Categories
ข่าว ทั้งหมด

วัดหัวหินจัดงานวันบุพการี ระลึก “หลวงปู่นาค” เจ้าอาวาสองค์แรก มรณภาพครบรอบ 91 ปี

วัดหัวหินจัดงานวันบุพการี ระลึก “หลวงปู่นาค” เจ้าอาวาสองค์แรก มรณภาพครบรอบ 91 ปี

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 พระครูพิสุทธิ์ภาวนาพิธาน (เอกดนัย โชติธมโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหัวหิน เจ้าอาวาสวัดหัวหิน จัดงานวันบุพการี ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ที่ศาลาปฏิบัติธรรมวัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงวันครบรอบการมรณภาพเป็นปีที่ 91 ของหลวงปู่นาค ปุญญนาโค หรือพระครูวิริยาธิการี เจ้าอาวาสวัดหัวหินองค์แรก พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง พร้อมทั้งทำบุญอุทิศให้อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวหินทุกรูป โดยมีพระเทพวชิรสุธี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ฝ่ายธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระเถระและเจ้าอาวาสในเขตประจวบฯ – เพชรบุรี รวม 86 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ มีนายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครหัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาล ศิษยานุศิษย์และประชาชนชาวหัวหินประมาณ 2,000 คน ร่วมในพิธี พร้อมกันนี้มีผู้ใจบุญต่างนำอาหารคาวหวาน ผลไม้ เครื่องดื่มนานาชนิด ร่วมออกโรงทานหน้าวิหารหลวงปู่นาค เกือบ 300 ร้าน มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่ร่วมงานจนแน่นขนัด และต่างหาซื้อเลขเด็ดหลวงปู่นาค ครบรอบ 91 ปี ที่บริเวณหน้าวิหารกันอย่างคึกคัก

“หลวงปู่นาค”เกิดเมื่อปี พ.ศ.2400 เป็นบุตรของนายพ่วง – นางสุ่ม พ่วงไป มีพี่น้องรวมทั้งหมด 5 คน ท่านเป็นคนที่ 2 บ้านเดิมอยู่ที่บ้านลัดโพ อ.คลองกระแซง จ.เพชรบุรี หัดเรียนเขียนอ่านอักขระสมัยที่วัดลัดโพกับพระอธิการเมืองอยู่ 1 ปี แล้วย้ายไปอยู่กับพระอธิการสุก วัดหลักป้อม จ.สมุทรสงคราม เรียนทางพระปริยัติธรรมและบาลีธรรมอยู่หลายปี จนอายุย่าง 19 ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร กระทั่งอายุ 21 ปี จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหลังป้อม ได้รับฉายาว่า“ปุญญนาโค”เริ่มศึกษาวิปัสสนาธุระและรับการถ่ายทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นอกจากนี้ยังได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อเอี่ยม วัดลัดด่าน และหลวงพ่อภู่ วัดบางกะพ้อม จนมีเกียรติคุณเลื่องลือด้านวิทยาคมอย่างยอดเยี่ยม ต่อมาในปี 2464 ท่านได้ลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัว และแต่งงานกับนางแจ่ม มีบุตร 1 คน ก่อนที่จะเลิกร้างกันไป และเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งที่วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี จำพรรษาอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนมาสร้างวัดวังก์พง ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ชาวบ้านหัวหินได้พร้อมใจกันสร้างวัดอัมพารามขึ้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดหัวหิน จากนั้นขุนศรีเสละคาม (พลอย กระแสสินธุ์) กำนันโต และผู้ใหญ่กล่ำ เป็นตัวแทนชาวบ้านไปอาราธนาท่านมาเป็นเจ้าอาวาส เพราะเป็นที่เคารพเลื่อมใสของคนในท้องถิ่น นับแต่นั้นมาท่านได้พัฒนาวัดหัวหินจนกระทั่งมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมวัดอื่นๆ บั้นปลายชีวิตหลวงปู่นาคเริ่มอาพาธด้วยโรคบวมตามข้อ ปี พ.ศ.2475 รักษาตัวเรื่อยมาอาการไม่หายขาด ก่อนที่จะมรณภาพลง เมื่อเวลา 15.53 น. ในวันที่ 24 กรกฎาคม2477 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสปกครองยาวนานถึง 38 ปี มีอายุพรรษาได้ 43 พรรษา จากนั้นมาได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสต่อมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 10 รูป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ตำรวจห้วยยาง พร้อมภาคีเครือข่ายในพื้นที่ผนึกกำลัง ยับยั้งปัญหายาเสพติด ให้หมดภายใน 3 เดือน

ตำรวจห้วยยาง พร้อมภาคีเครือข่ายในพื้นที่ผนึกกำลัง ยับยั้งปัญหายาเสพติด ให้หมดภายใน 3 เดือน

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง ร่วมลงนามปฏิญญารวมพลัง ที่ห้องประชุมศูนย์สั่งการจุดตรวจร่วมห้วยยาง สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยับยั้งปัญหายาเสพติดของสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามนโยบายปฏิบัติการ“No Drugs No Dealers”ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด เพื่อดำเนินการในหมู่บ้าน/ชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ ของสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง จำนวน 17 หมู่บ้าน เพื่อขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปภายใน 3 เดือน มีนายชาตรี วณิชวรสกุล ประธาน กต.ตร.สภ.ห้วยยาง น.ส.อุษณี ทอดสนิท กำนันตำบลห้วยยาง นายชาลี สุทธา สารวัตรกำนันตำบลแสงอรุณ ตัวแทนนายก อบต.ห้วยยาง ตัวแทนนายก อบต.แสงอรุณ ผอ.รพ.สต.ห้วยยาง ผอ.รพ.สต.บ้านเนินดินแดง ผอ.รพ.สต.บ้านหินเทิน และรอง ผกก.ป.ฯ รอง ผกก.สส.ฯ พร้อมภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตำบลห้วยยาง ตำบลแสงอรุณ ร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยได้ร่วมแสดงปฏิญญาร่วมกันว่า 1. จะมุ่งบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจังและเด็ดขาด 2. จะป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด มิให้มีผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน 3. จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านชุมชนมีระบบกลไกการจัดการปัญหาด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างแท้จริง.

ณัฐธภพ พันสาย…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คุมประพฤติฯ มอบบ้านให้ผู้ยากไร้ กลุ่มเปราะบาง เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2568

คุมประพฤติฯ มอบบ้านให้ผู้ยากไร้ กลุ่มเปราะบาง เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2568

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นประธานส่งมอบบ้านให้ผู้ยากไร้ และกลุ่มเปราะบาง ในโครงการบูรณาการซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของกลุ่มเปราะบาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 มีนายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงาน และมีนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ นายยูซบ โต๊ะวัง ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ในฐานะเครือข่ายองค์กรช่วยเหลือด้านสังคม และกรรมการ CSR จังหวัดประจวบฯ นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอเมืองฯ นางสุพัตรา ไพฑูรย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด น.ส.กุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัด นายบรรพต รัตนจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน เหล่ากาชาดจังหวัด รองนายก อบต.อ่าวน้อย ผกก.สภ.อ่าวน้อย ผกก.สภ.เมืองฯ ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสาพระราชทาน 904 ประชาชนจิตอาสา เราทำดีด้วยหัวใจ อาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ ผู้ถูกคุมความประพฤติ ชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมที่บ้าน น.ส.จิรภา ทองคำ ซอยโครงการเควีแลนด์ ข้างปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านบึง หมู่ 16 บ้านบึงใหญ่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.ประจวบฯ กล่าวว่า จากข้อมูลของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ย้อนหลัง 3 ปี เกี่ยวกับข้อมูลการปรับสภาพที่อยู่อาศัยและการให้ความช่วยเหลือ จำนวนครัวเรือนที่มีที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงถาวร และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือของจังหวัดประจวบฯ จำนวน 1,884 ครัวเรือน ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 1,291 ครัวเรือน และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ 639 ครัวเรือน

ทั้งนี้ จากการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดประจวบฯ ครั้งที่ 1/2568 การกำหนดแผน/โครงการ/กิจกรรมการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนยากจน เป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องและไม่กลับมาประสบปัญหาความเดือดร้อนซ้ำ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ และเรือนจำจังหวัดประจวบฯ จึงเห็นโอกาสที่จะนำผู้ถูกคุมความประพฤติ และผู้ต้องโทษปรับที่มีทักษะฝีมือช่าง ร่วมกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน โดยใช้ทักษะความรู้ความสามารถทำงานบริการสังคมที่เป็นประโยชน์ เพื่อสาธารณะอย่างแท้จริง โดยร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด งานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เรือนจำจังหวัดประจวบฯ องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.อ่าวน้อย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดประจวบฯ ศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ (CSR ประจวบคีรีขันธ์) อาสาสมัครคุมประพฤติ มูลนิธิพันธสัญญาโครงการจูนิเปอร์ทรี ดอลฟิลเบย์ สามร้อยยอด (เครือข่าย CSR จังหวัด) อ.บางสะพาน อ.เมือง อ.กุยบุรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 และหมู่ 7 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน และโรงเรียนบ้านในล็อค และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.กุยเหนือ จัดกิจกรรมทำงานบริการสังคมประเภทซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 หลัง ดังนี้

บ้านหลังที่ 1 ชื่อเจ้าของบ้าน นางอ้อม ยอดใหญ่ หมู่ 8 บ้านในล็อค ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน งบประมาณจากกองทุนปันสุขเพื่อน้อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 จำนวนเงิน 30,000 บาท ชื่อหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ 1. สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ 2. อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอบางสะพาน 3. ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ทองมงคล และมีผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วมสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

บ้านหลังที่ 2 เป็นของนายประสาร สมุดไทย อยู่หมู่ 7 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน ใช้งบประมาณการสร้างจากกองทุนวันละบาท อบต.ทองมงคล จำนวนเงิน 3,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2568 หน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ ประกอบด้วย สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอบางสะพาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ทองมงคล ผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วม จำนวน 20 คน ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยได้ขุดหลุมใส่เสาและมุงหลังคากระเบื้องแล้ว ปัจจุบันรอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธาในชุมชน ภายใต้การประสานงานงบประมาณจากนางทิพวัลย์ จงบรรจบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7

บ้านหลังที่ 3 เป็นบ้านของ น.ส.จิรภา ทองคำ อยู่ที่หมู่ 16 บ้านบึงใหญ่ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ เป็นการสร้างบ้าน ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องโถง และ 1 ห้องน้ำ โดยใช้งบประมาณในการสร้างบ้าน จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โครงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ จำนวนเงิน 40,000 บาท มูลนิธิพันธสัญญา (เครือข่าย CSR จังหวัดประจวบฯ) จำนวนเงิน 4,100 บาท กองทุนศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจจังหวัดประจวบฯ (CSR จังหวัดประจวบฯ) จำนวนเงิน 40,000 บาท 4. ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดประจวบฯ (เครือข่าย CSR จังหวัดประจวบฯ) จำนวนเงิน 4,400 บาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม – 24 กรกฎาคม 2568 หน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ 1. สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด 2. เรือนจำจังหวัดประจวบฯ 3. อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอเมืองประจวบฯ 4. ผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วม จำนวน 48 คน

บ้านหลังที่ 4 ชื่อเจ้าของบ้าน นางอำภา คำสว่าง อายุ 76 ปี (ภรรยาของนายสมควร คำสว่าง ผู้ป่วยติดเตียง ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 อยู่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 3 บ้านโพธิ์เรียง ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี ใช้งบประมาณจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบฯ สำหรับผู้พิการ จำนวนเงิน 40,000 บาท เริ่มดำเนินการวันที่ 5 มิถุนายน 2568 หน่วยงานที่ร่วมดำเนินการ 1. สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด 2. อาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอกุยบุรี 3. ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี

จากนั้น อธิบดีกรมคุมประพฤติและผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมทำพิธีส่งมอบบ้านทั้ง 4 หลัง มอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ ที่มาจากทุกภาคส่วน มีพระครูโสภณธำรงค์กิจ เจ้าอาวาสวัดหุบตาโคตร เหล่ากาชาดจังหวัด อธิบดีกรมคุมประพฤติ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง ที่ว่าการอำเภอเมืองฯ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด อบต.อ่าวน้อย.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
กีฬา ข่าว ทั้งหมด

ททท. จัดกอล์ฟหัวหิน – ชะอำ 2025 โปรโมชั่นออกรอบ 6 สนามในราคาพิเศษ

ททท. จัดกอล์ฟหัวหิน – ชะอำ 2025 โปรโมชั่นออกรอบ 6 สนามในราคาพิเศษ

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายสุวิทย์ เหรียญรุ่งเรือง นายกสมาคมกีฬากอล์ฟประจวบคีรีขันธ์ – เพชรบุรี นายสุเมธ อิมทามระ อุปนายกสมาคมกีฬากอล์ฟประจวบฯ – เพชรบุรี / กรรมการผู้จัดการ สนามสปริงฟิลด์ รอยัลคันทรีคลับ, นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สํานักงานประจวบฯ, นางดวงใจ คุ้มสอาด ผู้อำนวยการ ททท.สํานักงานเพชรบุรี, นายอํานาจ ป่านแก้ว ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน, นายคนิศน์ โชคสุชาติ ประธานอนุกรรมการภาคกลางล่าง สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดเทศกาล “หัวหิน – ชะอำ กอล์ฟเฟสติวัล 2025”ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ ผู้ประกอบการโรงแรมและสนามกอล์ฟในพื้นที่ จ.ประจวบฯ – เพชรบุรี ร่วมรับฟัง

นายสุวิทย์ เหรียญรุ่งเรือง กล่าวว่า ททท. คณะจัดงาน ทีมสมาคมฯ ขับเคลื่อนกิจกรรม หัวหิน – ชะอำ กอล์ฟเฟสติวัล มาอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่อง เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนหรือกรีนซีซั่น โดยปีนี้ครบรอบ 24 ปี กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในพื้นที่หัวหิน – ชะอำ และทุกๆ ภาคของประเทศไทย ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศหลายแสนล้านบาท ในพื้นที่นี้เอง น่าจะมีนักกอล์ฟเข้าพื้นที่ประมาณ 30,000 คน ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2568 การจัดเทศกาลกอล์ฟเฟสติวัลในครั้งนี้ มีสนามกอล์ฟที่เข้าร่วม 6 สนาม ได้แก่ สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน, ปาล์มฮิลส์ กอล์ฟคลับ, สปริงฟิลด์ รอยัล คันทรีคลับ, มาเจสติค ครีก คันทรีคลับ, เลควิว รีสอร์ทแอนด์กอล์ฟคลับ และซีไพน์ บีช กอล์ฟแอนด์รีสอร์ท หัวหิน โดยใช้วิธีจูงใจด้วยการลดราคาค่ากรีนฟี ในช่วงเทศกาลเพียงแค่รอบละ 1,000 บาท ซึ่งนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทยสามารถซื้อกรีนฟีในราคานี้ตลอดทั้งสองเดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

นอกจากนี้ยังเปิดการแข่งขันกอล์ฟระดับทั่วไป (Amateur) ชิงถ้วยรางวัลจาก ททท. พร้อมของรางวัลมากมายในวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ รอยัลคันทรีคลับ และวันที่ 20 กันยายน 2568 ที่สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ผู้ที่สนใจสมัครได้ที่สนามกอล์ฟที่ร่วมกิจกรรม พร้อมกิจกรรมพิเศษ พานักกอล์ฟเข้าร่วมกิจกรรมออกรอบที่สนามกอล์ฟ จ.กาญจนบุรี ในเดือนตุลาคม 2568 พร้อมห้องพักและอาหารจำนวน 30 ท่านแรก.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

วัดห้วยมงคล ชวนนักท่องเที่ยวอิ่มบุญร่วม“ห่มผ้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ครั้งที่ 12”ในเดือนแม่แห่งชาติ

วัดห้วยมงคล ชวนนักท่องเที่ยวอิ่มบุญร่วม“ห่มผ้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ครั้งที่ 12”ในเดือนแม่แห่งชาติ

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พระพิศาลสิทธิคุณ หรือท่านเจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่าวัดห้วยมงคล ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคกลาง กำหนดจัดกิจกรรมสร้างบุญมหามงคล“ห่มผ้าหลวงปู่ทวด ครั้งที่ 12”เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา 12 สิงหาคม 2568 ระหว่างวันที่ 8 – 9 สิงหาคม 2568 โดยวันที่ 8 สิงหาคม เวลา 18.00 น. จะมีพิธีสวดตัดเคราะห์ต่อชะตา เสริมสิริมงคลบริเวณลานหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วันที่ 9 สิงหาคม เวลา 18.00 น. คณะสงฆ์อำเภอหัวหินเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลฯ จากนั้นร่วมกิจกรรมเพิ่มพลังบุญด้วยศรัทธาถือผ้าสีเหลืองส้ม มีความกว้าง 3 เมตร ความยาว 399 เมตร เดินเวียนทักษิณา 3 รอบขึ้นห่มหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ท่ามกลางประดับตกแต่งด้วยระบบแสงสีเสียงเพิ่มความเข้มขลังตระการตา และที่พิเศษสุด สำหรับผู้ที่ร่วมพิธีรับบุญทันตาวัตถุมงคล“หลวงปู่ทวด”กลับไปบูชาเป็นสิริมงคลคนละ 1 องค์ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมกิจกรรมห่มผ้าหลวงปู่ทวด ครั้งที่ 12 ที่วัดห้วยมงคล ได้ตามวันดังกล่าว

“วัดห้วยมงคล”เดิมใช้ชื่อว่า“วัดห้วยคต”ต่อมาในปี 2495 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาตั้งโครงการพระราชดำริแห่งแรกขึ้นและทรงได้พระราชทานนามใหม่จาก“ห้วยคต”เป็น“ห้วยมงคล”ภายหลัง พล.อ.วิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ มีดำริที่จะสร้างหลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ ซึ่งหล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงปู่ทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ สก ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันวัดห้วยมงคลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอหัวหิน ที่ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบสักการะหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่กันเป็นจำนวนมาก.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดอบรมสร้างการรับรู้“สิทธิของฉัน เสรีภาพของเรา”ให้เฝ้าระวังปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก

รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เปิดอบรมสร้างการรับรู้“สิทธิของฉัน เสรีภาพของเรา”ให้เฝ้าระวังปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการเสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านสิทธิเสรีภาพ หน้าที่และสิทธิมนุษยชน“สิทธิของฉัน เสรีภาพของเรา”ให้กับนักเรียนโรงเรียนประจวบวิทยาลัย ที่หอประชุมเทพสิทธิวิมลเมตตา โรงเรียนประจวบวิทยาลัย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัด กล่าวรายงาน มี น.ส.รจเรจน์ ใสสอาด รองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด นายรัฐกิจ ศรีนวล รองผู้อำนวยการโรงเรียนประจวบวิทยาลัย นายเอก แก้วชูเสน ที่ปรึกษาผู้ไกล่เกลี่ยระดับจังหวัด นายนันทเวช วรรณสุทธิ์ นักจิตวิทยาชำนาญการ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด น.ส.บัณฑิตา แก้วบุตดา นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ น.ส.สุภานัน แกมเพ็ชร์ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางจามจุรี ลิ้มกุลวราภิวัฒน์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด คณาจารย์และนักเรียน เข้าร่วม

ทั้งนี้คณะทำงานผู้จัดทำโครงการ ซึ่งมาจากทุกภาคส่วนราชการ ประกอบด้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฯ (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฯ (สพม.) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พม.) สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด

นายวสันต์ เภรีวิค ยุติธรรมจังหวัด กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสร็ภาพ โดยสำนักงานยุติธธรรรมจังหวัดประจวบฯ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม เผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน หน้าที่ สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อขยายผลการส่งเสริมสิทธิภาพและสิทธิมนุษยชน หลังจากที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ฝึกอบรมให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรส่วนท้องถิ่น องค์กรศาสนา และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ได้แก่จังหวัดนครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วนั้น โดยผู้ที่ผ่านการอบรมในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปถ่ายทอดและขยายผลให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ของตน ในเชิงป้องกันและส่งเสริมการแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิในกระบวนการยุติธรรมและช่องทางการอำนวยความยุติธรรรม การละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนในชุมชนและสถานศึกษา การคุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิด โดยวิทยากรที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาและคนในชุมชนได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาดังกล่าว และช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดปัญหาการการละเมิดสิทธิและส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาได้ในอนาคต

จากนั้นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรมและช่องทางการอำนวยความยุติธรรม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง, ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนในจังหวัดประจวบฯ และการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กที่ตกอยู่ในภาวะอันตรายหรือถูกละเมิดสิทธิ, การคุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546

ทั้งนี้“สิทธิมนุษยชน”เป็นคุณธรรมสากล ซึ่งประกอบไปด้วยหลักการพื้นฐานอันมุ่งหวังให้เพื่อนมนุษย์พึงกระทำต่อกัน 4 ประการ ได้แก่ 1. การเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2. การเชื่อมั่นในความเท่าเทียมของบุคคล โดยปราศจากการแบ่งแยก 3. การศรัทธาในสิทธิและเสรีภาพของบุคคล 4. การปฏิบัติต่อผู้อื่นในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกัน หลักการสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน 4 ประการดังกล่าว ยังถือเป็นหลักการสำคัญในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนซึ่งถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจร่วมกันในหลักการสิทธิมนุษยชน จนนำไปสู่การยอมรับและเกิดเป็นวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนขึ้นในที่สุด และเป็นหัวใจสำคัญยิ่ง ที่เราทุกคนควรจะได้ตระหนักและนำมาปรับใช้ในบริบทของตนเอง โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการก่อร่างสร้างฐานอันมั่นคงให้แก่สังคม โดยการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของสิทธิมนุษยชนผ่านการประยุกต์ใช้ในบทเรียน กิจกรรมการเรียนการสอนและวิถีชีวิตประจำวัน

ในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเหตุการณ์ละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนเกิดขึ้นหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกรณีเด็กชายอายุไม่ถึง 15ปี ถูกครูโรงเรียนแห่งหนึ่งกระทำอนาจารกับนักเรียนต่อเนื่องมาหลายคน และเหตุพระซื้ออบริการทางเพศกับเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี หรือกรณีเด็กไร้สัญชาติ ที่ไม่ได้รับสิทธิทางการศึกษา เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันการละเมิด สิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของเด็กในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ ซึ่งการจะดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายนั้น การสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่บุคลากรทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีบทบาทเป็นแกนนำหลักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและแนวคิดของเด็กนักเรียน อันจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะทางสังคมที่ดีขึ้น โดยหวังว่าจะทำให้เด็กเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตและพลังที่จะขับเคลื่อนประเทศในภายภาคหน้า ได้เกิดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนอย่างมีส่วนร่วม มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักรู้หลักสิทธิมนุษยชน.

บุญมา ลิบลับ…..รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

มทร.ราชมงคลรัตนโกสินทร์ ถ่ายทอดการประดิษฐ์ตุ๊กตาจากเปลือกหอย ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอัตลักษณ์ท้องถิ่น

มทร.ราชมงคลรัตนโกสินทร์ ถ่ายทอดการประดิษฐ์ตุ๊กตาจากเปลือกหอย ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอัตลักษณ์ท้องถิ่น

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 น.ส.พลอยปภัส จุฑารัฐเศรษฐ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล กล่าวเปิดโครงการวิจัยเรื่อง “การออกแบบกิจกรรมของโรงแรมอย่างมีส่วนร่วม บนพื้นฐานซอฟต์พาวเวอร์ด้านอัตลักษณ์ท้องถิ่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (บีซีจี)” ที่ห้องอาหารอบอุ่น โรงแรมพุทธรักษารีสอร์ท หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนางอุไรวรรณ น่วมทอง ประธานวิสาหกิจชุมชนศิลปะวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมหัวหิน น.ส.มิ่งขวัญ น่วมทอง ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนศิลปะวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมหัวหิน มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ในเรื่องการประดิษฐ์ตุ๊กตาจากเปลือกหอย โดยมี น.ส.แววดี ศรีไตรรัตน์ เจ้าของโรงแรมพุทธรักษารีสอร์ท หัวหิน และพนักงานจำนวน 30 คน ที่จัดเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันประดิษฐ์ต้นไม้ที่ทำจากเปลือกหอยต่างๆ

น.ส.พลอยปภัส จุฑารัฐเศรษฐ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการสืบเนื่องมาจากงานวิจัยที่ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เป็นขั้นตอนที่นำความรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์งานฝีมือท้องถิ่นที่ใกล้จะหายไป มาถ่ายทอดให้กับโรงแรม เพื่อนำไปให้กับลูกค้าหรือแขกของโรงแรมได้ร่วมทำกิจกรรม เป็นการสืบทอดงานฝีมือของหัวหิน การรวบรวมงานอัตลักษณ์ทั้งหมดจะมีทั้งงานหอย งานใบลาน งานเรือช่าง งานต่อกระดาษ แต่โรงแรมพุทธรักษาเลือกเป็นงานหอย เพราะบ่งบอกถึงความเป็นหัวหิน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้คนในพื้นที่มีรายได้ เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์หรืองานวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ ที่อยากจะนำอัตลักษณ์หัวหินที่ใกล้จะหายไปมาใช้ในโรงแรม และช่วยกันอนุรักษ์งานฝีมือให้อยู่คู่กับเมืองหัวหินต่อไป.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ จัดหลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว มุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ จัดหลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว มุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการบูรณาการสร้างเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 หลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวด้านมาตรฐานการท่องเที่ยวมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรฐานการบริการ เพื่อมุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และมอบนโยบายด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในระดับประเทศ ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม บุคลากรด้านการท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐและเอกชน กว่า 100 คน ที่โรงแรมเดอะเกษตร หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

มีการบรรยายในหัวข้อต่างๆ อาทิ เรื่องบทบาทของตำรวจท่องเที่ยวต่อความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว โดย พ.ต.ต.ชโนวิทก์ สีเนหะ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3, มาตรการความปลอดภัยของระบบคมนาคม โดยนายฤทธิชัย แสงทวีป นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบฯ, มุมมองจากผู้ประกอบการท้องถิ่นต่อการจัดการความเสี่ยง โดยนางพุทธิยา พันแสง อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ, กิจกรรมเวิร์กช็อปอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน, การฝึกปั้มหัวใจ (CPR), การใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED), การช่วยเหลือผู้ป่วยสำลักอุดกั้นทางเดินหายใจ (Choking) โดยทีมงานโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน

ร้อยโทสิทธิชัย ตัณฑสิทธิ์ กล่าวว่า การจัดอบรมบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านมาตรการความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในวันนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าใจมาตรการที่ภาครัฐกำหนดขึ้นอย่างถูกต้องและตรงกัน สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปีนี้ถือว่ามีการขยายตัวที่ดี มีการเติบโตทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ คาดว่าทิศทางจะเป็นไปในทางบวก และเชื่อว่านโยบายต่างๆ จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลนครหัวหิน เปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก เน้นย้ำความร่วมมือชุมชน

เทศบาลนครหัวหิน เปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก เน้นย้ำความร่วมมือชุมชน

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีนครหัวหิน เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก พร้อมด้วยจ่าเอกลิขิต หนูนิน รองปลัดเทศบาล, ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม, คณะวิทยากร และผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนมากที่โรงแรมโกลเด้นซี หัวหิน

โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชนและแกนนำสุขภาพด้านการควบคุมโรค รวมถึงสร้างและพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ในเขตเทศบาลนครหัวหิน เพื่อให้เกิดการระดมสมองและการประสานงานที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นายนพพร วุฒิกุล เน้นย้ำว่า การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากพึ่งพาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเพียงลำพัง การสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากชุมชนและภาคส่วนต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่หัวหิน ซึ่งเป็นทั้งชุมชนเมืองและแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่

“การอบรมเพื่อพัฒนาเครือข่ายในการป้องกันและควบคุมโรคมีความจำเป็นอย่างมากต่อการปฏิบัติงาน”ขอบคุณคณะวิทยากรและแกนนำสุขภาพที่เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเทศบาลนครหัวหินในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ศูนย์การเรียนรู้ดนตรีนาฏศิลป์ท้องถิ่น จัดชุดการแสดงความยินดีกับนายกเทศมนตรีนครหัวหิน คนแรก

ศูนย์การเรียนรู้ดนตรีนาฏศิลป์ท้องถิ่น จัดชุดการแสดงความยินดีกับนายกเทศมนตรีนครหัวหิน คนแรก

วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ศูนย์การเรียนรู้ดนตรีนาฏศิลป์ท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้านเทศบาลนครหัวหิน โดยนางทิพวรรณ สุทัศน์ ประธานศูนย์ฯ พร้อมด้วยเครือข่าย ชมรมนาฏศิลป์เมืองปราณบุรี โดยนางประเสริฐศรี จอกระจาย ประธานชมรม และชมรมนาฏศิลป์คนดีศรีชะอำ โดยนางกุลนิภัสร์ กุลนิรันดรไชย ประธานชมรม พร้อมด้วยนายดาบตำรวจเรืองเดช ไชยสิงห์ ประธานชุมชนเขาน้อยและคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการศูนย์ฯ เข้าพบนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหัวหิน เพื่อแสดงความยินดีกับนายกเทศมนตรีนครหัวหินคนแรกและคณะ พร้อมมอบช่อดอกไม้ ของที่ระลึก

จากนั้นเครือข่ายนางรำจิตอาสา ได้จัดชุดการแสดงฟ้อนรำ “ระบำตำนานบ้านแหลมหิน” เป็นพลังในการทำงานให้นายกเทศมนตรีนครหัวหินและคณะ รวมทั้งข้าราชการ พนักงานลูกจ้างในการบริหารงานของนายกเทศมนตรีนครหัวหินด้วย

ทั้งนี้ชุดการแสดง “ระบำตำนานบ้านแหลมหิน” ประพันธ์คำร้องโดยนายโสภณ เปียสนิท อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล และศูนย์การเรียนรู้ดนตรีนาฏศิลป์ท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน เทศบาลนครหัวหิน ได้ทำการออกแบบท่ารำ และฝึกซ้อมประมาณ 1 เดือน โดยมีนางรำจิตอาสาจำนวน 25 คน นอกจากนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับอำเภอหัวหิน ศูนย์การเรียนรู้ดนตรีนาฏศิลป์ท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้านเทศบาลนครหัวหิน พร้อมนางรำจิตอาสาได้ขอใช้สถานที่บริเวณสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่จากนายสถานีรถไฟหัวหิน เพื่อนำชุดการแสดง “ระบำตำนานบ้านแหลมหิน” ถ่ายทำคลิปวีดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านศิลปะวัฒนธรรม ที่เนื้อหาของเพลงได้เล่าขานความเป็นมาของหัวหิน สู่ความเป็นเทศบาลนครหัวหินจวบจนปัจจุบัน.

สุทธิศรี อนุคฤหานนท์…..รายงาน