที่ได้มาพร้อมกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ขอน้อมรำลึกถวายราชสดุดี เนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติฯ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาตั้งค่ายที่ประทับ ณ บ้านหว้ากอ พร้อมด้วยข้าราชบริพารและชาวต่างประเทศจำนวนมาก เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคา ที่ทรงคำนวณล่วงหน้าด้วยพระองค์เองอย่างถูกต้อง และวันเวลาดังกล่าว คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 เวลา 4 โมงเช้า กับ 16 นาที เหตุการณ์สุริยุปราคาได้ปรากฏขึ้น ตรงตามที่ได้ทรงคำนวณไว้ทุกประการ นับเป็นที่น่ามหัศจรรย์และประจักษ์ชัดในพระปรีชาญาณ ทางดาราศาสตร์และการคำนวนชั้นสูง เป็นที่ยอมรับและชื่นชมในหมู่คณะทูตานุทูต นักดาราศาสตร์ทั้งหลายที่ได้มาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก

จากเหตุการณ์ที่สำคัญในครั้งนั้น และด้วยพระปรีชาญาญาณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งในทางดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ รัฐบาลไทยจึงได้ประกาศและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ให้ทรงเป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย และให้ถือเอาวันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และวันนี้ ในทุกๆ ปีที่ผ่านมา หน่วยงานราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า สถาบันการศึกษา ต่างพร้อมใจกันจัดงานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยขึ้นในที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ในโอกาสวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติฯ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย หากพระองค์เสด็จดำรง ณ สรวงสวรรค์ชั้นใด ขอได้โปรดทรงทราบด้วยทิพยญาณ ถึงความสุจริต กตัญญูกตเวทีที่ปวงข้าพระพุทธเจ้ามีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทั้งขออำนาจบุญญานุภาพพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ทรงโปรดดลบันดาล ให้เหล่าอาณาประชาราษฎร์และผืนแผ่นดินไทย ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ผาสุกสวัสดิมงคล ตราบนิรันดร์เทอญ”

ต่อจากนั้น นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เปิดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2568 มีนายวราวุธ พยัคฆพงษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ กล่าวรายงาน ณ เวทีกลางจัดงานแสดงแสง สี เสียง เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรสุริยุปราคา ณ บ้านหว้ากอ เพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระอัจฉริยภาพพระองค์ท่าน

นายวราวุธ พยัคฆพงษ์ ผู้อำนวยการ อุทยานฯ พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ กล่าวว่า การจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และสร้างระบบคิดปลูกจิตวิทยาศาสตร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ทั้งในและนอกระบบโรงเรียนและประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ สิ่งแวดล้อม สำหรับการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติประจำปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 สิงหาคม 2568 ภายในงานประกอบด้วยการจัดกิจกรรมแรลลี่วิชาการ นิทรรศการจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา หน่วยงานเครือข่ายในจังหวัด การแข่งขันยิงจรวดขวดน้ำ การประกวดวาดภาพทางวิทยาศาสตร์ การแข่งขันดวลจุดโทษ และกิจกรรมทักษะทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ ณ หว้ากอ ครั้งที่ 41 “ตามรอยพระยุคลบาทพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า เมื่อย้อนรำลึกไปเมื่อ 157 ปีที่แล้ว เป็นสถานที่ซึ่งองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จมาประทับแรม เพื่อทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 ตามที่ได้ทรงคำนวณและพยากรณ์ล่วงหน้าด้วยพระองค์เองอย่างถูกต้องแม่นยำ จากเหตุการณ์สำคัญในครั้งนั้น และด้วยพระปรีชาสามารถแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะรัฐมนตรีจึงได้ประกาศและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านให้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และถือเอาวันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

ทั้งนี้สำหรับกิจกรรมภายในงานภาคกลางวัน งดเว้นค่าเข้าชมเฉพาะครู นักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศ ส่วนภาคกลางคืนชมฟรีตลอดงาน โดยกิจกรรมภาคกลางวัน การแข่งขันยิงจรวดขวดน้ำ ประเภทแม่นยำ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา – มัยมศึกษา และระดับนักศึกษา สกร. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแรลลี่วิชาการ โดยจะมีกิจกรรมดังนี้ 1.กิจกรรมจากแต่ละหน่วยงานที่มาร่วมจัดนิทรรศการ อาทิเช่น ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ศูนย์วิทยาศาสตร์นครราชสีมา ศูนย์วิทยาศาสตร์พิษณุโลก สำนักงานพลังงานจังหวัด ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน จ.ชุมพร ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทับสะแก และสำนักงานทรัพยากรทางชายฝั่ง จ.เพชรบุรี 2.กิจกรรมนวัตกรรมภูมิปัญญา เป็นกิจกรรมเวิร์คช็อป ที่เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นใน 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบฯ และชุมพร ทำสบู่และประกอบอาหารยำสาหร่าย 3.กิจกรรมลานละเล่น ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย จำนวน 3 กิจกรรม คือลานประลอง ลานบอร์ดเกมส์ และลาน Ozobot (โอโซบอต) และกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ ณ หว้ากอ ครั้งที่ 41

สำหรับในภาคกลางคืน จะมีการแสง สี เสียง ตั้งแต่วันที่ 18 – 21 สิงหาคม จำนวน 4 คืน เริ่มเวลา 19 30 น. เป็นต้นไป พบกับความตื่นตาตื่นใจ กับชุดการแสดงในเรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรสุริยุปราคาพร้อมด้วยทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ และความเชื่อเรื่องการเกิดสุริยุปราคาของผู้คนในสมัยนั้น บรรยากาศความโศกเศร้าของประชาชน ขณะเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
นอกจากนั้นนำเสนอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับรัชกาลที่ 4 พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระปรีชาญาณ เพื่อซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเรื่องราวทั้งหมดเป็น 3 องก์ ดังนี้ องก์ที่ 1 พระราชประวัติ องก์ที่ 2 สุริยุปราคาบ้านหว้ากอ องก์ที่ 3 พระมหากษัตริย์กับหว้ากอ

ส่วนการแสดงมหรสพ คืนวันที่ 18 สิงหาคม พบกับคณะลิเก นพรัตน์ ไม้หอม คืนวันที่ 19 สิงหาคม พบกับรุ่ง สุริยา, วงดนตรีชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนธนาคารออมสิน คืนวันที่ 20 สิงหาคม พบกับอ๊อด โฟร์เอส และคืนวันที่ 21 สิงหาคม พบกับสิทธิพร สุนทรพจน์, วงดนตรีชิงช้าสวรรค์ โรงเรียนธนาคารออมสิน.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ทช. ยันโครงการติดตั้งหัวหาดเทียมฯ หาดปราณบุรี ใช้แนวทางธรรมชาติแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ประชาชน

ทช. ยันโครงการติดตั้งหัวหาดเทียมฯ หาดปราณบุรี ใช้แนวทางธรรมชาติแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ประชาชน

วันที่ 16 สิงหาคม 2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคประชาชน อภิปรายถึงโครงการติดตั้งหัวหาดเทียม ผสมผสานแนวทางการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่ผ่านมา ว่ามีความซ้ำซ้อนกับโครงการแนวกันคลื่นที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ และเลี่ยงการทำ EIA นั้น ในข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน เนื่องจากพื้นที่ ที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นพื้นที่บริเวณหาดปราณบุรี อยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ทำให้ชายหาดเสียหาย สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากชายหาดได้ จึงต้องมีการฟื้นฟูชายหาดที่มีความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีในพื้นที่ได้อีกครั้งอย่างยั่งยืน

เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ประกอบกับลักษณะของพื้นที่แล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เห็นว่าการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยการก่อสร้างแนวกันคลื่นด้วยการใช้โครงสร้างแข็งในรูปแบบต่างๆ มักก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียง และมีความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรง และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายส่งเสริมให้พิจารณาใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยโครงสร้างอ่อน หรือการใช้แนวคิดธรรมชาติเป็นฐาน หรือที่เรียกว่า Nature-based solution แม้ว่าจะใช้เวลาในการเห็นผล แต่ก็ไม่นานมาก ทั้งยังจะช่วยฟื้นฟูและรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศตามสภาพธรรมชาติให้กลับคืนมาได้ และที่สำคัญคือช่วยป้องกันและลดผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน ลดผลกระทบที่จะเกิดต่อพื้นที่ข้างเคียงที่จะทำให้เกิดการส่งต่อปัญหาไม่สิ้นสุด ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความลาดชันของชายหาด ลักษณะคลื่นและความรุนแรงของคลื่นแล้ว พื้นที่หาดปราณบุรีมีลักษณะพื้นที่ที่เหมาะสมและมีศักยภาพที่จะสามารถฟื้นฟูชายหาดโดยใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยแนวคิดธรรมชาตินี้ได้

โดยโครงการติดตั้งหัวหาดเทียม ผสมผสานแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเป็นโครงการต่อเนื่อง 2 ปี คือปี 2569 ถึงปี 2570 การฟื้นฟูจะประกอบด้วยหลายส่วนในพื้นที่ระยะทาง 500 เมตร ตั้งแต่การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดทราย ด้วยการเติมทรายและการสร้างเนินทรายชายฝั่ง การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดหิน ด้วยการใช้องค์ประกอบของโครงสร้างที่มีผลกระทบน้อย การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งพื้นที่ใต้น้ำ ด้วยการทำการฟื้นฟูสันดอนทราย และการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายหาด ด้วยการปลูกต้นไม้ป่าชายหาดและพืชคลุมดินเพื่อรักษาเสถียรภาพของชายฝั่ง ซึ่งตามแนวทางในการจัดทำ EIA โครงการในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นโครงการที่ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำ EIA จึงไม่ใช่เป็นการเลี่ยงที่จะไม่ทำ EIA แต่ประการใด

ในส่วนของพื้นที่ ที่จะดำเนินโครงการนั้น เป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ติดต่อกันกับเทศบาลตำบลปราณบุรี และพื้นที่เทศบาลตำบลปราณบุรีไม่ได้ติดกับชายหาด โครงการนี้จึงไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเทศบาลตำบลปราณบุรี แต่เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายหาดที่ได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นได้ ให้สามารถกลับมามีทรัพยากรที่สมบูรณ์ให้ได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ต่อไปอย่างยั่งยืน.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

หัวหินจัดเทศกาลอาหาร พบกับเมนูดังจากโรงแรม 5 ดาว และอาหารพื้นถิ่นมากมาย

หัวหินจัดเทศกาลอาหาร พบกับเมนูดังจากโรงแรม 5 ดาว และอาหารพื้นถิ่นมากมาย

ช่วงเย็นวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีช รีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน จ.ประจวบฯ นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน น.ส.วรกานต์ ถาวร รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายบุญยืน พูลลาภ ประธานชมรมเชฟชะอำ/หัวหิน นายวรพจน์ พฤกษ์วิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเดอะเกษตร หัวหิน และนายสุพจน์ ภู่ตะวนิชย์ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มตราช้าง อ.หัวหิน ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน“เทศกาลอาหารหัวหิน 2025 Hua Hin Food Fest on the beach 2025”ระหว่างวันที่ 22 – 24 สิงหาคมนี้ ที่บริเวณหาดหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงฤดูฝน นำเสนอ Soft Power ประสบการณ์ด้านอาหาร และสื่อสารภาพลักษณ์การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารของหัวหิน พร้อมกันนี้ได้ร่วม MOU การจัดงานในครั้งนี้ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้นร่วมเปิดตัวเมนูอาหารจานเด็ด“กุ้งผัดพริกเกลือ”จากชมรมเชฟชะอำ/หัวหิน ที่จะแจกให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมในวันเปิดงานด้วย

สำนักงานเทศบาลนครหัวหิน ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดงานเทศกาลอาหารหัวหินมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรฐกิจช่วง Green Season โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาร่วม“ชม ช็อป ชิม แชะ”สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกระจายสู่ท้องถิ่น ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารท้องถิ่น เครื่องดื่ม และอาหารชื่อดังจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ในพื้นที่หัวหิน – ชะอำ ในราคาพิเศษสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว กว่า 100 บูธ การแข่งขันแกะสลักผักและผลไม้ การแข่งขันการประกอบอาหาร การประกวดตกแต่งบูธสวยงาม การประกวดตกแต่งจานอาหาร การแข่งขัน “ส้มตำลีลา” การแข่งขันบาร์เทนเดอร์โชว์สุดมันส์ กิจกรรมการเรียนรู้การผสมเครื่องดื่ม กิจกรรมเวิร์กช็อปลาน Art & Craft ให้นักท่องเที่ยวได้เพ้นท์กระเป๋าผ้า ฟรี ! เก็บเป็นที่ระลึก การโชว์บอลลูนหลากสีสันสุดโรแมนติกริมหาด โชว์น้ำพุเริงระบำประกอบแสงสีเสียงสุดตระการตา โชว์พลุสุดอลังการ การประดับประดาไฟอย่างอลังการกว่า 1 ล้านดวง เพื่อเป็นจุดเช็คอินถ่ายภาพเก็บภาพความประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยว

พบกับกิจกรรมบันเทิงบนเวทีทุกค่ำคืน วันที่ 22 ส.ค. พบกับ สิงโต นำโชค วันที่ 23 ส.ค. The Richman Toy วันที่ 24 ส.ค. อ๊อฟ ปองศักดิ์ ที่จะมาสร้างความสุขเสียงเพลงริมหาด โดยเฉพาะไฮไลท์วันเปิดงานที่ 22 ส.ค.นี้ พบกับอาหารจานเด็ด“กุ้งผัดพริกเกลือ”88 กก. 88 กระทะ สื่อถึงยกฐานะเทศบาลนครหัวหินจากอดีตจนถึงปัจจุบันครบ 88 ปี โดยเชฟรับเชิญจากโรงแรมต่างๆ มาประกอบอาหารแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวในงานได้ลองลิ้มรส จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวหัวหิน และเข้าชมงานตามวันดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หลายหน่วยงาน ร่วมภารกิจจิตอาสา เสริมสร้างคุณภาพชีวิตนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล อำเภอหัวหิน

หลายหน่วยงาน ร่วมภารกิจจิตอาสา เสริมสร้างคุณภาพชีวิตนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล อำเภอหัวหิน

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 พลตรี กรกานต์ นาเวชวนิชกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 พร้อมด้วยนายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน/นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน, นายสมชาย กระเเจะเจิม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ, น.ส.วรัญญ์รัตน์ ทาหะพรหม เลขาธิการและกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ, นายวรรณวุฒิ แตงอวบ ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1, นายชนะชัย แพงพา, นายบุญเกิด แก้วใน ภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา ร่วมกันลงพื้นที่โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการดำเนินการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำ – ห้องสุขา ของหอพักนักเรียนหญิงที่อยู่บ้านพักในพื้นที่ห่างไกลของโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ พร้อมทั้งมอบขวัญกำลังใจและเครื่องยังชีพ เครื่องดื่มให้กับชุดช่างจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 15 และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร, ไข่ไก่ ,อาหารกึ่งสำเร็จรูป และน้ำดื่ม ให้กับนักเรียนหอพักชาย และหญิง จำนวนรวมทั้งสิ้น 74 รายโดยมีนางอรเยาว์ อาจหาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ พร้อมคณะครูนักเรียนและกรรมการศึกษาให้การต้อนรับ

ในการนี้มีหลายหน่วยงานร่วมสนับสนุนมากมาย อาทิ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวนหนึ่ง, นายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอหัวหิน สนับสนุนข้าวสาร 80 ถุงๆ ละ 5 กิโลกรัม รวม 400 กิโลกรัม, กิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างห้องน้ำ มูลค่า 25,000 บาท และมอบทุนการศึกษา 30 ทุนๆ ละ 1,000 บาท รวม 30,000 บาท, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ และภาคีเครือข่ายสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับชุดช่างจิตอาสา มทบ.15 และนักเรียนหอพัก รวมทั้งนักธุรกิจในอำเภอหัวหิน ร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเทพื้นลานซักล้างเพิ่มเติมด้วย.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ นำพสกนิกรชาวประจวบฯ ทำบุญใส่บาตร ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ

ผู้ว่าฯ นำพสกนิกรชาวประจวบฯ ทำบุญใส่บาตร ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ

วันที่ 12 สิงหาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยพญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย มีนายสินาทร โอ่เอี่ยม, นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าและพสกนิกรชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง โดยมีพระเมธีคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 94 รูป มารับบิณฑบาต

จากนั้น ได้ร่วมกันปล่อยพันธ์ุสัตว์น้ำ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งเป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ และเพิ่มศักยภาพของแหล่งทำการประมงให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์น้ำให้เป็นแหล่งน้ำที่เอื้อต่อการทำกินและเป็นแหล่งอาหารโปรตีนของชุมชน ตลอดจนทำให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งด้านอาชีพ การประมง ก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง

ส่วนที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด นายวราวุฒิ จิรประภานนท์ นายอำเภอสามร้อยยอด เป็นประธานประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยมีคณะผู้บริหารเทศบาล, องค์การบริหารส่วนตำบล ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะครูและประชาชน เข้าร่วมพิธี.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ/ฐิติชญา แสงสว่าง…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

พ่วงชนท้ายรถติดไฟแดง 4 คันรวด คนขับดับคาที่ รถเก๋งถูกอัดพังยับ คนขับไม่มีรอยข่วน โชว์หลวงปู่ทวดและเสด็จเตี่ย

พ่วงชนท้ายรถติดไฟแดง 4 คันรวด คนขับดับคาที่ รถเก๋งถูกอัดพังยับ คนขับไม่มีรอยข่วน โชว์หลวงปู่ทวดและเสด็จเตี่ย

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม 2568 พ.ต.ท.สมพล สุภาพงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุชนท้ายกันหลายราย บริเวณสี่แยกไฟแดงกุยบุรี ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ จึงพร้อมด้วยตำรวจทางหลวง กู้ภัยตำรวจทางหลวง จุดกุยบุรี กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี ร่วมตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงบรรทุกไม้ หัวลากสีขาว ทะเบียน 71 – 0069 เพชรบุรี ชนอัดติดท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ด้านหลังบรรทุกมะพร้าวปอกมาเต็มคัน สภาพด้านหน้ารถพ่วงอัดติดท้ายสิบล้อพังยับ ภายในห้องโดยสารพบคนขับเสียชีวิตคาที่ ที่ด้านข้างของรถบรรทุกมะพร้าว ยังมีรถกระบะสี่ล้อแบบรั้ว บรรทุกทุเรียนมา ถูกชนเบียดติดกันอยู่ โดยไม่มีคนเจ็บแต่อย่างใด

ด้วยความรุนแรงจากการชน ทำให้รถพ่วงอัดติดคาท้ายรถบรรทุกมะพร้าว ไม่สามารถดึกออกด้วยรถยก จึงต้องประสานรถเครนมาช่วย และเมื่อดึงรถออกได้ ต้องใช้รถยกลากมายังข้างทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่าง มางัดซากรถเพื่อนำร่างคนขับออกมา ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 3 ชั่วโมง เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานของผู้เสียชีวิต

นอกจากรถทั้งสามคันนี้แล้ว ยังมีรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน 1 ขศ 4756 กรุงเทพฯ ที่จอดติดไฟแดงและถูกชนอัดจนรถพังรอบคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำมาจอดที่ สภ.กุยบุรี ก่อนหน้าแล้ว จากการสอบถามนายนิค คนขับรถคันดังกล่าว ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เล่าว่าตนขับรถมาจอดติดไฟแดง จากนั้นได้ยินเสียงดังสนั่นท้ายรถ รถของตนก็กระเด็นไปชนท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จอดด้านหน้าจนพังดังที่เห็น แต่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนห้อยคอได้แก่หลวงปู่ทวดและเหรียญเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ ตะกรุดหนังเสือ และหางไถที่แม่ของตนให้มา ช่วยคุ้มครองให้ตนปลอดภัยดังกล่าว พร้อมกับโชว์พระที่ห้อยคอด้วย

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ คาดว่าคนขับรถพ่วงน่าจะอาจเกิดอาการหลับใน หรือไม่ก็ขับมาเร็วจนไม่ทันสังเกตว่ามีรถติดไฟแดง จึงชนเข้าอย่างจัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำพสกนิกรจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระพันปีหลวง

ผู้ว่าฯ ประจวบฯ นำพสกนิกรจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระพันปีหลวง

วันที่ 12 สิงหาคม 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ที่มณฑลพิธีหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบฯ มี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายสินาทร โอ่เอี่ยม นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมพิธี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประกอบพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ วางพานพุ่มเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นนำพสกนิกรทุกภาคส่วนพร้อมใจจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวถวายถวายราชสดุดีน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีพระแม่ไทย จบแล้วเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของราษฎรและประเทศชาติ ครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้งการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม การส่งเสริมอาชีพและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โครงการส่งเสริมอาชีพด้านศิลปหัตถกรรมต่างๆ เช่น การทอผ้าไหม การทำเครื่องเงิน เครื่องทอง เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่ราษฎร ทรงเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์และส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักและนิยมทั้งในและต่างประเทศ ทรงจัดตั้งมูลนิธิสายใจไทย เพื่อช่วยเหลือทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์พระราชทาน เพื่อออกไปให้บริการตรวจรักษาพยาบาลแก่ราษฎรในพื้นที่ห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ป่า ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะด้านการศึกษาและโภชนาการ เป็นต้น.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

หัวหินเตรียมจัดงานสืบสานประเพณี“ส่งเคราะห์ทางทะเล”ทำบุญให้บรรพบุรุษ 1 ปีมีครั้งเดียว

หัวหินเตรียมจัดงานสืบสานประเพณี“ส่งเคราะห์ทางทะเล”ทำบุญให้บรรพบุรุษ 1 ปีมีครั้งเดียว

วันที่ 12 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการชุมชนชาวประมงหัวหิน ร่วมกับชุมชนชายทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ กำหนดจัดงานประเพณี“ส่งเคราะห์ทางทะเล”และทำบุญศาลเจ้าแม่ทับทิม หัวหิน ประจำปี 2568 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวหัวหินที่จัดขึ้นในช่วงเดือนสิบ (กันยายน) เป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมาเกือบ 20 ปีแล้ว ที่บริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม (ข้างโรงแรมฮิลตัน หัวหิน) ที่ประชาชนทั่วไปให้ความเคารพบูชา เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วและนำเถ้าอังคารมาลอยที่บริเวณทะเลหัวหิน แต่ไม่เคยได้กลับมาดูแลกราบไหว้ พร้อมทั้งทำบุญสะเดาะเคราะห์ ปล่อยตุ๊กตาส่งเคราะห์ทางทะเลเพื่อลดเคราะห์กรรม สิ่งอัปมงคลให้เบาบางลง เสริมบารมีบุญญาธิการชีวิตความเป็นอยู่จะได้ดีขึ้น

โดยช่วงเช้าวันที่ 7 กันยายน จะมีพิธีบวงสรวงเจ้าทะเลมหาสมุทร และทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะนำเรือเล็กของชาวประมงที่ใช้ออกหาปลา มาตบแต่งให้สวยงาม พร้อมทั้งนำตุ๊กตาปูนปั้นหุ่นหญิงชาย น้องจุก น้องแกละ ประมาณ 4,000 ตัว ที่ทาสีสดใสเตรียมไว้ให้ประชาชนแล้วแต่จิตศรัทธาบริจาคทำบุญ เขียนชื่อตนเองหรือญาติมิตรลงกระดาษติดกับตัวตุ๊กตา อธิษฐานขอให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆ พ้นไปนำไปวางไว้ในวิมานเรือส่งเคราะห์ทางทะเล พร้อมใจกันลากเรือทั้งลำออกสู่ทะเลบริเวณหินโคร่งที่เป็นแหล่งปลาชุกชุม ก่อนปล่อยวิมานที่บรรจุตุ๊กตาปูนปั้นหุ่นหญิงชาย น้องจุก น้องแกละ ลงสู่ก้นทะเลกลายเป็นแหล่งปะการังหากินของสัตว์ทะเลต่อไป พร้อมกันนี้ขอเชิญผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวร่วมชมงานและร่วมทำบุญเปลี่ยนตุ๊กตาได้ที่บริเวณจุดด้านหน้าวิหารหลวงพ่อนาค วัดหัวหิน ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 6 กันยายน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 14.00 น. เพื่อสืบสานประเพณีสำคัญของหัวหินให้คงอยู่สืบไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อำเภอหัวหิน จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระพันปีหลวง

อำเภอหัวหิน จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระพันปีหลวง

วันที่ 11 สิงหาคม 2568 นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา 12 สิงหาคม 2568 ที่ลานหน้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมีพระครูวิจิตรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดบุษยะบรรพต ประธานฝ่ายสงฆ์ พระพิศาลสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล และพระสงฆ์จำนวน 90 รูป พร้อมด้วยนายฑปกรณ์ สุววัชรานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพะเยา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน นางยุวนิตย์ ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู นักเรียนนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี

ทั้งนี้ อำเภอหัวหินร่วมกับคณะสงฆ์มหานิกายและธรรมยุต จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความกินดีอยู่ดีของพสกนิกร รวมทั้งเป็นการเสริมสิริมงคลต่อตนเอง ด้วยการน้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเป็นกรอบแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีสติเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปด้วยดี.