Categories
ข่าว ทั้งหมด

กลุ่มนักธุรกิจปราณบุรี มอบห้องพิเศษผู้ป่วยให้ รพ.ปราณบุรี มูลค่า 2 ล้านบาท

กลุ่มนักธุรกิจปราณบุรี มอบห้องพิเศษผู้ป่วยให้ รพ.ปราณบุรี มูลค่า 2 ล้านบาท

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายดำรงรักษ์ ชูไพฑูรย์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลปราณบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนงาน เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับกลุ่มนักธุรกิจในอำเภอปราณบุรี นำโดยนายสุวัจชัยและนางพิรัตน์ วุฒิวงศ์อังคณา ห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงทองโลหะกิจ นางนงนุช กัลยาณกิตติ โรงสีหนองตาแต้ม นางศิริวรรณและ น.ส.อิสรีย์ วุฒิวงศ์อังคณา บริษัท ปราณบุรีฮอนด้าออโตโมบิล จำกัด พร้อมเพื่อนๆ นักธุรกิจที่ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ปรับปรุงห้องพิเศษผู้ป่วยใน ให้มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐาน จำนวน 4 ห้อง และห้องสำหรับแยกโรค 1 ห้อง หลังจากใช้งานมานานกว่า 30 ปี จนทรุดโทรมมาก โดยการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด มูลค่ากว่าสองล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลปราณบุรี เพื่อให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ปราณบุรีและใกล้เคียง โดยมีนายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรีมาร่วมเป็นสักขีพยานและเป็นตัวแทนโรงพยาบาลปราณบุรี มอบเกียรติบัตรเพื่อขอบคุณคณะที่มาร่วมกันบริจาคในครั้งนี้ พร้อมนำชมตามห้องต่างๆ

นายดำรงรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการ รพ.ปราณบุรี กล่าวว่าโรงพยาบาลปราณบุรีเหมือนได้เปิดห้องพิเศษใหม่ทั้ง 4 ห้องและห้องแยกโรค 1 ห้อง ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด หลังจากเปิดใช้มานานกว่า 30 ปี ทั้งเตียงผู้ป่วย ห้องน้ำ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ขอขอบคุณคณะนักธุรกิจในอำเภอปราณบุรีที่เห็นความสำคัญและรวบรวมญาติพี่น้องและเพื่อนนักธุรกิจ รวบรวมทุนทรัพย์มาปรับปรุงห้องพักผู้ป่วยใน จนมีสภาพใหม่ สมบูรณ์มาก

นายสุวัจชัย (เฮียบุ้ง) กล่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะทำบุญให้ห้องพิเศษที่โรงพยาบาลปราณ 1 ห้อง พี่สาวก็ตั้งใจจะสมทบทำบุญงบประมาณหนึ่งล้าน แต่เมื่อมาดูสภาพแต่ละห้องชำรุดทรุดโทรมมาก หมอก็บอกว่าอยากจะให้ช่วยปรับปรุงใหม่ให้ทั้งหมด จากความตั้งใจแรก 2 ห้อง ทำไปทำมา เป็น 5 ห้อง คิดว่าคืนกำไรให้สังคม เพื่อให้โรงพยาบาลในพื้นที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น.

สมบัติ ลิมปจีระวงษ์….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เคาะประตูบ้านเสริมอาชีพให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ผ่านการบำบัด

ประจวบฯ เคาะประตูบ้านเสริมอาชีพให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ผ่านการบำบัด

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.เกวลิน โมรา ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พร้อมทีมกลุ่มงานสารสนเทศฯ ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัด หนุนเสริมสัมมาชีพชุมชนแก่เยาวชนกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ผ่านการบำบัด พื้นที่บ้านแพรกตะคร้อ หมู่ 11 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ โดยมอบอุปกรณ์สำหรับการประกอบอาชีพแก่ 2 ครัวเรือน ได้แก่ อาชีพการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่และอาชีพช่างตัดผม ซึ่งเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการมีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพที่ได้รับการสนับสนุนให้เกิดมีรายได้ และยินดีที่จะนำโอกาสนี้เป็นช่องทางลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ในการช่วยเหลือครอบครัวและสังคมตามกำลังความสามารถ

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ เพื่อช่วยเหลือ เฝ้าระวังและสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ผ่านการบำบัดได้ประกอบอาชีพที่สุจริตและไม่กลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และสามารถหนุนเสริมสัมมาชีพชุมชนให้กับเยาวชนกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ผ่านการบำบัด โดยคัดเลือกเยาวชนที่มีคุณสมบัติที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ผ่านการบำบัด ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ และมีความสมัครใจเข้าร่วมกิจกรรม เข้าหลักเกณฑ์ตามข้อใดข้อหนึ่งเป็นผู้ผ่านการบำบัดพื้นฟูยาเสพติดในระบบใดก็ได้ ในปี 2563 – 2565 โดยมีเอกสารหลักฐานยืนยัน มีคุณสมบัติเป็นผู้มีความตั้งใจในการเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นผู้ไม่มีอาชีพหรือสูญเสียอาชีพไปเพราะการเข้ารับการบำบัดพื้นฟูยาเสพติด มีความประพฤติดี ทั้งในระหว่างการเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูและหลังการบำบัดฟื้นฟู โดยมีผู้ปกครองหรือผู้นำชุมชนให้การรับรองและการสนับสนุนและกำกับดูแลการประกอบอาชีพของเยาวชนตามวัตถุประสงค์.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

อธิบดีกรมฝนหลวงเร่งทำฝนเทียม แก้ปัญหาภัยแล้งประจวบฯ

อธิบดีกรมฝนหลวงเร่งทำฝนเทียม แก้ปัญหาภัยแล้งประจวบฯ

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการฝนหลวง ช่วยเหลือพื้นที่อำเภอบางสะพาน และบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้ง โดยมีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายเลิศยศ แย้มพราย นายอำเภอบางสะพาน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.จังหวัดประจวบฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ที่ อบต.ทองมงคล อ.บางสะพาน ทั้งนี้จังหวัดประจวบฯ ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.เมือง อ.สามร้อยยอด อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 9 แห่ง อยู่ในเกณฑ์น้อย ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ที่มีการปลูกทุเรียน มะพร้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาในบางพื้นที่ของอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน ได้ใช้เครื่องบิน CARAVAN จำนวน 2 ลำ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุราษฎร์ธานี ใช้เครื่องบิน BT67 จำนวน 1 ลำ ปฏิบัติการทำฝนเทียมช่วยเหลือพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง โดยมีฐานเติมสารฝนหลวงที่ท่าอากาศยานชุมพร เพื่อให้เครื่องบินสามารถลงเติมสารฝนหลวงเพื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน และจังหวัดชุมพร ได้ทันกับสภาพอากาศโดยไม่ต้องบินกลับไปยังฐานที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามจังหวัดประจวบฯ มีภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นแนวยาวและแคบ มีพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย – เมียนมา และติดทะเล ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการปฏิบัติการฝนหลวง หากลมในระดับบินปฏิบัติการมีกำลังค่อนข้างแรง จะส่งผลให้กลุ่มเมฆเคลื่อนที่ออกจากพื้นที่เป้าหมายสู่ทะเลค่อนข้างเร็ว จึงได้กำชับให้นักวิทยาศาสตร์ นักบิน วางแผนติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดในแต่ละวัน และช่วงชิงสภาพอากาศเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงให้ทันเหตุการณ์ตรงพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรเพื่อติดตามผลการทำงานและปัญหา เพื่อนำมาวางแผนช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เทศบาลหัวหิน เปิดโครงการป้องกันเด็กจมน้ำในสถานศึกษา

เทศบาลหัวหิน เปิดโครงการป้องกันเด็กจมน้ำในสถานศึกษา

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันเด็กจมน้ำ และการสร้างทีมผู้ก่อการดี (MERIT MAKER) ประจำปี 2566 ที่โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย อ.หัวหิน โดยมีบาทหลวงสมโรจน์ ชัยชนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย นพ.วีระศักดิ์ พงษ์พัฒนพันธ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพฯ – หัวหิน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน ครูนักเรียน ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้จากข้อมูลในช่วงสิบปีที่ผ่านมา (2555 – 2564) มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต 7,374 ราย เฉลี่ยปีละ 737 ราย หรือวันละ 2 ราย และจากข้อมูลเบื้องต้นของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2564 เพียงปีเดียว มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จมน้ำเสียชีวิต ถึง 219 ราย คิดเป็นร้อยละ 33.3 ของการจมน้ำเสียชีวิตในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นกลุ่มเด็กที่มีอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำต่อประชากรเด็กแสนคนสูงที่สุด เท่ากับร้อยละ 6.9 และพบว่าขณะเด็กจมน้ำ เด็กอยู่กับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็ก ถึงร้อยละ 35.9 ซึ่งส่วนใหญ่ในขณะนั้นผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเด็กกำลังประกอบอาชีพ (ร้อยละ 50) และหลังจากช่วยเด็กขึ้นมาจากน้ำแล้ว มีการปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำที่ผิดวิธี ด้วยการอุ้มพาดบ่ามากถึงร้อยละ 27.6

ดังนั้น งานส่งเสริมสุขภาพ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองหัวหิน จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนคณะทำงานและคณะวิทยากรจากกรมแพทย์ทหารเรือ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ชมรม Share for Life Join for Love มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน และทีมภาคีเครือข่าย มาให้ความรู้ในภาควิชาการและปฏิบัติเพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ถึงการลงเล่นน้ำ การพบเห็นคนจมน้ำเพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างถูกวิธี การป้องกันการจมน้ำและความปลอดภัยทางน้ำแก่เยาวชนนักเรียน ฝึกสอนและปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ CPR และการใช้ AED (เครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ) เพื่อสอนและฝึกหัดให้เด็กปฐมวัยมีความรู้และทักษะ (อย่าเก็บ อย่าใกล้ อย่าก้ม) และเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายทีมผู้ก่อการดี โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 – 6 จำนวน 3 รุ่นๆ ละ 130 คน รวมจำนวน 390 คน เข้ารับการอบรมระหว่างวันที่ 5 – 7 กรกฎาคมนี้.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

เกษตรกรสามร้อยยอด ปลูกกระเจียวหวานสร้างรายได้

เกษตรกรสามร้อยยอด ปลูกกระเจียวหวานสร้างรายได้

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หมู่ 7 บ้านหนองกลางดง ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยออด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของนายบุญสวย สุวรรณภาพ เกษตรกรต้นแบบ และเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ที่นำพันธุ์กระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้ง มาปลูกรับประทานเอง พร้อมเก็บขายได้ทุกวัน ดอกกระเจียวหวานที่เก็บได้สามารถนำไปปรุงอาหารรับประทานได้หลายเมนู ทั้งผัด ต้ม แกง กินสด ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้ที่เคยทานติดใจจนแทบไม่พอขาย ต้องสั่งจองกันล่วงหน้า สายรักษ์สุขภาพไม่ควรพลาด

ศูนย์เรียนรู้ฯ มีพื้นที่ 10 ไร่ ทำไร่นาสวนผสม เป็นแปลงสาธิตและเพื่อเรียนรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ปลูกกระเจียวหวานสายพันธุ์เพชรน้ำผึ้ง ไว้ในพื้นที่ 1 งาน เป็นปีที่ 2 กระเจียวหวานจะอยู่ได้ 4 ปี ให้ผลผลิตปีละ 4 เดือน ซึ่งช่วงนี้กำลังออกดอกให้ผลผลิต เก็บขายได้ทุกวัน ตอนแรกตั้งใจปลูกไว้เพื่อรับประทานเอง แต่ยิ่งปลูกไว้ นานวันเข้าก็ยิ่งแตกหน่อเพิ่มมากขึ้น ทำให้ออกดอกมากจนรับประทานไม่ทัน จึงนำไปแจกญาติพี่น้อง ก็ยังเหลือ เลยเก็บขายเป็นรายได้เสริมทุกวัน

นายบุญสวย เกษตรกร กล่าวว่าพื้นที่เป็นสาขาไร่นาสวนผสม ปลูกข้าวสองไร่ครึ่ง นอกนั้นเป็นพืชผัก ไม้ใช้สอย เลี้ยงสัตว์ต่างๆ ทำมาตั้งแต่ปี 2550 อยากจะปลูกอะไรก็ปลูกเสริมเข้ามาเรื่อยๆ ผมเห็นมีการปลูกกระเจียวหวานในยูทูป พื้นที่แห้งแล้ง เป็นทรายก็ยังปลูกได้ ขาดน้ำก็ยังออกดอกได้ ของเราน้ำอุดมสมบูรณ์ ก็น่าจะปลูกได้ จึงนำมาลองปลูกดู แต่พื้นที่มีแค่ 1 งาน กระเจียวหวานเพชรน้ำผึ้ง จะออกดอกปีละ 4 เดือน ไม่เหมือนกระเจียวธรรมชาติที่ออกปีละครั้ง สำหรับการดูแลรักษาง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ได้ฉีดยาหรือใส่ปุ๋ยเคมี ส่วนมากจะใส่ปุ๋ยขี้แพะ นำฟางมากลบหนาเท่าไรยิ่งดี ในพื้นที่เพาะปลูกเป็นอินทรีย์ทั้งหมด
อยากแนะนำให้ปลูก เพราะปลูกง่าย ยอดอ่อนของดอกกระเจียว เหมาะสำหรับนำไปกินกับน้ำพริกปลาทู หรือนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู

นอกจากนี้ ยอดอ่อนของดอกกระเจียวมีสรรพคุณมากมาย ดอกกระเจียวมีรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยแก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด ทำให้ดอกกระเจียวเป็นที่ต้องการของตลาด มีลูกค้าสั่งจองดอกกระเจียวล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก หากผู้ใดสนใจอยากจะเรียนรู้ ยินดีต้อนรับและให้คำแนะนำ ติดต่อได้ที่โทร. 096 – 7341861.

ภาพ/ข่าว : ฐิติชญา แสงสว่าง

Categories
ข่าว ทั้งหมด

กิ่งกาชาดหัวหินมอบทุนการศึกษานักเรียนยากจนกว่า 1 ล้านบาท ถวายเป็นพระราชกุศล

กิ่งกาชาดหัวหินมอบทุนการศึกษานักเรียนยากจนกว่า 1 ล้านบาท ถวายเป็นพระราชกุศล

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการให้การสังคมสงเคราะห์ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากจนในเขตพื้นที่อำเภอหัวหิน ประจำปี 2566 ที่โรงเรียนหนองพลับวิทยา และที่โรงเรียนตำรวจนเรศวรป่าละอู อ.หัวหิน โดยมีนางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน คณะกรรมการและสมาชิกกิ่งกาชาดหัวหิน ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนักเรียนในเขตพื้นที่อำเภอหัวหิน จำนวน 509 คน เข้ารับทุนการศึกษา สร้างความดีใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

นางอุษา พวงวลัยสิน กล่าวว่าโครงการดังกล่าว ดำเนินการโดยอำเภอหัวหิน ร่วมกับสำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองนักเรียนที่เดือดร้อนและด้อยโอกาส เป็นการสร้างฝันและกำลังใจให้เด็กนักเรียนที่ยากจนให้ได้รับทุนการศึกษาในเบื้องต้น และเป็นตัวแทนของสภากาชาดไทย ส่งเสริมและเผยแพร่อุดมการณ์ตามพันธกิจของสภากาชาดไทยในการช่วยเหลือผู้ปกครองและเด็กนักเรียน

สำหรับทุนการศึกษาในครั้งนี้เป็นเงินที่ได้รับจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาและรายได้จากการจัดงานกาชาดและของดีอำเภอหัวหินที่ผ่านมา นำมาจัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาเด็กยากจน จำนวนทั้งสิ้น 1,120 ทุนๆ ละ 1,000 บาท โดยบริจาคไปแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่โรงเรียนหัวหิน จำนวน 17 โรงเรียน รวม 413 ทุน เป็นเงิน 413,000 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแพรกตะคร้อ จำนวน 3 โรงเรียน รวม 198 ทุน เป็นเงิน 198,000 บาท และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่โรงเรียนหนองพลับวิทยาและโรงเรียนตำรวจนเรศวรป่าละอู จำนวน 18 โรงเรียน รวม 509 ทุน เป็นเงิน 509,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,120,000 บาท.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

คณะกรรมการคุมน้ำเมาประจวบฯ MOU เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดภาคตะวันตก

คณะกรรมการคุมน้ำเมาประจวบฯ MOU เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดภาคตะวันตก

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะงานบุญประเพณี วัฒนธรรมวิถีใหม่ ปลอดเหล้าปลอดภัยจังหวัดประจวบฯ ระหว่างคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก ที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวรายงาน และมีเภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า มานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมเป็นพยาน มี น.ส.อุบลวรรณ คงสว่าง ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก นายเรวัฒน์ สุขหอม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดประจวบฯ ตัวแทนชุมชนคนสู้เหล้าในแต่ละชุมชนทั้ง 8 อำเภอ ผู้แทนหน่วยงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เป็นกฎหมายที่ประชาชนมากกว่า 13 ล้านคนลงชื่อสนับสนุน เพื่อลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกมิติ ทั้งความรุนแรงในครอบครัว อุบัติเหตุ อาชญากรรม คุ้มครองสุขภาพประชาชน ป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงได้ง่าย จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 ที่สำรวจผู้อายุ 15 ขึ้นไป พบว่าจำนวนผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มจาก 38.68 ล้านคน ในปี 2554 มาเป็น 41.04 ล้านคน ในปี 2564 หรือมีนักดื่มลดลงประมาณ 2.3 ล้านคน เมื่อคำนวณปริมาณเอทานอลบริสุทธิ์ต่อหัวประชากรที่ดื่ม พบว่าอยู่ในระดับทรงตัว คือ 7.1 ลิตรต่อปี แต่เมื่อคำนวณต้นทุนที่สูญเสียจากปัญหาการดื่มในปี 2564 สูงกว่า 1.65 แสนล้านบาท อีกทั้งข้อมูลพบผู้ต้องขังอายุไม่เกิน 25 ปี สัดส่วนถึงร้อยละ 88% ดื่มสุราก่อนก่อเหตุ และผู้เสียชีวิตจากโรคตับสัมพันธ์กับการดื่ม มีถึง 2.5 หมื่นคนต่อปี

เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ ขอบคุณสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ในการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ คุ้มครองสุขภาพประชาชนและลดผลกระทบทางสังคม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายใช้มานาน จึงสนับสนุนให้ปรับแก้ ยืดหลักการแก้ไขให้ดีและเข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 32 ห้ามใช้ตราสัญลักษณ์ (โลโก้) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปโฆษณาสินค้าอื่น อาทิ น้ำดื่ม โชดา กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนกรณีมาตรา 29 ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาครองสติไม่ได้ ให้ผู้ขาย ผู้ให้บริการเป็นแนวปฏิบัติได้จริง รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานบำบัดฟื้นฟูผู้ติดสุราอย่างจริงจัง สร้างแรงจูงใจให้ผู้ติดสุราเข้าสู่การบำบัด ขณะเดียวกัน กลไกการทำงานที่เข้มแข็งของเครือข่าย ทั้งจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกันรณรงค์ป้องกันปัญหา ในส่วนของระดับจังหวัดจะประสานให้มีการทำงานที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อตกลง (MOU) ซึ่งจะเป็นกลไกความร่วมมือรูปแบบหนึ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย การจัดทำบันทึกข้อตกลงวันนี้ ประกอบด้วย 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.คณะกรรมการควบคุมเครื่องแอลกอฮอล์จังหวัดประจวบฯ 2.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ และ 3.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก โดยมีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. และพี่น้องเครือข่ายเป็นสักขีพยาน ซึ่งการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงาน สร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมในการขับเคลื่อนการจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพระดับจังหวัด
2) เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินงานสถานศึกษา เครือข่ายเยาวชนให้มีความตระหนักเรื่องพิษภัยและป้องกันนักดื่ม นักสูบหน้าใหม่ 3) เพื่อสร้างวัฒนธรรมวิถีใหม่ ค่านิยมใหม่ในงานเทศกาล งานบุญประเพณี ปลอดบุหรี่และสุรา ลดแรงสนับสนุนการดื่ม เฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายของธุรกิจแอลกอฮอล์ และบังคับใช้กฎหมาย 4) เพื่อสนับสนุน หนุนเสริมกระบวนการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ ป้องกันเมาแล้วขับ และลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่าคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดประจวบฯ นอกจากการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฎหมาย ยังได้ขับเคลื่อนนโยบายการลดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง เพื่อสร้างสังคมปลอดภัยจากปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ควบคุมและจำกัดการเข้าถึง ควบคุมพฤติกรรมการขับขี่หลังการดื่ม คัดกรองและบำบัดรักษาผู้มีปัญหาจากสุรา ควบคุมการโฆษณา ส่งเสริมการขาย การให้ทุนสนับสนุนและการดำเนินการผ่านระบบภาษี ตระหนักถึงผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับสูงจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาได้ ทั้งนี้การปรับปรุงกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมแผนปฏิบัติการและกฎหมายในหลายๆ เรื่อง เช่น แผนปฏิบัติการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติระยะที่ 2 และร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติและดำเนินการตามขั้นตอน และให้ความสำคัญกับนโยบายการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านนโยบายและมาตรการต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดงานในวันนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาการ ดำเนินงานร่วมกันตามแนวทางความร่วมมือ การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานดังต่อไปนี้ ร่วมรณรงค์และดำเนินการให้การจัดงานบุญประเพณีและเทศกาลต่างๆในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลอดเหล้าปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุความสูญเสีย ลดปัญหาทะเลาะวิวาท อาชญากรรม และความรุนแรงในครอบครัว อาทิ งานกาชาด งานบวช งานแต่ง งานสงกรานต์ งานลอยกระทง งานแข่งเรือ งานเทศกาลอาหาร งานศพ งานไทยทรงดำ งานเกษียณอายุ งานสวดมนต์ข้ามปี งานวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน งานเสี้ยงอาสาสมัครในหมู่บ้าน และไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้มีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของธุรกิจแอลกอฮอล์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษาและชุมชน อีกทั้งร่วมกันส่งเสริมกิจกรรมที่แสดงถึงคุณค่าทางประเพณีวัฒนธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กเยาวชนและครอบครัว นอกจากนี้ยังรณรงค์ชุมชนสู้เหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา ให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อน ชวนช่วยเชียร์ ลด ละ เลิก และควบคุมบังคับใช้กฎหมาย กฎกติกาชุมชน ลดความรุนแรง ลดอุบัติเหตุ ลดการเจ็บป่วย และส่งเสริมครอบครัวให้เข้มแข็ง มีความสุข

การสนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพชีวิต การสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้ รวมถึงการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานศึกษาจัดการ การศึกษา ให้ตระหนัก สร้างภูมิคุ้มกันร่วมกันส่งเสริม สนับสนุน การเปิดพื้นที่และกิจกรรมสร้างสรรค์ (ศิลปะ ดนตรี กีฬา วัฒนธรรม ชุมชนร่วมสมัย) สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของเด็กเยาวชน ให้ห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต.

บุญมา ลิบลับ….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ เปิดโครงการปศุสัตว์ร่วมใจกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า เฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน”

ประจวบฯ เปิดโครงการปศุสัตว์ร่วมใจกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า เฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน”

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการปศุสัตว์ร่วมใจกำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ปีงบประมาณ 2566 มีนายสัตวแพทย์ทรงพล บุญธรรม ปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ ว่าที่ร้อยตรีสมนึก พรหมศร ประมงจังหวัดฯ นายอำนาจ เขม่นกิจ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดฯ นายวัชรชัย องคเรียน หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบฯ นายอภิชาต บุญเรืองขาว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ประจวบฯ นายนเรศน์ อินทรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ประจวบฯ นายฐนพลมงคล พันธุ์พฤกษ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ

ด้วยวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันประสูติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทย รวมถึงสรรพชีวิตภายใต้ร่มพระบารมีให้ได้รับความผาสุกตราบจนทุกวันนี้ ทรงห่วงใยปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติ ทรงมีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย และให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้าตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ปีงบประมาณ 2560 – 2563 นับเป็นพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ปัจจุบันทรงโปรดให้ดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ในระยะต่อไป ปี พ.ศ.2564 – 2568

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเพื่อการขับเคลื่อนโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดทำโครงการปศุสัตว์ร่วมใจ กำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีกิจกรรมผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวม 62 ตัว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า และส่งเสริมให้ประชาชนมีการเลี้ยงสัตว์อย่างถูกวิธี มีความรับผิดชอบ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์ รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

นายองครักษ์ ทองนิรมล กล่าวว่าการดำเนินงานโครงการปศุสัตว์ร่วมใจกำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้าเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ นั้น เพื่อให้สุนัขและแมวได้รับการฉีดวัคนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักรู้ถึงอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า ไม่ปล่อยสัตว์เลี้ยงให้เป็นสัตว์จรจัดและสามารถลดปัญหาการเพิ่มจำนวนของสุนัข แมวจรจัดตามที่สาธารณะ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า และป้องกันไม่ให้มีคนเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าอีกต่อไป.

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ลุ้นเปิดใช้อ่างเก็บน้ำมรสวบที่บางสะพาน แก้ปัญหาภัยแล้ง หลังเจอสันอ่างทรุดซ้ำซากกว่า 10 ปี

ลุ้นเปิดใช้อ่างเก็บน้ำมรสวบที่บางสะพาน แก้ปัญหาภัยแล้ง หลังเจอสันอ่างทรุดซ้ำซากกว่า 10 ปี

หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ตรวจสอบการซ่อมอ่างเก็บน้ำมรสวบ ที่สันเขื่อนทรุดตัว ที่หมู่ 4 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ต่อมาถูกปล่อยร้างไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2557 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้งบประมาณ 37.9 ล้านบาท ปรับปรุงอ่างเก็บน้ำความจุ 1.6 ล้านลูกบาศก์เมตร

แต่ที่ผ่านมามีปัญหาสันอ่างเกิดรอยรั่วซ้ำซากใกล้สปิลเวย์ ทำให้สันอ่างทรุด ยาวกว่า 20 เมตร ลึก 5 เมตร ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำมรสวบยังไม่สามารถใช้กักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตรได้ตามศักยภาพ ทำให้มีผลกระทบกับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด ขาดแคลนน้ำดิบผลิตน้ำประปา รวมถึงน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ ต.ธงชัย และ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน

นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.เขต 3 ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากมีการประเมินแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ กรมทรัพยากรน้ำได้เสนอใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2564 จำนวน 102 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงฐานรากให้มีความมั่นคงแข็งแรง จากนั้นได้จ้างผู้รับเหมาดำเนินการตั้งแต่กุมภาพันธ์ ปี 2565 ถึงกุมภาพันธ์ปี 2566 แต่มีการขยายสัญญาถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ล่าสุดพบว่าการก่อสร้างยังไม่เสร็จ แต่ผู้รับเหมาได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่สันเขื่อนแล้ว คาดว่าจะมีการส่งมอบงานเร็วๆ นี้ แต่หากยังมีปัญหา ก็จะตั้งกระทู้สดถามในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากอ่างเก็บน้ำเมื่อปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว จะต้องเก็บกักน้ำได้ตามปกติ มีประโยชน์ในการแก้ภัยแล้งให้กับประชาชนสองตำบล และเขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด

นายอำพร โต๊ะทอง อายุ 70 ปี คนงานรับเหมา กล่าวว่าได้รับการว่าจ้างจากบริษัทรับเหมาโครงการ ให้ทำถนนคอนกรีตบนสันเขื่อนตลอดแนว คาดว่าจะเสร็จและส่งมอบงานให้บริษัทรับโครงการได้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้

มีรายงานว่า เดิมโครงการนี้มีกำหนดเสร็จและส่งมอบงานภายใน 30 มิถุนายนที่ผ่านมา หากบริษัทดำเนินการไม่เสร็จตามสัญญาจ้าง จะถูกปรับรายวันๆ ละกว่า 1 แสนบาท จากการตรวจสอบพบว่าโครงการยังสร้างไม่เสร็จ แต่ป้ายด้านหน้าอ่างเก็บน้ำเขียนไว้ว่าก่อสร้างเสร็จ มิถุนายน 2566 ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ เรียกร้องให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ราชบุรี นายอำเภอบางสะพาน ยืนยันความปลอดภัยว่าสันอ่างจะไม่รั่ว เพื่อสามารถใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำมรสวบ หลังจากใช้งบ 37.9 ล้านบาท แต่สันอ่างพังนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยใช้งานจริง.

พิสิษฐ์ รื่นเกษม….รายงาน

Categories
ข่าว ทั้งหมด

ประจวบฯ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ประจวบฯ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม ที่อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ และนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม 2566 รวมทั้งการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยบูรณาการร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในการจัดกิจกรรม

จากนั้น ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานในพิธีได้กล่าวราชสดุดีถวายพระพรชัยมงคล เทิดพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม จึงเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

ภายในบริเวณงานมีการจัดกิจกรรมฐานเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยวิทยากรจากอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชมสารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนาจากพระเมธีคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง เรื่อง “วิทยาศาสตร์กับพระพุทธเจ้า”

ส่วนที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และเรือนจำจังหวัดประจวบฯ จัดกิจกรรมตรวจดูแลสุขภาพให้กับผู้ต้องขังชายและหญิง จำนวนกว่า 1,800 คน มีนางสมเนตร ทองอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม มีนายมิตรารุนห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำบุคลากรเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำจังหวัดประจวบฯ ให้การต้อนรับ

กิจกรรมดังกล่าว มีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ให้คำแนะนำปรึกษา ตรวจสุขภาพช่องปาก ถอนฟัน ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 จำนวน 1,600 โดส ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ จำนวน 200 โดส ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และตรวจเอกซเรย์ปอดให้กับผู้ต้องขังรายใหม่ เพื่อป้องกันโรควัณโรคแพร่กระจายเข้าสู่เรือนจำ เป็นต้น

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ทรงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสา (พอ.สว.) สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และทรงสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยการเสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ในทุกภูมิภาค ผลจากการทรงงานร่วมกับบรรดาแพทย์อาสาในถิ่นทุรกันดาร และทุกสภาวะของประชาชนผู้ยากไร้ ที่ประจักษ์แก่สายพระเนตร ทำให้ทรงตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนการบริการทางสาธารณสุข ว่าจำเป็นต้องได้รับพระราชทานความช่วยเหลือ ผ่อนเพลาบรรเทาทุกข์ และการยกระดับคุณภาพชีวิตราษฎรอย่างเร่งด่วน เป็นระบบและต่อเนื่อง

ในโอกาสที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับพระราชทานเป็นจังหวัด พอ.สว.ลำดับที่ 15 ของประเทศ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2512 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 54 ปี ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์และเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมออกบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรม เพื่อเทิดพระเกียรติ และเสด็จพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ท่าน

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประสูติวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2500 เป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นพระโสทรกนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์และด้านสิ่งแวดล้อม ทรงพระวิริยอุตสาหะ และพระปณิธานอันแน่วแน่ในการบำเพ็ญพระกรณียกิจด้วยพระหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณา เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฏร์.

เอกภพ วงษ์ประเสริฐ….รายงาน