Categories
ข่าว ทั้งหมด

เครือข่ายงดเหล้าประจวบฯ จัดกิจกรรมพร้อมมอบรางวัลแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า

เครือข่ายงดเหล้าประจวบฯ จัดกิจกรรมพร้อมมอบรางวัลแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานมอบรางวัลการประกวดแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า มอบเกียรติบัตรคนหัวใจหิน – คนหัวใจเหล็ก – คนหัวใจเพชร โดยมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวรายงาน และมี น.ส.อุบลวรรณ คงสว่าง ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัด นางพิชชาวริน ชนะคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ ผู้นำ/ผู้แทนชุมชนคนสู้เหล้าในแต่ละชุมชนทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมที่ห้องประชุมวิชัยนิดาธรรมาเจริญราช วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยมีกิจกรรมในช่วงเช้า มีนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมร่วมเวทีเสวนา “ออกพรรษาลาเหล้า ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง มีสติพร้อมสู้ทุกวิกฤต (ฉลองชัยคนหัวใจหิน ชื่นชมคนหัวใจเหล็ก เชิดชูคนหัวใจเพชร) ผู้ร่วมเสวนามี น.ส.อุบลวรรณ คงสว่าง เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก นายชัยรัตน์ จันทร์ตรี นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด น.ส.นภณัฐ ศุภกุล ตัวแทนคนหัวใจเพชร ชุมชนพุน้อย อ.สามร้อยยอด

จากนั้นมีการประกวดการจัดทำแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า ของแต่ละชุมชนคนสู้เหล้าทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดประจวบฯ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากส่วนราชการต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวด ประกอบด้วยนายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัด นางพิชชาวริน ชนะคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ผู้แทนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ประจวบฯ ผลการตัดสิน ชนะเลิศ ได้แก่ ชุมชนพุน้อย อ.สามร้อยยอด รองชนะเลิศอันดับ 1 ชุมชนทองมงคล อ.บางสะพาน รองชนะเลิศอันดับ 2 ชุมชนสีดางาม อ.ทับสะแก รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ ชุมชนหัวบ้าน เทศบาลเมืองประจวบฯ และชุมชนร่มเกล้า อ.หัวหิน

น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดต้นทุนทางสังคมและภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง มีศักยภาพที่สามารถดำเนินงานการเชื่อมร้อยเครือข่าย เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและค่านิยมสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ของแต่ละชุมชนพื้นที่ในจังหวัด ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนบูรณาการทำงานร่วมกับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด โดยดำเนินการตามยุทธศาสตร์คือ 1) การจัดการปัญหาแอลกอฮอล์ และลดปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ 2) การพัฒนากลไกการจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดปัจจัยเสี่ยง 3) การปรับเปลี่ยนค่านิยมในงานเทศกาล/งานบุญประเพณี/วันสำคัญทางศาสนา 4) การลดอันตรายจากการดื่มและควบคุมเข้าถึงด้านเศรษฐศาสตร์และกายภาพด้านแอลกอฮอล์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพเด็กเยาวชน โดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัด ติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน มีนายอำเภอนักรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งได้รับความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดคนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร และชุมชนคนสู้เหล้างดเหล้าเข้าพรรษา ชุมชนแหล่งเรียนรู้คนสู้เหล้าต้นแบบ เกิดกติกาชุมชนที่สามารถจัดสรรงบประมาณจากกองทุนสุขภาพตำบลได้ด้วยตัวเอง เกิดเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ อีกทั้งในปี 2559 เกิดความร่วมมือ (MOU) เครือข่ายโรงเรียน 14 โรงเรียน ในปี 2563 เกิดความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงาน 13 หน่วยงาน และล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เกิดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะงานบุญประเพณีวัฒนธรรมวิถีใหม่ปลอดเหล้าปลอดภัยจังหวัดประจวบฯ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมลงนาม

จากข้อมูล พบว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2566 จำนวนกว่า 32 ชุมชน ครอบคลุมทั้ง 8 อำเภอ ช่วงเวลาปี 2560 ถึง 2566 มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 9,102 คน เมื่อตรวจสอบตัวตน แยกประเภทตามเกณฑ์ มีการติดตามอย่างต่อเนื่องและได้รับเกียรติบัตรแล้วมีจำนวนทั้งสิ้นดังนี้ 1. งดเหล้าเข้าพรรษา คนหัวใจหิน ปี 2566 จำนวน 330 คน ยอดสะสม 1,610 คน 2. คนงดเหล้า 1 – 3 ปี คนหัวใจเหล็ก ปี 2566 จำนวน 29 คน ยอดสะสม 577 คน 3. คนงดเหล้า 3 ปีขึ้นไป คนหัวใจเพชร ปี 2566 จำนวน 18 คน ยอดสะสม 631 คน รวมทั้งสิ้น 2,818 คน และ 4. มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการสะสมจำนวน 260 ร้านค้า เกิดชุมชนต้นแบบ ชุมชนแหล่งเรียนรู้ 12 ชุมชน เกิดเครือข่ายเยาวชนนักรณรงค์ สื่อสร้างสรรค์ ทั้งหมด 8 รุ่น อีกทั้งมีการขับเคลื่อนงานบุญประเพณี และงานเทศกาลปลอดเหล้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน อาทิ งานกาชาดสร้างสุข งานสงกรานต์ปลอดเหล้าพื้นที่สร้างสรรค์ปลอดภัย งานบุญประเพณีไทยทรงดำ รณรงค์วันลอยกระทง สวดมนต์ข้ามปี งานแข่งเรือปลอดเหล้า งานบวชปลอดเหล้า งานแต่งปลอดเหล้า และเทศกาลอาหารปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์ เป็นต้น

ด้านนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองประจวบฯ ในฐานะนายอำเภอนักรณรงค์ กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่เล็งเห็นความสำคัญในกิจกรรมออกพรรษาลาเหล้า “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง มีสติพร้อมสู้ ทุกวิกฤต” (ฉลองชัยคนหัวใจหิน ชื่นชมคนหัวใจเหล็ก เชิดชูคนหัวใจเพชร) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2566 ในวันนี้ ออกพรรษลาเหล้า นับเป็นการต่อยอดการรณรงค์โดยสร้างแกนนำในชุมชนเป็นพี่เลี้ยง ชี้ชวนให้ตระหนักในชีวิต ครอบครัว ส่งเสริมให้กำลังใจ ช่วย ชม เชียร์ ให้ลด ละ เลิกเหล้า แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้คนที่งดเหล้าได้ 3 เดือน มีความตั้งใจงดต่อเนื่องและอาจนำไปสู่การเลิกดื่มตลอดชีวิตได้ และจะเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีงามขึ้น การจัดงานในวันนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและสำคัญยิ่งในการพัฒนาการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในระดับชุมชน ส่งต่อวัฒนธรรม และสังคมที่ดีงามให้ลูกหลานต่อไป.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ธกส.ประจวบฯ จัดงานครบ 58 ปี มุ่งเน้นพักชำระหนี้รายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท

ธกส.ประจวบฯ จัดงานครบ 58 ปี มุ่งเน้นพักชำระหนี้รายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นางวิภารัตน์ สัมนักษร ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายคมสัน เปลี่ยนปราณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ พนักงานของ ธกส.สาขาต่างๆในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้ง 8 อำเภอ ร่วมกิจกรรมเนื่องในวันครบรอบวันสถาปนาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ก้าวสู่ปีที่ 58

ภายในกิจกรรมมีพิธีทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป พร้อมประพรมน้ำมนต์อาคารสำนักงานเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นร่วมกันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลพระภูมิเจ้าที่ และร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ภายใต้กิจกรรมโครงการ “หยดนี้เพื่อชีวิต” ที่บริเวณชั้น 2 สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นางวิภารัตน์ สัมนักษร ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสถาปนาก่อตั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. เข้าสู่ปีที่ 58 มีกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนของ ธกส.สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดทำบุญเลี้ยงพระและบริจาคโลหิต โดยกิจกรรมบริจาคโลหิตได้ร่วมกับ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันสถาปนาก่อตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดด้วยเช่นกัน

ในส่วนของสำนักงาน ธกส.จังหวัด ได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ด้านการพักชำระหนี้รายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท และการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับลูกค้าเกษตรกรของธกส. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการฟื้นฟู ฝึกอบรมอาชีพ จนสามารถก้าวต่อไปพร้อมๆกับ ธกส.ได้ นางวิภารัตน์กล่าว.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ ปล่อยแถวกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย และปราบปรามผู้มีอิทธิพล

ประจวบฯ ปล่อยแถวกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย และปราบปรามผู้มีอิทธิพล

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยบูรณาการความร่วมมือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ, ทหาร, หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงการคลัง และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายด้านความมั่นคงภายในและความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภัยคุกคาม เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายสำคัญมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บ่อนการพนัน ตรวจตราการครอบครองและพกพาอาวุธปืน สถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการและอาชญากรรมต่างๆ

สำหรับจังหวัดประจวบฯ ได้เร่งจัดตั้งกลไกในการดำเนินการ การติดตามและรายงานผล เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยการตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยเปิดปฎิบัติการพร้อมกันทั่วประเทศ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดสิ่งผิดกฎหมาย การตรวจตรา หาข่าวที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน ผู้มีอิทธิพล ตลอดจนสถานบริการและสถานบันเทิงที่กระทำผิดกฎหมาย และเน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่ฝ่าฝืนในทันที.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โครงการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ครั้งที่ 1

โครงการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ครั้งที่ 1

SONP ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดอบรมสื่อมวลชน เสริมทักษะยุคดิจิทัล เชิญ Tellscore แชร์มุมมองธุรกิจ เพิ่มช่องทางการหารายได้ พัฒนาคอนเทนต์ข่าวผ่าน Influencer

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ Digital Journalism in the context of Influencer Economy Business Model & Monetization เพื่อเสริมสร้างพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรด้านงานข่าวให้สอดคล้องกับการปรับตัวขององค์กรสื่อบนความเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในยุคดิจิทัล โดยเชิญ Tellscore เอเจนซี่ ด้าน Influencer marketing ครบวงจร มาร่วมแลกเปลี่ยนให้ความรู้ในการอบรมครั้งนี้

คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งในหัวข้อที่แตกต่างกันไป โดยสมาคมมุ่งหวังเพื่อพัฒนาทักษะ และยกระดับให้สมาชิกผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้รับความรู้ใหม่ในยุคดิจิทัล และสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงให้สมาชิกพัฒนาบุคลากรขององค์กรจนเองในการสร้างเนื้อหาการายงานข่าวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน คุณสุวิตา จรัญวงศ์ CEO & CO – Founder, Tellscore ร่วมบรรยายในหัวข้อ Current & Trend Influencer Economy and The New Age Journalism โดยระบุว่า สื่อในยุคดิจิทัลต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้มีเพียงการรับมือกับแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่ยังต้องแข่งขันกับ Influencer ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมุมธุรกิจที่บางแบรนด์สินค้าหันมาใช้บริการ Influencer ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือ Influencer ยังมีความท้าทายเดียวกันคือการสร้างคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำสื่อยุคดิจิทัล

“การผลิตคอนเทนต์ที่แข็งแรงยังเป็นหัวใจสำคัญในการทำสื่ออย่างยั่งยืน และอยากให้มองแพลตฟอร์มเป็นเพียงภาชนะใส่คอนเทนต์เท่านั้น ในอนาคตยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการเล่าเรื่องที่ดียังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” คุณสุวิตา กล่าว

ขณะที่ คุณอัยยา ตันติเสรีรัตน์ Head of Partnership & Co – Managing Director, Tellscore บรรยายในหัวข้อ Opportunity in Digital Journalism The Rise of Content Creator Economy โดยระบุตอนหนึ่งว่า พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนไป ทำให้ Influencer มีบทบาทสำคัญมากขึ้น เช่น สร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือให้กับผู้สนใจมากกว่าแบรนด์พูดเอง , เล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย และรวมกลุ่มคนให้เกิดเป็นชุมชนการสื่อสาร ซึ่งทำให้เกิดอิทธิพลมากขึ้น

โดยปัจจุบันมีคำกล่าวว่า ใครๆ ก็สามารถเป็น Influencer ได้ แต่สื่อมวลชนและองค์กรสื่อถือว่ามีข้อได้เปรียบกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว การกลั่นกรองข้อมูล เพื่อนำเสนอแต่ข้อเท็จจริง และยังมีความน่าเชื่อถือภายใต้กรอบจรรยาบรรณทางวิชาชีพ นอกจากนี้ยังหวังว่าในอนาคตจะเห็นสื่อมวลชนในยุคดิจิทัลจะรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นในฐานะ Content Creator หรือ Influencer ก็ตาม

นอกจากนี้ในการฝึกอบรมยังได้รับเกียรติจาก คุณพิชิตชัย โพธิ์ศิริ หรือ เบลล์ Influencer แพลตฟอร์ม Tiktok เจ้าของช่อง @somethingjingglebell มาร่วมแชร์ความรู้ เทคนิคการเล่าเรื่องผ่านคลิปวิดีโอสั้นให้น่าสนใจ

คุณพิชิตชัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำคลิปวิดีโอได้ง่ายมากขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่าคลิปแนวตั้ง ยังคงเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในเวลานี้ และคาดว่าจะยังได้รับคาวมนิยมต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งนี้มี 3 แนวคิดสำคัญที่จะทำให้การผลิตคลิปวิดีโอมีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย 1.มนุษย์ชอบรู้เรื่องของมนุษย์เป็นแนวคิดที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี 2.คำนึงถึงความยาวของคลิป ต้องไม่สั้นหรือยาวเกินไป และ 3.สร้างเนื้อหาที่ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมกันของผู้ชม เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้คอนเทนต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

#สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ # SONP #Onedaytraining #Influencermarketing #tellscore
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

Categories
ข่าว ทั้งหมด

สามร้อยยอด สืบสานประเพณีบุญล่องแพ แห่พระ ครั้งที่ 9 เนื่องในวันออกพรรษา

สามร้อยยอด สืบสานประเพณีบุญล่องแพ แห่พระ ครั้งที่ 9 เนื่องในวันออกพรรษา

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมงานประเพณีบุญล่องแพ แห่พระ ครั้งที่ 9 ที่ลานสำนักสงฆ์วัดป่าช้างขาว บ้านป่าหมาก หมู่ 8 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ เนื่องในวันออกพรรษาของชุมชนบ้านป่าหมาก มีนายณธกร เต็มชยกุล ปลัดอาวุโส อ.สามร้อยยอด นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบฯ นายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรมจังหวัดประจวบฯ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มีเชื้อสายกะเหรี่ยง หรือปกาเกอะญอ แต่งกายชุดประจำเผ่ามาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

โดยในช่วงเช้ามีพิธีสงฆ์ ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง จากนั้นมีการแสดงของเด็กๆ เชื้อสายกะเหรี่ยงจากศูนย์เด็กเล็กบ้านป่าหมากขึ้นแสดงบนเวที สร้างสีสันความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยการละเล่นกระทบไม้ของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงซึ่งถือเป็นการละเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และประวัติอันยาวนาน จากนั้นเป็นการนำพระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้นบนแพ มีหลวงพ่อปฐมพร ปฐมวโร ประธานสงฆ์ วัดพุทธอุทยานวัดป่าช้างขาว พร้อมด้วยคณะสงฆ์ คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด ล่องแพไปตามลำห้วยระยะทาง 100 เมตรไปกลับ 3 รอบ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สัการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้หมู่บ้านมีความร่มเย็นเป็นสุข ส่วนในช่วงบ่ายมีการละเล่นพื้นบ้านต่างๆ มีการแข่งถ่อแพ แข่งมวยลำห้วย เป็นต้น เพื่อเป็นการสร้างความสนุกสนาน และความสามัคคีของชาวบ้านอีกด้วย

หลวงพ่อปฐมพร ปฐมวโร ประธานสงฆ์วัดพุทธอุทยานวัดป่าช้างขาว กล่าวว่า การล่องแพเป็นวิถีชีวิตเดิมของชนเผ่ากะหรี่ยงหรือปกาเกอะญอ ซึ่งมีมานานแล้วก่อนที่หลวงพ่อจะมา ชาวบ้านกลุ่มนี้เขาอาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำสายนี้ตั้งแต่บนสุด คือตั้งแต่ชายแดนลงมาจนเกือบถึงแม่น้ำปราณบุรี ปัจจุบันมารวมตัวกันตั้งหมู่บ้าน โดยเริ่มตั้งมาประมาณปี 2549 ประเพณีแห่พระ ส่วนใหญ่จะมีอยู่ทางใต้ ตรงนี้เดิมเขานับถือเทวดา นับถือผี ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิม แต่พอมีชาวบ้านเริ่มมานับถือศาสนาพุทธ เริ่มเปลี่ยนมาใช้วิถีชีวิตแบบชาวพุทธ อาตมาเห็นว่าควรจะมีประเพณีที่สอดคล้องกัน เห็นว่าในช่วงฤดูกาลออกพรรษา จะมีการแห่พระรอบชุมชนและนำลงแพล่องในลำห้วย เป็นกุศโลบายในการที่จะสื่อความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งในการจัดงานจะต้องมีการเตรียมงานต้องแบ่งหน้าที่กันไป เป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีให้ชาวบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะให้เด็กๆ ได้กลับมาบ้าน หรือว่าคนหนุ่มสาวที่ออกไปทำงานนอกหมู่บ้าน ได้มีโอกาสถึงวันออกพรรษาแล้วกลับมาบ้านด้วย.

Categories
สังคม

พิธีส่งมอบบัตรประชาชนจิตอาสา และสิ่งของพระราชทาน

ข่าวสังคม

สมเจตร์ เจริญทรง นายอำเภอทับสะแก เป็นประธานในพิธีส่งมอบบัตรประชาชนจิตอาสา และสิ่งของพระราชทาน หมวก ผ้าพันคอจิตอาสาพระราชทาน ให้จิตอาสาพระราชทานอำเภอทับสะแก จำนวน 75 ราย ที่หอประชุมอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีกิตติรัตน์ ส้มแป้น ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง วิยะรัตน์ หนูเอก ฉัตรชัย ค้างาม นฤมิต อ่อนคู ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยสมาชิก อส.ทับสะแกที่ 6 พนักงาน เจ้าหน้าที่ ที่ทำการปกครองอำเภอทับสะแก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมพิธีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566.

ณัฐธภพ พันสาย….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

โรงพยาบาลประจวบฯ ต้อนรับผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ ลำดับที่ 18

โรงพยาบาลประจวบฯ ต้อนรับผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ ลำดับที่ 18

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นพ.จุมพล ฟูเจริญ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ, นพ.วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ, นายอุดมศักดิ์ แสงวณิช รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร, น.ส.รัฏฐากร แสงเทียนทอง รองผู้อำนวยการภารกิจด้านการพยาบาล, นพ.อธิศ พุกโพธิ์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านดิจิทัลการแพทย์ คณะกรรมการบริหาร คณะแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับ นพ.สุรัตน์ ส่งวิรุฬห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ที่เดินทางมารับตำแหน่งใหม่ด้วยบรรยากาศอบอุ่น

ในโอกาสนี้ พญ.สุพรรณี ประดิษฐ์สถาวงษ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์, พญ.นิดา สาดตระกูล อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบลสิงห์บุรี, นพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า, นพ.ศุภชัย ศุภพฤกษ์สกุล อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ, นพ.จิตตรัตน์ เตชวุฒิพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน, นายพลสิต เวที รักษาการสาธารณสุขอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองฯ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอเมืองฯ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องคีรีขันธ์ ชั้น 5 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์.

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

ปราณบุรีจัดกิจกรรมแอดแวนเจอร์ พายเรือคายัค ล่องแม่น้ำปราณบุรี

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี พร้อมด้วยกลุ่มเครือข่ายรักษ์แม่น้ำปราณบุรี ผู้ประกอบการท่องเที่ยวปราณบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ นำเรือคายัค 10 ลำ พายในแม่น้ำปราณบุรี ระยะทาง 4 กิโลเมตร ตั้งแต่พื้นที่ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบแสวงหาความตื่นเต้นและ แปลกใหม่ในสภาพธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ พร้อมความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และได้ออกกำลังกายด้วยการล่องแม่น้ำในชื่อ “พายคายัค ล่องแม่น้ำปราณบุรี” เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปราณบุรี ซึ่งมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้อำเภออื่นๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะปราณบุรีมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และภูเขา โดยเฉพาะแม่น้ำปราณบุรี เป็นหัวใจหลักและสำคัญที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถพัฒนาได้อีกด้วย

นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี กล่าวว่า การเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในแม่น้ำปราณบุรีนั้น แบ่งการท่องเที่ยวเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. ต้นน้ำในตำบลเขาจ้าว 2. เขื่อนปราณบุรี 3.แม่น้ำปราณบุรี โดยแม่น้ำปราณบุรีมีระยะทางจากเขื่อนปราณบุรี – ไปออกทะเลที่ปากน้ำปราณ มีระยะทาง 60 กิโลเมตร ซึ่งถ้าจะล่องแม่น้ำปราณบุรีทั้งเส้นทาง อาจต้องใช้เวลาถึง 3 วัน ดังนั้นเส้นทางที่นำมาทำกิจกรรม “พายคายัค ล่องแม่น้ำปราณบุรี” มีระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อความเหมาะสมกับสภาพแม่น้ำที่มีความคดเคี้ยว มีแก่งต่างๆ ตลอดสองข้างทางที่พายเรือคายัคผ่านนั้น ไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ ยังคงเป็นผืนป่าธรรมชาติ รวมทั้งยังมีนกนานาชนิดอยู่ในผืนป่า และมีรังนกกระจาบจำนวนมากตามต้นไม้ให้เห็นตลอด ต้นมะเดื่อขนาดใหญ่ ต้นรวงผึ้ง ที่สำคัญระดับน้ำไม่ลึก มีความปลอดภัย เพราะนักท่องเที่ยวต้องสวมใส่เสื้อชูชีพ สามารถเลือกพายคายัคได้ตั้งแต่ช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสอาด เจ้าของบ้านปลายน้ำโฮมสเตย์ กล่าวว่าแม่น้ำปราณบุรี มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ตลอดสองฝั่งของแม่น้ำปราณบุรี มีพันธุ์ไม้ดั้งเดิมอยู่หลายชนิด ทั้งต้นจิก ต้นผึ้ง ต้นมะเดื่อ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของนก จากการสำรวจพบว่าในบริเวณแม่น้ำปราณบุรี มีนกกว่า 50 ชนิด ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำในแม่น้ำจะใส สะอาด ด้านล่างมีพืชน้ำหลายชนิด ซึ่งเส้นทางที่จะเปิดให้พายคายัค มีความเป็นธรรมชาติ มีแก่งเป็นระยะ เรียกว่าเป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแบบผจญภัย และต้องขอบคุณอำเภอปราณบุรี ที่ให้ความสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของอำเภอปราณบุรี ในช่วงปลายปี เพราะจะทำให้ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งที่พัก ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการพายคายัค ล่องแม่น้ำปราณบุรี ได้ที่บ้านปลายน้ำโฮมสเตย์ โทร. 086 – 3399694.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

 

 

Categories
ข่าว ท่องเที่ยว ทั้งหมด

อุทยานแก่งกระจานเปิด 1 พ.ย.นี้ สัมผัสทะเลหมอก – ชมสัตว์ป่านานาชนิด

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) เพชรบุรี เปิดเผยว่าวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวบริเวณเขาพะเนินทุ่ง น้ำตกทอทิพย์ บ้านกร่าง ห้วยแม่สะเรียง บ้านโป่งลึกบางกลอยและน้ำตกผาน้ำหยด หลังปิดไปนาน 3 เดือน โดยอุทยานฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ การบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปสัมผัสธรรมชาติทะเลหมอกที่บริเวณพะเนินทุ่ง ที่มีความสวยงามเนื่องจากเป็นฤดูปลายฝนต้นหนาว ดอกไม้ป่าเริ่มออกดอกสร้างสีสันสวยงาม สัตว์ป่านานาชนิด ให้นักท่องเที่ยวได้มีความรู้ในการมาท่องเที่ยว และมีความประทับใจกลับไป

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถใช้เวลาว่างเดินทางมาท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก มาท่องเที่ยวเชิงนิเวศธรรมชาติ ให้ช่วยกันดูแลและปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางอุทยาน ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มสุรา ไม่ทิ้งขยะในพื้นที่อุทยาน เพราะบริเวณที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวมีความอุดมสมบูรณ์ และชุกชุมของสัตว์ป่านานาชนิด นกหายาก จุดชมวิวทะเลหมอกเขาพะเนินทุ่ง และสัตว์ป่านานาชนิด โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) โทร 032 – 772311.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ททท.เพชรบุรี ชวนชมการแสดง 100 ปี มัทนะพาธา ระดมทุนบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 น.ส.เอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเพชรบุรี เปิดเผยว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อีกทั้งยังได้รับรางวัล New Design in Heritage Context with Special Recognition for Sustainable Development จากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เมื่อปี 2564 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ยูเนสโกประกาศให้จังหวัดเพชรบุรี เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์อาหาร และกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี มีโครงการระดมทุนเพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกบูรโณปถัมภ์และจัดการแสดงการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบประกอบการแสดงและดนตรี เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี บทพระราชนิพนธ์ ในวันเสาร์ที่ 25 และวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.00 น. ณ สวนมัทนะพาธา พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจมาท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีและร่วมชมการแสดงดังกล่าว

น.ส.เกล้ามาศ ยิบอินซอย ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในพระอุปถัมภ์ฯ เปิดเผยว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จะกลับมาเปิดเป็นปกติตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการบูรณะ ทั้งในส่วนของระบบนิเวศตามธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมฯ เพื่อการพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จึงขอเชิญผู้สนใจร่วมรักษาและสืบทอดมรดกของชาติ ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกบูรโณปถัมภ์ซึ่งเป็นสมาชิกตลอดชีพ เพื่อร่วมระดมทุนในการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์ฯ โดยเฉพาะการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาจำนวนกว่าแสนแผ่น ซึ่งมีน้ำหนักเกินไปแผ่นละ 1 กิโลกรัม และส่งผลกระทบต่อฐานรากของตัวอาคารในปัจจุบัน ค่าสมัครสมาชิกจำนวน 6,910 บาท สามารถบริจาคได้เต็มจำนวน หรือแบ่งจ่ายได้ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-donation) และเปิดรับสมัครเพียง 109,600 รายเท่านั้น (ช่องทางสมัครสมาชิกบูรโณปถัมภ์ : https://forms.gle/gQL9CwgBESvfRiBn9)

สำหรับการแสดงการอ่านบทพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบประกอบการแสดงและดนตรี เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี บทพระราชนิพนธ์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน ศกนี้ เป็นการเลือกบทพระราชนิพนธ์เฉพาะบางตอนมาเรียบเรียง กำกับการแสดงโดยครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติ และกำกับดนตรีโดยอานันท์ นาคคง ศิลปินศิลปาธร นักแสดงนำได้แก่ สุกัญญา สมไพบูลย์ (มัทนา) และอัษฎาวุธ เหลืองสุนทร (สุเทษณ์ / ชัยเสน) ศันสนีย ศีตะปัณย์ (จัณฑี) เปิดจำหน่ายบัตรที่นั่งชมการแสดงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รายละเอียดบัตรเข้าชม 1.บัตรที่นั่งสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 1,690 บาท (มีจำนวนจำกัด 100 ที่นั่งต่อวัน) 2.บัตรที่นั่งสำหรับสมาชิกบูรโณปถัมภ์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และบัตรที่นั่งสำหรับผู้ติดตาม 1 ท่าน ที่มาชมการแสดงพร้อมกับสมาชิกฯ ราคา 690 บาท (มีจำนวนจำกัด 300 ที่นั่งต่อวัน และขอความกรุณาแจ้งสำรองที่นั่งล่วงหน้า) ช่องทางซื้อบัตร : https://forms.gle/FCL37hmbwN6PhLmw9 ) สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะเปิดรอบซ้อมใหญ่ให้เข้าชมได้ในวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่จำกัดที่นั่ง แต่ขอความกรุณาแจ้งสำรองที่นั่งเป็นการล่วงหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชม ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และ ททท.สำนักงานเพชรบุรี.