Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก

ประจวบฯ จัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก

วันที่ 26 มิถุนายน 2566 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก (26 มิถุนายน) ประจำปี 2566 ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ลูกเสือต้านยาเสพติด พลังมวลชน และประชาชน รวมทั้งสิ้นจำนวน 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมโดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดียิ่ง

นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ ได้อ่านสารเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก (26 มิถุนายน) และกล่าวนำคำปฏิญาณตนประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติดพร้อมกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตามมติประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อเดือนธันวาคม 2530 ได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับปี 2566 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ภายใต้กรอบแนวความคิด “รวมพลังไทย หยุดภัยยาเสพติด” ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้บูรณาการการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงาน/องค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร รวมถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนให้มีความเข้าใจและตระหนักถึงการให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล สมเด็จพระสังฆราช พระชนมายุ 96 พรรษา

ประจวบฯ ทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล สมเด็จพระสังฆราช พระชนมายุ 96 พรรษา

วันที่ 26 มิถุนายน 2566 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางฐิตยาภา เจริญเหรียญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ นำรองผู้ว่าราชการจังหวัด ศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและพสกนิกรชาวจังหวัดประจวบฯ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 97 รูป ถวายพระกุศลงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 8 รอบ 96 พรรษา ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบฯ โดยมีพระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ฝ่ายธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

พระประวัติสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 มงคลพระชันษา 96 ปี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยพระนามเต็มของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ คือ “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง สกลมหาสงฆปริณายก ตรีปิฎกธราจารย อัมพราภิธานสังฆวิสุต ปาพจนุตตมสาสนโสภณ กิตตินิรมลคุรุฐานียบัณฑิต วชิราลงกรณนริศรปสันนาภิสิตประกาศ วิสารทนาถธรรมทูตาภิวุฒ ทศมินทรสมมุติปฐมสกลคณาธิเบศร ปวิธเนตโยภาสวาสนวงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิบูลสีลสมาจารวัตรวิปัสสนสุนทร ชินวรมหามุนีวงศานุศิษฏ บวรธรรมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก “สมเด็จพระผู้มีญาณสืบมาแต่วงศ์พระอริยเจ้า ทรงเป็นผู้มีธรรมวิธีอันละเอียดอ่อน ทรงเป็นผู้นำพระสงฆ์หมู่ใหญ่ทั้งปวง ทรงเป็นอาจารย์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระปริยัติธรรม คือ พระไตรปิฎก ปรากฏพระนามฉายาในทางสงฆ์ ว่า อมฺพโร ทรงงดงามในพระศาสนาด้วยทรงพระปรีชากว้างขวางในพระอุดมปาพจน์ คือพระธรรมวินัย ทรงดำรงพระเกียรติโดยปราศจากมลทิน และทรงเป็นครู สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ บทรงสถาปนาด้วยเหตุที่ทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใส ทรงเป็นที่พึ่งผู้แกล้วกล้าและมีพระปรีชาฉลาดเฉลียว ทรงเป็นผู้ยังความเจริญแก่กิจการพระธรรมทูต ทรงเป็นใหญ่ในสงฆ์ทั้งปวง (คือทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช) พระองค์แรกที่ได้รับพระราชทานสถาปนาในรัชกาลที่ 10 ทรงยังแสงสว่างแห่งแบบอย่างอันดีงามให้บังเกิด โดยเจริญรอยตามสมเด็จพระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถร) ทรงเป็นที่ตั้งแห่งความเคารพของพุทธบริษัท ทรงงดงามในพระวิปัสสนาธุระ ทรงพระศีลาจารวัตรอันไพบูลย์ ทรงเป็นอนุศิษย์ผู้สืบวงศ์สมณะมาแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นเจ้าผู้เจริญในทางธรรม ทรงเป็นราชาแห่งหมู่สงฆ์”.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยสูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด วางศิลาฤกษ์อาคารฟอกไต

มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยสูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด วางศิลาฤกษ์อาคารฟอกไต

วันที่ 26 มิถุนายน 2566 พระเทพสิทธิวิมล (ละเอียด สุงทันโต) เจ้าคณะภาค 15 และเจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายมนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอสามร้อยยอด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ธ) พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี พระมหาจำนง จรณธัมโม เจ้าอาวาสวัดตาลเจ็ดยอด และคณะสงฆ์ 48 รูป จาก 48 วัดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนายสมศักดิ์ สมสุขเจริญ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้ป่วยสูงอายุ วัดตาลเจ็ดยอด นายกำพล เต็งประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลไร่เก่า นพ.สมเกียรติ ตั้งใจรักการดี ที่ปรึกษามูลนิธิเพื่อผู้ป่วยสูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด นายมนตรี ปาน้อยนนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดประจวบฯ และชาวสามร้อยยอดและพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก ทำให้มียอดบริจาคทะลุ 1.5 ล้านบาท

ปัจจุบันสถานการณ์โรคไตเรื้อรังของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และอาจทำให้ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลไปตลอดชีวิต จากข้อมูลด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบว่า 1 ใน 25 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง จะกลายเป็นผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ ตั้งแต่ระยะที่ 3 ถึงระยะที่ 5 และเมื่อผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีภาวะไตวายระยะที่ 5 จำเป็นต้องได้รับการล้างไต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ จากข้อมูลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังของอำเภอสามร้อยยอด พบว่ามีผู้ป่วยที่ต้องได้รับการล้างไตประมาณ 60 คน และยังมีผู้ป่วยที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะไตวายระยะที่ 5 อีกเกือบ 100 คน ซึ่งศูนย์ล้างไตในจังหวัดประจวบฯ รวมถึงศูนย์ล้างไตของโรงพยาบาลสามร้อยยอด ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ทำให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไปล้างไตที่อื่น นอกจากจะเสียเวลาในการเดินทาง เสียรายได้ ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก เป็นความลำบากของผู้ป่วย และญาติ แต่ถ้ามีศูนย์ล้างไตใกล้ๆ บ้าน จะช่วยบรรเทาความลำบากของผู้ป่วยได้ ด้วยเหตุนี้มูลนิธิฯ จึงได้ร่วมกับวัดตาลเจ็ดยอด จัดตั้งโครงการอาคารฟอกไตขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการล้างไตใกล้บ้าน ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ และยังช่วยลดภาระของทั้งผู้ป่วยและญาติ ในวันวางศิลาฤกษ์นี้ มีบริษัท ห้างร้าน กลุ่มองค์กรและชาวบ้านนำซุ้มอาหารมาให้บริการผู้ที่มาร่วมงานด้วย

สำหรับท่านที่จะร่วมบริจาค สามารถบริจาคผ่านบัญชี มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยสูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด (สร้างอาคารฟอกไต) ธนาคารออมสิน สาขาสามร้อยยอด บัญชี 020-4-16707-998 หรือบริจาคได้ที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุวัดตาลเจ็ดยอด หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 086 – 545 – 1297.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ปากน้ำปราณสืบสานประเพณี ส่งเคราะห์ทางทะเล ทำบุญให้บรรพบุรุษ

ปากน้ำปราณสืบสานประเพณี ส่งเคราะห์ทางทะเล ทำบุญให้บรรพบุรุษ

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 นายพีรศักดิ์ จิวรรจนะโรดม นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำปราณ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการและพนักงานของเทศบาล ประชาชน นักเรียน ร่วมกิจกรรมประเพณีส่งเคราะห์ทางทะเล ทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระ เป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวอำเภอปราณบุรี ที่จัดขึ้นประจำทุกปี ที่ลานหน้าสำนักงานสมาคมประมงปราณบุรี ม.2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ตำบลปากน้ำปราณจัดประเพณีทำบุญส่งเคราะห์กันมาเป็นเวลายาวนาน ตามความเชื่อว่าเป็นการเซ่นไหว้ผีและเจ้ากรรมนายเวร เป็นการขอขมาแม่น้ำที่ใช้ในการเดินทาง ใช้เป็นการประกอบอาชีพและเป็นแหล่งอาหาร ทำให้ความเป็นอยู่และการทำมาหากินมีความเจริญรุ่งเรือง การจับปลาหรือสัตว์น้ำได้มากขึ้น และเป็นการสะเดาะเคราะห์เอาทุกข์โศกโรคภัยและสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ปล่อยไปกับสายน้ำ เพื่อที่จะได้มีสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต มีโชคลาภ

การจัดงานแต่ละปี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของชาวบ้านในชุมชน โดยจัดงานไม่ได้ยึดติดกับวัน การจัดงานจะมีประชาชน นักท่องเที่ยว นำอาหารคาว อาหารหวาน ดอกไม้รูป เทียน ตุ๊กตาดินเหนียวนุ่งห่มด้วยเสื้อผ้าสีสันสวยงาม และเงินนำไปใส่ลงในเรือจำลองที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งก่อนจะนำเรือไปลอยในทะเล ชาวบ้านจะมีการทำบุญตักบาตร พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล ขับไล่สิ่งอัปมงคล สิ่งเลวร้าย ก่อนเคลื่อนเรือออกไปจะมีการจุดประทัด แล้วจึงนำปล่อยเรือให้ล่องลอยไปในทะเล เพื่อนำเอาความทุกข์โศก เคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปกับทะเล

เรือที่สำหรับนำไปปล่อยในทะเล จะทำด้วยเป็นโครงไม้ไผ่และผ้าสีขาวมาทำเป็นเรือลำเล็ก สำหรับใส่สิ่งของต่างๆ เพื่อนำไปปล่อยในทะเล บางแห่งทำด้วยต้นกล้วยและกระดาษแก้วมาประกอบให้เหมือนเรือและตกแต่งให้สวยงาม มีตุ๊กตาดินเหนียว ซึ่งใช้เป็นตัวแทนผู้ที่มาทำบุญและบุคคลในครอบครัว เขียนชื่อตนเองหรือญาติมิตรลงกระดาษ ติดกับตัวตุ๊กตา รวมถึงข้าวสาร อาหารแห้ง พริก เกลือ เพื่อเป็นการอุทิศให้ผู้ที่เสียชีวิตในทะเลจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้นำไปใช้ พร้อมอธิษฐานขอให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆ พ้นไปและไปวางไว้ในเรือเพื่อเตรียมนำไปปล่อยลงทะเล

สำหรับความเชื่อของชาวบ้าน คือ 1.เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ เป็นความกตัญญูกตเวที ซึ่งหลักพุทธศาสนาสอนว่าเมื่อตายไปแล้วให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ 2.การขอขมาแม่น้ำ เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ คือ แม่น้ำลำคลอง เพื่อดูแลรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์ ใช้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งอาชีพ 3. ความเชื่อในโชคลาง ว่าเอาโรคภัยไข้เจ็บ ความทุกข์โศก สิ่งที่ไม่ดี ปล่อยไปกับสายน้ำ และการแก้บน เป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ ช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น

นายพีรศักดิ์ จิวรรจนะโรดม นายกเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ กล่าวว่า ประเพณีการส่งเรือเป็นกิจกรรมท้องถิ่นของตำบลปากน้ำปราณ เพื่อสืบสานประเพณี เทศบาลปากน้ำปราณได้ขึ้นทะเบียนเป็นประเพณีของชุมชนบ้านปากน้ำปราณ ต่อไปนี้จะอยู่คู่กับตำบลปากน้ำปราณ ไม่ใช่แค่คนปากน้ำปราณที่มาร่วมกิจกรรม คนปราณบุรี คนหัวหิน ก็มาทำบุญกันได้ ที่นี้จัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 22 – 23 มิถุนายนของทุกปี ประเพณีการส่งเรือเป็นประเพณีของคนทะเล ต.ปากน้ำปราณ วิถีชีวิตอยู่กับการประมง มีทั้งเด็กผู้หญิงแม่บ้านจะได้ทำบุญ สามีไปออกหาปลา ภรรยาก็จะมาทำบุญขอให้ส่วนบุญส่วนกุศล ส่งไปให้ปลา สัตว์มีชีวิตที่เราเคยจับ เหมือนเป็นการต่อบุญกันไปตามความเชื่อ นักเรียนโรงเรียนบ้านปากน้ำปราณก็มาร่วม โรงเรียนพิเศษก็มาร่วมกันที่นี่ทุกปี

ด้านนางกาญจนา อากาศเหลือง ผู้อำนวยการบ้านปากน้ำปราณ กล่าวว่า โรงเรียนได้นำนักเรียนชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มาเรียนรู้ประเพณีท้องถิ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมการส่งเรือ สะเดาะเคราะห์สิ่งต่างๆ ลงไปในเรือ ซึ่งในอุปกรณ์นั้นจะมีตุ๊กตาดินเหนียว ข้าวสาร อาหารแห้ง เมื่อทำพิธีต่างๆ แล้วก็นำไปใส่ไว้กับเรือ หลังจากนั้นจะเอาเรือไปลอยในทะเล โรงเรียนได้นำนักเรียนมาเรียนรู้ประเพณีต่างทุกๆ ปี เพื่อให้นักเรียนได้รู้ว่าประเพณีบ้านเรามีอะไรบ้าง ทำอะไรกันบ้าง เด็กๆ จะได้สืบสานส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานกันต่อไป.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กองบิน 5 นำจิตอาสาซ่อมหลังคาศาลาหอสวดมนต์วัดคลองวาฬที่ถล่ม

กองบิน 5 นำจิตอาสาซ่อมหลังคาศาลาหอสวดมนต์วัดคลองวาฬที่ถล่ม

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 นาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก สามารถ ว่องทรงเจริญ รองผู้บังคับการกองบิน 5 นำจิตอาสา 904 และกำลังพลจิตอาสากองบิน 5 ร่วมซ่อมแซมศาลาสวดมนต์วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ หลังเกิดเหตุหลังคาถล่มลงมาทั้งแถบช่วงค่ำวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เป็นหลังคาขนาดใหญ่ โครงสร้างไม้ มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีกองเศษไม้และอิฐตกหล่นจำนวนมาก โดยมี นาวาอากาศตรี ทศพล ศรีมณี ผู้บังคับกองร้อยสนับสนุนกองพันทหารอาการโยธินกองบิน 5 เป็นผู้ควบคุมเก็บเศษซากวัสดุที่ตกลงพื้น พร้อมช่วยเหลือซ่อมแซมให้ในเบื้องต้น พร้อมกันนี้ นาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ ได้ถวายเงินจำนวนหนึ่งให้กับพระเทพสิทธิวิมล เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง สมทบทุนในการซ่อมแซมบูรณะศาลาหอสวดมนต์ที่เสียหาย

โดยก่อนหน้านี้ ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ นายองค์รักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสภาพศาลาสวดมนต์วัดคลองวาฬที่พัง พร้อมแจ้งเจ้าอาวาสทราบว่านายเสถียร เจิรญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ หลังทราบเหตุได้ให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบฯ ประเมินความเสียหาย เป็นการซ่อมแซมโครงหลังคาและอุปกรณ์มุงหลังคา เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท

ด้านพระเทพสิทธิวิมล เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ อาตมาไปร่วมพิธีเปิดการอบรมพระอุปัชฌาย์ที่วัดสามพระยา จากนั้นสรงน้ำและพักผ่อนเล็กน้อย สักครู่ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ดังสนั่นจึงออกมาดู พบว่าหลังคาศาลาสวดมนต์ถล่มลงมา รู้สึกใจหายและเสียดาย เพราะศาลาหอสวดมนหลังนี้อยู่มาแล้วถึง 4 เจ้าอาวาส อายุกว่า 100 ปี คงต้องรีบดำเนินการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ยังดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปกติจะเด็กวัดหลายคนมานอนบริเวณนี้ แต่ช่วงเกิดเหตุเด็กๆ ลงไปรับประทานอาหารเย็นกันหมดจึงรอดพ้นอย่างหวุดหวิด หรือหากหลังคาถล่มตอนวันพระซึ่งมีกิจกรรมและคนจำนวนมาก อาจจะเกิดเหตุหนักกว่านี้ ทั้งนี้ขอเจริญพรญาติโยมที่มีจิตศรัทธา มีกำลังที่จะถวายความอุปถัมภ์ในการบูรณะศาลาหอสวดมนต์ บริจาคได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 699- 259112-1 ชื่อบัญชี วัดคลองวาฬ.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

จับแก๊งค้านกสีชมพูสวน ในพื้นที่สามร้อยยอด ได้ของกลางหลายสิบตัว

จับแก๊งค้านกสีชมพูสวน ในพื้นที่สามร้อยยอด ได้ของกลางหลายสิบตัว

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 นายธีระศักดิ์ พรายมี หัวหน้าสายตรวจ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ร.ต.ท.ทนงศักดิ์ ทองแก้ว รอง สว.กก.5 บก.ปทส. พร้อมชุดสายตรวจส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.3 เพชรบุรี เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาไชยราช เจ้าหน้าที่พื้นที่เตรียมการกำหนดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ายางน้ำกลัด และตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ทำการวางแผนจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทนก เพื่อนำมาเพาะเลี้ยงและค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังได้รับการร้องเรียนมีการประกาศขายทางสื่อโซเชียลมีเดีย และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 ราย พร้อมของกลางนกสีชมพูสวน จำนวน 13 ตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจับกุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คน พร้อมของกลางนกสีชมพูสวน อีก 18 ตัว กรงซี่ไม้ และกรงซี่เหล็กจำนวนหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 หมื่นบาท จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน เหตุเกิดในท้องที่หมู่ 8 และหมู่ 2 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ตั้งข้อหามีความผิดฐานค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่มีใบอนุญาตและครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำนกของกลาง ส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.

Categories
กีฬา ทั้งหมด

GFNY ซ้อมปั่นจักรยานกลุ่มที่หัวหิน

GFNY ซ้อมปั่นจักรยานกลุ่มที่หัวหิน

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 มิสเตอร์โทมัส แท็ปเคน ทีมไซโคลฮับ เมืองพัทยา ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน GFNY Thailand ซึ่งเป็นทีมผู้จัดงาน GFNY นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และเตรียมจัดงานครั้งแรกที่ประเทศไทยในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 ที่เขาใหญ่ ได้นำคณะร่วมซ้อมปั่นกลุ่ม มาซ้อมในพื้นที่อำเภอหัวหิน เพื่อเชิญชวนนักปั่นอำเภอหัวหินและใกล้เคียง ร่วมการแข่งขัน GFNY Thailand Khaoyai โดยจะซ้อมปั่นที่อำเภอหัวหิน 2 วัน วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน ปั่นระยะทาง 120 กม. วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน ปั่นระยะทาง 100 กม. มีทีม Hua Hin Cycling Club นำโดยมิสเตอร์จอห์น ชูสต์ ผู้บริหารทีมและสมาชิกนักปั่นทั้งชายหญิง ชาวไทยและชาวต่างชาติ กว่า 40 คน ร่วมให้การต้อนรับ และนำซ้อมปั่นจากปากซอยหัวหิน 112 มุ่งสู่เส้นทางธรรมชาติของเมืองหัวหิน ไปยังปราณบุรีและสามร้อยยอด รวมระยะทาง 120 กิโลเมตร

มิสเตอร์โทมัส แท็ปเคน ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน GFNY Thailand ยืนยันว่าการแข่งขัน GFNY Khaoyai ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ เกิดขึ้นแน่นอน มาร่วมสัมผัสความตื่นเต้นของงาน GFNY ครั้งแรกของประเทศไทยที่เขาใหญ่ ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม และเพื่อเป็นมืออาชีพของนักปั่นจักรยานในประเทศไทย ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ที่ khaoyai.gfny.com

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศาลาหอสวดมนต์อายุกว่า 100 ปี วัดคลองวาฬถล่ม

ศาลาหอสวดมนต์อายุกว่า 100 ปี วัดคลองวาฬถล่ม

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูสภาพศาลาสวดมนต์วัดคลองวาฬ พระอารามหลวง ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ถล่มลงมาเมื่อคืนก่อนหน้า เป็นหลังคาขนาดใหญ่ โครงสร้างไม้ มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ถล่มลงมา มีกองเศษไม้และอิฐจำนวนมาก มีทหารอาหารกองบิน 5 และทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ มาช่วยเก็บเศษซากวัสดุที่ตกลงพื้น เคราะห์ดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งศาลานี้เป็นที่นอนของเด็กวัดจำนวน 3 คน

ขณะที่ ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ, นายองค์รักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปเยี่ยมให้กำลังใจพระเทพสิทธิวิมล เจ้าคณะภาค 15 พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพความเสียหายของโครงหลังคาที่ถล่มลงมา

พระเทพสิทธิวิมล เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุ อาตมาไปร่วมพิธีเปิดการอบรมพระอุปัชฌาย์ที่วัดสามพระยา จากนั้นสรงน้ำและพักผ่อนเล็กน้อย ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ จึงออกมาดู พบว่าหลังคาถล่ม รู้สึกเสียดายเพราะศาลาหอสวดมนต์หลังนี้ อายุกว่า 100 ปี อยู่มาแล้ว 4 เจ้าอาวาส คงต้องรีบซ่อมแซม ก่อนที่ฝนจะมา ซึ่งศาลาหลังนี้ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศล จัดกิจกรรมต่างๆ เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ปกติจะมีเด็กวัด 3 คน อายุ 10 – 15 ปี นอนบริเวณนี้ แต่เมื่อช่วงใกล้สองทุ่ม เด็กๆ ลงไปรับประทานอาหารเย็น จึงรอดพ้นอย่างหวุดหวิด โชคดีหลังคาไม่ถล่มช่วงวันพระ ซึ่งมีกิจกรรมและคนมาจำนวนมาก จึงขอเจริญพรญาติโยมที่มีจิตศรัทธา มีกำลังที่จะถวายความอุปถัมภ์บูรณะศาลาหอสวดมนต์ บริจาคได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 699 – 2- 59112 -1 ชื่อบัญชี วัดคลองวาฬ

ด้านนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังทราบเหตุ ได้ให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเมินความเสียหายในการซ่อมแซมโครงหลังคาและอุปกรณ์มุงหลังคา เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท.

ภาพ/ข่าว : เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ททท.ประจวบฯ ชวนเที่ยวงาน “TRAMS MOVE Hua Hin Station” พบศิลปินดังมากมาย

ททท.ประจวบฯ ชวนเที่ยวงาน “TRAMS MOVE Hua Hin Station” พบศิลปินดังมากมาย

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานดนตรีและอาหาร “TRAMS MOVE Hua Hin Station” ระหว่างวันที่ 23 – 25 มิถุนายน 2566 ที่ลาน 25 ไร่ หลังศูนย์การค้าบลูพอร์ต อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ มีนายอุดมสุข นิ่มเซียน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ นายธันย์ จัตุรงค์ ผู้จัดการโครงการ “TRAMS MOVE Hua Hin Station” บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ตหัวหิน แขกผู้มีเกียรติและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมงาน

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรม “TRAMS MOVE Hua Hin Station” เพื่อกระตุ้นเศษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ชุมชน โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการสร้างให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่าย และดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ชุมชน รวมทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อีกทั้งในการจัดกิจกรรม “TRAMS MOVE Hua Hin Station” ยังได้รับการร่วมสนับสนุนจากเหล่าผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่างศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ภายในงานพบกับการแสดงดนตรีจากศิลปินดัง MEAN, MUSKETEERS และ ZEAL กิจกรรม Show Song Along Do จากศิลปินวง แมวเศษเล็บ, Cassette, la’da, Hums folk band และวง SAY การออกบูธร้านอาหารต่างๆ และกิจกรรมอีกมากมาย จึงขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวเข้าชมงานดังกล่าวได้ฟรีจนถึงวันที่ 25 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ ลาน 25 ไร่ หลังศูนย์การค้าบลูพอร์ต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สอบ.ลงนาม MOU อปท. เสริมความเข้มแข็งงานคุ้มครองผู้บริโภคประจวบฯ

สอบ.ลงนาม MOU อปท. เสริมความเข้มแข็งงานคุ้มครองผู้บริโภคประจวบฯ

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กลไกขับเคลื่อนการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภค ระหว่างหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. – เทศบาล) ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ที่ห้องสิงขร ชั้น 2 โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวรายงาน และมี น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค คณะทนายความประจำหน่วยงานประจำจังหวัดฯ (สอบ.) ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม มีนายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค จ.ประจวบฯ นายเกตุ พราหมณี นายกสมาคมคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ประจวบฯ ผู้บริหารและตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล – อบต.) ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัด ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 8 ด้านประจำสภาผู้บริโภคจังหวัด ภาคีเครือข่ายองค์กรสมาชิก สอบ.ทั้ง 8 อำเภอ คณะทนายความและสื่อมวลชน เข้าร่วม

น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยฯ สอบ.ประจวบฯ กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภคเป็นตัวแทนของผู้บริโภค ทำหน้าที่เสนอความคิดเห็น จัดทำนโยบาย มาตรการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค สะท้อนหลักการสำคัญ ที่ว่าผู้บริโภคมีส่วนร่วมจัดทำนโยบายและมาตรการเพื่อคุ้มครองตนเอง รวมทั้งเป็นตัวแทนในการให้ความคิดเห็นที่เป็นอิสระ รักษาผลประโยชน์ของทุกคน เพราะทุกคนคือผู้บริโภค ปัจจุบันพบว่าการที่จะคุ้มครองผู้บริโภคให้ประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานจังหวัด จะต้องอาศัยความร่วมมือทั้ง ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 8 ด้าน องค์กรสมาชิกทั้ง 13 องค์กรในพื้นรวมกว่า 140 คน ที่จะร่วมคิด ร่วมทำ เรียนรู้ความท้าทายด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และจะร่วมดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคไปด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการว่าจะทำอย่างไร ที่จะสร้างความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดขึ้น ให้สามารถประสานงานทั้งด้านข้อมูล งานวิชาการ ด้านกฎหมาย และด้านอื่นๆ เพื่อตอบสนองการคุ้มครองผู้บริโภคด้วยเวลาที่รวดเร็ว ทันท่วงที รอบด้านและมีมาตรฐาน หน่วยงานประจังหวัดประจวบฯ เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ซึ่งจะเป็นกลไกความร่วมมือรูปแบบหนึ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย การจัดทำบันทึกข้อตกลงวันนี้ประกอบด้วย 21 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.หน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค 2.สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด 3.เทศบาลตำบลหนองพลับ 4.อบต.ทับใต้ 5.เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ 6.อบต.วังก์พง 7. เทศบาลตำบลไรใหม่ 8.อบต.สามร้อยยอด 9.เทศบาลตำบลกุยบุรี 10.อบต.กุยเหนือ 11. เทศบาลเมืองประจวบฯ 12.อบต.บ่อนอก 13.เทศบาลตำบลคลองวาฬ 14.อบต.คลองวาฬ 15.เทศบาลตำบลทับสะแก 16.อบต.อ่างทอง 17.เทศบาลตำบลร่อนทอง 18.อบต.ร่อนทอง 19.อบต.ทองมงคล 20.เทศบาลตำบลบางสะพานน้อย และ 21.อบต.ช้างแรก

น.ส.ธนพร กล่าวต่อว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อสนับสนุนและดำเนินการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค 2.การพัฒนา เสนอแนะ นโยบาย มาตรการคุ้มครองผู้บริโภค 3.การสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งผู้บริโภค องค์กรผู้บริโภคและการรวมกลุ่มของผู้บริโภคในจังหวัด 4.การสื่อสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้บริโภคให้ครอบคลุม 5.พัฒนากลไกสภาองค์กรของผู้บริโภค การรับและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนแบบฐานข้อมูล อย่างเป็นระบบ 6.สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ

นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่าสภาองค์กรของผู้บริโภค เกิดจากการรวมตัวขององค์กรผู้บริโภค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 46 และตาม พ.ร.บ. การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 มีสถานะองค์กรเป็นนิติบุคคล เป็นตัวแทนผู้บริโภคที่มีความเป็นอิสระ และมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในทุกด้าน อีกทั้งวัตถุประสงค์ของการจัดงานในวันนี้ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคระหว่างหน่วยงานประจำจังหวัดประจวบฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่จังหวัดประจวบฯ การจัดงานนี้ เป็นสิ่งที่ดีและสำคัญยิ่งกับการพัฒนาการดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อร่วมมือสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ในการดำเนินงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนี้ 1. ให้ความร่วมมือการให้ข้อมูลข่าวสาร ตามอำนาจหน้าที่และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2. สนับสนุนและร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ทราบและรู้เท่าทันประเด็นปัญหาเกี่ยวกับผู้บริโภค และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทราบและเข้าถึงกระบวนการระงับข้อพิพาท 3. สนับสนุนและร่วมมือทางด้านวิชาการ เพื่อพัฒนากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ให้มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม 4. ความร่วมมือเพื่อสร้างระบบเตือนภัย อาหารไม่ปลอดภัย โดยท้องถิ่นเพื่อท้องถิ่น 5. ดำเนินการอื่นๆ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร

จากนั้น ได้มีเวทีเสวนาหัวข้อความท้าทายการคุ้มครองผู้บริโภคยุคใหม่ กับความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยผู้เข้าร่วมมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัด สภาองค์กรของผู้บริโภค มี น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค นายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ และนายทวีศักดิ์ เบญจธิวัฒน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาจการ สคบ.ประจวบฯ / ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าและบริการ สภาผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯ.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน